• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512077 กว าหว งด แท หว งตอกสด EP2 part2

admin79 by admin79
December 16, 2025
in Uncategorized
0
D1512077 กว าหว งด แท หว งตอกสด EP2 part2

จับชีพจรตลาดอสังหาฯ ไทย 2568: สัญญาณ “สงครามราคาบ้าน” และกลยุทธ์รับมือจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ 10 ปี

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจมานานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้าจับตาพัฒนาการของตลาดอย่างใกล้ชิด และวันนี้ผมเห็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือโอกาสที่ประเทศไทยจะเผชิญหน้ากับ “สงครามราคาบ้าน” (Housing Price War) ที่อาจรุนแรงและมีนัยยะต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมากกว่าที่เราคาดคิด บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเสนอแนวทางรับมือสำหรับทุกภาคส่วน เพื่อให้เราก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปได้อย่างแข็งแกร่ง

สภาพการณ์ปัจจุบัน: ตลาดอสังหาฯ ในภาวะชะลอตัวและแรงกดดันรอบด้าน

นับตั้งแต่ปี 2567 ต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงอยู่ในภาวะ “ซึมยาว” สัญญาณความอ่อนแอเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นในหลายมิติ กำลังซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งการเติบโต แม้ว่าภาวะเงินเฟ้อจะเริ่มคลี่คลายลงบ้าง แต่กำลังซื้อที่แท้จริงของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เนื่องด้วยปัจจัยภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงประวัติการณ์ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มายังประเทศไทย

จากประสบการณ์ของผม เมื่อกำลังซื้ออ่อนแอลง ธนาคารพาณิชย์ก็ย่อมต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ สิ่งที่เราเห็นคือเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เป็นดัชนีชี้วัดความเสี่ยงด้านเครดิตที่ทำให้สถาบันการเงินต้องตั้งการ์ดสูงขึ้น การพุ่งขึ้นของ SM บ่งชี้ว่าลูกหนี้จำนวนมากกำลังเผชิญปัญหาในการชำระหนี้ และมีโอกาสที่จะกลายเป็น NPL ในอนาคตอันใกล้ หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อซื้อบ้านจะยิ่งยากลำบาก ส่งผลให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

สิ่งที่น่ากังวลคือปัญหาคุณภาพสินเชื่อไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทอีกต่อไป แต่เริ่มลามไปสู่กลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท และแม้กระทั่งบางส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป นี่คือสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจกำลังซึมลึกจากฐานรากขึ้นสู่ชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการบริโภค หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิด “สงครามราคาบ้าน” ในวงกว้าง

บทเรียนจากตลาดรถยนต์: ภาพสะท้อนสู่ “สงครามราคาบ้าน”

ภาพที่เคยเกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมื่อปี 2567 เป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของ “สงครามราคา” ได้เป็นอย่างดี การแข่งขันที่รุนแรงจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ราคาถูก ประกอบกับกำลังซื้อที่ซบเซาและนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของธนาคาร ทำให้ผู้ประกอบการรถยนต์ต้องหั่นราคารถป้ายแดงลงอย่างหนักเพื่อเร่งระบายสต็อก การลดราคาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ส่งผลกระทบต่อราคารถยนต์มือสอง ทำให้ผู้บริโภคที่ผ่อนรถเดิมอยู่รู้สึกว่ามูลค่าทรัพย์สินลดลงอย่างรวดเร็ว และบางรายถึงขั้นตัดสินใจ “ทิ้งดาวน์” หรือปล่อยให้รถถูกยึด เนื่องจากมูลค่าที่เหลือของหนี้สูงกว่ามูลค่าตลาดของรถยนต์ สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในระบบเช่าซื้อรถยนต์ และสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดอย่างมหาศาล

หากปรากฏการณ์ “สงครามราคาบ้าน” เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผลกระทบจะรุนแรงและกว้างขวางกว่าตลาดรถยนต์หลายเท่าตัว เพราะที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่สินค้าอุปโภคบริโภค แต่เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ และเป็นเครื่องบ่งชี้ความมั่งคั่งที่สำคัญ

ผลกระทบที่น่ากลัว: “Wealth Effect” และวังวนเศรษฐกิจถดถอย

สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจกังวลมากที่สุดหากเกิด “สงครามราคาบ้าน” คือผลกระทบต่อ “Wealth Effect” หรือภาวะที่การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสินทรัพย์ (เช่น บ้าน) ส่งผลต่อความรู้สึกมั่งคั่งและพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้คน

ลองนึกภาพว่าคุณเป็นเจ้าของบ้านที่เคยมีมูลค่า 5 ล้านบาท แต่เมื่อเกิดภาวะ “สงครามราคาบ้าน” อย่างหนัก ราคาบ้านในตลาดลดลงไปเหลือเพียง 4 ล้านบาท หรืออาจจะต่ำกว่านั้น แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ขายบ้าน แต่ความรู้สึกว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ “ด้อยค่าลง” จะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายโดยตรง ผู้คนจะรู้สึก “จนลง” จากการที่มูลค่าบ้านลดลง และจะลดการบริโภค การลงทุน และการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงไปในทันที

เราเคยเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนในประเทศจีน ซึ่งราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงอย่างฮวบฮาบได้ทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนอย่างรุนแรง ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หาก “สงครามราคาบ้าน” เกิดขึ้นในไทย มันจะสร้างวังวนที่น่ากลัว:

ความเชื่อมั่นลดลง: ผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว
การลงทุนหยุดชะงัก: นักลงทุนชะลอการลงทุนใหม่ๆ ในภาคอสังหาฯ และภาคส่วนอื่นๆ
หนี้เสียพุ่ง: ผู้กู้ที่ไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ได้จะเพิ่มขึ้น ธนาคารต้องตั้งสำรองหนี้เสียมากขึ้น
ผู้ประกอบการเผชิญวิกฤต: สภาพคล่องลดลง การระดมทุนยากขึ้น และอาจถึงขั้นล้มละลาย

วงจรเหล่านี้จะหมุนลงไปเรื่อยๆ และยากที่จะแก้ไขให้กลับมาได้ในระยะเวลาอันสั้น ผมจึงขอเตือนว่าผลกระทบจาก “สงครามราคาบ้าน” จะหนักหนาสาหัสกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้

ปัญหาเชิงโครงสร้าง: สต็อกล้นตลาดและสภาพคล่องของผู้ประกอบการ

สถานการณ์ในปัจจุบันเลวร้ายกว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วยซ้ำไป เพราะในขณะนั้นเราเผชิญกับข้อจำกัดด้านการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดไม่ได้มี “สต็อกสินค้า” จำนวนมากอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

สต็อกที่อยู่อาศัยล้นตลาด: การเปิดโครงการใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจำนวนมาก สวนทางกับกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้มีจำนวนยูนิตที่สร้างเสร็จแต่ยังไม่ได้ขาย (Unsold Inventory) อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นแรงกดดันให้ผู้ประกอบการต้องเร่งระบายออก ยิ่งเป็นโครงการเก่า คอนโดมิเนียมเก่า หรือบ้านเก่าที่สร้างมานานแล้ว ยิ่งเห็นการแข่งขันลดราคาเพื่อ “ระบายของ” อย่างชัดเจน
สภาพคล่องของผู้ประกอบการ: ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะรายกลางและรายเล็ก กำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก การที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้กระแสเงินสดติดขัด การลดราคาเพื่อเร่งขายกลายเป็นทางเลือกที่จำเป็น เพื่อให้ได้เงินสดกลับมาหมุนเวียนในธุรกิจ ปัญหาสภาพคล่องนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงตลาดหุ้นกู้ ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของผู้ประกอบการ หากเกิดภาวะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ก็จะยิ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดตราสารหนี้ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ด้วย
บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC): AMC ที่มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวนมาก ก็จะเผชิญความท้าทายในการบริหารจัดการและระบายสินทรัพย์เหล่านี้ออกไปในราคาที่เหมาะสม หากราคาอสังหาฯ ดิ่งลงอย่างรุนแรง การระบายสินทรัพย์จะยิ่งยากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อสภาพคล่องและผลประกอบการของ AMC เอง

ธนาคารพาณิชย์: บทบาทสำคัญในการประคับประคองตลาด

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ธนาคารพาณิชย์ยังคงดำเนินนโยบายที่เน้นการประคับประคองคุณภาพพอร์ตสินเชื่อเป็นหลัก การเปิดโครงการใหม่ที่ลดลง สอดคล้องกับความต้องการซื้อที่ลดลง เป็นสัญญาณที่ธนาคารต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

สินเชื่อบ้านในโหมด “ประคับประคอง”: ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น บางธนาคารรายงานยอดปล่อยใหม่ลดลงถึง 15% ในขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างทรงตัว นี่สะท้อนให้เห็นว่าตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยกำลังชะลอตัวอย่างชัดเจน
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้: ธนาคารบางแห่งเริ่มเห็นการนำสินทรัพย์มาแปลงเป็นสภาพคล่องมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) ซึ่งช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถนำอสังหาริมทรัพย์มาเป็นหลักประกันเพื่อกู้เงินได้ แต่ก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะเป็นการเพิ่มภาระหนี้ระยะยาวให้กับครัวเรือน
การคัดกรองลูกค้าที่เข้มงวด: ธนาคารยังคงเข้มงวดในการพิจารณาคุณสมบัติผู้กู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) ที่สูงขึ้นของผู้กู้ ทำให้ Reject Rate พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 3-4 ล้านบาท ที่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงมาก ในขณะที่กลุ่มบ้านราคาสูงขึ้น (เช่น 5 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับผู้มีรายได้ 70,000-100,000 บาท) ยังพอมี Approval Rate ที่ดีอยู่ เนื่องจากกลุ่มนี้มีความสามารถในการชำระหนี้สูงกว่า
หันสู่ตลาดบ้านมือสอง: ในสภาวะที่ตลาดบ้านใหม่ชะลอตัวจากทั้งดีมานด์ ซัพพลาย และราคาสูงขึ้น ธนาคารหลายแห่งจึงหันไปเน้นการขยายตัวในตลาดบ้านมือสองมากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพกว่า อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านมือสองก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยเฉพาะความผันผวนของราคาประเมินและคุณสมบัติของผู้กู้ ธนาคารจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาและดูแลคุณภาพพอร์ตสินเชื่อของตนเองอย่างใกล้ชิด

มุมมองสำหรับปี 2568 และแนวโน้มในอนาคต: การฟื้นตัวที่ยังเปราะบาง

จากสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ผมประเมินว่าแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 จะยังคงอยู่ในภาวะ “ทรงตัวถึงติดลบ” โดยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด “สงครามราคาบ้าน” ในบางเซ็กเมนต์และบางพื้นที่ หากไม่มีมาตรการกระตุ้นที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพจากภาครัฐ การฟื้นตัวที่แท้จริงอาจยังต้องใช้เวลา

ปี 2568: ความท้าทายต่อเนื่อง: ตลาดจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากสต็อกคงค้าง กำลังซื้อที่อ่อนแอ และความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการต้องบริหารจัดการต้นทุนและสภาพคล่องอย่างระมัดระวัง
ปี 2569: แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์? มีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเริ่มกลับมาเป็นบวกได้ 4-5% หากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเอื้ออำนวย เช่น การท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่ การลงทุนภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาระหนี้ครัวเรือนเริ่มคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวนี้จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยังคงมีความเปราะบางสูง

กลยุทธ์รับมือกับ “สงครามราคาบ้าน” ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการมานาน ผมขอเสนอแนวทางสำหรับทุกภาคส่วน เพื่อรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะมาถึง:

สำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์:
บริหารสต็อกอย่างมีวินัย: หลีกเลี่ยงการเปิดโครงการใหม่โดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในทำเลที่มีสต็อกคงค้างสูง
สร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่ม: เน้นการพัฒนาโครงการที่มีเอกลักษณ์ ฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดการแข่งขันด้านราคา
จับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market): พิจารณาพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการพิเศษ
มองหาพันธมิตร: การร่วมทุน (Joint Venture) กับผู้ประกอบการรายอื่น หรือสถาบันการเงิน อาจเป็นทางออกที่ดีในการแบ่งปันความเสี่ยงและเพิ่มศักยภาพในการพัฒนา
ปรับโครงสร้างหนี้: เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ หรือหาแหล่งเงินทุนทางเลือกอื่นๆ เพื่อเสริมสภาพคล่อง
ใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกอย่างชาญฉลาด: แทนที่จะลดราคาอย่างเดียว ควรพิจารณาข้อเสนอพิเศษอื่นๆ เช่น แพ็คเกจตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ หรือโปรแกรมผ่อนดาวน์ที่ยืดหยุ่น

สำหรับผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย:
โอกาสทองใน “สงครามราคาบ้าน”: หากคุณมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งและมีเครดิตดี นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการซื้อบ้าน เพราะมีโอกาสที่จะได้ราคาที่คุ้มค่า
ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด: เปรียบเทียบโครงการต่างๆ ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง ทำเลที่ตั้ง คุณภาพการก่อสร้าง และราคาประเมิน
เตรียมความพร้อมทางการเงิน: ตรวจสอบประวัติเครดิตของตนเองให้ดี และวางแผนการเงินให้รัดกุมก่อนยื่นขอสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ
พิจารณาทำเลที่มีศักยภาพในระยะยาว: เลือกทำเลที่คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มในอนาคต เช่น ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ แหล่งงาน หรือสถานศึกษา

สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์:
มองหาสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสด: เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้ค่าเช่าได้ดีและมีความต้องการเช่าสูง แทนการเก็งกำไรจากราคาที่ดิน
พิจารณาลงทุนระยะยาว: ช่วงเวลาที่ตลาดชะลอตัว อาจเป็นโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในระยะยาว
กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรกระจุกตัวลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทเดียวหรือทำเลเดียว เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ และวางกลยุทธ์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

บทบาทภาครัฐ:
มาตรการกระตุ้นที่ตรงจุด: พิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง การขยายเพดานราคาบ้านที่สามารถใช้มาตรการลดหย่อนได้ หรือการสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ
แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน: การแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน จะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูกำลังซื้อระยะยาว
ส่งเสริมการลงทุน: ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม

สรุป: เผชิญหน้าความจริงและเตรียมพร้อมรับมือ

“สงครามราคาบ้าน” ไม่ใช่เรื่องที่เราควรมองข้าม มันเป็นความท้าทายที่อาจส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโดยรวม แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส หากเราเข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้ วางแผนอย่างรอบคอบ และดำเนินกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด เราจะสามารถเปลี่ยนความท้าทายนี้ให้เป็นโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ และการวางแผนทางการเงินที่รัดกุม จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

หากท่านต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการ วิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ หรือปรึกษาเรื่อง กลยุทธ์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเรา เราพร้อมที่จะช่วยท่านนำทางในตลาดที่ท้าทายนี้ และค้นหาโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของท่าน

Previous Post

D1512076 ตบ ดซบ เจ าท เห ยน EP2 part2

Next Post

D1512078 กว าหว งด แท หว งตอกสด EP1 part2

Next Post
D1512078 กว าหว งด แท หว งตอกสด EP1 part2

D1512078 กว าหว งด แท หว งตอกสด EP1 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1512090 ไม oแบบน คงจะด part2
  • D1512089 รถม อสอง ญญาณหวง ep1 part2
  • D1512088 รถม อสอง ญญาณหวง ep2 part2
  • D1512087 nโคม แต โดนบ งค บให บบร จาคร างกาย คนเป นพ อจ งทำส งน ep1 part2
  • D1512086 กโคม แต โดนบ งค บให บบร จาคร างกาย คนเป นพ อจ งทำส งน ep2 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.