• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512004 จากคนข ดรองเท าส ทายาทเศรษฐ (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 25, 2025
in Uncategorized
0
D2512004 จากคนข ดรองเท าส ทายาทเศรษฐ (ละครส น) หน งส นด BSC part2

พลิกโฉม “เชียงแสน”: ถอดรหัสเมกะโปรเจกต์ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” กับโอกาสทองของภาคเหนือ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนภูมิภาคมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่น่าตื่นตาตื่นใจ ณ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นจุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และเมียนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผงาดขึ้นของ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คิงส์โรมัน” ฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ของประเทศไทย โครงการยักษ์ใหญ่แห่งนี้มิได้เป็นเพียงแค่ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนมหาศาลจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากกลุ่มทุนจีน พลิกโฉมภูมิทัศน์เศรษฐกิจชายแดนให้กลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับภูมิภาค คำถามสำคัญคือ: ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอเชียงแสน จะสามารถเปลี่ยนความท้าทายนี้ให้เป็นโอกาสทองในการสร้างมูลค่าเพิ่มและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างไร?

การถือกำเนิดของอาณาจักรคิงส์โรมัน: มิติใหม่แห่งการลงทุนชายแดน

ย้อนกลับไปกว่า 17 ปีที่ผ่านมา กลุ่มดอกงิ้วคำ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจีนขนาดใหญ่ภายใต้การนำของ “เจ้าเหว่ย” ได้รับสัมปทานพื้นที่กว่า 2,173 เฮกตาร์ หรือประมาณ 102 ตารางกิโลเมตร หรือราว 63,750 ไร่ จากรัฐบาล สปป.ลาว เป็นระยะเวลาถึง 99 ปี นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างอาณาจักรแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์อันทะเยอทะยาน การลงทุนใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” แห่งนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่ง แต่เป็นการลงทุนที่ครอบคลุมหลากหลายมิติ ตั้งแต่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย การสร้างศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวทางแม่น้ำโขง การวางรากฐานด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย การพัฒนา การเกษตรครบวงจร และการส่งเสริมกีฬาและสันทนาการระดับโลก ด้วยเม็ดเงินลงทุนที่ประเมินค่าได้เป็นหลักแสนล้านบาท ทำให้คิงส์โรมันกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์พัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การสำรวจพื้นที่อย่างใกล้ชิดเผยให้เห็นถึงความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” ตั้งแต่ท่าเรือมาตรฐานระดับสากล ถนนหนทางที่ได้รับการขยายปรับปรุง ป้ายรถประจำทางที่ทันสมัย ห้องน้ำสาธารณะที่สะอาดและสวยงาม ไปจนถึงบริการแท็กซี่ที่ดำเนินการโดยคนจีน เพื่อรองรับการสัญจรของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ หากมองจากฝั่งเชียงแสน คุณจะเห็นภาพตึกระฟ้าที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อาคารชุดและคอนโดมิเนียมจำนวนมากกำลังก่อสร้าง สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของมหานครแห่งใหม่นี้

ภายในใจกลางของคิงส์โรมัน เราจะพบกับโรงแรมหรูหรา บ่อน กาสิโนถูกกฎหมาย อาคารชุดและคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัย อาคารสำนักงานสำหรับบริษัทห้างร้าน ภัตตาคารและร้านอาหารชั้นนำ สถานบันเทิงยามค่ำคืน ตลาดปลอดภาษี (ดอนซาว) ที่ดึงดูดนักช้อป ไชน่าทาวน์ที่มีชีวิตชีวา โรงเรียนนานาชาติ วัดจีน สวนสาธารณะ สนามกอล์ฟระดับโลก และแม้กระทั่งสนามบินนานาชาติ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการแบบพิเศษที่เอื้อต่อการลงทุนและ โอกาสทางธุรกิจ ปัจจุบันมีพลเมืองทั้งชาวลาว ชาวจีน และชาวต่างชาติอื่นๆ อาศัยอยู่รวมกันประมาณ 60,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอกย้ำถึงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งใหม่ในภูมิภาค

การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน: ประตูสู่ภูมิภาคและการค้าชายแดน

หนึ่งในการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” คือการพัฒนาสนามบินบ่อแก้ว ซึ่งได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 สนามบินแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 1,800 ไร่ พร้อมรันเวย์ยาว 2,700 เมตร ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสนามบินขนาดใหญ่อันดับ 3 ของ สปป.ลาว และสามารถรองรับเครื่องบินขนาดกลางได้ถึง 200 ที่นั่ง เช่น แอร์บัส A321 หรือโบอิ้ง 737-900 การมี สนามบินบ่อแก้ว แห่งนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพด้าน การขนส่งระหว่างประเทศ และเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ จากจีนและประเทศอื่นๆ เข้าสู่ภูมิภาคโดยตรง ส่งผลให้การเดินทางไปคิงส์โรมันสะดวกสบายยิ่งขึ้น และลดความจำเป็นในการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไทยอย่างที่เคยเป็นมา

นอกจากสนามบินแล้ว กลุ่มทุนเจ้าเหว่ยยังทุ่มงบประมาณมหาศาลในการพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่ รวมถึงท่าเรือท่องเที่ยวเกาะดอนซาว ซึ่งมีเป้าหมายรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 450,000 คน และท่าเรือขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศที่รองรับได้ 150,000 คนต่อปี ที่สำคัญคือการสร้างท่าเรือน้ำลึกริมแม่น้ำโขง พร้อมลานพิธีการศุลกากร ซึ่งสามารถรองรับเรือขนาด 500 ตัน หรือรองรับสินค้าได้ 10,000 ตันต่อปี ภายในปีนี้ คาดว่าจะมีการเปิดเส้นทางเดินเรือสำราญในแม่น้ำโขง เชื่อมโยงระหว่างจีน ลาว เมียนมา และไทย ซึ่งจะเสริมศักยภาพด้าน โลจิสติกส์ และ การท่องเที่ยวแม่น้ำโขง ให้คึกคักยิ่งขึ้น

ในด้านการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” ก็มีการเร่งถางพื้นที่ภูเขาหลายลูก เพื่อเตรียมปลูกทุเรียนรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดจีน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี ต้นทุเรียนจึงจะให้ผลผลิต นี่เป็นยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาดในการส่งเสริม การเกษตรสมัยใหม่ เพื่อป้อนการบริโภคในพื้นที่ และหากมีผลผลิตส่วนเกิน ก็จะส่งต่อไปยังตลาดจีนและลาว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาพื้นที่ปศุสัตว์ ทั้งวัวและสุกร รวมถึงการปลูกถั่วและไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความครบวงจรในการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกมิติ

เชียงแสน: เมืองผ่านที่ต้องพลิกเกม

จากสถานการณ์ปัจจุบัน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” ดูเหมือนจะได้รับประโยชน์จากความรุ่งเรืองของคิงส์โรมันค่อนข้างจำกัด แม้จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากเดินทางไปยังคิงส์โรมัน เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10,000 คน แต่เชียงแสนกลับกลายเป็นเพียง “ทางผ่าน” เท่านั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้เชียงแสนเป็นจุดแวะพักก่อนข้ามฝั่งไปใช้จ่ายใน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เนื่องจากคิงส์โรมันได้ถูกออกแบบมาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทุกอย่างครบวงจร ตั้งแต่ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ไปจนถึงสถานบันเทิงต่างๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องย้อนกลับมาใช้บริการฝั่งไทย

ผู้ประกอบการไทยในอำเภอเชียงแสนที่ได้รับประโยชน์โดยตรงมีเพียงส่วนน้อย เช่น ผู้ให้บริการรถรับจ้างสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจากสนามบินเชียงรายมายังเชียงแสนเพื่อข้ามฝั่ง หรือผู้ประกอบการเรือข้ามฟากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก็มีความพยายามปรับตัวของภาคธุรกิจท้องถิ่น ด้วยการเปิดร้านอาหารริมแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นกว่า 10 แห่ง และโรงแรมระดับ 2-3 ดาวริมแม่น้ำโขงอีก 2 แห่ง เพื่ออาศัยจุดชมวิวแสงสีของคิงส์โรมันยามค่ำคืน แต่ด้วยต้นทุนที่ดินริมแม่น้ำโขงฝั่งเชียงแสนที่มีราคาสูงมากถึงประมาณ 100,000 บาทต่อเดือน สำหรับพื้นที่กว้าง 25 เมตร ลึกลงไปถึงริมน้ำ ยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ขนาดใหญ่

ยุทธศาสตร์เชิงรุกสำหรับเชียงแสนและระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ

เพื่อให้เชียงแสนสามารถก้าวข้ามจากการเป็นเพียง “เมืองผ่าน” ไปสู่การเป็น “เมืองปลายทาง” ที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีการวางยุทธศาสตร์เชิงรุกที่ชัดเจน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเชื่อมโยงระบบคมนาคม: ข้อเสนอในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมโยงกับเชียงแสน ควรได้รับการศึกษาอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และผลกระทบต่อผู้ประกอบการท้องถิ่น หากสามารถบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ร่วมกันได้จริง สะพานแห่งนี้จะช่วยเสริมสร้าง การค้าชายแดน และอำนวยความสะดวกในการเดินทางและการขนส่งสินค้าอย่างมหาศาล นอกจากนี้ การพัฒนาเส้นทางคมนาคมภายในจังหวัดเชียงรายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น

การสร้างแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวที่แตกต่าง: แทนที่จะพยายามแข่งขันกับ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” ในด้านความบันเทิงครบวงจร ซึ่งคิงส์โรมันได้เปรียบมหาศาล เชียงแสนควรหันมาสร้างจุดแข็งและเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น การส่งเสริมให้เชียงแสนเป็น “Wellness City” หรือเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเน้น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบำบัด สปา และกิจกรรมผ่อนคลายต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ข้ามไปตีกอล์ฟหรือทำธุรกิจในคิงส์โรมัน ให้กลับมาพักค้างคืนและใช้จ่ายในเชียงแสน นอกจากนี้ การพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในฝั่งไทย โดยมีข้อจำกัดและรูปแบบที่เหมาะสม ก็อาจเป็นอีกหนึ่งเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลควรพิจารณาเพื่อสร้างแรงดึงดูดใหม่ๆ ให้กับพื้นที่ ซึ่งจะช่วยสร้าง โอกาสทางธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการไทย

การยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและการเกษตร: เชียงแสนและพื้นที่ใกล้เคียงมีศักยภาพในการพัฒนา การเกษตรครบวงจร และสินค้าชุมชนที่มีคุณภาพ การส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร การสร้างแบรนด์ท้องถิ่น และการเชื่อมโยงกับตลาดขนาดใหญ่ในคิงส์โรมัน รวมถึงตลาดจีน จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการขนาดเล็ก การพัฒนา เขตปลอดภาษี สำหรับสินค้าไทยที่มีเอกลักษณ์ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์และบริการคุณภาพสูง: การพัฒนาทักษะแรงงานท้องถิ่นให้สามารถรองรับความต้องการของธุรกิจ โรงแรมหรู และ บริการทางการแพทย์ระดับสากล ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในคิงส์โรมันและในเชียงแสนเอง เป็นสิ่งสำคัญ การลงทุนในสถาบันอาชีวศึกษาและฝึกอบรมที่เน้นภาษาต่างประเทศ (โดยเฉพาะภาษาจีน) และทักษะด้านบริการ จะช่วยให้คนในพื้นที่สามารถเข้าถึงงานที่มีคุณภาพและรายได้ที่ดีขึ้น

การเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (NEC): นโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (NEC) ซึ่งครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และเชียงราย มีเป้าหมายในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจภาคเหนือ ให้เติบโต การผนวกเชียงแสนและเชียงรายเข้ากับยุทธศาสตร์ NEC อย่างเป็นรูปธรรม โดยเชื่อมโยงฐานเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของจีน ทั้งใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” และตามแนว เส้นทาง R3A ที่ทุนจีนได้เข้ามาลงทุนในอำเภอเชียงของ จะเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนทั้งจากต่างประเทศและภายในประเทศให้ไหลเวียนในภาคเหนืออย่างแท้จริง การปรับตัวและวางยุทธศาสตร์ของประเทศไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ระเบียงเศรษฐกิจนี้ก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่ข้ามพรมแดน และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาค

ความท้าทายและก้าวต่อไป

แน่นอนว่าการพัฒนาในระดับนี้ย่อมมาพร้อมกับความท้าทาย ทั้งในมิติของความมั่นคง สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม การไหลบ่าของทุนและประชากรต่างชาติจำเป็นต้องได้รับการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนในพื้นที่และประเทศชาติโดยรวม การสร้างสมดุลระหว่างการเปิดรับการลงทุนกับการรักษาอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของชุมชน จึงเป็นภารกิจที่ซับซ้อนแต่สำคัญยิ่ง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่า “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ยังไม่ถูกนำมาใช้ของเชียงแสนและภาคเหนือของไทย การที่คิงส์โรมันได้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนระดับแสนล้านบาท แสดงให้เห็นว่าภูมิภาคนี้มี “ขุมทรัพย์” ที่รอการค้นพบและพัฒนาอยู่มากมาย สิ่งที่เราต้องทำคือการปรับวิธีคิด พลิกมุมมอง และสร้างยุทธศาสตร์ที่เฉียบคม เพื่อเปลี่ยนจากการเป็นเพียง “เมืองผ่าน” ให้กลายเป็น “ศูนย์กลาง” ที่สามารถดึงดูดและสร้างมูลค่าเพิ่มจากกระแสการลงทุนและการท่องเที่ยวในอนาคต

โอกาสทองนี้อยู่ตรงหน้าเราแล้ว คำถามคือ เราจะคว้ามันไว้และลงมือทำในวันนี้ หรือจะปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ? การตัดสินใจและลงมือทำอย่างจริงจังในตอนนี้ จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเชียงแสนและ เศรษฐกิจภาคเหนือ อย่างแท้จริง หากท่านเป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้สนใจในการพัฒนาพื้นที่นี้ ผมขอเชิญชวนให้มาร่วมกันศึกษาโอกาสและสร้างสรรค์อนาคตใหม่ให้กับเชียงแสนไปด้วยกัน ติดต่อเราเพื่อปรึกษาแนวทางการลงทุนและพัฒนาศักยภาพในพื้นที่ชายแดนแห่งนี้ ที่กำลังจะกลายเป็นขุมทรัพย์แห่งใหม่ของประเทศไทย.

Previous Post

D2312205 วยแม านประธาน ได รางว ลตอบแทน! (1) part2

Next Post

D2512003 หวยงวดน ตด หร อหน เพ ม(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D2512003 หวยงวดน ตด หร อหน เพ ม(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D2512003 หวยงวดน ตด หร อหน เพ ม(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512027 หน อยหาเม ยใหม ให อ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512028 ดจบแก งขโมยกระเป า(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512029 เธอหาเง นใช หน วยว (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512030 แม าอาหารทะเลเหล ยมจ ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512026 เม ยท องแล วต วเหม นผ วเลยไมม อยากนอนด วย (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.