• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1712043 แค แป งก แปลงร าง part2

admin79 by admin79
December 17, 2025
in Uncategorized
0
D1712043 แค แป งก แปลงร าง part2

ถอดรหัสวิกฤตและความท้าทาย: ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2568-2569 กับมุมมองผู้เชี่ยวชาญ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพลิกผันมากมายในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทย ตั้งแต่ช่วงบูมสู่ช่วงขาลง และกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ทว่าสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 นี้ กลับมีสัญญาณที่น่ากังวลเป็นพิเศษ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ ความซับซ้อนของปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค แรงกดดันจากหนี้ครัวเรือน และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ภูมิทัศน์ของอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเข้าสู่ภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะเกิด “สงครามราคาบ้าน” ที่อาจส่งผลกระทบในวงกว้างเกินกว่าที่คาดคิด

สัญญาณอันตรายจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่แผ่วลง
ปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเผชิญกับภาวะซึมยาว ไม่ใช่เพียงแค่ชะลอตัวชั่วคราว การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงลิ่ว ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของอสังหาริมทรัพย์ในเซกเมนต์ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท รายงานจากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำสะท้อนภาพที่ชัดเจนว่า อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ เพราะมีภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูงเกินกว่าที่ธนาคารจะรับได้ นี่คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยากจะแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้บริหารสำนักวิจัยจาก CIMB Thai ได้ชี้ให้เห็นอย่างน่าสนใจว่า คุณภาพสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์กำลังเสื่อมถอยลงอย่างเห็นได้ชัด เริ่มต้นจากกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท และลุกลามมายังระดับ 3-5 ล้านบาท ไปจนถึงบางส่วนของตลาด 10 ล้านบาท นี่แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจซึมได้แผ่ขยายจากฐานล่างขึ้นสู่ชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องจับตา การที่ธนาคารยังคงตั้งการ์ดสูงในการปล่อยสินเชื่อ เป็นผลมาจากตัวเลขสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะขยับเพิ่มขึ้น หาก SM ไม่ลดลง นี่คือวัฏจักรที่น่ากังวล เพราะเมื่อธนาคารเข้มงวด การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ซื้อก็ยากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายชะลอ และผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระสต็อกสินค้า การบริหารสภาพคล่องจึงกลายเป็นความท้าทายหลักสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยในเวลานี้

บทเรียนจาก “สงครามราคา” ในอุตสาหกรรมยานยนต์ สู่ “สงครามราคาบ้าน” ที่อาจรุนแรงกว่า
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านกังวลอย่างยิ่ง และผมเองก็มองว่าเป็นความเสี่ยงอันดับต้นๆ คือโอกาสที่จะเกิด “สงครามราคา” (Price War) ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ซ้ำรอยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ปีที่ผ่านมา การลดราคาแบบดัมพ์เพื่อระบายสต็อกรถยนต์ป้ายแดง โดยเฉพาะผลกระทบจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาด ทำให้ราคาโดยรวมลดลงอย่างมาก ส่งผลให้เกิดภาวะหนี้เสีย การทิ้งรถ และทำลายตลาดในภาพรวม การแก้ไขใช้เวลานานและสร้างความปั่นป่วนอย่างมาก

แต่หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ผลกระทบจะรุนแรงและซับซ้อนกว่าหลายเท่า ดร.อมรเทพย้ำว่านี่คือเรื่องที่ “น่ากลัวกว่าตลาดรถยนต์” เพราะมันจะสร้าง “Wealth Effect” ในทางลบให้กับเศรษฐกิจอย่างมหาศาล อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม หรือทาวน์เฮาส์ คือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงสุดสำหรับครัวเรือนส่วนใหญ่ในประเทศไทย เป็นตัวบ่งชี้ความมั่นคงทางการเงินและความมั่งคั่ง หากราคาบ้านลดลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ผู้คนจะรู้สึกว่าความมั่งคั่งของตนเองลดลง หรือ “รู้สึกจนลง” แม้จะไม่ได้ขายบ้านออกไปก็ตาม ความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยจะหดหายไป การบริโภคภายในประเทศจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง และภาวะนี้จะกลายเป็นวงจรหมุนลงที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยให้ซบเซายิ่งขึ้น ดังเช่นที่เราได้เห็นบทเรียนในประเทศจีนมาแล้ว

ปัจจุบัน แม้โครงการใหม่ๆ อาจยังไม่ลดราคาลงมากนัก แต่โครงการเก่า คอนโดมิเนียมที่สร้างมานาน หรือบ้านที่ยังเหลืออยู่ในสต็อก เริ่มมีการแข่งขันด้านราคาอย่างเห็นได้ชัดเพื่อเร่งระบายสินค้า นี่คือสัญญาณเริ่มต้นของ “สงครามราคาบ้าน” ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และหากผู้ประกอบการรายเล็กที่มีข้อจำกัดด้านสภาพคล่องยอมลดราคาลงอย่างมากเพื่อความอยู่รอด อาจจะเกิดภาวะ “ช็อก” ในตลาดทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้นกู้ ซึ่งจะกระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยตรง และอาจลามไปถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีสินทรัพย์เหล่านี้จำนวนมากในพอร์ต

ธนาคารพาณิชย์กับการตั้งรับในภาวะวิกฤต
ธนาคารพาณิชย์ในฐานะผู้ให้สินเชื่อหลักของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ต่างก็รับรู้ถึงความท้าทายนี้ และได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานอย่างรัดกุม
ธนาคารกรุงไทย โดยคุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ยอมรับว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยกำลังอยู่ในโหมด “ประคับประคอง” ไม่ได้เน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่ให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพสินเชื่อ การเปิดโครงการใหม่ลดลงสอดคล้องกับความต้องการซื้อที่ลดลง ธนาคารยังเห็นแนวโน้มการนำสินทรัพย์มาแปลงสภาพเป็นเงินสดมากขึ้น เช่น บริการ “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนด้านสภาพคล่องของประชาชน
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ผ่านคุณยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ชี้ให้เห็นว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) หดตัวถึง 15% และยอดสินเชื่อคงค้างทรงตัวที่ 0% ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลงถึง 15-20% เมื่อเทียบปีต่อปี สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ธนาคารต้องหันมาเน้นตลาด “บ้านมือสอง” มากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพมากกว่า ทว่าก็ยังคงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการพิจารณาราคาประเมิน และคุณสมบัติลูกค้า เพื่อคัดกรองผู้ซื้อที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง ไม่ใช่การเก็งกำไรในภาวะที่ไม่แน่นอน โดยปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยมือสองของยูโอบีมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของพอร์ตสินเชื่อบ้านทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนบ้านใหม่ไปแล้ว สาเหตุหลักมาจากดีมานด์ ซัพพลาย และราคาที่สูงขึ้นของบ้านใหม่ รวมถึงการเปิดโครงการใหม่ที่ลดลง ยิ่งไปกว่านั้น คุณยุทธชัยยังประเมินว่าสถานการณ์สินเชื่อบ้านในปัจจุบัน “แย่กว่าช่วงโควิด-19” ด้วยซ้ำ เพราะมีสต็อกสินค้าจำนวนมากในตลาด แต่กลับขายไม่ออก และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อในกลุ่มบ้านราคาต่ำ 3-4 ล้านบาท ยังคงสูงลิ่ว มีเพียงกลุ่มบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีกำลังซื้อและรายได้ดี (70,000-100,000 บาท/เดือน) เท่านั้นที่ยังมียอดอนุมัติสินเชื่อที่ดีอยู่

แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568-2569 และกลยุทธ์การอยู่รอด
ด้วยข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์ที่สั่งสม ผมมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 จะยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ และต้องใช้เวลาในการปรับสมดุล สิ่งที่เราจะเห็นคือ:

การเร่งระบายสต็อกสินค้า: ผู้ประกอบการจะยังคงพยายามระบายยูนิตที่เหลืออยู่ในสต็อก โดยเฉพาะโครงการเก่า อาจเห็นโปรโมชั่นที่น่าสนใจหรือส่วนลดที่มากขึ้น การใช้กลยุทธ์ “การตลาดอสังหาฯ ดิจิทัล” ที่สร้างสรรค์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ตลาดบ้านมือสองยังคงมีบทบาทสำคัญ: ด้วยข้อจำกัดด้านสินเชื่อสำหรับบ้านใหม่ และราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ทำให้ตลาดบ้านมือสองยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อ แต่ธนาคารจะยังคงเข้มงวดในการประเมินและอนุมัติสินเชื่อเพื่อบริหารความเสี่ยง การ “ประเมินราคาบ้าน” ที่แม่นยำและการพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างรอบคอบ จึงเป็นหัวใจสำคัญ
การปรับตัวของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์: ผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์ให้ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อตลาดมากขึ้น การพัฒนาโครงการที่เน้นความต้องการเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ (Aging Society), กลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก, หรือกลุ่มที่มองหาโครงการ “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน” ในทำเลศักยภาพที่ยังคงให้ผลตอบแทนดี จะเป็นกุญแจสำคัญ
นวัตกรรมและเทคโนโลยี: “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” และ “เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม” จะไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่างให้กับโครงการ การนำ PropTech มาใช้ในการบริหารจัดการ การตลาด และการขาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
ความยั่งยืนและ ESG: กระแส “อสังหาฯ ยั่งยืน” (Sustainable Real Estate) และการคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการตัดสินใจของผู้ซื้อและนักลงทุน ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่พร้อมปรับตัว
การกระจายความเสี่ยงและแหล่งเงินทุน: ผู้ประกอบการควรพิจารณา “กลยุทธ์อสังหาฯ” ที่เน้นการกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพิงสินเชื่อธนาคารเพียงอย่างเดียว อาจมองหาแหล่งเงินทุนทางเลือก หรือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
โฟกัสตลาดศักยภาพ: แม้ภาพรวมจะซึม แต่บางพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ โครงการเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ หรือแหล่งงานขนาดใหญ่ เช่น “อสังหาริมทรัพย์กรุงเทพมหานคร” โซน CBD หรือพื้นที่ EEC ยังคงมีความต้องการและศักยภาพในการเติบโตอยู่

สำหรับปี 2569 หากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว และความชัดเจนของการท่องเที่ยวกลับมาเต็มที่ ประกอบกับการบริหารจัดการสต็อกของผู้ประกอบการเป็นไปในทิศทางที่ดี เราอาจเห็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกลับมาเติบโตเป็นบวกได้ 4-5% ตามที่ยูโอบีคาดการณ์ไว้ ทว่านี่คือการเติบโตบนฐานที่ระมัดระวังและมีการปรับโครงสร้างตลาดครั้งใหญ่

ทางออกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านหรือลงทุน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ไทย ผมขอแนะนำว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อจริงและพร้อมสำหรับการ “วางแผนการเงินซื้อบ้าน” อย่างรอบคอบ เพราะอาจมีโอกาสได้บ้านคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม ควร “ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์” และสถาบันการเงินเพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไขสินเชื่ออย่างละเอียด เปรียบเทียบโครงการทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองอย่างถี่ถ้วน และประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา การ “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ในภาวะเช่นนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และเน้นทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว

อนาคตของอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การรับรู้ เข้าใจ และปรับตัวให้ทันกับพลวัตของตลาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้พัฒนา หรือนักลงทุน การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและมุมมองที่เฉียบคม จะช่วยให้คุณนำทางผ่านความท้าทายนี้ได้อย่างมั่นใจ และค้นพบ “โอกาสลงทุนอสังหาฯ” ที่ซ่อนอยู่ จงเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน และสร้างกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพื่อความสำเร็จในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในวันข้างหน้า

หากคุณต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการซื้อขาย หรือ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน และต้องการทราบถึง “วิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์” ที่แม่นยำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงกว่า 10 ปี อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อพูดคุยถึงแผนการของคุณ เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยคุณตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและบรรลุเป้าหมายด้านอสังหาริมทรัพย์ของคุณ.

Previous Post

D1712042 ผายปอด หร ดปาก EP2 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1712043 แค แป งก แปลงร าง part2
  • D1712042 ผายปอด หร ดปาก EP2 part2
  • D1712046 เง นไม ได คม แต ผมโง เอง part2
  • D1712045 งใจมาส อง องอย าร องด EP2 part2
  • D1712044 ผายปอด หร ดปาก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.