• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512115 แม แอบต งกล องเป ดโปงล กเขยช ว(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 9, 2025
in Uncategorized
0
D0512115 แม แอบต งกล องเป ดโปงล กเขยช ว(ละครส น) หน งส นด BSC part2

ก้าวข้ามกับดักเศรษฐกิจ 2569: ปฏิรูปโครงสร้าง ดึงดูดการลงทุน สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้ไทย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการเงินที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงนี้มากว่าทศวรรษ ผมมองว่าปี 2568 เป็นปีที่ประเทศไทยยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญ ท่ามกลางภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและพลวัตทางการเมืองภายในประเทศที่กำลังก่อตัว เรากำลังเผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างที่หยั่งรากลึก ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและเด็ดขาด อนาคตของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของไทยอาจถูกจำกัดไว้เพียงการขยายตัวต่ำเตี้ยเรี่ยดิน อันเป็นกับดักที่ทำให้เราถอยห่างจากศักยภาพที่ควรจะเป็น บทความนี้จะเจาะลึกถึงประเด็นสำคัญที่ผู้นำประเทศและทุกภาคส่วนต้องเร่งดำเนินการเพื่อปลดล็อกศักยภาพ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความรุ่งเรืองอย่างแท้จริงในปี 2569 และปีต่อ ๆ ไป

หลุดพ้นจากหลุมพราง GDP ต่ำ: ความจำเป็นเร่งด่วนของการปฏิรูปโครงสร้าง

เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาวนเวียนอยู่แค่ระดับ 1-2% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคและไม่เพียงพอต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร ปัญหานี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่สะท้อนถึงการขาดการลงทุนใหม่ ๆ การผลิตที่ยังไม่ก้าวสู่ห่วงโซ่มูลค่าสูง และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ลดลง หากเรายังคงดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ (Business As Usual) รายได้ต่อหัวของคนไทยที่ยังอยู่ในระดับประมาณ 7,000 เหรียญสหรัฐฯ จะไม่สามารถขยับขึ้นได้ และจะยิ่งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเร่งพัฒนาแซงหน้าเราไปอย่างรวดเร็ว

หัวใจสำคัญของการออกจากกับดักนี้คือ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ อย่างแท้จริง ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่รากฐาน ไม่ใช่เพียงแค่การใช้มาตรการกระตุ้นระยะสั้น การปฏิรูปนี้ต้องครอบคลุมตั้งแต่การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) การส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) การยกระดับคุณภาพการศึกษาและแรงงาน ไปจนถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการทำธุรกิจ เพื่อสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ ๆ ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI): หัวใจของการปรับโครงสร้างการผลิต

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คือลมหายใจสำคัญที่จะนำเทคโนโลยี องค์ความรู้ นวัตกรรม และการเข้าถึงตลาดโลกใหม่ ๆ เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ในปี 2568 และต่อเนื่องไปถึงปี 2569 ประเทศไทยต้องปรับกลยุทธ์ในการดึงดูด FDI ให้มุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลกแห่งอนาคต อาทิ:

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem): ไม่ใช่แค่การผลิตรถยนต์ แต่รวมถึงแบตเตอรี่ สถานีชาร์จ และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ระดับภูมิภาค
เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy): การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, Data Center, AI, Cloud Computing, และการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (BCG Economy): การลงทุนในเทคโนโลยีชีวภาพ, พลังงานสะอาด, การเกษตรอัจฉริยะ, และอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมโลก
อุตสาหกรรมขั้นสูงและนวัตกรรม (Advanced Manufacturing & Innovation): เช่น หุ่นยนต์, ออโตเมชัน, และการวิจัยและพัฒนา ที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของประเทศ

บทบาทของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงมิใช่เพียงแค่การอนุมัติสิทธิประโยชน์ แต่ต้องเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อดึงดูดนักลงทุนคุณภาพ และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เพื่อลดอุปสรรคและสร้างความมั่นใจให้กับการ ลงทุนต่างประเทศ ได้อย่างแท้จริง การประเมินผลควรเน้นที่คุณภาพของการลงทุน การสร้างงานที่มีมูลค่าสูง และการถ่ายทอดเทคโนโลยีมากกว่าแค่ยอดตัวเลขการขอรับส่งเสริม

ลดละนโยบายประชานิยม: สร้างวินัยทางการคลังเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

หนึ่งในบาดแผลเรื้อรังที่ฉุดรั้งศักยภาพของประเทศไทยคือนโยบายประชานิยมที่มุ่งเน้นผลระยะสั้นและบิดเบือนกลไกตลาด แม้จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนได้ชั่วคราว แต่ในระยะยาวกลับสร้างภาระทางการคลังมหาศาล ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และจำกัดความสามารถของรัฐบาลในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่จำเป็นจริง ๆ

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนาน ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องมีวินัยทางการคลังที่เข้มแข็ง ยุติการดำเนิน นโยบายประชานิยม ที่ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างถาวร แต่หันมาใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีเป้าหมายและเกิดประสิทธิผลสูงสุด เน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว เช่น การศึกษา การวิจัยและพัฒนา และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย การมีเสถียรภาพทางการคลังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจไทย ไปข้างหน้า

ตลาดทุนไทย: เครื่องยนต์หลักในการระดมทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมิได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับซื้อขายหุ้น แต่คือหัวใจสำคัญในการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับภาคธุรกิจและโครงการพัฒนาประเทศ การมองข้ามศักยภาพของ ตลาดหุ้นไทย ในฐานะกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง หากบริหารจัดการอย่างมีวิสัยทัศน์ ตลาดทุนสามารถเป็นแหล่งเงินทุนระยะยาวสำหรับกิจการขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ที่ต้องการขยายการลงทุน สร้างงาน และนวัตกรรมใหม่ ๆ

เมื่อตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเพิ่มขึ้น นำไปสู่ “Wealth Effect” ที่กระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจโดยรวม เพราะเมื่อผู้คนมีกำไรจากการ ลงทุนในหุ้น พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายและลงทุนเพิ่มขึ้น เป็นวัฏจักรเชิงบวกที่สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจหลายรอบ ดังนั้น รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนา ตลาดทุนไทย ให้มีความแข็งแกร่ง โปร่งใส และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่คนกลุ่มบน รวมถึงการส่งเสริมบริษัทไทยที่มีศักยภาพให้เข้ามาระดมทุนในตลาดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนและทำให้ตลาดมีความหลากหลายและเติบโตอย่างยั่งยืน

จัดการหนี้ครัวเรือน: ปลดล็อคกำลังซื้อและฟื้นภาคอสังหาริมทรัพย์

ปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยตัวเลขที่สูงเกิน 90% ของ GDP เป็นกับดักที่กัดกินกำลังซื้อของผู้บริโภคและบั่นทอนศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม หนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่วนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาค อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประสบปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงถึง 50-70% ทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี

การแก้ไขปัญหา หนี้ครัวเรือน ต้องทำอย่างจริงจังและรอบด้าน ไม่ใช่แค่มาตรการพักชำระหนี้ระยะสั้น แต่ต้องครอบคลุมถึง:

การปรับโครงสร้างหนี้: ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง
การส่งเสริมการเพิ่มรายได้: ด้วยการพัฒนาทักษะแรงงาน การสร้างโอกาสทางอาชีพ และการสนับสนุน SMEs
การให้ความรู้ทางการเงิน: แก่ประชาชนทุกระดับ เพื่อสร้างวินัยและวางแผนการเงินที่ดี
การกำกับดูแลสินเชื่อ: ให้มีความรัดกุมและเป็นธรรมมากขึ้น

หากรัฐบาลสามารถลดระดับหนี้ครัวเรือนให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืน (เช่น ต่ำกว่า 80% ของ GDP) จะเป็นการช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ส่งผลดีต่อทุกธุรกิจ ไม่ใช่แค่ภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น และจะช่วยฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยให้กลับมาเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง

Ease of Doing Business และการขจัดการทุจริต: รากฐานของความเชื่อมั่น

สิ่งแรกที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติมองหาคือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) ที่สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส การลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก การลดเอกสารที่ไม่จำเป็น และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการขออนุมัติ-อนุญาต จะช่วยลดต้นทุนแฝงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างมหาศาล

ควบคู่ไปกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการคือ การขจัดการคอร์รัปชัน ในทุกระดับ ซึ่งเป็นมะเร็งร้ายที่บ่อนทำลายความเชื่อมั่น สร้างต้นทุนที่ไม่เป็นธรรม และทำให้ประเทศเสียโอกาสในการพัฒนาอย่างมหาศาล รัฐบาลใหม่ในปี 2569 จะต้องแสดงความมุ่งมั่นอย่างเป็นรูปธรรมในการต่อต้านการทุจริต การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และการสร้างกลไกตรวจสอบที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งโอกาสที่ปราศจากการฉ้อฉล ซึ่งจะดึงดูดการ ลงทุนต่างประเทศ คุณภาพสูงเข้ามาได้อย่างแท้จริง การจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ที่มีประสิทธิภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญในการอำนวยความสะดวกและลดโอกาสของการทุจริตได้อย่างมีนัยสำคัญ

ยกระดับทุนมนุษย์และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

เศรษฐกิจไทยจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดนั่นคือ ทุนมนุษย์ รัฐบาลต้องเร่งลงทุนในการพัฒนาศักยภาพแรงงาน ด้วยการ Up-skill และ Re-skill คนไทยให้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคใหม่ เช่น ทักษะด้านดิจิทัล AI วิทยาศาสตร์ข้อมูล และทักษะที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม New S-Curve และ BCG Economy รวมถึงการปฏิรูปการศึกษาให้ตอบโจทย์การสร้างนวัตกรและผู้ประกอบการรุ่นใหม่

นอกจากนี้ การส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงอย่าง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ซึ่งไทยมีความได้เปรียบโดยธรรมชาติ ทั้งจากชื่อเสียงด้านการบริการที่ดีเยี่ยม วัฒนธรรมที่งดงาม และภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยและสปา การยกระดับการท่องเที่ยวให้เป็น “Quality Tourism” ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพและ Wellness ระดับโลก จะสร้างรายได้มหาศาลและยั่งยืน

โครงสร้างพื้นฐานและฮับภูมิภาค: เชื่อมไทยสู่โลก

ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการคมนาคมขนส่ง การลงทุนใน โครงสร้างพื้นฐาน ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นระบบรางความเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึก สนามบินนานาชาติ และโครงข่ายดิจิทัล จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับห่วงโซ่อุปทานและการค้าโลกได้อย่างไร้รอยต่อ

ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก กำลังเผชิญกับความท้าทายจากโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอต่อการเติบโตของนักท่องเที่ยว การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ เช่น ระบบขนส่งมวลชนภายในจังหวัด การจัดการขยะและน้ำประปาที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาสู่การเป็น “Smart City” จะช่วยยกระดับภูเก็ตให้เป็นเมืองน่าอยู่และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลกอย่างแท้จริง ซึ่งจะดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เกษียณอายุที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาพำนักระยะยาว

ความมั่นคงทางการเมืองและทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจประสบความสำเร็จคือ เสถียรภาพทางการเมือง และการมีทีมเศรษฐกิจที่มีวิสัยทัศน์ เอกภาพ และความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยครั้งและการปรับเปลี่ยนนโยบายไปมา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน การมีรัฐบาลที่มั่นคงและทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น จะเป็นสัญญาณที่ดีถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเผชิญหน้ากับความท้าทายและสร้างอนาคตที่สดใส

ในท้ายที่สุด การก้าวข้ามกับดักเศรษฐกิจและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ประเทศไทยในปี 2569 และปีต่อ ๆ ไป ไม่ใช่ภารกิจที่รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวจะทำได้สำเร็จ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย เรามีทรัพยากร บุคลากร และทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบ หากเรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งไปสู่อนาคต เราจะสามารถปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของประเทศ และสร้าง การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เข้มแข็งและยั่งยืนให้ลูกหลานของเราได้อย่างแน่นอน

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปข้างหน้าด้วยความหวังและความกล้าหาญ การปฏิรูปไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้าง อนาคตที่ยั่งยืน ให้กับประเทศไทยที่คุณรักและเราทุกคนภาคภูมิใจ มาร่วมกันผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ไปพร้อมกัน!

Previous Post

D0512114 กล วยส อร ก(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512116 ยางว เศษ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512116 ยางว เศษ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512116 ยางว เศษ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1210026 อด ตไม สำค ญเท าป จจ part2
  • D1210025 หญ งม ตำหน [ตอนจบ] part2
  • D1210024 มาคลายเคร ยดก นหน อยนะค part2
  • D1210023 นอกกาย แค ความส ขช วคราว![ตอนจบ] part2
  • D1210022 จฉาคนอ ไม วเอง [ตอน1] part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.