• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512087 แม าข โกงย ดก อนห นใส งปลา(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 26, 2025
in Uncategorized
0
D2512087 แม าข โกงย ดก อนห นใส งปลา(ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกศักยภาพ: ทำไมการเปิดทางให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรอย่างถูกกฎหมายคือหัวใจสำคัญของการพลิกฟื้นอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของตลาดมาแล้วหลายระลอก แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะท้าทายและเต็มไปด้วยโอกาสพร้อมๆ กันเท่ากับช่วงเวลาที่เรากำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2025 กำลังยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวน หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง และสังคมผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัว ปัจจัยเหล่านี้ได้กัดกร่อนกำลังซื้อภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาวะชะลอตัวที่หลายภาคส่วนกำลังหาทางออกที่ยั่งยืน

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ หนึ่งในข้อเสนอที่จุดประกายความหวังและกำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางคือการพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นี่ไม่ใช่แนวคิดใหม่เอี่ยม แต่เป็นประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาถกกันอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ประกอบการในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอย่างภาคตะวันออก ซึ่งเป็นประตูสู่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนระดับโลก หากเรามองผ่านเลนส์ของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนาน เราจะเห็นว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่เป็นการจุดประกายกลไกทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่จะส่งผลสะเทือนเชิงบวกไปทั่วทั้งระบบ

วิกฤตที่มองเห็น: ทำไมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องพึ่งพากำลังซื้อจากภายนอก?

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนการเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 ซึ่งทิ้งรอยแผลเป็นทางเศรษฐกิจไว้ลึกซึ้ง ตามมาด้วยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ สภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงเป็นแรงกดดัน แม้จะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างและค่าครองชีพ

หนึ่งในปัญหาเรื้อรังที่บั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศอย่างรุนแรงคือ “หนี้ครัวเรือน” ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งปัจจุบันตัวเลขหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยนั้นสูงถึงกว่า 90% บ่งชี้ว่าประชาชนจำนวนมากมีภาระทางการเงินที่หนักอึ้ง ทำให้ความสามารถในการกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ การก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างรวดเร็ว ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ทำให้จำนวนแรงงานลดลง และกำลังซื้อในระยะยาวอาจถูกจำกัด นี่คือบริบทที่ทำให้การพึ่งพากำลังซื้อจากภายนอกกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน การมองหา “โอกาสลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ที่สามารถดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามา จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบัน

ข้อเสนอจากขุนพลอสังหาฯ ตะวันออก: เมื่อวิกฤตผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

เสียงเรียกร้องให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดทางให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกต้องนั้น ดังมาจากหลายภาคส่วน แต่ที่โดดเด่นและเป็นรูปธรรมคือข้อเสนอจากกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรีและระยอง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของภาคตะวันออก ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ EEC ที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และเป็นหมุดหมายของนักลงทุนและผู้บริหารระดับสูงจากต่างประเทศ

ผู้บริหารระดับสูงในวงการอสังหาฯ หลายท่านได้ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ชี้ให้เห็นถึง “ศักยภาพของประเทศไทย” ในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้เกษียณอายุและผู้ที่ต้องการบ้านหลังที่สอง (Second Homes) ซึ่งมองหาการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพสูงขึ้นด้วยค่าครองชีพที่เหมาะสม หากเราสามารถดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้ให้เข้ามา “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย” ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และจะเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

เป้าหมายที่แท้จริงคือการ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย” ในภาพรวม ไม่ใช่แค่เพียงการขายบ้าน ความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติจำนวนมาก เช่น หากมี ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้ถึง 100,000 ยูนิต ด้วยราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาทต่อหลัง นั่นหมายถึงเม็ดเงินหมุนเวียนหลายแสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ของประเทศขยับตัวขึ้นได้อย่างชัดเจน

เปิดหน้าไพ่ “นอมินี”: ความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อความโปร่งใสและรายได้ที่สูญไป

ในโลกของความเป็นจริง ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายปัจจุบัน มีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยเฉพาะบ้านจัดสรร แต่เมื่อไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้โดยตรง ทางออกที่นิยมใช้กันคือการใช้ “นอมินี” หรือตัวแทน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นคู่สมรสชาวไทยหรือบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าการใช้นอมินีนั้นเป็น “ดาบสองคม” ที่สร้างความเสี่ยงให้กับทุกฝ่าย ทั้งชาวต่างชาติผู้ซื้อที่อาจเสียสิทธิในการเป็นเจ้าของที่แท้จริง หากเกิดความขัดแย้งกับนอมินี เช่น กรณีที่ภรรยาชาวไทยนำบ้านไปจำนองหรือขายโดยพลการ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายกรณี นอกจากนี้ รัฐเองก็เสียโอกาสในการจัดเก็บรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะธุรกรรมเหล่านี้มักอยู่นอกระบบ หรือไม่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการ ยังทำให้เกิดความไม่โปร่งใสในตลาด และอาจนำไปสู่ปัญหาการฟอกเงินหรือการหลีกเลี่ยงภาษีได้ในอนาคต

การแก้ไขกฎหมายเพื่อนำการซื้อขายเหล่านี้ขึ้นมา “บนดิน” อย่างถูกต้อง จะช่วยแก้ปัญหานอมินีได้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ธุรกรรมมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และที่สำคัญคือ “รัฐสามารถเก็บภาษี” จากการซื้อขายและการถือครองได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งจะกลายเป็นรายได้สำคัญที่จะกลับมาพัฒนาประเทศ

เงื่อนไขที่เหมาะสม: บทเรียนจากคอนโดฯ และแนวทางสู่การปฏิบัติ

การพิจารณาอนุญาตให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร นั้น ไม่ได้หมายถึงการเปิดเสรีอย่างไร้ขีดจำกัด แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบและเงื่อนไขที่รัดกุม ซึ่งข้อเสนอจากผู้ประกอบการภาคตะวันออกได้ให้แนวทางที่น่าสนใจและสมเหตุสมผล โดยอิงจากบทเรียนที่ประสบความสำเร็จจากการอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ทั้งหมดในโครงการ

หลักการสำคัญที่เสนอคือ:

ตั้งคณะกรรมการพิจารณา: ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ที่รวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มาร่วมกันหารืออย่างรอบด้าน เพื่อกำหนดข้อกำหนดและระเบียบปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด โดยต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย แม้แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วย เพื่อหาจุดร่วมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
จำกัดประเภทอสังหาริมทรัพย์: การอนุญาตควรจำกัดเฉพาะ “บ้านจัดสรร” เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น ไม่ควรรวมถึงที่ดินเปล่า เพื่อป้องกันการเก็งกำไรที่ดินและผลกระทบต่อราคาที่ดินในท้องถิ่น
จำกัดสัดส่วนการถือครอง: เริ่มต้นด้วยการกำหนดสัดส่วนการถือครองในแต่ละโครงการ เช่น ไม่เกิน 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดในโครงการ (เทียบเท่าคอนโดฯ) หรืออาจจะเริ่มที่ 5-10% ของจำนวนบ้านในโครงการนำร่องก่อน เพื่อประเมินผลตอบรับและผลกระทบ จากนั้นจึงพิจารณาเพิ่มสัดส่วนเป็น 60-70% ในอนาคตหากประสบความสำเร็จ
จำกัดพื้นที่และขนาด: อาจมีการกำหนดเงื่อนไขเรื่องขนาดของที่ดิน เช่น ไม่เกิน 100 ตารางวา หรือจำกัดพื้นที่การซื้อในโซนที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นมากเกินไป
กำหนดระยะเวลาประเมินผล: ควรมีเงื่อนไขระยะเวลาในการดำเนินการซื้อ เช่น ภายใน 3-5 ปี จากนั้นจึงประเมินผลตอบรับและผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสถานการณ์
ไม่ใช่แค่ EEC: แม้ภาคตะวันออกจะเป็นผู้ริเริ่ม แต่การอนุญาตนี้ไม่ควรกำหนดเป็น “แซนด์บ็อกซ์” เฉพาะในเขต EEC เท่านั้น ควรเปิดโอกาสให้มีการกระจายการลงทุนและกำลังซื้อจากต่างชาติไปยังจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการ “กระจายรายได้” และพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต เชียงใหม่ หรือเมืองชายทะเลอื่นๆ

นอกจากนี้ การมองหาทางเลือกอื่น เช่น การ “เช่าระยะยาว” (Long-term lease) ที่มีระยะเวลามากกว่า 30 ปี อาจเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะตอบโจทย์ชาวต่างชาติที่ต้องการพักอาศัยระยะยาว แต่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยตรง การปรับปรุงกฎหมายการเช่าระยะยาวให้มีความยืดหยุ่นและคุ้มครองผู้เช่ามากขึ้น จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้เช่นกัน

การบริหารจัดการความเสี่ยง: สร้างสมดุลเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

แน่นอนว่าทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมาพร้อมกับความท้าทายและข้อกังวล การเปิดทางให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร อาจนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อราคาที่ดินในท้องถิ่น ความสามารถในการแข่งขันของคนไทยในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ และประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรม

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าเราสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วยมาตรการที่รัดกุม:

กำหนดโซนหรือพื้นที่เฉพาะ: อาจมีการกำหนดโซนหรือประเภทของโครงการที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อได้ เพื่อควบคุมผลกระทบต่อราคาที่ดินในท้องถิ่น
ภาษีการถือครองสำหรับต่างชาติ: การพิจารณาอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่างกันสำหรับชาวต่างชาติ อาจเป็นแนวทางในการสร้างรายได้เข้ารัฐ และชะลอการเก็งกำไรได้
การกำกับดูแลโครงการ: หน่วยงานภาครัฐควรมีบทบาทในการกำกับดูแลโครงการที่ขายให้ชาวต่างชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมการลงทุนที่มีคุณภาพ: มุ่งเน้นดึงดูดกลุ่มนักลงทุนหรือผู้อยู่อาศัยที่มีศักยภาพสูง ที่จะนำเม็ดเงินและการใช้จ่ายมาสู่ระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

ประเทศไทยในอนาคต: ศูนย์กลางการอยู่อาศัยและการลงทุนระดับโลก

หากเราสามารถปลดล็อกศักยภาพในจุดนี้ได้อย่างชาญฉลาด ประเทศไทยจะก้าวขึ้นสู่การเป็น “ศูนย์กลางการอยู่อาศัยและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ชั้นนำของโลกอย่างแท้จริง โดยเฉพาะสำหรับกลุ่ม “ผู้สูงอายุต่างชาติ” ที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีและบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน รวมถึงกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการ “บ้านพักตากอากาศ” หรือที่พักอาศัยในระยะยาว

การมีกฎหมายที่ชัดเจนและโปร่งใส จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติอย่างมหาศาล พวกเขาจะกล้าที่จะ “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย” ในระยะยาวมากขึ้น เพราะรู้สึกมั่นคงในสิทธิการถือครอง ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาด “อสังหาริมทรัพย์พรีเมียม” และ “ตลาดบ้านหรู” มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังสามารถส่งเสริมการออก “วีซ่าระยะยาว” สำหรับผู้ที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในวงเงินที่กำหนด เพื่อดึงดูดการใช้จ่ายในระยะยาว

การเปิดโอกาสให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร อย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาระยะสั้นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา แต่เป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว เป็นการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นผู้เล่นที่สำคัญในเวทีโลกของการลงทุนและการใช้ชีวิต

ก้าวต่อไป: เวลาแห่งการตัดสินใจและโอกาสที่รออยู่

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าติดตามสถานการณ์นี้มานาน ผมเชื่อว่า “เวลาเหมาะสมที่สุด” ที่จะผลักดันการแก้ไขกฎหมายนี้คือ “เดี๋ยวนี้” ตลาดภายในประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง-ล่าง ขณะที่ตลาดระดับบนยังพอประคองตัวได้ แต่หากตลาดรากฐานมีปัญหา ระบบทั้งหมดก็จะได้รับผลกระทบ

การนำเรื่อง ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจังในระดับคณะรัฐมนตรี และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่ง การสร้างกรอบกฎหมายที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม จะไม่เพียงแค่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเข้ามาในประเทศ แต่ยังช่วยยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว

โอกาสในการพลิกฟื้นและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เหลือเพียงแค่การตัดสินใจที่กล้าหาญและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้นำประเทศและผู้ที่เกี่ยวข้อง ผมเชื่อมั่นว่าหากเราใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะไม่เพียงแค่กลับมาฟื้นตัว แต่จะก้าวขึ้นสู่ยุคใหม่ที่แข็งแกร่งและน่าจับตาอย่างแน่นอน

หากท่านเป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจในโอกาสครั้งสำคัญนี้ และต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในบริบทที่กำลังจะเปลี่ยนไปนี้ ผมและทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและร่วมวางแผนเพื่อคว้าโอกาสใหม่ๆ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไปพร้อมกับท่าน โปรดติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นการสนทนาที่อาจพลิกโฉมอนาคตการลงทุนของท่านได้ในวันนี้

Previous Post

D2512086 ขโมยทองใส แกลลอน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D2512088 งล กไว หน าบ านคนรวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D2512088 งล กไว หน าบ านคนรวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D2512088 งล กไว หน าบ านคนรวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512121 คนใกล วร ายท (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512149 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512148 ปลอมต วเป นต นไม บผ ดเม ยม (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512147 แฟนเอาพ สาวมาอย วย แต ไม วยทำอะไรเลย(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512146 ขอให คนขายช วยโกหกเร องราคา (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.