• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1712097 นม อให แต ได ดค น!! part2

admin79 by admin79
December 18, 2025
in Uncategorized
0
D1712097 นม อให แต ได ดค น!! part2

ถอดรหัสสัญญาณ ‘สงครามราคาบ้าน’ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย: บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญถึงเทรนด์ปี 2568-2569

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเผชิญกับคลื่นแห่งความท้าทายที่ซับซ้อนและรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในอุตสาหกรรมนี้ ผมเห็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนถึงความเป็นไปได้ที่ภาคอสังหาฯ อาจกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะ “สงครามราคาบ้าน” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบที่ลึกซึ้งและยาวนานต่อเศรษฐกิจโดยรวม บทความนี้จะเจาะลึกถึงปัจจัยกระตุ้น ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ และกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับการรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะมาถึงนี้

แกะรอยเศรษฐกิจ: แรงกดดันต่อกำลังซื้อและการปล่อยสินเชื่อ

สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อค่าครองชีพ และระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้คนมีข้อจำกัดในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือแม้แต่คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนอสังหาฯ โดยรวมซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด

ในฝั่งของสถาบันการเงินเอง ก็เผชิญกับความท้าทายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของคุณภาพสินเชื่อ สถิติตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้านใหม่ ซึ่งหมายถึงการที่ลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่สูงมากนัก หรือมีภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูง ต้องเผชิญกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ความเข้มงวดของธนาคารเหล่านี้เป็นปราการด่านแรกที่ทำให้ยอดขายโครงการบ้านใหม่ลดลงอย่างฮวบฮาบ และเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่อาจนำไปสู่ภาวะ สงครามราคาบ้าน ได้ในอนาคตอันใกล้

เมื่อตลาดรถยนต์เป็นกระจกสะท้อน: สัญญาณเตือนของ ‘สงครามราคาบ้าน’

สิ่งที่นักวิเคราะห์หลายท่าน รวมถึงตัวผมเอง ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดคือปรากฏการณ์ “สงครามราคา” ที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมื่อปีก่อนหน้า การแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีการปรับลดราคาลงอย่างมหาศาล ประกอบกับกำลังซื้อที่ซบเซาและการกู้ไม่ผ่านของลูกค้า ทำให้ดีลเลอร์ต้อง “หั่นราคา” รถยนต์ป้ายแดงเพื่อระบายสต็อก เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่เพียงแต่สร้างความปั่นป่วนในตลาด แต่ยังนำไปสู่ปัญหาหนี้เสีย และการทิ้งสินเชื่อจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้เวลาเยียวยาตลาดเป็นระยะเวลานาน

คำถามสำคัญคือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังจะเดินตามรอยนี้หรือไม่? หากพิจารณาจากภาพรวมของสต็อกอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีอยู่มากในตลาด โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในทำเลทองอย่างกรุงเทพฯ และโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถปิดการขายได้ตามเป้า การแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อที่จำกัด อาจเป็นชนวนให้เกิด สงครามราคาบ้าน ในที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการบางราย โดยเฉพาะรายเล็กที่ต้องการสภาพคล่องอย่างเร่งด่วน อาจจำเป็นต้องยอมลดราคาลงอย่างมากเพื่อระบายสินค้าออกไป นี่คือภาพที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนอสังหาฯ

ผลกระทบจาก ‘Wealth Effect’ ที่น่าสะพรึงกลัวกว่าที่คิด

หาก สงครามราคาบ้าน เกิดขึ้นจริง ผลกระทบจะไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่จะลุกลามไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริงในวงกว้างผ่านปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Wealth Effect” หรือ “ผลกระทบต่อความมั่งคั่ง”

ในทางจิตวิทยา ผู้คนมักจะรู้สึกมั่นคงและมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยเมื่อพวกเขารู้สึกว่าทรัพย์สินของตน โดยเฉพาะบ้านซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงสุดของคนส่วนใหญ่ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นหรือคงที่ แต่หากราคาบ้านปรับลดลงอย่างรุนแรง มูลค่าทรัพย์สินที่ลดลงจะทำให้ผู้คนรู้สึกว่า “จนลง” แม้ว่ารายได้ของพวกเขาจะยังคงเดิมก็ตาม ความรู้สึกนี้จะทำลายความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุน ทำให้ผู้คนประหยัดและชะลอการใช้จ่ายออกไป เปรียบเสมือนสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีนช่วงที่ราคาอสังหาฯ ตกต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมหาศาล

ภาวะเช่นนี้จะสร้างวงจรหมุนวนที่อันตราย: ราคาบ้านตก → ความมั่นใจผู้บริโภคลดลง → การบริโภคและการลงทุนหดตัว → เศรษฐกิจชะลอตัว → กำลังซื้อลดลงอีก → ราคาบ้านตกซ้ำเติม วงจรนี้จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยลงอย่างช้าๆ ซึ่งน่ากลัวกว่าผลกระทบในตลาดรถยนต์ เพราะอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและมีความผูกพันกับความรู้สึกมั่นคงทางเศรษฐกิจของครัวเรือนมากกว่า

เจาะลึกตลาด: กลุ่มที่เปราะบางและกลยุทธ์ของธนาคาร

ในสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อจำกัดและมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูง แต่สัญญาณการชะลอตัวกำลังลามไปสู่กลุ่มราคา 5-10 ล้านบาทแล้ว ซึ่งสะท้อนว่าปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฐานรากเท่านั้น

สำหรับโครงการใหม่ ผู้ประกอบการหลายรายยังคงพยายามรักษาระดับราคาไว้เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจนเกินไป แต่สำหรับโครงการเก่า คอนโดมิเนียมเก่า หรือบ้านมือสอง เราเริ่มเห็นการแข่งขันลดราคาเพื่อระบายสต็อกออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนของภาวะ สงครามราคาบ้าน ที่กำลังจะคืบคลานเข้ามา

ในส่วนของสถาบันการเงิน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยกำลังอยู่ในโหมด “ประคับประคอง” ธนาคารเริ่มหันไปเน้นการขยายตัวในตลาดบ้านมือสองมากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพกว่าโครงการใหม่ที่มียอดขายตกต่ำถึง 15-20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบางธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อบ้านมือสองสูงถึง 30% ของพอร์ตสินเชื่อบ้านทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ยังคงระมัดระวังเป็นพิเศษในการพิจารณาราคาประเมินและคุณสมบัติของลูกค้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นของครัวเรือน

โอกาสและความท้าทายในตลาดอสังหาฯ ภูมิภาคและการลงทุน

แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ กรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่จะดูไม่สดใสนัก แต่ก็ยังมีโอกาสซ่อนอยู่สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญ และสำหรับผู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง

บ้านมือสองและอสังหาฯ เพื่อการลงทุน: ตลาดบ้านมือสองที่เคยถูกมองข้าม กำลังกลับมาได้รับความสนใจจากทั้งผู้ซื้อและธนาคาร ซึ่งหากมีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินอย่างรอบคอบและเลือกทำเลที่ดี อสังหาฯ มือสองเหล่านี้ยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพ แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงความเสี่ยงสูงที่แฝงอยู่ โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดผันผวน ผู้ซื้อและนักลงทุนจะต้องมีความเชี่ยวชาญในการจัดการหนี้อสังหาฯ และมองหาที่ปรึกษาอสังหาฯ ที่ไว้ใจได้
อสังหาฯ พรีเมียมและกลุ่มรายได้สูง: แม้ภาพรวมจะซบเซา แต่กลุ่มบ้านราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือกลุ่มที่มีรายได้ 70,000 – 1 แสนบาทต่อเดือนขึ้นไป ยังคงมียอด Approval Rate ที่ดีและมีความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารจึงยังคงให้การสนับสนุนสินเชื่อกลุ่มนี้ นี่คือโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่เน้นตลาดบนหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนคุณภาพสูง
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลเฉพาะ: โครงการขนาดเล็กในทำเลที่มีศักยภาพหรือใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่กำลังพัฒนา อาจจะยังคงสามารถสร้างความต้องการได้ แต่ก็ต้องอาศัยกลยุทธ์การตลาดอสังหาฯ ที่แข็งแกร่งและแตกต่าง

ทิศทางตลาดและการปรับตัวสำหรับปี 2568-2569

สำหรับปี 2568 ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมคาดว่าจะยังคงเป็นไปในทิศทางทรงตัวถึงติดลบ โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการใหม่ที่ชะลอตัวอย่างหนักเนื่องจากปัจจัยด้านดีมานด์ ซัพพลาย และราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับคุณภาพลูกค้าที่ธนาคารเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้น และมีสต็อกสินค้าในตลาดที่ขายไม่ออกจำนวนมาก ซึ่งแย่กว่าสถานการณ์ในช่วงโควิด-19 เสียอีก

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ตลาดอาจจะเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้งในช่วงปี 2569 ด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 4-5% หากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเริ่มฟื้นตัวและสถาบันการเงินกลับมาผ่อนคลายกฎเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อมากขึ้น อย่างไรก็ดี นี่คือมุมมองที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการสต็อกและการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดอสังหาฯ ที่ไม่แน่นอน

กลยุทธ์การเอาตัวรอดในยุคแห่งความผันผวน

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในวงการ ผมขอแนะนำกลยุทธ์สำคัญสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทุกภาคส่วน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและป้องกันผลกระทบจาก สงครามราคาบ้าน ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น:

สำหรับผู้ประกอบการ/นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์:
เน้นการระบายสต็อก: พิจารณากลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์และส่วนลดที่เหมาะสมเพื่อเร่งระบายโครงการเก่า หรือคอนโดมิเนียมที่เหลือขาย การยอมลดกำไรในระยะสั้นอาจดีกว่าการแบกภาระต้นทุนระยะยาว
ประเมินโครงการใหม่ให้รอบคอบ: ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ไม่จำเป็น และหันมาศึกษาความต้องการของตลาดอย่างละเอียด เน้นโครงการที่มีทำเลดี มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์และมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ พรีเมียม หรือบ้านเดี่ยวในราคาที่ลูกค้ายังมีกำลังซื้อ
บริหารสภาพคล่องอย่างเข้มงวด: ติดตามกระแสเงินสดอย่างใกล้ชิด ลดการลงทุนที่ไม่จำเป็น และพิจารณาแหล่งเงินทุนทางเลือกอื่นๆ หากจำเป็น
จับมือกับสถาบันการเงิน: ทำความเข้าใจนโยบายสินเชื่อของธนาคาร และร่วมมือกับธนาคารในการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย หรือผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่น่าสนใจ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย

สำหรับผู้ซื้อบ้าน (เพื่ออยู่อาศัย):
ประเมินความสามารถในการชำระหนี้: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรประเมินภาระหนี้ต่อรายได้และมั่นใจว่าสามารถผ่อนชำระได้ในระยะยาว แม้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
หาข้อมูลและเปรียบเทียบ: ใช้โอกาสในช่วงที่ผู้ประกอบการมีการแข่งขันสูง ในการหาโครงการบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง ที่มีราคาเหมาะสมและได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: การปรึกษาที่ปรึกษาอสังหาฯ ที่มีความรู้และประสบการณ์ จะช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนอสังหาฯ ที่รอบคอบ

สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ:
โฟกัสตลาดเฉพาะกลุ่ม: มองหาโอกาสในตลาด Niche หรือทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตที่ชัดเจน แม้ในภาวะที่ตลาดโดยรวมซบเซา การลงทุนอสังหาฯ เพื่อการลงทุนระยะยาวยังคงมีโอกาส แต่ต้องเลือกอย่างชาญฉลาด
วิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างละเอียด: ตรวจสอบประวัติผู้ประกอบการ สถานะโครงการ และศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนอย่างรอบด้าน
พิจารณาการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์: เพื่อกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงสินทรัพย์คุณภาพสูงโดยไม่ต้องแบกรับภาระทั้งหมด

สำหรับธนาคารพาณิชย์:
บริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อ: ติดตามดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และหาแนวทางในการช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้อย่างเหมาะสม เพื่อลดโอกาสเกิด NPL อสังหาฯ
สร้างพันธมิตรกับผู้ประกอบการ: ร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด แต่ยังคงรักษามาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ
ใช้ข้อมูลเชิงลึก: วิเคราะห์ข้อมูลตลาดอสังหาฯ และพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อปรับกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์

บทสรุปและก้าวต่อไป

สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568 และแนวโน้มปี 2569 เป็นช่วงเวลาแห่งความผันผวนและเต็มไปด้วยความท้าทาย หากไม่มีมาตรการที่เหมาะสมและการปรับตัวที่ทันท่วงที ความเสี่ยงที่จะเกิด สงครามราคาบ้าน และผลกระทบต่อ Wealth Effect อาจเป็นจริงได้

จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในอุตสาหกรรมนี้ ผมเชื่อว่าความรู้ ความเข้าใจ และการเตรียมพร้อมคือหัวใจสำคัญในการฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ การเปิดรับข้อมูลเชิงลึก การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และการวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบ จะช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้

หากท่านต้องการเจาะลึกรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนอสังหาฯ การบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อ หรือการวางแผนการตลาดอสังหาฯ ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำและโซลูชันที่ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของท่าน เพื่อให้ท่านสามารถเปลี่ยนความท้าทายเป็นโอกาส และประสบความสำเร็จในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้.

Previous Post

D1712096 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep2 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1712097 นม อให แต ได ดค น!! part2
  • D1712096 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep2 part2
  • D1712095 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep1 part2
  • D1712094 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep3 part2
  • D1712093 ทะล มาเก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.