• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512077 รองเท าว เศษจากแม มดใส แล วสวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 26, 2025
in Uncategorized
0
D2512077 รองเท าว เศษจากแม มดใส แล วสวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส: ปลดล็อกศักยภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออก ด้วยนโยบาย “ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร” ที่เป็นธรรมและยั่งยืน

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยมายาวนานกว่าทศวรรษ ทั้งในฐานะนักพัฒนาและนักวิเคราะห์ตลาด ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพลิกผันมากมายของเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัย แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความท้าทายที่เราเผชิญนั้นหนักหนาสาหัสกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบสะสมยาวนาน ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว และสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ได้กัดเซาะกำลังซื้อภายในประเทศอย่างรุนแรง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงอย่างภาคตะวันออก ซึ่งเป็นประตูสู่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ผู้ประกอบการหลายรายต่างมองหาทางออกเพื่อกระตุ้นตลาด และหนึ่งในข้อเสนอที่ได้รับการผลักดันอย่างจริงจังในขณะนี้ คือการทบทวนและแก้ไขกฎหมาย เพื่อเปิดทางให้ชาวต่างชาติสามารถ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจและยกระดับศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่เวทีโลกในระยะยาว

วิกฤตการณ์กำลังซื้อภายในประเทศ: ความท้าทายที่ต้องเร่งแก้ไข

จากประสบการณ์ตรงในตลาด ผมสัมผัสได้ว่าภาวะ “ขายยาก” เป็นความจริงที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ ไม่ใช่แค่โครงการบ้านจัดสรรระดับบน แต่กำลังซื้อในตลาดกลางและล่างก็ประสบปัญหาอย่างหนัก สาเหตุหลักมาจาก:

หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง: อัตราหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่สูงเกิน 90% บ่งชี้ว่าคนไทยจำนวนมากมีภาระทางการเงินที่ตึงตัว ความสามารถในการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ธนาคารจะพยายามผ่อนปรน แต่เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อก็ยังคงเข้มงวด
เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง: แม้เศรษฐกิจจะส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่ก็ยังไม่กระจายตัวทั่วถึง ผู้ประกอบการ SME และแรงงานจำนวนมากยังคงประสบปัญหา ทำให้รายได้ไม่มั่นคงและกำลังซื้อไม่กลับมาอย่างที่คาดหวัง
สังคมสูงวัยและโครงสร้างประชากรเปลี่ยน: การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้กำลังแรงงานลดลง และจำนวนประชากรวัยสร้างครอบครัวลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มบ้านจัดสรรที่เคยเป็นตลาดหลักลดลงอย่างต่อเนื่อง
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น: การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะเป็นมาตรการจำเป็น แต่ก็เพิ่มภาระผ่อนชำระให้กับผู้ซื้อบ้าน และทำให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านชะลอการตัดสินใจออกไป

เมื่อพิจารณาจากบริบทเหล่านี้ การพึ่งพากำลังซื้อภายในประเทศเพียงอย่างเดียวดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ การมองหาแหล่งเงินทุนใหม่จากภายนอกจึงกลายเป็นทางออกที่จำเป็นและมีศักยภาพ

ข้อเสนอ “ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร”: ทางออกที่รอบด้านและเป็นรูปธรรม

ข้อเสนอที่กำลังผลักดันโดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะจากจังหวัดชลบุรีและระยอง ไม่ใช่แนวคิดใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการนำเสนอในบริบทที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และด้วยเงื่อนไขที่รัดกุมขึ้น ประเด็นสำคัญของข้อเสนอนี้คือ:

เปิดทางให้ต่างชาติถือครองบ้านจัดสรรอย่างถูกกฎหมาย: โดยเสนอให้พิจารณาการถือครองในรูปแบบคล้ายคอนโดมิเนียม คือจำกัดสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ของต่างชาติในโครงการบ้านจัดสรรไม่เกิน 49% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการดึงดูดการลงทุนกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติ
จำกัดขนาดที่ดินและระยะเวลาการประเมินผล: เสนอให้จำกัดขนาดที่ดินที่ต่างชาติสามารถถือครองได้ในเบื้องต้น เช่น ไม่เกิน 100 ตารางวา และกำหนดระยะเวลาการดำเนินการภายใน 3-5 ปี เพื่อประเมินผลกระทบและข้อดีข้อเสียอย่างรอบด้าน ก่อนขยายผลหรือปรับปรุงเงื่อนไขเพิ่มเติม
แก้ปัญหา “นอมินี” อย่างเป็นระบบ: หนึ่งในข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ปัจจุบันมีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ต้องการซื้อบ้านในประเทศไทย และใช้วิธีการผ่าน “นอมินี” หรือการให้คู่สมรสคนไทยเป็นผู้ถือครองแทน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งความไม่โปร่งใส การหลบเลี่ยงภาษี และความเสี่ยงทางกฎหมายสำหรับทั้งสองฝ่าย การเปิดให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกกฎหมาย จะช่วยยกระดับความโปร่งใสในธุรกรรม ลดปัญหาการฟ้องร้อง และทำให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ผมมองว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเท่านั้น แต่เป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั่วประเทศ เพื่อกระจายเม็ดเงินลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ไม่ควรจำกัดอยู่แค่พื้นที่ EEC หรือ “แซนด์บ็อกซ์” เท่านั้น เพราะความต้องการ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จากต่างชาติกระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ หรือเมืองรองที่มีศักยภาพ

อานิสงส์ทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน: GDP ผงกหัว เงินตราต่างประเทศหลั่งไหล

หากข้อเสนอในการอนุญาตให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้รับการพิจารณาและประกาศใช้ ผมเชื่อมั่นว่าจะมีผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ:

กระตุ้น GDP อย่างมีนัยสำคัญ: ลองจินตนาการว่าหากมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านจัดสรรเพียง 100,000 หลัง ในราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาทต่อหลัง เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ระบบจะสูงถึง 5 แสนล้านบาทถึง 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ของประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ใช่แค่การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัสดุก่อสร้าง การตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ และบริการต่าง ๆ
ดึงดูดเงินตราต่างประเทศ: การที่ นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง ย่อมหมายถึงการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินบาทและทุนสำรองระหว่างประเทศ
สร้างงานและกระจายรายได้: การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ก่อให้เกิดการจ้างงานในหลากหลายสาขา ตั้งแต่แรงงานก่อสร้าง นายหน้า ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯ ไปจนถึงบริการหลังการขาย เช่น บริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เมื่อชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัย พวกเขาจะจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าและบริการในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้า โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงพยาบาล ซึ่งจะสร้างรายได้และโอกาสทางธุรกิจให้กับคนไทยอย่างกว้างขวาง
พัฒนาคุณภาพชีวิตและบริการ: การหลั่งไหลเข้ามาของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เกษียณอายุหรือผู้ที่ต้องการ บ้านพักตากอากาศ จะสร้างความต้องการบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา และบริการอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ภาครัฐและภาคเอกชนต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและยกระดับบริการต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานสากล สอดรับกับแนวคิด การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ประเทศไทยกำลังส่งเสริม

ความกังวลและแนวทางแก้ไข: สร้างสมดุลเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

แน่นอนว่าทุกนโยบายย่อมมีทั้งข้อดีและข้อที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ความกังวลที่มักเกิดขึ้นเมื่อพูดถึง การถือครองอสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติ คือเรื่องของการเก็งกำไร ราคาที่ดินที่อาจพุ่งสูงขึ้นจนคนไทยเข้าถึงยาก และการเสียอธิปไตยเหนือที่ดิน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นด้วยว่าต้องมีการวางกรอบและกลไกควบคุมที่รัดกุม เพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบเหล่านี้:

การจัดตั้งคณะกรรมการร่วม: อย่างที่หลายท่านเสนอ ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยมีตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน เช่น กำหนดประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่ต่างชาติซื้อได้ (เฉพาะบ้านจัดสรร ไม่ใช่ที่ดินเปล่า) หรือพื้นที่ที่เหมาะสม
การจำกัดสัดส่วนและการประเมินผล: การเริ่มต้นด้วยการจำกัดสัดส่วนการถือครอง เช่น 5-10% หรือสูงสุด 49% ในแต่ละโครงการ และการกำหนดระยะเวลาประเมินผล 3-5 ปี เป็นแนวทางที่รอบคอบ ทำให้เราสามารถเรียนรู้และปรับปรุงนโยบายได้อย่างต่อเนื่อง
กลไกป้องกันการเก็งกำไร: อาจพิจารณากลไกป้องกันการเก็งกำไร เช่น กำหนดระยะเวลาขั้นต่ำในการถือครองก่อนขาย หรือพิจารณาจัดเก็บ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในอัตราพิเศษสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ชาวต่างชาติถือครอง หากมีการถือครองเพื่อการลงทุนที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยจริง
การส่งเสริมที่อยู่อาศัยสำหรับคนไทย: ควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสให้ต่างชาติ รัฐบาลควรมีนโยบายสนับสนุนให้คนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาความเหลื่อมล้ำ

การมี กฎหมายอสังหาริมทรัพย์ ที่ชัดเจนและเป็นธรรม จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการความคาดหวังและลดความกังวลของทุกฝ่าย

โอกาสทองสำหรับภาคตะวันออกและ EEC: ดึงดูดผู้มีกำลังซื้อสูง

สำหรับภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่ EEC ซึ่งครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โอกาสนี้ยิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษ ด้วยจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ และความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล ทำให้ภาคตะวันออกเป็นแม่เหล็กดึงดูด การลงทุนในไทย และกลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง

การเปิดทางให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างสะดวก จะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้:

ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญใน EEC: ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงใน EEC มักต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย การมีสิทธิซื้อบ้านจัดสรรจะช่วยให้พวกเขามั่นใจและตัดสินใจปักหลักระยะยาวได้ง่ายขึ้น
กลุ่มผู้เกษียณอายุ (Retirees): ประเทศไทยติดอันดับต้น ๆ ของโลกที่ชาวต่างชาติต้องการมาใช้ชีวิตหลังเกษียณ ด้วยค่าครองชีพที่ไม่แพง การบริการสุขภาพที่ดี และวัฒนธรรมที่เป็นมิตร การมีตัวเลือกให้ซื้อบ้านจัดสรรนอกเหนือจากคอนโดมิเนียม จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุต่างชาติที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวและความสงบมากขึ้น
Digital Nomads และผู้ประกอบการ Startup: กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานและที่อยู่อาศัย การมีตัวเลือกในการซื้อบ้านจัดสรรในทำเลที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเข้ามาในประเทศ
นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์: นอกเหนือจากผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยโดยตรง ยังมีกลุ่ม นักลงทุนต่างชาติ ที่มองหาโอกาสในการลงทุนระยะยาวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะในโครงการ อสังหาริมทรัพย์หรู และโครงการบ้านจัดสรรที่มีดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

การมุ่งเน้นไปยังจังหวัดชลบุรี ระยอง และพื้นที่สำคัญอื่น ๆ เช่น บ้านจัดสรรพัทยา หรือ โครงการบ้านจัดสรรศรีราชา จะเป็นการเจาะตลาดที่มีความต้องการสูงและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว

บทบาทของภาครัฐและเอกชน: ร่วมสร้างอนาคตตลาดอสังหาริมทรัพย์

การขับเคลื่อนนโยบายขนาดใหญ่นี้ให้สำเร็จ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการ:

ผลักดันการแก้ไขกฎหมาย: รัฐบาลต้องเร่งพิจารณาข้อเสนอแนะ และผลักดันการแก้ไข กฎหมายอสังหาริมทรัพย์ ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังและรวดเร็ว
สร้างความเข้าใจกับสังคม: ต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประโยชน์และความจำเป็นของนโยบายนี้ พร้อมทั้งชี้แจงมาตรการป้องกันผลกระทบเชิงลบ
อำนวยความสะดวกในการลงทุน: พิจารณาการออก วีซ่าระยะยาว หรือ สิทธิประโยชน์นักลงทุน ที่สอดคล้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนและอยู่อาศัยในระยะยาว

ขณะที่ภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ควร:

พัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ: สร้างสรรค์โครงการบ้านจัดสรรที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล และตอบโจทย์ความต้องการของชาวต่างชาติ ทั้งในด้านทำเล ดีไซน์ และสิ่งอำนวยความสะดวก
ให้ข้อมูลและเป็นช่องทางสื่อสาร: ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ชาวต่างชาติ และสะท้อนเสียงจากตลาดสู่ภาครัฐ
ร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์: ทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อหาจุดสมดุลและแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ

ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองข้ามความกังวลบางประการ และเปิดใจพิจารณาโอกาสครั้งสำคัญนี้อย่างจริงจัง การอนุญาตให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของเศรษฐกิจไทย เป็นการสร้างประตูบานใหม่ที่เปิดรับเม็ดเงินลงทุน ทักษะ และวัฒนธรรมจากทั่วโลก เข้ามาเติมเต็มศักยภาพของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในวงการ ผมมองเห็นถึงศักยภาพมหาศาลที่นโยบายนี้จะนำมาสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกที่กำลังรอคอยการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ หากเราสามารถบริหารจัดการและสร้างสมดุลได้อย่างชาญฉลาด นโยบายนี้จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการ วิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และดึงดูด โอกาสลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จากทั่วโลกได้อย่างแท้จริง

ก้าวต่อไปของประเทศไทย: สู่การเป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยระดับโลก

การเปิดโอกาสให้ ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ไม่ได้เป็นเพียงแค่การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่เอื้อต่อการลงทุน การอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตของชาวต่างชาติในประเทศไทยอย่างครบวงจร ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในหลายมิติ:

ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัย: การแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ซื้อต่างชาติจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม หรือบริการหลังการขาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคชาวไทยด้วย
เสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศ: การที่ต่างชาติสามารถซื้อและเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างถูกกฎหมาย จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความเปิดกว้าง เป็นมิตร และมีกฎหมายที่ชัดเจนและเป็นธรรม ซึ่งจะดึงดูดกลุ่มคนที่มีคุณภาพจากทั่วโลก
การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและองค์ความรู้: การเข้ามาอยู่อาศัยของชาวต่างชาติจะนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม องค์ความรู้ และประสบการณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมความหลากหลายและสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม

ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องกล้าคิดและก้าวไปข้างหน้าอย่างมีวิสัยทัศน์ นโยบาย ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และนำพาเศรษฐกิจของเราให้ก้าวข้ามความท้าทายในปัจจุบัน สู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองและยั่งยืนในอนาคต

หากท่านสนใจรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือต้องการปรึกษาโอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับท่าน โปรดติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือเข้าร่วมงานสัมมนาที่เราจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไปด้วยกัน

Previous Post

D2512076 เล ยงล กใต นบ าน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D2512080 แผงผ กมหารวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D2512080 แผงผ กมหารวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D2512080 แผงผ กมหารวย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512126 งขอทานสกปรกกล ามาก นเค กฉ (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512125 คะ วยหน วย (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512124 กต วตอนน สายไปแล ว(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512123 ใหญ กว าเจ าของร านก นน แหล ะ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512127 ดเจอรากไม เป นทองคำ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.