หัวข้อ: เจาะลึกโรดแมป “พลัสก่อการดี”: พลิกโฉม การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ด้วย 5 กลยุทธ์แห่งอนาคต โดยผู้บริหารอุตสาหกรรม
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นถึงพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล จากเดิมที่เน้นเพียงแค่ทำเล ราคา และสิ่งอำนวยความสะดวก มาสู่ยุคที่ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่คำสวยหรู แต่คือรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือที่เรียกกันว่า ESG ได้กลายเป็นเข็มทิศใหม่ที่กำหนดทิศทาง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ทั่วโลก และในประเทศไทยเอง ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ตระหนักถึงความสำคัญนี้อย่างลึกซึ้ง
ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ หนึ่งในผู้นำด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยครบวงจร ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บุกเบิกในการวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจน ผ่านการเปิดตัวโรดแมป “พลัสก่อการดี” ซึ่งไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โรดแมปนี้คือพิมพ์เขียวสำหรับ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ที่เป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติของ ESG และปรับให้เข้ากับเทรนด์ปี 2025 และอนาคต
ทำไม ESG จึงเป็นหัวใจสำคัญของอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่?
ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึง 5 กลยุทธ์ ผมขอเน้นย้ำถึงบริบทที่ทำให้ ESG มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้:
แรงกดดันจากนักลงทุน: นักลงทุนสถาบันและกองทุนต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ต่างหันมาให้ความสำคัญกับปัจจัย ESG ในการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น การมี รายงาน ESG ที่น่าเชื่อถือและผลการดำเนินงานที่ดีด้าน ESG กลายเป็นปัจจัยชี้ขาดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืน และดึงดูด การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน
ความต้องการของผู้บริโภค: ผู้ซื้อและผู้เช่าในปัจจุบันมีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมสูงขึ้น พวกเขาแสวงหา โครงการที่อยู่อาศัย หรือ คอนโดมิเนียม ที่ไม่เพียงมอบความสะดวกสบาย แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสุขภาวะที่ดี และสร้างสรรค์สังคมที่ดี
กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น: ภาครัฐทั่วโลกกำลังผลักดันกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยคาร์บอน การจัดการพลังงาน และการรับผิดชอบต่อสังคม การเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรฐานเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ความยืดหยุ่นและความทนทานต่อวิกฤต: โครงการที่มีการจัดการ ESG ที่ดี มักจะมีความยืดหยุ่นสูงต่อความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วิกฤตโรคระบาด หรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งนำไปสู่ การบริหารความเสี่ยง ESG ที่มีประสิทธิภาพ
สร้างมูลค่าระยะยาว: การลงทุนใน ESG คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนการดำเนินงานจากการประหยัดพลังงานและน้ำ การเพิ่มความพึงพอใจและภักดีของลูกบ้าน หรือการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือในตลาด อสังหาริมทรัพย์สีเขียว
แก่นแท้ของ “พลัสก่อการดี”: วิสัยทัศน์เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี
โรดแมป “พลัสก่อการดี” ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่แผนงาน แต่เป็นปรัชญาที่หล่อหลอมการทำงานขององค์กร ภายใต้แนวคิด “Quality of Life and Well-being” ซึ่งมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมภายในโครงการให้ดีอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ โดยเฉพาะใน โครงการที่อยู่อาศัย ต่างๆ ที่บริหารจัดการ การขับเคลื่อน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน นี้ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่รอบด้าน ซึ่ง 5 กลยุทธ์หลักของ “พลัสก่อการดี” ได้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว
5 กลยุทธ์หลักพลิกโฉม “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน”
Environment Management: มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและ Net Zero 2050
แนวคิด: กลยุทธ์แรกนี้มุ่งเน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของการทำ ESG โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการผลักดัน โครงการที่อยู่อาศัย ไปสู่ สังคมคาร์บอนต่ำ และบรรลุเป้าหมาย Net Zero 2050
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ในโลกที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่ง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของอาคารจึงเป็นสิ่งจำเป็น พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ริเริ่มแคมเปญ “Waste to Worth” มาอย่างต่อเนื่อง 5 ปี ซึ่งเป็นมากกว่าแค่การคัดแยกขยะ แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศแห่งการรีไซเคิลที่เปลี่ยนขยะให้เป็นมูลค่า สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ การจัดการขยะ ที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงลดปริมาณขยะฝังกลบ แต่ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่ๆ
นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้: นอกจากการคัดแยกขยะแล้ว การลดใช้พลังงานก็เป็นหัวใจสำคัญ พลัสฯ ให้ความสำคัญกับการติดตั้ง โซลูชั่นอาคารประหยัดพลังงาน เช่น ระบบแสงสว่าง LED การใช้พลังงานหมุนเวียน (เช่น โซลาร์เซลล์) การเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศ รวมถึงการจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ เช่น “คัด-แยก-แลก-สุข” ที่เปลี่ยนขยะรีไซเคิลเป็นไข่ไก่ และกิจกรรมสวนผัก Backyard สนับสนุนการปลูกพืชปลอดสารภายใน คอนโดมิเนียม หรือ โครงการที่อยู่อาศัย สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงลด Carbon Footprint ของโครงการ แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของลูกบ้านใน กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ
อนาคต: การมุ่งสู่ อสังหาริมทรัพย์สีเขียว จะรวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบที่ส่งเสริมการไหลเวียนของอากาศและแสงธรรมชาติ และการติดตั้งระบบตรวจสอบการใช้พลังงานอัจฉริยะ เพื่อให้บรรลุ ใบรับรองอาคารเขียว ระดับสากล
Care for Community: สร้างสรรค์ชุมชนที่เข้มแข็งและเกื้อกูล
แนวคิด: การสร้าง ชุมชนยั่งยืน เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ ESG ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนรอบโครงการ และการสร้างประโยชน์ร่วมกัน
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การที่องค์กรจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การดูแลชุมชนเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญของ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน พลัสฯ ได้ดำเนินโครงการ “พลัสปันสุข” ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการคืนกำไรสู่สังคมผ่านการปรับปรุงพื้นที่โรงเรียน ทำแปลงผักปลอดสาร และสนับสนุนอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนทางสังคมมหาศาล
นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้: การเปิดระบบแลกเปลี่ยนสิ่งของของลูกบ้านเพื่อนำรายได้สนับสนุนมูลนิธิยุวพัฒน์ เป็น นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ที่สร้างสรรค์ ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการแบ่งปันภายในชุมชน แต่ยังเชื่อมโยงลูกบ้านเข้ากับการทำความดีเพื่อสังคม สิ่งนี้ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมและความผูกพันที่แข็งแกร่งระหว่างโครงการกับชุมชนโดยรอบ
อนาคต: การดูแลชุมชนจะขยายไปสู่การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่น การจัดอบรมทักษะอาชีพ และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อให้เกิดการเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง
Health & Wellbeing: ยกระดับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างองค์รวม
แนวคิด: สุขภาพกายและใจของผู้อยู่อาศัยและพนักงานคือหัวใจของ คุณภาพชีวิต ที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือก โครงการที่อยู่อาศัย
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมาทำให้เราตระหนักว่า “บ้าน” ไม่ได้เป็นแค่ที่พักพิง แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดีอย่างรอบด้าน พลัสฯ เข้าใจประเด็นนี้อย่างลึกซึ้ง โดยการจัดกิจกรรม Active Lifestyle และการร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช-แสนสิริ เพื่อส่งบริการแพทย์ถึงโครงการ รวมถึงจัดคลาสออกกำลังกายและกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพหลากหลายรูปแบบ
นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้: การนำบริการทางการแพทย์เข้าถึงลูกบ้านโดยตรงใน คอนโดมิเนียม เป็นการตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงและทันท่วงที นอกจากนี้ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่เอื้อต่อการออกกำลังกาย การมีพื้นที่สีเขียวที่ช่วยบำบัดจิตใจ (Biophilic Design) และการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริม สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
อนาคต: การผสานเทคโนโลยี Smart Home ที่ช่วยตรวจจับและปรับปรุงคุณภาพอากาศ แสงสว่าง และอุณหภูมิ ให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย รวมถึงการสร้างโปรแกรมสุขภาพส่วนบุคคลที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) จะเป็นเทรนด์สำคัญในการยกระดับ คุณภาพชีวิต ใน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน
Multi-generations Society: สร้างพื้นที่สำหรับทุกวัยและทุกเจนเนอเรชั่น
แนวคิด: การออกแบบสภาพแวดล้อมที่รองรับการอยู่อาศัยร่วมกันของคนหลากหลายช่วงวัย ถือเป็นความท้าทายแต่ก็เป็นโอกาสในการสร้าง ชุมชนยั่งยืน ที่สมบูรณ์
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว โครงการที่อยู่อาศัย ในอนาคตจึงต้องออกแบบให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ พลัสฯ ได้วางบทบาทของทีมนิติบุคคลให้เป็น “Community Connector” ที่จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกวัยมีส่วนร่วม เช่น โครงการเพื่อนบ้านอาสาเพื่อแบ่งปันทักษะและประสบการณ์
นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้: การมี Community Connector เป็นกลไกสำคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้านต่างวัย ช่วยลดช่องว่างระหว่างเจนเนอเรชั่น และส่งเสริมการพึ่งพาอาศัยกัน การจัดพื้นที่ส่วนกลางที่ยืดหยุ่น เช่น Co-working Space ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเรียนสำหรับเด็กหรือเวิร์กช็อปสำหรับผู้สูงอายุ เป็นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าและสร้างสรรค์ใน การบริหารจัดการอาคาร
อนาคต: แนวคิด “Age-in-Place” หรือการที่ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านและชุมชนของตนเองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย จะเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นในการออกแบบ คอนโดมิเนียม หรือ โครงการที่อยู่อาศัย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้สูงอายุ เช่น ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน และการออกแบบ Universal Design ที่ทุกคนเข้าถึงได้
Lifelong Education: สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อการเติบโต
แนวคิด: การเรียนรู้ไม่ควรมีวันสิ้นสุด ไม่ว่าจะสำหรับลูกบ้าน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบ การส่งเสริมการเรียนรู้คือการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะใหม่ๆ มีความจำเป็นเสมอ การที่พลัสฯ สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านโครงการพัฒนาทักษะการทำงาน เสริมความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมเพิ่มศักยภาพด้านต่าง ๆ ที่ต่อยอดได้จริงในชีวิตประจำวัน ถือเป็นการสร้างบุคลากรที่มีคุณค่าและสร้าง ชุมชนยั่งยืน ที่มีความรู้ความสามารถ
นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้: การจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับ การจัดการขยะ การประหยัดพลังงานสำหรับลูกบ้าน หรือการอบรมทักษะดิจิทัลให้กับพนักงาน เป็นการเพิ่มพูนความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้ การร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายโอกาสการเรียนรู้
อนาคต: การสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์เฉพาะสำหรับลูกบ้านและพนักงาน การจัด Mentorship Program ที่เชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ และการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างลูกบ้านใน คอนโดมิเนียม เอง จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
มาตรฐานสากล: ใบรับรองความมุ่งมั่นสู่ “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน”
นอกเหนือจาก 5 กลยุทธ์ที่กล่าวมา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังให้ความสำคัญกับมาตรฐานการทำงานระดับสากล ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและคุณภาพในการดำเนินงาน การได้รับการรับรอง ISO ครอบคลุมทั้งด้านระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001), การบริหารทรัพยากรกายภาพ (ISO 41001) และระบบสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) ถือเป็นความสำเร็จอันโดดเด่น
ISO 9001 (ระบบบริหารงานคุณภาพ): รับรองว่าการดำเนินงานมีกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นความพึงพอใจของลูกค้า
ISO 41001 (การบริหารทรัพยากรกายภาพ): ยกระดับมาตรฐาน การบริหารจัดการอาคาร ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านการบำรุงรักษา การจัดการพื้นที่ และการบริการ
ISO 14001 (ระบบสิ่งแวดล้อม): แสดงถึงความรับผิดชอบในการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ลดมลพิษ และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
การที่พลัสฯ เป็นผู้ให้บริการ Property Management รายแรกและรายเดียวที่มีมาตรฐานครอบคลุมทุกโครงการในพอร์ตทั้งหมดกว่า 440 โครงการในประเทศไทย ถือเป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออย่างมหาศาล และเป็นสิ่งที่นักลงทุนหรือเจ้าของโครงการที่มองหา การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน ควรพิจารณาอย่างยิ่ง สิ่งนี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงความเชี่ยวชาญและธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจที่สามารถผ่าน การประเมิน ESG ได้อย่างน่าเชื่อถือ
อนาคตของ “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน” กับพลัส พร็อพเพอร์ตี้
โรดแมป “พลัสก่อการดี” ไม่ใช่แค่แผนที่ แต่เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้าง Ecosystem การอยู่อาศัยที่เอื้อต่อความยั่งยืนในระยะยาว ในมุมมองของผม พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กำลังวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตของ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ในประเทศไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่ครอบคลุม นวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง และมาตรฐานสากลที่พิสูจน์ได้ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงสร้างประโยชน์ให้กับลูกบ้านและชุมชน แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว และยังเป็นการเพิ่ม โอกาสการลงทุน ESG ให้กับผู้ที่สนใจ
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่านี่คือทิศทางที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นควรศึกษาและนำไปปรับใช้ เพราะในที่สุดแล้ว “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน แต่คือส่วนหนึ่งของโลกที่เราอาศัยอยู่ และการสร้างโลกที่ดีขึ้น เริ่มต้นได้จากบ้านของเรา
หากคุณเป็นเจ้าของโครงการ ผู้พัฒนา หรือนักลงทุนที่มองหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ด้าน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน อย่างแท้จริง ผมขอแนะนำให้คุณศึกษาโรดแมป “พลัสก่อการดี” ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ อย่างละเอียด เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน
