• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912149 องกระจกแล วกระจ าง เจอแบบน ใครบ างจะไม ง! part2

admin79 by admin79
December 22, 2025
in Uncategorized
0
D1912149 องกระจกแล วกระจ าง เจอแบบน ใครบ างจะไม ง! part2

การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยอสังหาริมทรัพย์: ยุทธศาสตร์พลิกวิกฤตสู่โอกาสแห่งทศวรรษใหม่ (2025)

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตการณ์และสัมผัสถึงพลวัตทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ซับซ้อนและลึกซึ้ง ซึ่งยากที่จะแก้ไขด้วยแนวทางเดิม ๆ “โอกาสอยู่ตรงไหน” กลายเป็นคำถามสำคัญที่หลายภาคส่วนกำลังตามหาคำตอบ และจากประสบการณ์ของผม ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็น “ยุทธศาสตร์หลัก” ที่เราไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป หากเราต้องการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของประเทศและนำพาเศรษฐกิจไทยก้าวพ้นจากกับดักที่กำลังเผชิญอยู่

พายุเศรษฐกิจที่โหมกระหน่ำ: หลากมิติแห่งความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันเปรียบเสมือนพายุที่พร้อมโหมกระหน่ำในทุกทิศทาง สงครามการค้าที่ยังคงคุกรุ่นระหว่างมหาอำนาจ นโยบายกีดกันทางการค้าที่เข้มข้นขึ้น และแนวโน้มการแยกขั้วทางเศรษฐกิจ (decoupling) ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนที่เคยเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคก็กำลังชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานและการค้าขายของไทย ทำให้สินค้าส่งออกของไทยหลายประเภทต้องเผชิญกับคู่แข่งที่รุนแรงขึ้นในตลาดโลก

นอกเหนือจากปัจจัยภายนอกแล้ว ปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศก็เป็นเสมือนเชื้อเพลิงที่เร่งให้วิกฤตลุกลาม ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนไทย ได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างน่าตกใจ จากที่เคยอยู่ราว 40% ของ GDP เมื่อสิบกว่าปีก่อน วันนี้กลับทะลุ 90% ของ GDP ไปแล้ว ซึ่งหมายถึงการดึงเงินในอนาคตมาใช้ และเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบริโภคภายในประเทศและการเติบโตในระยะยาว ประชากรไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ และประสิทธิภาพในการผลิตลดลงในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจที่ยากจะหลีกเลี่ยง

เดิมทีประเทศไทยพึ่งพาอุตสาหกรรมยานยนต์และการส่งออกเป็นหลัก แม้เราจะพยายามผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่ความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนสำคัญก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเบาที่เราเคยเป็น “แชมเปี้ยน” ก็กำลังสูญเสียความได้เปรียบไปอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปราะบางและต้องการการปรับเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน การฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับไปแตะระดับเดิม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางและหันไปท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น

ทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนของ “กับดักแห่งทศวรรษที่สูญหาย” (Lost Decade Trap) ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เคยเตือนไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าเราไม่สามารถเดินหน้าด้วยแนวทางเดิมได้อีกต่อไป หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ที่กล้าหาญและรอบด้าน

การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ: บทเรียนจากประเทศที่ก้าวหน้า

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องฉุกคิดและทบทวน โครงสร้างเศรษฐกิจไทย อย่างจริงจัง การพึ่งพาภาคการส่งออกมากเกินไปในอดีตทำให้เราอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก และพลาดโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากจุดแข็งภายในประเทศ

เราสามารถเรียนรู้จากหลายประเทศที่เคยเผชิญกับสถานการณ์คล้ายคลึงกัน แต่สามารถพลิกโฉมเศรษฐกิจได้อย่างน่าทึ่ง:

สิงคโปร์: จากเดิมที่เน้นภาคอุตสาหกรรมหนัก ได้เปลี่ยนผ่านสู่ภาคบริการระดับโลก ทั้งด้านการเงิน เทคโนโลยี ดิจิทัลอีโคโนมี และการศึกษา โดยภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของ GDP
เกาหลีใต้: แม้จะยังคงแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมหนัก แต่ก็หันมาลงทุนมหาศาลในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมบันเทิง (K-Pop, K-Drama) และภาคบริการ ซึ่งสร้างรายได้มหาศาลและสร้าง “Soft Power” ระดับโลก
ฮ่องกง: จากฐานการผลิตสิ่งทอ เปลี่ยนสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การบริการ และอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): จากประเทศที่พึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก วันนี้รายได้จากน้ำมันเหลือไม่ถึง 30% ของ GDP แต่ได้ผันตัวเองสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรม MICE (การประชุม นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล) ระดับโลก
อังกฤษ: ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมในอดีต ได้เปลี่ยนสู่ภาคบริการที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของ GDP โดยเฉพาะกรุงลอนดอนที่กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีของยุโรป

บทเรียนจากประเทศเหล่านี้ชัดเจนว่า การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมไปสู่ภาคบริการที่มีมูลค่าสูง การลงทุนในเทคโนโลยี และการสร้างแรงดึงดูดจากภายนอก เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจใหม่ ปัจจุบัน โครงสร้าง GDP ของไทยยังคงเน้นภาคเอกชน โดยการบริโภคภาคเอกชน 57.7%, การลงทุนภาคเอกชน 17.3%, การใช้จ่ายภาครัฐ 22.2%, การส่งออกสินค้าและบริการ 65.4% และการนำเข้าสินค้าและบริการ 63.7% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรายังคงพึ่งพาการส่งออกค่อนข้างมาก ในขณะที่โครงสร้างการผลิต ภาคเกษตรกรรม 8.4%, ภาคอุตสาหกรรม 39.2% และภาคบริการ 52% ยังสามารถขยายศักยภาพของภาคบริการได้อีกมาก

ปลดล็อกศักยภาพ: ภาคอสังหาริมทรัพย์กับการเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ประเทศไทยมี “ของดี” และ “จุดแข็ง” มากมายที่ชาวต่างชาติทั่วโลกชื่นชอบ กรุงเทพฯ ติดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน เรามีโรงพยาบาลติดอันดับโลกหลายแห่งที่ให้บริการทางการแพทย์คุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ วัฒนธรรมที่งดงาม อาหารไทยที่เลื่องชื่อ สภาพอากาศที่อบอุ่นเป็นมิตร ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล และคนไทยที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งที่เราสามารถใช้ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เข้ามาอยู่อาศัยและใช้จ่ายในประเทศได้

ถึงเวลาแล้วที่เราจะมอง ภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างที่อยู่อาศัย แต่เป็น “เครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์” ในการดึงดูดเงินตราต่างประเทศและการลงทุนจากภายนอก การอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น จะเป็นกลไกสำคัญในการ การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยอสังหาริมทรัพย์ อย่างมีประสิทธิภาพ

บางคนอาจกังวลว่าการเปิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินจะทำให้เราสูญเสียกรรมสิทธิ์ ผมขอชี้แจงจากข้อมูลว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ดินทั้งหมดกว่า 321 ล้านไร่ และมีเอกสารสิทธิราว 127 ล้านไร่ (40%) หากเราอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านจำนวนหนึ่งแสนหลังต่อปี ซึ่งเป็นการประมาณการที่สูงมาก พื้นที่ดินที่ถูกถือครองโดยชาวต่างชาติก็จะยังคงไม่ถึง 0.2% ของพื้นที่ดินเอกสารสิทธิทั้งหมด เรายังคงมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับคนไทยและสำหรับอนาคต

จากข้อมูลปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเกือบ 4 แสนหน่วย มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท หากเราสามารถดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาซื้อได้เพียง 25% ของจำนวนนี้ ก็จะสร้างมูลค่าการซื้อขายได้สูงถึง 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีอย่างมหาศาลต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจวัสดุก่อสร้าง การจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการบริโภคในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้น GDP ได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น การขายบ้านให้ต่างชาติ 10,000 หลัง สามารถเพิ่ม GDP ได้ 0.75% หากเป็น 100,000 หลัง GDP อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 7% เลยทีเดียว นี่คือโอกาส การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีผลตอบแทนสูงสำหรับประเทศชาติ

กลุ่มเป้าหมายที่เราควรดึงดูดคือชาวต่างชาติที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งมองหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในราคาที่สมเหตุสมผล อสังหาริมทรัพย์ระดับราคา 5-7 ล้านบาท เป็นช่วงที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากกลุ่มนี้ ซึ่งจะสร้างกำลังซื้อใหม่และกระจายไปสู่พื้นที่ต่างๆ ไม่ใช่เพียงแต่ อสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึง อสังหาริมทรัพย์ชลบุรี อสังหาริมทรัพย์ระยอง อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต และ อสังหาริมทรัพย์พัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจสำคัญ

ถอดรหัสความสำเร็จ: นานาชาติใช้ “อสังหาฯ” ฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไร?

หลายประเทศเคยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อภายในประเทศลดลง และหนี้ครัวเรือนสูง แต่กลับสามารถพลิกฟื้นได้ด้วยการใช้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นเครื่องมือดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ นี่คือกรณีศึกษาที่ประเทศไทยสามารถนำมาปรับใช้ได้:

โปรตุเกส: เปิดตัวโครงการ Golden Visa ในปี 2012 อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 500,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับสิทธิในการพำนัก ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศกว่า 7 พันล้านยูโร ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตการเงินยุโรปได้อย่างรวดเร็ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว ราคาบ้านกลับมาเติบโต
สเปน: หลังวิกฤตการเงินปี 2008 ได้ออกโครงการ Residency by Investment โดยกำหนดเงื่อนไขการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 500,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อกระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซาและดึงดูดนักลงทุนจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง ส่งผลให้ GDP ฟื้นตัว 3% ภายใน 5 ปี
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์: นำเสนอแนวคิด Freehold Property ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้โดยสมบูรณ์ ดึงดูดนักลงทุนมหาศาล ทำให้อสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของ GDP กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลกอย่างแท้จริง
กรีซ: ออกโครงการ Greece Golden Visa โดยให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 250,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับวีซ่าพำนักถาวร ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตสูงถึง 60% ภายใน 10 ปี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประสบปัญหาหนี้สินให้กลับมาฟื้นตัว
มาเลเซีย: โครงการ Malaysia My Second Home (MM2H) ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาพำนักระยะยาว กระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย และดึงดูดกลุ่มผู้เกษียณอายุและนักลงทุนจากญี่ปุ่นและจีนเป็นจำนวนมาก

กรณีศึกษาเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การเปิดโอกาสให้ต่างชาติ ซื้ออสังหาฯ ในไทย เพื่ออยู่อาศัย ไม่ได้เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เป็น กลยุทธ์การลงทุน ระยะยาวที่สร้างผลตอบแทนมหาศาล และเป็นส่วนหนึ่งของการ บริหารสินทรัพย์ ของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วางแผนสู่ความสำเร็จ: ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ยั่งยืน

เพื่อผลักดัน การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยอสังหาริมทรัพย์ ให้เป็นรูปธรรม ผมมีข้อเสนอเชิงนโยบายที่สำคัญดังนี้:

  1. ชัดเจนและผ่อนปรนกฎเกณฑ์การถือครอง: รัฐบาลควรออกกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ชัดเจนและเป็นธรรม เพื่ออนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น อาจเริ่มจากคอนโดมิเนียมและขยายไปสู่ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่กำหนด โดยอาจกำหนดวงเงินหรือประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถถือครองได้ เพื่อให้เกิดความสบายใจและโปร่งใสในการ การลงทุนคอนโดต่างชาติ หรือประเภทอื่นๆ
  2. สร้างแพ็กเกจจูงใจสำหรับผู้มีกำลังซื้อสูง (High Net Worth Individuals): อาจพิจารณาแนวทางเดียวกับ “Golden Visa” ของยุโรป หรือ “My Second Home” ของมาเลเซีย โดยเสนอสิทธิพิเศษในการพำนักระยะยาว การยกเว้นภาษีบางประเภท หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ สำหรับผู้ที่ลงทุน อสังหาริมทรัพย์พรีเมียม ในระดับราคาที่กำหนด ซึ่งจะเป็นการดึงดูด โอกาสการลงทุนไทย ที่มีคุณภาพ
  3. ส่งเสริมทำเลทองสำหรับการลงทุน: เจาะจงพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต อสังหาริมทรัพย์พัทยา อสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ และเมืองรองที่มีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐาน ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับชาวต่างชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายและการลงทุน ทำเลทองอสังหาริมทรัพย์ เหล่านี้ควรได้รับการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่ตอบสนองความต้องการของชาวต่างชาติ
  4. พัฒนาการบริการ One Stop Service: สำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อชาวต่างชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขอใบอนุญาต การทำธุรกรรม การขอวีซ่า ไปจนถึงการให้คำปรึกษาด้าน ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  5. สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคง: รัฐบาลต้องสร้างบรรยากาศที่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อดึงดูด การลงทุนระยะยาว จากต่างชาติ ความเชื่อมั่นคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ต่างชาติกล้าเข้ามาลงทุนในไทย
  6. ผนวกเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ากับภาคอสังหาฯ: สนับสนุนให้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เช่น สมาร์ทโฮม, โครงการที่เน้นความยั่งยืน (ESG), และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการซื้อขายและการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพในการแข่งขัน

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะสร้างประโยชน์มหาศาล ไม่ใช่เพียงแค่การขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังรวมถึงการกระตุ้นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง การสร้างงาน การเพิ่มรายได้ในภาคบริการ การส่งเสริมการบริโภคในท้องถิ่น และการดึงดูดผู้มีความรู้ความสามารถให้เข้ามาพำนักในประเทศ ซึ่งจะนำมาซึ่งนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

บทสรุป: ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ด้วยยุทธศาสตร์ที่กล้าหาญ

เศรษฐกิจไทยมาถึงจุดที่ต้องมีการตัดสินใจครั้งสำคัญ เราไม่สามารถใช้แนวทางเดิมๆ เพื่อแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ที่ซับซ้อนได้อีกแล้ว การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยอสังหาริมทรัพย์ โดยการดึงดูดกำลังซื้อจากต่างประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิด แต่เป็นยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพสูงและได้พิสูจน์แล้วจากนานาประเทศ ว่าสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ซบเซาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งได้

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในวงการ ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีพื้นฐานที่ดี มีเสน่ห์เฉพาะตัว และศักยภาพที่ยังไม่ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ การเปิดประตูให้ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่าน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง สร้างงาน สร้างโอกาส และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนไทยทุกคน

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมกันผลักดันวิสัยทัศน์นี้ให้เป็นจริง เพื่อให้ประเทศไทยก้าวพ้นจากกับดักเศรษฐกิจ และยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในเวทีโลกต่อไปอย่างภาคภูมิใจ

หากท่านคือผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยอสังหาริมทรัพย์ ผมขอเชิญชวนให้มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสให้กับประเทศชาติของเรา ติดต่อเราเพื่อปรึกษาและวางแผนกลยุทธ์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของคุณวันนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้.

Previous Post

D1912148 คนเคยม คด งไงก ด! part2

Next Post

D1912150 เด กเส ฟใจกล แอบขโมยอาหารร านหร part2

Next Post
D1912150 เด กเส ฟใจกล แอบขโมยอาหารร านหร part2

D1912150 เด กเส ฟใจกล แอบขโมยอาหารร านหร part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2312067 ยำมาม าหม นไม ได จนต องขอโดนจ างออกเลยหรอ part2
  • D2312066 หม งน ำจ มแซ สาม คนน แค ธนาคารส วนต part2
  • D2312065 ได แล วล มต หมดส นม ตรภาพท เคยม มา part2
  • D2312064 าวต มทรงเคร อง คำว ารวยของคนม นไม เท าก part2
  • D2312063 งานแต งระด บผ ดการ กล าเอาข าวเหน ยวมาก นได ไง part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.