• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1312084 บๆแต อนร างข นอ ep2 part2

admin79 by admin79
December 15, 2025
in Uncategorized
0
D1312084 บๆแต อนร างข นอ ep2 part2

พลิกวิกฤตสู่โอกาส: ‘เสนาฯ’ กับกลยุทธ์ “Next Solution” สลักเส้นทางใหม่ให้คนไทยได้เป็นเจ้าของบ้านในยุค 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวัฏจักรขึ้นลงของตลาดมาแล้วหลายระลอก แต่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาปัจจุบันนี้ถือเป็นความท้าทายที่แตกต่างและซับซ้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยราคาเข้าถึงได้ หรือ “ตลาดแมส” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของตลาดโดยรวม ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปี 2025 นี้ยังคงเต็มไปด้วยแรงกดดันจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคและโครงสร้างรายได้ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หนึ่งในโจทย์ใหญ่ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกคนต้องเผชิญคือ “ปัญหาคนกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” ซึ่งกำลังสร้างรอยร้าวลึกในความฝันของการมีบ้านของคนจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และการปรับตัวคือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโตในยุคที่ผันผวนนี้ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) คือหนึ่งในผู้ประกอบการที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันก้าวไกลในการมองเห็น “Pain Point ผู้ซื้อบ้าน” และพลิกมันให้เป็นนวัตกรรม เสนาฯ ได้เปิดตัวโมเดล “Next Solution” ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็น “โซลูชันทางการเงิน” ที่แท้จริง เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถสร้างเครดิตทางการเงินและเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มที่ประสบปัญหาการขอสินเชื่อบ้านในอดีต

วิกฤตการณ์ที่ไม่เคยปรากฏ: เมื่อ “กู้ไม่ผ่าน” กลายเป็นกำแพงสูงลิบ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการของเสนาฯ ได้เปรียบเปรยไว้อย่างคมคายว่า “ทรหดยิ่งกว่าวิกฤติรอบใด” สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงการชะลอตัวตามวงจรปกติ แต่เป็นการลงที่ยืดเยื้อและส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่สถาบันการเงิน ผู้บริโภค ไปจนถึงต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้นต่อเนื่อง

หนึ่งในสถิติที่น่าตกใจคืออัตราการปฏิเสธสินเชื่อในตลาดแนวราบ โดยเฉพาะในทำเลที่มีความต้องการสูงอย่างบางใหญ่ ซึ่งพุ่งสูงถึง 80% ขณะที่คอนโดมิเนียมก็มีตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 50% นี่ไม่ใช่สัญญาณว่าความต้องการบ้านหายไปไหน แต่เป็นตัวเลขที่ชี้ชัดถึง “ความสามารถในการกู้” ที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ รายได้ของคนส่วนใหญ่เติบโตไม่ทันราคาบ้านที่ขยับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซ้ำร้ายปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นภาระหนักอึ้งที่ผูกมัดกำลังซื้อของผู้บริโภคไว้ ทำให้พื้นที่สำหรับการก่อหนี้ใหม่เพื่อซื้อสินเชื่อบ้านแทบไม่เหลืออยู่ ความฝันที่จะมีบ้านหลังแรกจึงดูห่างไกลออกไปสำหรับคนจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้คือ “Pain Point ผู้ซื้อบ้าน” ที่นักพัฒนาอสังหาฯ ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ในฐานะนักกลยุทธ์ ผมมองว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและภูมิทัศน์การเงินที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั่วไปอาจยังไม่ได้ปรับตัวตามทัน การนำเสนอสินค้าที่ดีในทำเลที่เหมาะสมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป หากลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ดังนั้น “การแก้ปัญหาสินเชื่อ” จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนยอดขายและการอยู่รอดในตลาดนี้

“Next Solution”: นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างโอกาสให้ทุกคน

ด้วยความเข้าใจในสถานการณ์ที่บีบคั้น เสนาฯ ได้เดินเกมใหม่ด้วยโมเดล “Next Solution” ซึ่งบริษัทนิยามว่าเป็น “การโยนบันไดลงไปให้ลูกค้าขึ้นมากู้บ้านได้” แทนที่จะปล่อยให้ผู้บริโภคหลุดจากระบบและต้องเช่าที่อยู่อาศัยต่อไปอีกหลายปี โมเดลนี้ประกอบด้วยสองกลไกหลักที่น่าสนใจอย่างยิ่ง: LivNext (เช่าออมบ้าน) และ RentNext (เช่าพร้อมสิทธิ์ซื้อ) ซึ่งเป็นตัวอย่างของ “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” ที่ตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด

LivNext (เช่าออมบ้าน): พลิกยอดปฏิเสธสินเชื่อให้เป็นโอกาส

LivNext หรือ “เช่าออมบ้าน” คือหัวหอกสำคัญของ Next Solution ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนยอดปฏิเสธสินเชื่อให้กลายเป็นยอดขาย โดยให้ลูกค้าเริ่มต้นจากการผ่อนชำระกับโครงการในอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจราว 1.8% ผ่านบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สิ่งนี้ไม่ใช่แค่การเช่าธรรมดา แต่เป็นการ “เช่าออมบ้าน” ที่มุ่งเน้นการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าอย่างเป็นระบบ

กระบวนการทั้งหมดมีการตรวจสอบและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดร่วมกับบริษัทเงินสดใจดี ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเครือเสนาฯ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย การทำงานร่วมกันนี้ช่วยวิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้าอย่างละเอียด ติดตามความคืบหน้าทุก 6 เดือน และให้คำแนะนำเรื่องพฤติกรรมทางการเงินแบบใกล้ชิด ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ “เช่าออมบ้าน” นี้จะได้รับ “การวางแผนการเงินซื้อบ้าน” อย่างมืออาชีพ ทำให้พวกเขามีเวลา 2-3 ปีในการปรับปรุงประวัติและสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมสำหรับการยื่น “สินเชื่อบ้าน” ในอนาคต นี่คือแนวทางที่ช่วย “พัฒนาสินเชื่อที่อยู่อาศัย” ให้เข้าถึงได้สำหรับคนหมู่มาก

ผลลัพธ์ของ LivNext เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ ไม่ใช่แค่ตัวเลขทางสถิติ แต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการ “เช่าออมบ้าน” ประมาณ 1,000 ยูนิต และที่สำคัญคือมีผู้ที่สามารถกู้ผ่านและโอนได้จริงแล้วถึง 100 ยูนิต ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อไม่ได้ “กู้ไม่ได้ตลอดไป” แต่พวกเขาเพียงต้องการเวลาและการสนับสนุนที่ถูกต้องในการปรับฐานข้อมูลทางการเงิน นอกจากนี้ LivNext ยังช่วยรักษายอดขายที่อาจสูญไปกว่า 2,000 ล้านบาทไว้ได้ ซึ่งเป็นมูลค่าทางธุรกิจที่มหาศาล

ที่น่าสนใจคือ ฐานลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ “เช่าออมบ้าน” ยังขยับจากกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท ไปสู่กลุ่ม 3-4 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความต้องการ “กู้ซื้อบ้าน” ไม่ได้ลดลง แต่ติดปัญหาเพียงเงื่อนไขด้านเครดิตเท่านั้น การมี “โซลูชันทางการเงิน” อย่าง LivNext จึงเป็นการเปิดประตูให้คนกลุ่มนี้กลับเข้าสู่ตลาดได้อีกครั้ง

RentNext: ความยืดหยุ่นที่มากกว่าการเช่า

คู่ขนานไปกับ LivNext คือ RentNext โมเดลการเช่าที่ยืดหยุ่นและเป็นมากกว่าการเช่าทั่วไป โดยสร้างโอกาสให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจเป็นเจ้าของได้ โดยนำค่าเช่ามาหักเงินต้นได้ 100% หากตัดสินใจซื้อยูนิตเดียวกัน หรือ 50% หากย้ายไปซื้อโครงการ “บ้านจัดสรร” หรือ “คอนโดมิเนียม” อื่นๆ ในเครือเสนาฯ นี่คืออีกหนึ่ง “กลยุทธ์อสังหาฯ” ที่คำนึงถึงความต้องการและความไม่แน่นอนของผู้บริโภค ให้ทางเลือกที่ยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ “ลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ในระยะยาว

รายได้รวมจาก LivNext และ RentNext อยู่ที่ราว 80-100 ล้านบาทต่อปี แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ Gross Margin ที่สูงถึง 80% ซึ่งเกิดจากการนำทรัพย์สินเดิมมาใช้สร้างรายได้ใหม่ ลดต้นทุนการตลาด และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ (Economy of Scope) โครงการ “เช่าออมบ้าน” และ RentNext เหล่านี้มักตั้งอยู่ในทำเลที่ได้รับความนิยมในการเช่าสูง ใกล้แหล่งงานและสถาบันการศึกษา เช่น พระราม 9, บางนา, นิคมอุตสาหกรรม, และรังสิต ซึ่งเป็น “อสังหาฯ กรุงเทพ” และปริมณฑลที่มีความต้องการเช่าค่อนข้างมากและมีความเสี่ยงต่ำ การใช้กลยุทธ์นี้เป็นการบริหารจัดการสต็อกที่ชาญฉลาด และเพิ่ม “โอกาสลงทุนอสังหาฯ” ในสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ปรับทัพองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2025

ในด้านยุทธศาสตร์ปี 2025 เสนาฯ ได้เลือกเดินหน้าอย่างระมัดระวัง แต่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่ลดลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ชะลอมาจากปีก่อน หรือเป็นเฟสต่อเนื่องจากโครงการเดิม แทนที่จะขยายพอร์ตเพิ่มเติม การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสภาพคล่องและเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุด ด้วยการหันไปพัฒนาสินค้าคงคลังที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น “คอนโดมิเนียม” หรือ “บ้านจัดสรร” ที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 5,000 ยูนิต มูลค่ารวมราว 10,000 ล้านบาท โดยมากกว่า 70% เป็นคอนโดมิเนียม

ผมมองว่านี่คือการบริหารจัดการสินทรัพย์เชิงรุก เสนาฯ ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่ดำเนินการปรับปรุงยูนิตเดิมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การรีโนเวทเฟอร์นิเจอร์ ปรับ Layout ไปจนถึงการทำตลาดแบบตรงกลุ่มมากขึ้น เพื่อให้สินค้าสอดรับกับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ดร.เกษราเคยกล่าวไว้ว่า “ปกติแล้วผู้พัฒนาโครงการจะเกิดคอนเซ็ปต์ใหม่ในโครงการใหม่ แต่เราไม่ควรต้องคิดแบบนั้น การที่เราไม่มีโครงการใหม่ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องหยุดพัฒนา” คำกล่าวนี้ตอกย้ำถึงปรัชญาการทำงานที่มองการณ์ไกลและเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่มีอยู่ การ “วิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ” อย่างละเอียดช่วยให้สามารถปรับปรุงสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง

หัวใจสีเขียว: ความยั่งยืนคือมาตรฐานใหม่ของ “อสังหาริมทรัพย์”

อีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่เสนาฯ มุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปคือ “พัฒนาอสังหาฯ ยั่งยืน” ดร.เกษรา ยืนยันว่าบ้านในกลุ่มราคาแกรนด์ทุกหลังมีการติดตั้ง “โซลาร์เซลล์บ้าน” และแบตเตอรี่เก็บพลังงาน โดยถือเป็นมาตรฐานใหม่ที่ตอบโจทย์ภาระ “ลดค่าครองชีพ” ให้กับผู้อยู่อาศัยในระยะยาว พร้อมทั้งยกระดับความตระหนักรู้เรื่องพลังงานสะอาด สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ “อสังหาริมทรัพย์” และสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแนวทาง Waste Management ในทุกโครงการ เพื่อยกระดับบทบาทของบริษัทในฐานะ “Life Long Trusted Partner” ที่ไม่เพียงพัฒนาอสังหาฯ แต่ดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในมิติต่างๆ สิ่งเหล่านี้คือส่วนสำคัญของ “กลยุทธ์อสังหาฯ” ที่เน้นความยั่งยืน และเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างในตลาด “อสังหาริมทรัพย์” ที่แข่งขันสูง

บทบาทภาครัฐและอนาคตที่รออยู่: “โอกาสลงทุนอสังหาฯ” ที่ต้องร่วมกันสร้าง

เมื่อกล่าวถึงมุมมองด้านสภาพเศรษฐกิจและการเมือง ดร.เกษรา มองว่ามาตรการรัฐที่ส่งผลต่อภาคอสังหาฯ โดยตรง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ซึ่งได้มีการออกมาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและ “สินเชื่อบ้าน” ที่ตึงตัวเกินไป หากรัฐบาลสามารถตั้ง AMC เพื่อซื้อหนี้เสีย หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้เกิดผลจริง จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยควรเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อ Debt Service Ratio (DSR) และช่วยให้ลูกค้า “กู้ซื้อบ้าน” ผ่านได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ “โอกาสลงทุนอสังหาฯ” ที่กระจายตัวมากขึ้น

ในฐานะที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า “มาตรการรัฐอสังหาฯ” เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประคับประคองและฟื้นฟูตลาด การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะปลดล็อกศักยภาพของตลาด และทำให้ “โซลูชันทางการเงิน” อย่าง “เช่าออมบ้าน” ของเสนาฯ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ท้ายที่สุด ดร.เกษราเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญของผู้ประกอบการในช่วงเวลานี้ คือการปรับตัวเชิงรุกและมองหาวิธีช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสก้าวเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้มากขึ้น เช่นเดียวกับที่เสนาฯ เดินหน้า “กลยุทธ์อสังหาฯ” Next Solution เพื่อประคองกำลังซื้อในกลุ่ม Affordable และสร้างเส้นทางให้ลูกค้าได้เตรียมความพร้อมในการยื่น “สินเชื่อบ้าน” จริง แม้อาจต้องใช้เวลา 2-3 ปี แต่ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผู้บริโภคในระยะยาว ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของ “ตลาดอสังหาฯ” โดยรวม

ท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว การสร้างเครื่องมือช่วยเหลือและเสริมศักยภาพให้ลูกค้าจึงเป็นบทบาทที่ภาคธุรกิจสามารถทำได้ทันที และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยให้ “ตลาดอสังหาฯ” กลับมาเดินหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคต

ก้าวสู่การเป็นเจ้าของบ้านที่ยั่งยืนไปกับเรา

จากประสบการณ์ในอุตสาหกรรม ผมเชื่อมั่นว่าแนวคิดและกลยุทธ์ที่เสนาฯ ได้นำเสนอผ่านโมเดล “Next Solution” โดยเฉพาะโครงการ เช่าออมบ้าน คือคำตอบสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการเป็นเจ้าของบ้านในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ต้องการสร้างเครดิตทางการเงินใหม่ หรือมองหาทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการเริ่มต้นชีวิตในบ้านหลังแรก โซลูชันเหล่านี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่กำลังฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ติดปัญหาเรื่องสินเชื่อหรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้าน ที่ปรึกษาการเงินอสังหาฯ และ ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้การ การวางแผนการเงินซื้อบ้าน ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ผมขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ เช่าออมบ้าน และโซลูชันอื่นๆ จากเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเป็นพันธมิตรที่พร้อมจะนำคุณไปสู่เป้าหมายแห่งการเป็นเจ้าของบ้านที่ยั่งยืน เพราะเราเข้าใจว่าการมีบ้านคือรากฐานสำคัญของชีวิตที่ดี
อนาคตของการเป็นเจ้าของบ้านอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม – มาร่วมค้นพบเส้นทางของคุณวันนี้!

Previous Post

D1312083 คลอดเด ก100ล าน ในห องน ep1 part2

Next Post

D1312085 บๆแต อนร างข นอ ep1 part2

Next Post
D1312085 บๆแต อนร างข นอ ep1 part2

D1312085 บๆแต อนร างข นอ ep1 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912059 อะไรๆพ ตค งต นไม part2
  • D1912060 แต งก บพ นขอร สอร ทนะท part2
  • D1912058 อสาม ไม มารยาทเอาซะเลย part2
  • D1912057 ไม องสนใจ จงเป นในส งท ควรเป part2
  • D1912056 บรถหร มาอวด อต องตกงาน part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.