• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512114 ตสำน กฝ กก นไม ได (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 26, 2025
in Uncategorized
0
D2512114 ตสำน กฝ กก นไม ได (ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกศักยภาพ: ทำไมการเปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทยคืออนาคตของเศรษฐกิจ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมายาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นถึงพลวัตและจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดมาแล้วหลายครั้ง แต่ ณ วินาทีนี้ สภาวะที่ภาคอสังหาฯ กำลังเผชิญหน้าอยู่ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ต้องการทางออกเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่เพียงแค่การประคองตัว วันนี้เราไม่ได้กำลังพูดถึงแค่การฟื้นฟู แต่เป็นการปรับโครงสร้างเพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่ง คือการทบทวนและปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องและโปร่งใส

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซับซ้อน ตั้งแต่ผลพวงของวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ยังคงทิ้งรอยแผลเป็นทางเศรษฐกิจไว้ การฟื้นตัวที่ล่าช้าจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และที่สำคัญคือปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงแตะระดับ 90% ของ GDP การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจ จึงได้รับผลกระทบโดยตรง ยอดขายชะลอตัว โครงการที่อยู่อาศัยคงค้างจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแสวงหาแหล่งเงินทุนและกำลังซื้อใหม่ ๆ มาหล่อเลี้ยงภาคธุรกิจนี้

วิกฤตการณ์กลายเป็นโอกาส: พลังขับเคลื่อนจากภายนอก

ในขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยกลับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ผู้ที่มองหาบ้านพักตากอากาศระยะยาว ผู้เกษียณอายุ หรือแม้กระทั่งกลุ่ม Digital Nomads ที่ต้องการใช้ชีวิตในประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดี ค่าครองชีพสมเหตุสมผล และมีวัฒนธรรมที่งดงาม จากประสบการณ์ใน ภาคอสังหาฯ ผมเห็นชัดเจนว่าความต้องการจากต่างชาติที่จะเข้ามาพักอาศัยและลงทุนในไทยนั้นมีอยู่จริงและมีศักยภาพมหาศาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ อสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออก อย่าง ชลบุรี ระยอง และพัทยา ซึ่งเป็นประตูสู่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนที่โดดเด่น พื้นที่เหล่านี้เป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งนักลงทุนและผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระยะยาวอยู่แล้ว การที่รัฐบาลจะพิจารณาอนุญาตให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่ใช่เพียงแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการเปิดประตูสู่ โอกาสลงทุนอสังหาฯ ไทย ครั้งสำคัญที่จะนำเงินตราต่างประเทศจำนวนมหาศาลเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

มองให้ลึกถึงปัญหา: จาก “นอมินี” สู่ความโปร่งใสและมั่นคง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้มีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยคนต่างชาติอยู่แล้ว ผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการนัก อย่างการใช้ “นอมินี” หรือการจดทะเบียนบริษัทที่มีคนไทยถือหุ้นใหญ่ ซึ่งกลไกเหล่านี้ล้วนแฝงไว้ด้วยความเสี่ยงมากมาย ทั้งต่อตัวผู้ซื้อต่างชาติเองที่อาจสูญเสียสิทธิ์ในการครอบครอง หากเกิดข้อพิพาทกับนอมินี และความเสี่ยงต่อประเทศชาติในแง่ของความไม่โปร่งใส การหลีกเลี่ยงภาษี และการขาดข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับ การถือครองอสังหาริมทรัพย์ โดยต่างชาติ

จากประสบการณ์ตรง ผมเคยเห็นกรณีที่น่าเศร้ามากมายที่ผู้ซื้อต่างชาติถูกคู่สมรสคนไทยนำบ้านไปจำนอง หรือขายต่อโดยพลการ เมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง ทำให้สูญเสียทั้งเงินและที่อยู่อาศัย ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อระบบกฎหมายของประเทศ การที่รัฐบาลจะเข้ามาจัดการประเด็นนี้อย่างจริงจัง ด้วยการออกกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกต้องตามกฎระเบียบ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด ไม่ใช่แค่เพื่อเพิ่มรายได้ แต่เพื่อสร้างความโปร่งใส ความยุติธรรม และความน่าเชื่อถือในระยะยาว

ปัจจุบัน กฎหมายอนุญาตให้ชาวต่างชาติ ถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ทั้งหมดในโครงการ ซึ่งกลไกนี้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติจำนวนมากมาแล้ว คำถามคือ เหตุใดเราจึงไม่สามารถขยายหลักการที่พิสูจน์แล้วว่าสำเร็จนี้ มาปรับใช้กับการซื้อ โครงการบ้านจัดสรร ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้กว้างขวางกว่าเล่า?

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย: กรอบคิดเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

การพิจารณาเปิดทางให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ไม่ได้หมายถึงการเปิดเสรีอย่างไม่มีขอบเขต แต่ต้องมาพร้อมกับมาตรการและเงื่อนไขที่รัดกุมและรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และลดข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้น ข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการใน ภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะใน ภาคตะวันออก มีความน่าสนใจและควรถูกหยิบยกมาพิจารณาอย่างจริงจัง:

การกำหนดสัดส่วนการถือครอง: เริ่มต้นด้วยการจำกัดสัดส่วนการถือครองของชาวต่างชาติใน โครงการบ้านจัดสรร แต่ละแห่ง คล้ายกับกรณีคอนโดมิเนียม เช่น กำหนดไว้ที่ 49% ของยูนิตในโครงการ หรืออาจเริ่มต้นที่ 5-10% สำหรับโครงการนำร่อง เพื่อประเมินผลกระทบและปรับปรุงกลไกก่อนขยายผล การค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนเป็น 60-70% ในอนาคต เมื่อระบบมีความพร้อมและมีการกำกับดูแลที่ดี จะช่วยสร้างความมั่นใจและดึงดูด เงินลงทุนต่างชาติ ได้อย่างต่อเนื่อง

เงื่อนไขและขนาดพื้นที่: กำหนดขนาดที่ดินสูงสุดที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองได้ เช่น ไม่เกิน 100 ตารางวา เพื่อป้องกันการเก็งกำไรที่ดิน หรือการถือครองที่ดินขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับการอยู่อาศัย รวมถึงต้องเน้นย้ำว่าเป็นการซื้อ บ้านจัดสรร ไม่ใช่การซื้อที่ดินเปล่า สิ่งนี้จะช่วยให้เงินลงทุนไหลเข้าสู่ภาคการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยตรง

ระยะเวลาดำเนินการและการประเมินผล: อาจเริ่มโครงการนำร่องด้วยระยะเวลาจำกัด 3-5 ปี เพื่อศึกษาผลกระทบ ประเมินข้อดีข้อเสีย และรวบรวมข้อมูลเพื่อการปรับปรุง กฎหมายที่ดิน และ นโยบายต่างชาติซื้ออสังหาฯ ให้มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด

การจัดตั้งคณะกรรมการร่วม: สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ (กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการคลัง, BOI), ภาคเอกชน (สมาคมอสังหาริมทรัพย์, สภาหอการค้า), ภาคประชาสังคม และนักวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กำหนดกรอบนโยบาย และวางแผนการดำเนินการอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการพิจารณาจากมุมมองของฝ่ายที่อาจมีความกังวล เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ยอมรับร่วมกันได้

การจำกัดพื้นที่เป้าหมาย (ในระยะเริ่มต้น): แม้ว่าการกระจายโอกาสไปทั่วประเทศจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ในระยะเริ่มต้น อาจพิจารณาจำกัดพื้นที่เป้าหมายที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อม เช่น เมืองท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ต เชียงใหม่ หรือพื้นที่ในเขต EEC (ชลบุรี, ระยอง) ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับและเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติอยู่แล้ว การเริ่มต้นในพื้นที่เหล่านี้จะช่วยให้การบริหารจัดการและการประเมินผลทำได้ง่ายขึ้น ก่อนที่จะขยายผลไปทั่วประเทศ

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้: มากกว่าแค่ยอดขายอสังหาฯ

หากมีการ แก้กฎหมายต่างชาติซื้อบ้าน อย่างเป็นรูปธรรม ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยนั้นมีมากมายมหาศาล:

กระตุ้น GDP และการหมุนเวียนของเงินตรา: การดึงดูด เงินลงทุนต่างชาติ เข้ามาใน ภาคอสังหาฯ โดยตรง จะนำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาล หากต่างชาติซื้อบ้านเพียง 100,000 หลัง ในราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาทต่อหลัง จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 5 แสนล้าน ถึง 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ของประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด เงินเหล่านี้จะไม่ได้หยุดอยู่แค่การซื้อขายอสังหาฯ แต่จะไหลไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ ในระบบเศรษฐกิจทั้งหมด

สร้างงานและรายได้ในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง: ไม่ใช่แค่ผู้พัฒนาโครงการเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง, ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์, การตกแต่งภายใน, ภูมิทัศน์, ไปจนถึงบริการหลังการขาย เช่น การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ การดูแลสวน และแม่บ้าน สิ่งเหล่านี้จะสร้างงานและกระจายรายได้อย่างมหาศาล

เพิ่มรายได้ภาครัฐจากภาษี: การทำให้การซื้อขายโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย จะทำให้รัฐจัดเก็บ ภาษีอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะเป็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ภาษีธุรกิจเฉพาะ, ค่าธรรมเนียมการโอน, อากรแสตมป์ และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการใช้จ่ายของชาวต่างชาติ สิ่งเหล่านี้คือรายได้สำคัญที่จะนำไปพัฒนาประเทศต่อไป

ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม: การแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ซื้อต่างชาติจะกระตุ้นให้ผู้พัฒนา โครงการบ้านจัดสรร ยกระดับคุณภาพการออกแบบ, วัสดุ, นวัตกรรม และบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคชาวไทยในระยะยาวด้วย

เสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศ: การมีนโยบายที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นมิตรกับการลงทุน จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ “Thailand World Best Second Home” หรือจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ สำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุนระยะยาว

ตอบรับเทรนด์ “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณ”: ด้วยจำนวนประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้เกษียณอายุจากทั่วโลก การเปิดทางให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร จะตอบสนองความต้องการนี้โดยตรง โดยเฉพาะบ้านจัดสรรในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สุขภาพดี และชุมชนที่มีคุณภาพ เช่น บ้านจัดสรรพัทยา หรือ บ้านจัดสรรภูเก็ต

ข้อกังวลที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญย่อมมาพร้อมกับข้อกังวลบางประการ เช่น:

การเก็งกำไรและการขึ้นราคา: บางฝ่ายอาจกังวลว่าการอนุญาตให้ต่างชาติซื้อจะทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น จนคนไทยไม่มีกำลังซื้อ อย่างไรก็ตาม การกำหนดสัดส่วนการถือครองและประเภทของอสังหาริมทรัพย์ (บ้านจัดสรร ไม่ใช่ที่ดินเปล่า) รวมถึงการกระจายโครงการไปในหลายพื้นที่ สามารถช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้

ผลกระทบต่อวัฒนธรรมและสังคม: การมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมและสังคมในบางพื้นที่ ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ด้วยการวางแผนผังเมืองที่ดี การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการให้ความรู้แก่ทั้งสองฝ่าย

ความซับซ้อนในการบังคับใช้กฎหมาย: การออกกฎหมายใหม่จำเป็นต้องมีความชัดเจนและกลไกการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันช่องโหว่และการหลีกเลี่ยงภาษี สิ่งนี้ต้องอาศัยการปรึกษาหารือจาก ที่ปรึกษากฎหมายอสังหาฯ และผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด

การก้าวไปข้างหน้า: สร้างความเชื่อมั่นในอนาคต

จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในวงการ ผมเชื่อมั่นว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการพิจารณาปรับปรุง กฎหมายอสังหาฯ ต่างชาติ 2567/2025 ให้สอดรับกับพลวัตเศรษฐกิจโลกและศักยภาพอันมหาศาลที่ประเทศไทยมีอยู่ การที่เราไม่ยอมรับความจริงว่าการซื้อขายโดยนอมินีมีอยู่จริง และไม่หาทางทำให้มันถูกต้องและโปร่งใส จะยิ่งทำให้ประเทศเสียโอกาสและไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

การอนุญาตให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเงื่อนไขที่รัดกุมและเป็นธรรม จะไม่เพียงช่วยกระตุ้น ตลาดอสังหาฯ ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ยังเป็นการฉีดวัคซีนกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างแท้จริง เป็นการดึงดูด อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่มีศักยภาพในการสร้าง ผลตอบแทนสูง และเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างยั่งยืน

ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะมาร่วมกันเปิดใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และผลักดัน การพัฒนากฎหมาย นี้ให้เกิดขึ้นจริง เพื่ออนาคตที่สดใสของเศรษฐกิจไทย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเชิญชวนทุกท่าน ทั้งผู้กำหนดนโยบาย ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุด และก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และบ้านพักตากอากาศระดับโลกได้อย่างแท้จริง มาร่วมกันสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับ ภาคอสังหาฯ และเศรษฐกิจไทยไปด้วยกันเถอะครับ

Previous Post

D2512113 แม าข โกงเอาก อนห นใส ตอนช ง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D2512115 จบมหาล ยมาเป นแม าขายไส กรอกแดง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D2512115 จบมหาล ยมาเป นแม าขายไส กรอกแดง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

D2512115 จบมหาล ยมาเป นแม าขายไส กรอกแดง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512126 งขอทานสกปรกกล ามาก นเค กฉ (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512125 คะ วยหน วย (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512124 กต วตอนน สายไปแล ว(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512123 ใหญ กว าเจ าของร านก นน แหล ะ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512127 ดเจอรากไม เป นทองคำ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.