• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912140 แม าล กช นทอด ความส ขท งย นค อกำไรของคนด part2

admin79 by admin79
December 22, 2025
in Uncategorized
0
D1912140 แม าล กช นทอด ความส ขท งย นค อกำไรของคนด part2

พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย: อสังหาริมทรัพย์คือหัวใจสำคัญของการฟื้นตัวในทศวรรษใหม่

ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการ อสังหาริมทรัพย์ไทย มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมเชื่อว่าเรากำลังยืนอยู่ ณ จุดเปลี่ยนสำคัญทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน จนหลายคนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า “อนาคตของเศรษฐกิจไทยจะไปในทิศทางใด และโอกาสในการฟื้นตัวอยู่ตรงไหน?” บทความนี้ ผมจะพาทุกท่านเจาะลึกสถานการณ์ปัจจุบัน สำรวจบทเรียนจากนานาประเทศ และนำเสนอแนวทางที่ผมเชื่อว่า อสังหาริมทรัพย์ไทย จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้พ้นจากกับดักที่กำลังเผชิญอยู่

ทศวรรษที่สาบสูญ: สัญญาณเตือนที่ไม่อาจมองข้าม

เราต้องยอมรับความจริงว่า เศรษฐกิจไทย กำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงเพราะผลพวงจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเคยกล่าวเตือนถึง “กับดักทศวรรษที่สาบสูญ” ซึ่งสะท้อนภาพที่การลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะซบเซา สัญญาณต่างๆ ชี้ชัดว่า หากไม่มีการปรับเปลี่ยนขนานใหญ่ เราอาจจะติดอยู่ในหล่มนี้ไปอีกนาน

ในช่วง 20-30 ปีก่อน เศรษฐกิจไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยเครื่องจักรสำคัญคือภาคการส่งออกและอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปแล้ว สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างมหาอำนาจ โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกของไทย สินค้าจากจีนที่ถูกกีดกันทางการค้าได้ทะลักเข้ามายังตลาดภูมิภาค ซึ่งไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐกิจจีนเองก็อยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อและการลงทุนในระดับโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่บั่นทอนศักยภาพของ เศรษฐกิจไทย คือปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จากที่เคยอยู่ที่ราว 40% ของ GDP เมื่อสิบปีก่อน ปัจจุบันตัวเลขนี้ทะยานไปถึง 126% ของ GDP เมื่อเทียบกับทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่าเรากำลังใช้จ่ายเงินในอนาคตเพื่อหล่อเลี้ยงการบริโภคในปัจจุบัน การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แม้จะจำเป็นในบางครั้ง แต่หากปราศจากการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน ก็จะยิ่งทำให้ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นและบั่นทอนโอกาสการเติบโตในระยะยาว

นอกจากนี้ ปัญหาโครงสร้างประชากรก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ สังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนแรงงานลดลงและขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมยังคงเป็นบาดแผลที่กัดกินโอกาสในการพัฒนาประเทศ และแม้ว่าไทยจะพยายามลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่เราก็ยังขาดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยี ทำให้การพึ่งพิงการนำเข้ายังคงเป็นประเด็นหลัก

ภาคการส่งออกสินค้าอื่นๆ ที่ไทยเคยเป็นแชมป์ในอดีตก็เริ่มถดถอยลงไป และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ หรือความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมสถานการณ์ให้ยากลำบากยิ่งขึ้น

ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความหวังสำคัญของรัฐบาล ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคยเป็นกลุ่มหลัก กลับมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ทั้งหมดนี้คือภาพรวมที่สะท้อนว่า การพึ่งพาโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิมๆ ไม่ใช่ทางออกอีกต่อไปแล้ว

ถึงเวลาต้องปฏิรูป: บทเรียนจากการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจโลก

เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายเหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต้องกล้าที่จะทบทวนและปรับเปลี่ยน เพราะการพึ่งพาภาคการส่งออกและอุตสาหกรรมหนักมากเกินไปนั้น ได้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว บทเรียนจากหลายประเทศทั่วโลกชี้ให้เห็นว่า การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างกล้าหาญนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ อย่างมหาศาล

สิงคโปร์: จากประเทศที่เคยพึ่งพาภาคอุตสาหกรรม ได้เปลี่ยนผ่านไปสู่ภาคบริการที่มีสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP โดยเน้นการสร้างรายได้จากต่างประเทศในด้านการเงิน การธนาคาร เทคโนโลยี ดิจิทัลอีโคโนมี และการศึกษา ทำให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีระดับโลก
เกาหลีใต้: จากการเน้นอุตสาหกรรมหนัก ได้หันมาพัฒนาด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม อุตสาหกรรมบันเทิง (K-Pop, ซีรีส์) และภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 10% ของ GDP และสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับประเทศ
ฮ่องกง: จากอุตสาหกรรมโรงงานทอผ้า ได้ปรับเปลี่ยนสู่ภาคการเงิน บริการ และ อสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดในเอเชีย
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ): เคยพึ่งพารายได้จากการขายน้ํามันเป็นหลัก แต่วันนี้รายได้จากน้ํามันลดลงเหลือไม่ถึง 30% ของ GDP พวกเขาพลิกโฉมประเทศไปสู่การท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการ การส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentives, Conferences, and Exhibitions) และการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ ระดับโลก
อังกฤษ: ในอดีตเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม แต่ปัจจุบันภาคบริการมีสัดส่วนกว่า 80% ของ GDP โดยลอนดอนได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีที่สำคัญของยุโรป

โครงสร้าง GDP ของไทยในปัจจุบันยังคงพึ่งพาการบริโภคภาคเอกชน (57.7%) การลงทุนภาคเอกชน (17.3%) การใช้จ่ายภาครัฐ (22.2%) และการส่งออกสินค้าและบริการ (65.4%) ขณะที่ภาคการผลิต แบ่งเป็นเกษตรกรรม 8.4% อุตสาหกรรม 39.2% และบริการ 52% คำถามคือ รายได้จากการส่งออกที่แท้จริงที่ไหลเข้าสู่ประเทศนั้นมีสัดส่วนเท่าใดเมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรง? ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพิจารณาการปรับโครงสร้างจาก “อุตสาหกรรม” ไปสู่ “บริการและ อสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยมีศักยภาพและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

อสังหาริมทรัพย์ไทย: ขุมทรัพย์ที่ถูกมองข้าม

หากเรามองหาธุรกิจที่ประเทศไทยมีสิ่งดีๆ มากมายที่ชาวต่างชาติชื่นชอบและมีศักยภาพในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง “ภาคบริการ” และ “ภาค อสังหาริมทรัพย์ไทย” คือคำตอบ กรุงเทพฯ ติดอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในปี 2024 ระบบสาธารณสุขของไทยมีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีโรงพยาบาลติดอันดับดีที่สุดในโลกหลายแห่ง คนไทยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีการบริการที่เป็นเลิศ ค่าครองชีพที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก อาหารไทยเป็นที่ยอมรับระดับโลก สภาพอากาศที่อบอุ่น และคุณภาพอินเทอร์เน็ตที่ดีเยี่ยม สิ่งเหล่านี้คือแม่เหล็กชั้นดีที่ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาพำนักอาศัยและใช้ชีวิตในไทย

ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองข้ามข้อจำกัดเดิมๆ และปลดล็อกศักยภาพของ อสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในไทยได้กว้างขวางมากขึ้น ไม่ใช่แค่คอนโดมิเนียมเท่านั้น หลายคนอาจกังวลเรื่องการสูญเสียที่ดิน แต่ในความเป็นจริง ประเทศไทยมีที่ดินรวม 321 ล้านไร่ และมีเอกสารสิทธิ์ถึง 127 ล้านไร่ (40%) หากเราอนุญาตให้มีการซื้อขายบ้านให้กับชาวต่างชาติจำนวน 2 แสนหลังต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหาศาล พื้นที่ที่ถูกซื้อขายไปนั้นจะคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 0.2% ของที่ดินทั้งหมดในไทย นี่คือข้อพิสูจน์ว่าความกังวลเรื่องการถูกครอบครองที่ดินโดยต่างชาติเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล

ในปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 392,858 หน่วย มูลค่ารวมกว่า 1,065,008 ล้านบาท หากเราสามารถขายบ้านให้ชาวต่างชาติได้เพียง 1 ใน 4 ของจำนวนนี้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ถึง 1 ล้านล้านบาท ลองคิดดูว่าเม็ดเงินมหาศาลนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ขนาดไหน

ชาวต่างชาติจำนวนมากต้องการเข้ามาใช้ชีวิตในประเทศไทย ไม่ใช่เพียงเพราะการท่องเที่ยวระยะสั้น แต่เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในราคาที่สมเหตุสมผล อสังหาริมทรัพย์ไม่แพง สังคมไทยเป็นมิตร สิ่งเหล่านี้เป็นแรงจูงใจสำคัญ แม้ว่านโยบายที่ผ่านมาจะมุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้สูง แต่ในทางปฏิบัติ กลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อและสนใจจริงจังมักจะเป็นกลุ่มรายได้ปานกลางถึงสูงที่มองหาบ้านในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพในการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

ผลกระทบเชิงบวกจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย:

การส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อ อสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่ออยู่อาศัย จะก่อให้เกิดประโยชน์หลายมิติ:

กระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์: เพิ่มอุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัยที่กำลังซบเซา
ขับเคลื่อนธุรกิจต่อเนื่อง: ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยจะได้รับอานิสงส์
สร้างการจ้างงาน: ทั้งทางตรงในภาคการก่อสร้าง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และทางอ้อมในภาคบริการต่างๆ
เพิ่มการบริโภคในท้องถิ่น: ชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักจะจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น
เพิ่ม GDP และภาษี: ตัวอย่างที่เคยมีการคำนวณไว้แสดงให้เห็นว่า การขายบ้าน 10,000 หลัง สามารถเพิ่ม GDP ได้ 0.75% หากสามารถเพิ่มเป็น 100,000 หลังได้ จะเพิ่ม GDP ได้ถึง 7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน มีการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์ไทย ให้ชาวต่างชาติทั้งโดยถูกต้องและในรูปแบบ Nominee ในหลายพื้นที่ เช่น ภูเก็ต และพัทยา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของตลาด หากเราสามารถทำให้กระบวนการเหล่านี้โปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมาย และเอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น ประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ และจะช่วยเพิ่ม Yield อสังหาริมทรัพย์ โดยรวมของตลาดด้วย

บทเรียนจากทั่วโลก: อสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจ

หลายประเทศเคยเผชิญปัญหาเศรษฐกิจคล้ายคลึงกับไทย ทั้งกำลังซื้อภายในประเทศลดลง หนี้ครัวเรือนสูง และรายได้ไม่เติบโต พวกเขาเลือกใช้ อสังหาริมทรัพย์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาซื้อและใช้จ่ายภายในประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

โปรตุเกส: โครงการ Golden Visa ที่เริ่มต้นในปี 2012 อนุญาตให้ชาวต่างชาติลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 500,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับสิทธิ์พำนัก ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศกว่า 7 พันล้านยูโร ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤต และกระตุ้นราคาบ้านให้ฟื้นตัว
สเปน: หลังวิกฤตปี 2008 ได้ออกโครงการ Residency by Investment เปิดให้ต่างชาติลงทุน 500,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อกระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซา ส่งผลให้ GDP ฟื้นตัว 3% ภายใน 5 ปี โดยเฉพาะการดึงดูดนักลงทุนจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์: มีโครงการ Freehold Property ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านแบบกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ได้ ดึงดูด นักลงทุนต่างชาติ จำนวนมหาศาล ทำให้ภาค อสังหาริมทรัพย์หรู และการท่องเที่ยวมีสัดส่วนถึง 50% ของ GDP จนกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก
กรีซ: โครงการ Greece Golden Visa เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 250,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับวีซ่าพำนัก ทำให้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เติบโตถึง 60% ภายใน 10 ปี และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตหนี้ยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาเลเซีย: โครงการ Malaysia My Second Home (MM2H) เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาว กระตุ้นตลาดบ้าน และดึงดูดกลุ่มผู้เกษียณอายุและ นักลงทุนต่างชาติ จากจีนและญี่ปุ่น

บทเรียนเหล่านี้ชัดเจนว่า การใช้ อสังหาริมทรัพย์ เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยอาศัยกำลังซื้อจากต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นไปได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การสื่อสารและ ดิจิทัลอสังหาฯ มีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงและนำเสนอข้อมูลให้แก่ นักลงทุนต่างชาติ

ก้าวต่อไปของอสังหาริมทรัพย์ไทย: สร้างโอกาสบนวิกฤต

ในฐานะ ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่คลุกคลีในวงการนี้ ผมขอยืนยันว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทบทวนนโยบายและแนวคิดเกี่ยวกับการถือครอง อสังหาริมทรัพย์ไทย ของชาวต่างชาติ เพื่อเปลี่ยนถ่ายจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรม มาสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยภาคบริการและ อสังหาริมทรัพย์ เรามีจุดแข็งที่นานาชาติให้การยอมรับ เพียงแค่เรากล้าที่จะปลดล็อกศักยภาพเหล่านี้

การมีกฎระเบียบที่ชัดเจน โปร่งใส และเอื้อต่อ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ของต่างชาติ จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ประเทศ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟู เศรษฐกิจไทย ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาถึง สิทธิการถือครองที่ดิน สำหรับที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุมและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งต่างจากการเก็งกำไรใน ตลาดทุนอสังหาฯ และยังอาจพิจารณาการออก วีซ่านักลงทุน เฉพาะสำหรับผู้ที่ลงทุนในภาค อสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่าง EEC (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ซึ่งครอบคลุมจังหวัดชลบุรีและระยอง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างพัทยาและภูเก็ต หรือแม้แต่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ และบ้านพักตากอากาศในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากนโยบายที่ส่งเสริมการซื้อ อสังหาริมทรัพย์ไทย ของชาวต่างชาติ

ในวันที่ เศรษฐกิจไทย เผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ผมเชื่อมั่นว่าการให้ อสังหาริมทรัพย์ไทย เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก จะเป็นหนึ่งในทางออกที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุด นี่คือโอกาสทองที่เราจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน และนำพาประเทศไทยก้าวพ้นจากกับดักแห่งทศวรรษที่สาบสูญ

ถึงเวลาที่เราจะต้องลงมือทำแล้ว เพื่อปลดล็อกศักยภาพของ อสังหาริมทรัพย์ไทย และเปลี่ยนให้เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจไทย ไปสู่อนาคตที่สดใส ผมขอเชิญชวนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และผลักดันนโยบายที่กล้าหาญและสร้างสรรค์ เพื่อใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านสนใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย หรือต้องการปรึกษาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับโอกาสใหม่ๆ นี้ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้าน อสังหาริมทรัพย์ เพื่อเริ่มต้นก้าวไปด้วยกัน.

Previous Post

D1912139 แม านปร ญญาตร จากก นได ซะท ชายไม ได เร อง! part2

Next Post

D1912141 BM ไปออกเดทส ดหร แต เจอเน อค เป นคนซ อมมอเตอร ไซค part2

Next Post
D1912141 BM ไปออกเดทส ดหร แต เจอเน อค เป นคนซ อมมอเตอร ไซค part2

D1912141 BM ไปออกเดทส ดหร แต เจอเน อค เป นคนซ อมมอเตอร ไซค part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2312067 ยำมาม าหม นไม ได จนต องขอโดนจ างออกเลยหรอ part2
  • D2312066 หม งน ำจ มแซ สาม คนน แค ธนาคารส วนต part2
  • D2312065 ได แล วล มต หมดส นม ตรภาพท เคยม มา part2
  • D2312064 าวต มทรงเคร อง คำว ารวยของคนม นไม เท าก part2
  • D2312063 งานแต งระด บผ ดการ กล าเอาข าวเหน ยวมาก นได ไง part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.