พลิกโฉมวงการ: พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กับกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ ระยะยาว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนแห่งปี 2025
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ จากที่เคยเน้นเพียงแค่การสร้างโครงสร้างและผลตอบแทนทางการเงิน ปัจจุบันบริบทได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยมี “กลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์” เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่คือการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งผู้ลงทุน ลูกบ้าน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
ปี 2025 นี้ แนวโน้มการลงทุนและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้หันมาให้ความสำคัญกับหลักการ ESG (Environmental, Social, and Governance) อย่างจริงจังมากขึ้น บริษัทที่มองการณ์ไกลและปรับตัวได้ก่อนเท่านั้นที่จะสามารถยืนหยัดและสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” หนึ่งในผู้นำด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยครบวงจร คือตัวอย่างอันโดดเด่นที่ได้เปิดตัวโรดแมป “พลัสก่อการดี” ซึ่งเป็นแผนแม่บทระยะยาวที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผสานกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ เข้ากับการดำเนินธุรกิจหลัก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ทำไมกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ จึงสำคัญต่ออนาคต?
ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงแผนการของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เราต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ว่าทำไมกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป:
แรงกดดันจากนักลงทุน: นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลกต่างมองหาโอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืนมากขึ้น โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานด้าน ESG เป็นเกณฑ์สำคัญ หากบริษัทใดขาดกรอบการดำเนินงาน ESG ที่ชัดเจน ก็อาจพลาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโอ
ความต้องการของผู้บริโภค: ผู้ซื้อและผู้เช่าในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญกับโครงการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีสังคมที่ดี และมีการบริหารจัดการที่โปร่งใส การเลือกที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่ทำงานจึงไม่ได้พิจารณาแค่ทำเลหรือราคา แต่ยังรวมถึง “ไลฟ์สไตล์ยั่งยืน” ที่โครงการนั้นๆ มอบให้
ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขาดแคลนทรัพยากร และปัญหามลพิษ เป็นความเสี่ยงที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญ การนำกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ มาปรับใช้จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้และสร้างความยืดหยุ่นให้กับโครงการ
ชื่อเสียงและการยอมรับ: บริษัทที่มีผลงาน ESG โดดเด่นจะได้รับความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้ในระยะยาว ทั้งในสายตานักลงทุน คู่ค้า และสาธารณชน
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เล็งเห็นถึงแนวโน้มเหล่านี้ และได้วางรากฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Quality of Life and Well-being” หรือการยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมภายในโครงการให้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้มองแค่การสร้างอาคาร แต่คือการสร้าง “Ecosystem การอยู่อาศัย” ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนทุกเจเนอเรชัน
เปิดโรดแมป “พลัสก่อการดี”: 5 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารอาคาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เน้นย้ำถึงแกนสำคัญของแนวทาง ESG ในการดำเนินงานปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่เพียงตั้งเป้าพัฒนาโครงการให้มีความพร้อมด้านสุขภาพกายและใจ แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลภูมิทัศน์ให้สวยงามตลอดเวลา และการสร้างสังคมอยู่อาศัยที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมา การขับเคลื่อนกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จึงเป็นไปอย่างเป็นระบบและเห็นผลจริง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่:
Environment Management: มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยนวัตกรรมและจิตสำนึก
กลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม (E) คือหัวใจสำคัญในการสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโครงการสู่ Low Carbon Society โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือ Net Zero Carbon Emission ภายในปี 2050 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลก นี่ไม่ใช่แค่การลดการปล่อยคาร์บอน แต่เป็นการสร้างจิตสำนึกร่วมกัน
แคมเปญ “Waste to Worth”: สร้างคุณค่าจากการจัดการขยะ: แคมเปญนี้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ด้วยการให้ความรู้และจัดกิจกรรมกระตุ้นลูกบ้าน พนักงาน และชุมชนให้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากร กิจกรรม “คัด-แยก-แลก-สุข” ที่ให้ลูกบ้านนำขยะรีไซเคิลมาแลกไข่ไก่ เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการเปลี่ยนพฤติกรรมสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการลดใช้พลังงานในโครงการ เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และการรณรงค์ให้ใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ซึ่งล้วนเป็นมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่มีประสิทธิภาพ
“Backyard Garden”: สวนผักปลอดสารในโครงการ: กิจกรรมนี้สนับสนุนการปลูกพืชผักปลอดสารพิษภายในโครงการ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ แต่ยังสร้างพื้นที่สีเขียว เพิ่มความสุข และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย เป็นการสร้างระบบนิเวศขนาดเล็กที่ยั่งยืนในพื้นที่จำกัด และยังเป็นปัจจัยที่เพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่
Care for Community: สร้างความผูกพันและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน
กลยุทธ์ด้านสังคม (S) เป็นสิ่งที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเชื่อว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีต้องอยู่ร่วมกับชุมชนโดยรอบได้อย่างยั่งยืน
กิจกรรม “พลัสปันสุข”: ส่งต่อความสุขสู่ชุมชน: พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ริเริ่มโครงการ “พลัสปันสุข” เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนรอบโครงการ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การปรับปรุงพื้นที่โรงเรียน การจัดทำแปลงผักปลอดสารให้กับโรงเรียนและชุมชน รวมถึงการสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน การดำเนินการเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการให้ แต่เป็นการร่วมสร้างชุมชนยั่งยืน ที่มีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ นอกจากนี้ ระบบแลกเปลี่ยนสิ่งของของลูกบ้านที่นำรายได้สนับสนุนมูลนิธิยุวพัฒน์ ยังเป็นกลไกที่ยอดเยี่ยมในการสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือและส่งต่อสิ่งดีๆ ให้สังคมอย่างต่อเนื่อง
บทบาทของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์: ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การดูแลชุมชนคือส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ที่สำคัญ โดยเฉพาะในบริบทของ “อสังหาริมทรัพย์เพื่อสังคม” ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการ
Health & Wellbeing: ยกระดับสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับทุกชีวิต
แนวคิด “Wellness Real Estate” กำลังเป็นเมกะเทรนด์ที่สำคัญ กลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้ผสานด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (S) เข้าไปอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เรื่องของการออกกำลังกาย แต่เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งกายและใจ
Active Lifestyle และพันธมิตรด้านสุขภาพ: พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่งเสริมกิจกรรม Active Lifestyle เพื่อให้ลูกบ้านและพนักงานมีสุขภาพที่ดี ทั้งการจัดคลาสออกกำลังกาย โยคะ หรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช-แสนสิริ ในการส่งบริการแพทย์และพยาบาลถึงโครงการ ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว นับเป็นนวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
การออกแบบเพื่อสุขภาพ: ในอนาคต การออกแบบโครงการจะยิ่งคำนึงถึงปัจจัยด้านสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพอากาศภายในอาคาร แสงธรรมชาติ การเข้าถึงพื้นที่สีเขียว หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยี Smart Home เพื่อช่วยตรวจสอบและปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์อย่างแท้จริง
Multi-Generations Society: สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมที่มีความหลากหลายทางประชากร การสร้างพื้นที่สำหรับการอยู่ร่วมกันของหลายเจเนอเรชันเป็นสิ่งจำเป็น กลยุทธ์นี้ (S) ตอบโจทย์แนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนทุกวัย
“Community Connector”: เชื่อมโยงทุกวัย: ทีมนิติบุคคลของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงบริหารจัดการอาคาร แต่ยังเป็น “Community Connector” ที่จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกวัยได้มีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์กัน เช่น โครงการเพื่อนบ้านอาสาที่เปิดโอกาสให้แบ่งปันทักษะและประสบการณ์ ซึ่งช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย สร้างความเข้าใจ และเสริมสร้างความผูกพันในชุมชน นี่คือการลงทุนในทุนทางสังคมที่ยั่งยืน
Universal Design: การออกแบบโครงการโดยคำนึงถึง Universal Design หรือการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ เด็ก หรือผู้พิการ ก็เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นี้ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในโครงการได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
Lifelong Education: สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่ออนาคต
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด และเป็นรากฐานของการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ กลยุทธ์นี้ (S) จึงมุ่งสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับลูกบ้าน พนักงาน และชุมชน
โครงการพัฒนาทักษะและเสริมความรู้: พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จัดโครงการพัฒนาทักษะการทำงาน เสริมความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม (เช่น การคัดแยกขยะอย่างยั่งยืน) และกิจกรรมเพิ่มศักยภาพด้านต่างๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเวิร์คช็อปด้านดิจิทัล สุขภาพ หรือทักษะอาชีพต่างๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
การสร้างบุคลากรแห่งอนาคต: สำหรับพนักงาน การลงทุนในการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน และยังช่วยให้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยง ESG ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
มาตรฐานสากล: หัวใจของธรรมาภิบาล (G) และความน่าเชื่อถือ
นอกเหนือจาก 5 กลยุทธ์หลัก พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังให้ความสำคัญกับมาตรฐานการทำงานระดับสากล ซึ่งสะท้อนถึงหลักธรรมาภิบาล (G) ที่แข็งแกร่ง และเป็นสิ่งที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน มองหา
การรับรอง ISO ครอบคลุมทุกมิติ: พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ที่สำคัญ ได้แก่ ISO 9001 (ระบบบริหารงานคุณภาพ), ISO 41001 (การบริหารทรัพยากรกายภาพ) และ ISO 14001 (ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม) การเป็นผู้ให้บริการ Property Management รายแรกและรายเดียวที่มีมาตรฐานครอบคลุมโครงการในพอร์ตทั้งหมดกว่า 440 โครงการ ถือเป็นข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่สำคัญ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพสูงสุดด้วยความรับผิดชอบ
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้: การมีมาตรฐาน ISO เป็นเครื่องยืนยันถึงกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งลูกบ้าน ผู้ร่วมทุน และหน่วยงานกำกับดูแล การบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาลเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และช่วยลดความเสี่ยงด้าน ESG ในระยะยาว
อนาคตของกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย
จากประสบการณ์ของผม กลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญของอุตสาหกรรมในประเทศไทย บริษัทอย่าง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่กล้าลงทุนและวางโรดแมปที่ชัดเจนเช่นนี้ จะเป็นผู้บุกเบิกและสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาด
การสร้างมูลค่าเพิ่ม: การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ในระยะยาวด้วย โครงการที่ใส่ใจ ESG มักจะดึงดูดผู้เช่าหรือผู้ซื้อได้ดีกว่า มีอัตราการว่างลดลง และมีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าที่ดินและอาคารสูงกว่าในระยะยาว
การตอบรับจากตลาด: ในอนาคตอันใกล้ เราจะเห็นความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ อาคารสีเขียว และโครงการที่มีการจัดการชุมชนที่ดีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่ปรึกษา ESG อสังหาริมทรัพย์ จะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยบริษัทต่างๆ กำหนดทิศทางและสร้างรายงาน ESG ที่ได้มาตรฐาน
การแข่งขันที่ยั่งยืน: บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงยึดติดกับโมเดลธุรกิจแบบเดิมๆ อาจเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขัน และอาจสูญเสียโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการลงทุนใหม่ๆ กลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน
บทสรุปและ Call to Action
โรดแมป “พลัสก่อการดี” ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ใช่แค่แผนงานที่อยู่บนกระดาษ แต่เป็นการลงมือทำจริงที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ ESG อสังหาริมทรัพย์ อย่างเป็นรูปธรรม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อมั่นว่าแนวทางนี้ไม่เพียงจะยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้านและชุมชน แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย สอดรับกับแนวโน้มโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน และตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน
หากคุณคือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังมองหาแนวทางในการผสานกลยุทธ์ ESG เข้ากับการดำเนินธุรกิจ หรือเป็นนักลงทุนที่สนใจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน หรือแม้กระทั่งผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม การศึกษาและทำความเข้าใจโมเดลของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จะเป็นกรณีศึกษาที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนไปด้วยกันวันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้

