• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512089 กระจกว เศษบอกอนาคต(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 26, 2025
in Uncategorized
0
D2512089 กระจกว เศษบอกอนาคต(ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกศักยภาพ: ทำไมการเปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรคือหัวใจสำคัญในการพลิกฟื้นอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมเฝ้าสังเกตและวิเคราะห์พลวัตของตลาดมาอย่างใกล้ชิด ผมเห็นทั้งช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองและช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับมรสุมเศรษฐกิจ วันนี้เรากำลังยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญยิ่ง การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ หรือผลพวงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก ได้สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ แต่ปัจจุบันกลับเผชิญกับภาวะชะลอตัวอย่างหนัก การพูดคุยเรื่อง การเปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร จึงไม่ใช่แค่ข้อเสนอทางนโยบายทั่วไปอีกต่อไป หากแต่เป็นวาระเร่งด่วนที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และจุดประกายการฟื้นตัวครั้งใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทยในปี 2025 และปีต่อๆ ไป

วิกฤตเศรษฐกิจไทย: กำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแรงและหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง

สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านอย่างไม่เคยมีมาก่อน ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงแตะระดับ 90% ของ GDP ซึ่งเป็นหนึ่งในสัดส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาค ประกอบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง (การเติบโตของ GDP) ทำให้กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ ผู้คนจำนวนมากยังคงต้องรับมือกับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และหนี้สินที่สะสม ส่งผลให้ความสามารถในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการบ้านจัดสรร ในระดับราคาปานกลางถึงล่างลดลงอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (สังคมสูงวัย) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานและกำลังซื้อในระยะยาว เมื่อประชากรวัยทำงานลดลงและผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบเดิมๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับกับพลวัตเหล่านี้ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมายและการเข้าถึงแหล่งทุน ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ จำนวนมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคอย่าง อสังหาฯภาคตะวันออก ทั้งในจังหวัด ชลบุรี และ ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ต้องเผชิญกับยอดขายที่ซบเซาและสต็อกที่อยู่อาศัยที่ค้างอยู่จำนวนมาก หากไม่มีกลไกใหม่ๆ มาช่วยกระตุ้น เม็ดเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็จะยิ่งหดตัวลงไปอีก

ปลดล็อก “นอมินี”: ความจำเป็นในการนำการลงทุนต่างชาติขึ้นบนดิน

สิ่งที่เราทุกคนในวงการอสังหาริมทรัพย์ทราบดีคือ แม้กฎหมายไทยจะจำกัดสิทธิการถือครองอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมานานนมคือ การลงทุนและการเข้าซื้อที่อยู่อาศัยโดยชาวต่างชาติยังคงมีอยู่จำนวนมาก เพียงแต่ดำเนินการผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการ นั่นคือ “นอมินี” หรือการใช้ชื่อคนไทยในการซื้อและถือครองกรรมสิทธิ์แทน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงและความไม่โปร่งใสมากมาย ทั้งต่อตัวผู้ซื้อชาวต่างชาติเองที่อาจไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเต็มที่ และต่อประเทศชาติที่พลาดโอกาสในการควบคุมและเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหานี้ด้วยการ เปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้อีกต่อไป

ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องนำการลงทุนของต่างชาติในตลาดอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาอยู่บนดินอย่างสมบูรณ์ เพื่อสร้างความชัดเจนทางกฎหมายและความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนและการพำนักอาศัยระดับโลก การมีกฎหมายที่เอื้อและชัดเจนจะช่วยดึงดูด เงินลงทุนต่างชาติ ให้ไหลเข้าสู่ประเทศอย่างเป็นรูปธรรม แทนที่จะซ่อนเร้นอยู่ในเงาของนอมินี

ข้อเสนอเชิงรุก: กลไกและเงื่อนไขสู่การเปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร

แนวคิดในการ เปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบและวางแผนอย่างเป็นระบบ ดังเช่นที่หลายประเทศทั่วโลกได้ดำเนินการไปแล้ว ข้อเสนอสำคัญที่กำลังมีการผลักดันในปัจจุบัน โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการใน อสังหาฯภาคตะวันออก คือ การพิจารณาแก้ไข กฎหมายต่างชาติซื้ออสังหาฯ โดยมีแนวทางที่น่าสนใจดังนี้:

การถือครองกรรมสิทธิ์แบบมีเงื่อนไข: คล้ายคลึงกับการอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ทั้งหมดในโครงการ ข้อเสนอนี้คือการอนุญาตให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร โดยอาจเริ่มต้นด้วยสัดส่วนที่ไม่เกิน 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดใน โครงการบ้านจัดสรร นั้นๆ หรือกำหนดเป็นสัดส่วนพื้นที่ เช่น ไม่เกิน 100 ตารางวาต่อแปลง ซึ่งเป็นการควบคุมและจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาที่ดินและความสามารถในการเป็นเจ้าของของคนไทยมากเกินไป การจำกัดสัดส่วนนี้จะช่วยลดความกังวลเรื่องการเก็งกำไรในตลาดที่ดิน และเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการดึงดูดการลงทุนกับการปกป้องผลประโยชน์ของคนในชาติ

การโฟกัสไปที่บ้านจัดสรร ไม่ใช่ที่ดินเปล่า: เพื่อลดความกังวลเรื่องการครอบงำที่ดินของต่างชาติ ข้อเสนอส่วนใหญ่เน้นย้ำว่าการอนุญาตนี้ควรจำกัดเฉพาะที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้างใน โครงการบ้านจัดสรร เท่านั้น ไม่รวมถึงที่ดินเปล่า หรือที่ดินเพื่อการเกษตร ซึ่งจะช่วยให้ประเทศยังคงรักษาอธิปไตยเหนือทรัพยากรที่ดินที่สำคัญได้

ระยะเวลาทดลองและประเมินผล: ในช่วงเริ่มต้น อาจมีการกำหนดระยะเวลาทดลอง เช่น 3-5 ปี เพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะขยายขอบเขตหรือปรับปรุงเงื่อนไขให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่ชาญฉลาดและรอบคอบ

การจัดตั้งคณะกรรมการร่วม: สิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมถึงผู้ที่ไม่เห็นด้วย เพื่อเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน และร่วมกันกำหนดกฎระเบียบและแนวปฏิบัติที่ชัดเจน รัดกุม และเป็นธรรม เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาในอนาคต

ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาล: จากบ้านจัดสรรสู่การฟื้นฟูประเทศ

หากประเทศไทยสามารถเปิดทางให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นนั้นจะกว้างขวางและมหาศาลเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด:

ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติมหาศาล: การเปิดโอกาสนี้จะดึงดูดนักลงทุนและผู้ที่ต้องการมาพำนักอาศัยในประเทศไทยจากทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มวัยเกษียณ (วัยเกษียณ) และกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งมองหาบ้านพักตากอากาศ (บ้านพักตากอากาศ) หรือบ้านหลังที่สองในสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ค่าครองชีพสมเหตุสมผล และวัฒนธรรมที่เปี่ยมเสน่ห์ของไทย คาดการณ์ว่าหากมีชาวต่างชาติมาซื้อบ้านในโครงการต่างๆ เพียง 1 แสนหลัง ด้วยราคาเฉลี่ยหลังละ 5-10 ล้านบาท จะสามารถนำเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้หลายแสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ของประเทศผงกหัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

กระตุ้นเศรษฐกิจแบบองค์รวม: การไหลเข้าของเงินทุนเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่จะส่งผลต่อการหมุนเวียนของเงินในหลายอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น:
อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง: เพิ่มความต้องการในการก่อสร้าง โครงการบ้านจัดสรร ใหม่ๆ
ธุรกิจตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์: เมื่อบ้านถูกซื้อ ก็ย่อมมีการตกแต่งและจัดหาเครื่องเรือน
ธุรกิจบริการ: เช่น บริการทำความสะอาด, การจัดการทรัพย์สิน (การจัดการทรัพย์สิน), ธุรกิจดูแลสวน, รวมถึงการจ้างงานแรงงานภายในประเทศ
ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการอื่นๆ: ชาวต่างชาติที่มาพำนักระยะยาว ย่อมมีการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การเดินทางท่องเที่ยว และการใช้บริการต่างๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคบริการโดยรวม โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง พัทยา อสังหาริมทรัพย์ หรือ ภูเก็ต อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดชาวต่างชาติอยู่แล้ว

สร้างรายได้ภาษีที่โปร่งใส: เมื่อการซื้อขายอยู่บนดิน รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ (ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ภาษีเงินได้ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรายได้ที่สำคัญสำหรับนำไปพัฒนาประเทศและบริการสาธารณะ

ลดสต็อกที่อยู่อาศัยและรักษาระดับราคา: การที่ตลาดภายในประเทศมีกำลังซื้อจำกัด ทำให้เกิดปัญหาสต็อกที่อยู่อาศัยที่ยังไม่สามารถระบายออกได้ การมีกลุ่มผู้ซื้อใหม่จากต่างชาติจะช่วยดูดซับสต็อกเหล่านี้ ลดภาระของผู้ประกอบการอสังหาฯ และรักษาระดับราคาอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้ตกต่ำจนเกินไป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเสถียรภาพของตลาดโดยรวม

เสริมสร้างภาพลักษณ์ “Thailand World’s Best Second Home”: ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านหลังที่สอง หรือสถานที่พำนักระยะยาวสำหรับวัยเกษียณ ด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล และระบบสาธารณสุขที่ดี หากมีกฎหมายที่เอื้อต่อ การลงทุนต่างชาติในไทย ในภาคอสังหาริมทรัพย์ จะยิ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์นี้ให้แข็งแกร่งขึ้น และดึงดูดผู้คนให้มา ซื้อบ้านพร้อมสิทธิประโยชน์ ที่ชัดเจน

ความท้าทายและการสร้างสมดุล: มุมมองผู้เชี่ยวชาญ

แน่นอนว่าทุกข้อเสนอใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความท้าทายและความกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องการเก็งกำไรที่อาจส่งผลให้ราคาที่ดินและบ้านสูงขึ้น จนคนไทยไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองว่าเราสามารถจัดการความกังวลเหล่านี้ได้ด้วยการวางกรอบและเงื่อนไขที่รัดกุม:

กำหนดสัดส่วนที่เหมาะสม: การเริ่มต้นด้วยสัดส่วนการถือครองที่จำกัด เช่น 5-10% ของโครงการในช่วงแรก หรือไม่เกิน 49% เช่นเดียวกับคอนโดมิเนียม เป็นแนวทางที่ปลอดภัยและช่วยให้เราสามารถประเมินผลกระทบได้อย่างใกล้ชิด
จำกัดประเภทอสังหาริมทรัพย์: การจำกัดให้เป็นเพียง โครงการบ้านจัดสรร ที่มีโครงสร้างชัดเจน และไม่รวมที่ดินเปล่า จะช่วยป้องกันการเก็งกำไรในที่ดินเพื่อการพัฒนา
กระจายโอกาส ไม่จำกัดพื้นที่: การไม่จำกัดการซื้อเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างเดียว แต่ควรเปิดโอกาสให้กระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เช่น ชลบุรี, ระยอง, พัทยา, ภูเก็ต และหัวหิน จะช่วยให้การกระจายรายได้เป็นไปอย่างทั่วถึง และลดความแออัดในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งจะเป็น โอกาสลงทุนอสังหาฯ ที่น่าสนใจในหลายพื้นที่
พิจารณาวีซ่าระยะยาวประเทศไทยควบคู่กัน: เพื่อจูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักและลงทุนจริงจัง การพิจารณาเรื่อง วีซ่าระยะยาวประเทศไทย สำหรับผู้ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กันไป จะเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่สำคัญและสอดคล้องกับแนวคิดการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ
กฎหมายการลงทุนที่ชัดเจน: การมี กฎหมายการลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์ที่ชัดเจน โปร่งใส และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

บทสรุปและก้าวต่อไป: การตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์เพื่ออนาคต

จากประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยาวนาน ผมเห็นว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการพิจารณาและดำเนินการแก้ไข กฎหมายต่างชาติซื้ออสังหาฯ เพื่อให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตลาดภายในประเทศอ่อนแรง กำลังซื้อซบเซา และผู้ประกอบการอสังหาฯ กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน การเปิดประตูรับการลงทุนจากต่างชาติในลักษณะที่ควบคุมได้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในระยะยาว

การตัดสินใจในวันนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไทยในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า มันคือโอกาสในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนและที่อยู่อาศัยที่น่าดึงดูดระดับโลก พร้อมสร้าง โอกาสลงทุนอสังหาฯ ที่น่าสนใจและนำพาประเทศก้าวพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่าหากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สามารถร่วมมือกัน กำหนดแนวทางที่รัดกุม โปร่งใส และเป็นธรรม เราจะสามารถปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และสร้างอนาคตที่สดใสให้กับเศรษฐกิจไทยได้อย่างแน่นอน

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญและปฏิบัติการอย่างเด็ดเดี่ยว การรอคอยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่การลงมือทำอย่างชาญฉลาดและรอบคอบเท่านั้นที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จ

สนใจโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายและการลงทุนสำหรับชาวต่างชาติ? อย่ารอช้าที่จะติดต่อเราเพื่อร่วมสำรวจศักยภาพและสร้างความสำเร็จไปพร้อมกันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้!

Previous Post

D2512088 งล กไว หน าบ านคนรวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D2512090 ลอตเตอร าน ทำให เห นส นดานคน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D2512090 ลอตเตอร าน ทำให เห นส นดานคน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D2512090 ลอตเตอร าน ทำให เห นส นดานคน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512149 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512148 ปลอมต วเป นต นไม บผ ดเม ยม (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512147 แฟนเอาพ สาวมาอย วย แต ไม วยทำอะไรเลย(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512146 ขอให คนขายช วยโกหกเร องราคา (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512141 เม ยซ อนต วในพรมจากผ วใจร าย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.