• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512040 กสาวเศรษฐ กพ อค าขายไข (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 6, 2025
in Uncategorized
0
D0512040 กสาวเศรษฐ กพ อค าขายไข (ละครส น) หน งส นด BSC part2

พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย 2025: ทะลวงวิกฤตสู่โอกาสทองยุคใหม่

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการเศรษฐกิจและการเงินมากว่าทศวรรษ ผมเห็นถึงพลวัตของประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ในวันนี้ ปี 2025 เรากำลังยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญยิ่ง สภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีกำลังถาโถมเข้าใส่ ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยเองก็เผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างที่หยั่งรากลึกมานานหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเติบโตของ GDP ที่ซบเซา หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง และขีดความสามารถในการแข่งขันที่เริ่มถดถอย นี่คือช่วงเวลาที่เราต้องกล้าที่จะ “รื้อ” และ “สร้าง” ใหม่ หากเราต้องการจะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงบนเวทีโลก

รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ: หนีพ้นกับดัก GDP ต่ำ 1-2%

ปัญหาเร่งด่วนที่สุดที่เศรษฐกิจไทยเผชิญหน้าคือการเติบโตที่ชะลอตัว หากเรายังคงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับ 1-2% ต่อปี เราจะถอยห่างจากประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเร่งเครื่องอย่างเต็มที่อย่างไม่สามารถไล่ตามได้ทัน การเติบโตในระดับนี้ไม่เพียงพอต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร และยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่การฉีดเงินระยะสั้น แต่คือการผ่าตัดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างแท้จริง ซึ่งรวมถึงการยกระดับผลิตภาพแรงงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของเรา

การเพิ่มศักยภาพของ “คนไทย” ถือเป็นหัวใจสำคัญ เราต้องลงทุนในโครงการ Up-skill และ Re-skill ขนาดใหญ่ โดยมุ่งเน้นทักษะแห่งอนาคตที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ, AI, พลังงานสะอาด, ยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีดิจิทัล การปรับเปลี่ยนทักษะแรงงานให้สอดรับกับความต้องการของตลาดโลก จะช่วยดึงดูด “การลงทุนต่างประเทศ” (Foreign Investment) คุณภาพสูง และเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากฐานการผลิตราคาถูก ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งนี่คือรากฐานสำคัญของการ “พัฒนาเศรษฐกิจ” ที่ยั่งยืนและมั่นคง

เลิกประชานิยม: สร้างวินัยการคลังเพื่ออนาคต

ประสบการณ์จากหลายประเทศทั่วโลกสอนให้เรารู้ว่า นโยบายประชานิยมที่มุ่งเน้นการแจกจ่ายระยะสั้น มักจะสร้างภาระทางการคลังที่หนักอึ้ง และไม่ได้นำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ในปี 2025 นี้ รัฐบาลใหม่จำเป็นต้องแสดงความกล้าหาญทางการเมือง ด้วยการปรับเปลี่ยน “นโยบายเศรษฐกิจ” โดยลดการพึ่งพานโยบายที่สร้างภาระงบประมาณระยะยาว และหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่ออนาคต การสร้างวินัยทางการคลังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากไม่มีวินัย เราจะสูญเสียความน่าเชื่อถือ และเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณที่ทำให้ไม่สามารถลงทุนในสิ่งสำคัญได้อย่างเพียงพอ

สิ่งสำคัญคือการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การสนับสนุน SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยี, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง, และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) จะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในระยะยาว มากกว่าการแจกจ่ายเงินที่หมดไปในระยะเวลาอันสั้น

ดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ: เปิดประตูสู่โอกาสใหม่

ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เราต้องยกระดับการดึงดูด “การลงทุนต่างประเทศ” ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่านั้น แต่ต้องสร้าง Ecosystem ที่ครบวงจรสำหรับนักลงทุน สิ่งที่เราต้องทำคือ:

ความชัดเจนและต่อเนื่องของนโยบาย: นักลงทุนต่างชาติต้องการความมั่นใจว่านโยบายรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งตามการเปลี่ยนรัฐบาล “การเมืองมีเสถียรภาพ” และ “ทีมเศรษฐกิจมีเอกภาพ” คือปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่น
การลดขั้นตอนและปัญหาคอร์รัปชั่น: ระบบราชการที่ล่าช้าและปัญหา “คอร์รัปชั่น” เป็นอุปสรรคสำคัญ เราต้องผลักดัน “One Stop Service” ที่แท้จริง และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดการใช้ดุลยพินิจ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: นอกจากโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพอย่างถนน ท่าเรือ รถไฟความเร็วสูงแล้ว เรายังต้องลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” และพลังงานสะอาดเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาดทุน: นักลงทุนต้องการ “ตลาดทุน” ที่แข็งแกร่ง มีสภาพคล่อง และมีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการระดมทุนและบริหารความเสี่ยง การส่งเสริม “นวัตกรรมทางการเงิน” และ “ฟินเทค” จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับทั้งนักลงทุนและผู้ประกอบการ

การดึงดูด FDI ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) อาทิ “อุตสาหกรรม S-Curve” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว และสร้างงานที่มีคุณภาพสูงให้กับคนไทย

ตลาดหุ้น: หัวใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแหล่งระดมทุนประสิทธิภาพสูง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน “ตลาดทุน” ผมเชื่อมั่นว่า “ตลาดหุ้น” คือหนึ่งในเครื่องยนต์หลักที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ที่ผ่านมา ศักยภาพของตลาดหุ้นไทยยังไม่ได้ถูกดึงออกมาใช้อย่างเต็มที่ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพสำหรับทั้งบริษัทขนาดใหญ่และ “ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” (SMEs) รวมถึงบริษัท Startup ที่มีศักยภาพ

การสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหุ้น จะนำไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนักลงทุนได้รับผลกำไร พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติแล้ว การส่งเสริม “การเงินส่วนบุคคล” และการลงทุนของประชาชนทั่วไปในตลาดหุ้นผ่านกองทุนรวม หรือหุ้นยั่งยืน (ESG Investment) ก็เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้อย่างเท่าเทียม

อสังหาริมทรัพย์และหนี้ครัวเรือน: ความท้าทายที่ต้องเร่งแก้ไข

ภาค “อสังหาริมทรัพย์” เผชิญกับความท้าทายสูงสุดในรอบสองทศวรรษ ทั้งจากอุปทานและอุปสงค์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ปัญหานี้เกี่ยวพันโดยตรงกับ “หนี้ครัวเรือน” ที่พุ่งสูงจนเป็นประวัติการณ์ ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และส่งผลให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงถึง 50-70% ซึ่งถือเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และกำลังซื้อของประชาชนโดยรวม

รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและรอบด้าน:

การจัดการหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ: ไม่ใช่แค่การพักชำระหนี้ แต่ต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้และให้ความรู้ “การบริหารจัดการความเสี่ยง” ด้านการเงินส่วนบุคคล เพื่อให้ประชาชนสามารถหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้อย่างยั่งยืน
การกระตุ้นกำลังซื้อ: พิจารณามาตรการที่เหมาะสม เช่น การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้สถาบันการเงินพิจารณาสินเชื่ออย่างยืดหยุ่นภายใต้กรอบ “การบริหารจัดการความเสี่ยง” ที่เหมาะสม
การสนับสนุน “อสังหาริมทรัพย์” เชิงนวัตกรรม: สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เช่น โครงการสำหรับผู้สูงอายุ, Co-living Space, หรืออสังหาริมทรัพย์สีเขียวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
หากสามารถคลี่คลายปัญหาหนี้ครัวเรือนได้ ไม่เพียงแต่ภาคอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัว แต่กำลังซื้อโดยรวมของประเทศจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ

การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและ Wellness: พระเอกเศรษฐกิจไทยยุคใหม่

ประเทศไทยได้รับการยอมรับในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ในยุค 2025 เราต้องยกระดับภาค “การท่องเที่ยว” จากเชิงปริมาณไปสู่เชิงคุณภาพมากขึ้น โดยเน้นการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และส่งเสริม “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่นอย่างยิ่ง ด้วยการบริการที่เป็นเลิศและวัฒนธรรมที่เป็นมิตร

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ “ธุรกิจ Wellness” เช่น ศูนย์สุขภาพครบวงจร โรงพยาบาลระดับโลก และที่พักที่เน้นการพักผ่อนและดูแลสุขภาพ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้อยู่ยาวขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติวัยเกษียณที่มีกำลังซื้อสูง เราต้องใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ประเทศไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียน เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการเดินทางระดับภูมิภาค

ปฏิรูประบบราชการ: ก้าวข้ามอุปสรรคแห่งความก้าวหน้า

อุปสรรคที่นักลงทุนและผู้ประกอบการต้องเผชิญมาอย่างยาวนาน คือความล่าช้าและปัญหา “คอร์รัปชั่น” ในระบบราชการ ดังที่เห็นได้จากกรณีของภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกแต่ยังคงประสบปัญหาจากระบบการขออนุญาตที่ซับซ้อนและล่าช้า หากเราต้องการให้ประเทศไทยเป็นที่น่าดึงดูดสำหรับ “การลงทุนต่างประเทศ” อย่างแท้จริง การปฏิรูปโครงสร้างระบบราชการจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการภาครัฐ (e-Government) การจัดตั้ง “One Stop Service” ที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใสอย่างแท้จริง และการสร้างกลไกตรวจสอบและลงโทษการทุจริตอย่างเข้มงวด จะเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่ม “การแข่งขันระดับโลก” และลดต้นทุนแฝงในการทำธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ

บทสรุป: ความร่วมมือเพื่ออนาคตที่สดใส

ปี 2025 คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญยิ่ง การจะพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยให้หลุดพ้นจากกับดักเดิมๆ และก้าวสู่ยุคใหม่ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคน เราจำเป็นต้องมี “การปฏิรูปโครงสร้าง” ที่กล้าหาญและรอบด้าน มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และการนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง และคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง เพื่อให้ประเทศไทยไม่เพียงแต่ยืนหยัดได้ในเวทีโลก แต่ยังสามารถเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างความมั่งคั่งและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับคนไทยทุกคน

มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้เศรษฐกิจไทยก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่ออนาคตที่สดใสของพวกเราทุกคนเถิด!

Previous Post

D0512039 กรวมห วก บเม วางแผนฮ บสมบ (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512041 อนบ านแทบตายส ดท ายไม ใช อต วเอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512041 อนบ านแทบตายส ดท ายไม ใช อต วเอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512041 อนบ านแทบตายส ดท ายไม ใช อต วเอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D0512045 ากล วกว าผ เง นในบ ญช แหล ะ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512047 ดเล อกล กเขยร านทอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512046 เป นคนใช ามสวยกว าค ณนาย(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512044 สอนล กให กลำบาก เม อไม เรา(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512043 หลอกขายท เร ยนส แดง โดนหลอกกล บไม โกง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.