• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512094 เง นบนโต บใจคนในร าน part2

admin79 by admin79
December 17, 2025
in Uncategorized
0
D1512094 เง นบนโต บใจคนในร าน part2

เจาะลึก ‘สงครามราคาบ้าน’ 2025: บทเรียนจากอดีตและอนาคตที่ต้องเผชิญในตลาดอสังหาฯ ไทย

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมิมทรัพย์มากว่าทศวรรษ ผมเฝ้ามองพลวัตของตลาดแห่งนี้ด้วยความเข้าใจถึงวัฏจักรและปัจจัยขับเคลื่อนอันซับซ้อน วันนี้ ปี 2025 ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวนและปัจจัยภายในประเทศที่ท้าทาย เรากำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญที่อาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่หลายคนเกรงกลัว นั่นคือ “สงครามราคาบ้าน” ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการแข่งขันทางธุรกิจธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะตลาดที่อ่อนแอและอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจโดยรวม บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงสัญญาณเตือน บทเรียนจากอดีต กลยุทธ์การรับมือ และโอกาสที่ยังคงมีอยู่สำหรับผู้ที่เข้าใจเกม

ถอดรหัสสัญญาณเตือน: ตลาดอสังหาฯ ไทยบนทางแยกแห่งความท้าทาย

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2025 กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากหลายมิติที่ซ้อนทับกันอย่างหนาแน่น นับตั้งแต่ช่วงต้นปี สภาพเศรษฐกิจมหภาคยังคงส่งสัญญาณชะลอตัว การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่เคยพุ่งสูงในช่วงก่อนหน้า ทำให้ต้นทุนทางการเงินของทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ประการแรกที่ต้องจับตาคือ “กำลังซื้อ” ที่แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับรายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และที่สำคัญคือภาระ “หนี้ครัวเรือน” ของประเทศไทยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งกัดกินความสามารถในการกู้ยืมและจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เดิมทีปัญหาสินเชื่อคุณภาพต่ำมักจำกัดอยู่ในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน เราเริ่มเห็นปัญหาลุกลามไปยังกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท และแม้กระทั่งบางส่วนของตลาดระดับ 10 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจซึมลึกได้ส่งผลกระทบขยายวงกว้างขึ้น จากฐานรากสู่ชนชั้นกลางอย่างน่าเป็นห่วง

อีกปัจจัยสำคัญคือท่าทีที่ระมัดระวังของสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อบ้านมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การตรวจสอบประวัติเครดิตและอัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ (DSR) กลายเป็นเกณฑ์สำคัญที่เข้มข้นกว่าเดิม ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านราคาไม่แพง แม้ธนาคารจะอยู่ในโหมดประคับประคองพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่ด้วยตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างการปล่อยสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด ความไม่ชัดเจนของตัวเลข NPL ที่แท้จริงในบางกลุ่มสินเชื่อ ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยกู้

สถานการณ์เช่นนี้ ส่งผลให้ “สต็อกอสังหาริมทรัพย์” ที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้ายังคงอยู่ในระดับสูง แม้ผู้ประกอบการหลายรายจะชะลอการเปิดโครงการใหม่ลงไปบ้าง แต่โครงการเก่าที่สร้างเสร็จแล้วหรือใกล้เสร็จ ยังคงรอการระบายออกสู่ตลาด โจทย์ใหญ่คือจะทำอย่างไรให้สินค้าเหล่านี้เปลี่ยนมือได้อย่างรวดเร็ว ในภาวะที่กำลังซื้อจำกัดและสินเชื่อบ้านอนุมัติยาก

เมื่อ Price War กลายเป็นภัยคุกคาม: บทเรียนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องพิจารณา

สิ่งที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านรวมถึงผมเองกังวลมากที่สุด คือความเป็นไปได้ที่จะเกิด “สงครามราคาบ้าน” ซึ่งมีรูปแบบคล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์เมื่อปีที่ผ่านมา ภาพของรถยนต์ป้ายแดงที่ต้องยอมหั่นราคาลดกระหน่ำเพื่อระบายสต็อก ไม่ว่าจะเป็นผลพวงจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ดัมพ์ราคา หรือจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและการไม่ปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ล้วนเป็นบทเรียนที่เราไม่ต้องการเห็นซ้ำรอยในตลาดอสังหาริมทรัพย์

หาก “สงครามราคาบ้าน” เกิดขึ้นจริง ผลกระทบจะรุนแรงและซับซ้อนกว่าในตลาดรถยนต์มากนัก ไม่ใช่แค่การทำให้ตลาดปั่นป่วนชั่วคราว แต่จะลามไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Wealth Effect” ลองนึกภาพตามประเทศจีนที่เคยเผชิญกับราคาบ้านที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ เมื่อมูลค่าทรัพย์สินที่ประชาชนถือครองลดลง พวกเขาก็จะรู้สึก “จนลง” ทันที ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยที่เคยมีจากบ้านซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต กลับกลายเป็นความไม่แน่นอน สิ่งนี้จะบั่นทอนความเชื่อมั่นในการบริโภคและการใช้จ่ายอย่างรุนแรง เมื่อคนไม่กล้าใช้จ่าย เศรษฐกิจก็จะหมุนลงอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นวังวนแห่งภาวะซึมเศร้าที่แก้ไขได้ยากยิ่ง

ในเบื้องต้น เราอาจจะยังไม่เห็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในโครงการใหม่ๆ ลดราคาลงอย่างรุนแรงเพื่อเร่งขาย แต่ในตลาด “โครงการเก่า” “คอนโดมิเนียมเก่า” หรือ “บ้านเก่า” ที่สร้างเสร็จมานานแล้ว เราเริ่มเห็นการแข่งขันลดราคาเพื่อเร่งระบายสต็อกออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจน

สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือหากผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ต้องการสภาพคล่องยอม “ลดราคาอสังหาริมทรัพย์” อย่างมากเพื่อให้ขายได้ หากเกิดภาวะช็อกรุนแรง การระดมทุนในตลาดหุ้นกู้ หรือการจัดหาเงินทุนก็จะยิ่งยากลำบากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่ถือครองทรัพย์สินเหล่านี้จำนวนมาก หากการระบายสินทรัพย์เป็นไปได้ยาก ก็จะส่งผลต่อสภาพคล่องของบริษัทเหล่านั้นเช่นกัน นี่คือจุดเชื่อมโยงที่สามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ในระบบการเงินและอสังหาริมทรัพย์ไทยได้

ภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัย: โจทย์หินของธนาคารและผู้ซื้อในปี 2025

สถานการณ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2025 ถือว่าอยู่ในช่วงที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่ง เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอาจแย่กว่าด้วยซ้ำ เพราะเรามี “สต็อกบ้าน” อยู่ในตลาดจำนวนมาก แต่กำลังซื้อและขีดความสามารถในการกู้ยืมกลับลดลง สถาบันการเงินหลายแห่งรายงานว่ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) สำหรับที่อยู่อาศัยหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ธนาคาร UOB ประเทศไทย รายงานว่ายอดปล่อยใหม่หดตัวถึง 15% ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างทรงตัวที่ 0% สอดคล้องกับยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลง 15-20% เมื่อเทียบปีต่อปี (YoY)

การตรวจสอบเครดิตที่เข้มงวดขึ้น ทำให้ลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3-4 ล้านบาท มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงมาก เพราะมีภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูงเกินเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด บ่งชี้ถึงความเปราะบางทางการเงินของกลุ่มนี้ ในทางกลับกัน กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงขึ้น เช่น ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป และมีรายได้ประมาณ 70,000-100,000 บาทต่อเดือน ยังคงมีอัตราการอนุมัติสินเชื่อที่ดีกว่า และมีความสามารถในการชำระหนี้

อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ยังคงต้องระมัดระวัง แม้แต่ในตลาด “บ้านมือสอง” ซึ่งเคยเป็นที่พึ่งในช่วงที่ตลาดบ้านใหม่ชะลอตัว เนื่องจากมีความเสถียรภาพมากกว่าและราคาอาจไม่ผันผวนเท่าบ้านใหม่ ธนาคารยังคงต้องพิจารณาราคาประเมินอย่างรอบคอบและเข้มงวดกับคุณสมบัติลูกค้า เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นผู้กู้เพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไรในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การปรับตัวของธนาคารโดยการเน้นไปที่ตลาดบ้านมือสองมากขึ้น เช่น UOB ที่มีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อบ้านมือสองสูงถึง 30% ของพอร์ตสินเชื่อบ้านทั้งหมด จึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการ

สำหรับผู้ที่มองหา “กู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ” หรือ “รีไฟแนนซ์บ้าน” ในช่วงนี้ อาจต้องพิจารณาเงื่อนไขอย่างถี่ถ้วนและเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน เพราะแต่ละแห่งอาจมีนโยบายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยงและเป้าหมายทางธุรกิจ

กลยุทธ์การอยู่รอดของดีเวลลอปเปอร์และทิศทางตลาด

ในภาวะที่ตลาด “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์” กำลังเผชิญกับความท้าทาย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน การชะลอการเปิดโครงการใหม่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมปัญหาสต็อกล้นตลาด สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเร่ง “ระบายของเก่า” หรือ “สต็อกอสังหาริมทรัพย์” ที่มีอยู่ในมือให้ได้มากที่สุด กลยุทธ์ที่เห็นได้ชัดคือการเสนอโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ การลดราคา หรือการให้สิทธิพิเศษต่างๆ แม้จะต้องยอมลดกำไรลงบ้างก็ตาม

ผู้พัฒนาหลายรายเริ่มหันมาโฟกัสกับการ “พัฒนาอสังหาริมทรัพย์” ในรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น (Niche Market) เช่น โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Living) หรือโครงการ Mixed-use ที่มีองค์ประกอบหลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและลดการพึ่งพิงตลาด Mass ที่อ่อนแอ การสร้างความแตกต่างและคุณภาพของโครงการจะเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอด

สำหรับ “กลยุทธ์การขายอสังหาริมทรัพย์” ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินที่ยืดหยุ่น เช่น การร่วมมือกับธนาคารเพื่อเสนอสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษให้กับลูกค้า หรือการให้เช่าซื้อ (Rent-to-Own) เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น

ความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กนั้นหนักหนาสาหัสกว่า เพราะสภาพคล่องและช่องทางการระดมทุนที่จำกัด หากไม่สามารถระบายสต็อกได้ทันท่วงที อาจต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินร้ายแรง ซึ่งอาจนำไปสู่การขายโครงการหรือสินทรัพย์ในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

โอกาสและความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนและผู้บริโภค

ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ แม้ตลาดจะดูน่ากังวล แต่สำหรับผู้ที่ “วิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์” อย่างลึกซึ้งและมีสายตาเฉียบคม อาจพบช่องทางในการ “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ผลตอบแทนสูง”

สำหรับผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (End-user): นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมองหา “บ้านราคาถูก” หรือ “คอนโดพร้อมอยู่” โดยเฉพาะในทำเลที่เคยมีราคาสูง หากเกิดสงครามราคาขึ้นจริง ผู้ซื้อจะมีอำนาจต่อรองสูงขึ้นมาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องประเมินสถานะทางการเงินของตนเองอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงการก่อหนี้เกินตัว และมองหาโครงการที่มีความน่าเชื่อถือสูง เน้นทำเลที่เดินทางสะดวกและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น “คอนโดพร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า” ในกรุงเทพฯ หรือ “โครงการบ้านจัดสรร” ในพื้นที่ปริมณฑลที่ยังมีการขยายตัว

สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์: ควรใช้ความระมัดระวังและศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด การ “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน” ในช่วงนี้ต้องเน้นที่ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว (เช่น “อสังหาฯ ภูเก็ต” หรือเมืองท่องเที่ยวหลักที่กำลังฟื้นตัว) อัตราผลตอบแทนค่าเช่า (Rental Yield) ที่น่าพอใจ และการบริหารจัดการทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ การมองหา “ทรัพย์สินรอการขาย” หรือ “หนี้เสียอสังหาริมทรัพย์” จากธนาคารหรือบริษัทบริหารสินทรัพย์อาจเป็นโอกาสที่ดี หากคุณมีความสามารถในการ “ประเมินมูลค่าทรัพย์สิน” ได้อย่างแม่นยำและมีเงินทุนสำรองเพียงพอ

การลงทุนใน “ตลาดเช่าอสังหาริมทรัพย์” ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความต้องการเช่าสูง เช่น รอบมหาวิทยาลัย เขตอุตสาหกรรม หรือย่านธุรกิจ การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าอย่างมืออาชีพ จะช่วยให้การลงทุนมีความยั่งยืน แม้ในภาวะที่ตลาดซื้อขายชะลอตัว

สรุปและก้าวต่อไปในปี 2026

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2025 กำลังเผชิญกับมรสุมแห่งความท้าทายที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด สัญญาณเตือนจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ สภาพคล่องของธนาคาร และสต็อกสินค้าที่รอการระบาย กำลังขับเคลื่อนให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ “สงครามราคาบ้าน” ที่มีผลกระทบต่อ “Wealth Effect” และเศรษฐกิจโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ผมยังคงเชื่อว่าตลาดจะค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่สมดุล โดยคาดการณ์ว่าในปี 2026 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยน่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งราว 4-5% หากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพมากขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเริ่มส่งผลชัดเจน ผู้ประกอบการจะปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และผู้บริโภคจะมีความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น

สำหรับนักลงทุนและผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย การมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง การวางแผนการเงินที่รอบคอบ และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำทางผ่านช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ เพื่อคว้าโอกาสที่ดีที่สุดที่ซ่อนอยู่

หากคุณกำลังเผชิญกับความไม่แน่ใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการคำแนะนำเชิงลึกในการวางแผนการลงทุนและการซื้อบ้านในภาวะเช่นนี้ อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาส่วนตัว เราพร้อมที่จะช่วยคุณวิเคราะห์สถานการณ์ วางกลยุทธ์ และค้นหาโอกาสที่ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่มั่นคงของคุณ

Previous Post

D1512093 ขอบค ณท ผล กลงเหวไปเจอ กามเทพ EP4 part2

Next Post

D1512095 ขอบค ณท ผล กลงเหวไปเจอ กามเทพ EP3 part2

Next Post
D1512095 ขอบค ณท ผล กลงเหวไปเจอ กามเทพ EP3 part2

D1512095 ขอบค ณท ผล กลงเหวไปเจอ กามเทพ EP3 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1712043 แค แป งก แปลงร าง part2
  • D1712042 ผายปอด หร ดปาก EP2 part2
  • D1712046 เง นไม ได คม แต ผมโง เอง part2
  • D1712045 งใจมาส อง องอย าร องด EP2 part2
  • D1712044 ผายปอด หร ดปาก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.