พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: ถอดรหัสยุทธศาสตร์พลิกเกมอสังหาฯ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ-การเมือง สู่ความยั่งยืนปี 2569 และอนาคต
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568-2569 กำลังเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญที่สุดในรอบสองทศวรรษ ภายใต้แรงกดดันมหาศาลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ผันผวน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนสั่นคลอน กำลังซื้อหดหาย และแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายนี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่าง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกสำหรับปี 2569 ที่ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่รอด แต่เป็นการพลิกเกมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเป้าหมายยอดขาย 11,000 ล้านบาท และมุ่งสร้างสัดส่วนรายได้ประจำให้แตะ 30% ภายในสามปีข้างหน้า บทความนี้จะเจาะลึกวิเคราะห์ถึงความท้าทายในปัจจุบันและถอดรหัสกลยุทธ์อันชาญฉลาดของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี
วิกฤตอสังหาฯ 2025: คลื่นมรสุมเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่เคยมีมาก่อน
ปี 2568 ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและคาดเดายากยิ่ง ตั้งแต่อุปทานและอุปสงค์ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ดังที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ เราเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าปี 2568 จะมีเพียงประมาณ 30,000 หน่วย ซึ่งไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นตลาดและยังสะท้อนถึงความระมัดระวังของผู้ประกอบการ ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ประมาณ 46,000 หน่วย ก็ยังต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็นอย่างมาก บ่งชี้ถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของกำลังซื้อที่อ่อนแอลงอย่างชัดเจน
สาเหตุหลักของสถานการณ์วิกฤตนี้สามารถสรุปได้เป็นสองปัจจัยใหญ่คือ เศรษฐกิจและการเมือง:
แรงกดดันทางเศรษฐกิจ:
ภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย: แม้เงินเฟ้อจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นยังคงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ หรือต้องปรับลดขนาดงบประมาณที่ตั้งไว้
หนี้ครัวเรือนสูง: ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยยังคงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง และเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้ซื้อรายใหม่และกลุ่มรายได้ปานกลาง ธนาคารพาณิชย์มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้การอนุมัติสินเชื่อยากขึ้น
การฟื้นตัวที่เปราะบางของเศรษฐกิจโลก: เศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวนและชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างงานและกระตุ้นรายได้ของประชากร
ตลาดแรงงานและรายได้: แม้ตัวเลขการว่างงานจะต่ำ แต่การเติบโตของค่าจ้างที่ยังไม่สอดรับกับค่าครองชีพ ทำให้กำลังซื้อที่แท้จริงไม่เพิ่มขึ้นมากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานประจำ
ความไม่แน่นอนทางการเมือง:
นโยบายเศรษฐกิจที่ขาดความชัดเจน: การเปลี่ยนผ่านผู้นำทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ก่อให้เกิดภาวะสุญญากาศและความไม่ต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนระยะยาวในประเทศไทย
ความผันผวนของเสถียรภาพรัฐบาล: ความขัดแย้งทางการเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาลที่ยังไม่มั่นคง เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนเกิดความลังเลที่จะทุ่มเม็ดเงินลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลานานในการคืนทุน
ผลกระทบต่อการลงทุนต่างชาติ: ความไม่ชัดเจนของนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง ย่อมส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่เคยเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
คุณศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “อุปทานและอุปสงค์ลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากชะลอการตัดสินใจ” ซึ่งสะท้อนภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังรอคอยสัญญาณการฟื้นตัวอย่างมีความหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีการเลือกตั้งในปีหน้าและได้รัฐบาลใหม่ที่มีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วนกลับมาได้ กลไกดังกล่าวจะเป็นหัวใจสำคัญของการพลิกฟื้นและสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทยและตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะต่อไป
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: ยุทธศาสตร์ 3 เสาหลัก สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนปี 2569
ท่ามกลางกระแสความท้าทาย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กลับแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล โดยวางเป้ายอดขายปี 2569 ไว้ที่ 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 9,000 ล้านบาทจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ 2,000 ล้านบาทจากคอนโดมิเนียมของแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ นี่ไม่ใช่เป้าหมายที่ตั้งขึ้นอย่างเลื่อนลอย แต่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven Insight) และประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับการบริหารจัดการอย่างระมัดระวังและมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค สามารถแบ่งออกเป็นสามเสาหลักที่แข็งแกร่ง:
เสาหลักที่ 1: ยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานก่อสร้างสู่มาตรฐานใหม่
การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำลังซื้อจำกัด ทำให้คุณภาพของสินค้าและบริการคือหัวใจสำคัญในการดึงดูดลูกค้า พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จึงมุ่งเน้นการปฏิรูปและยกระดับผลิตภัณฑ์ในทุกมิติ:
นวัตกรรมออกแบบบ้านเพื่อชีวิตยุคใหม่: บริษัทเตรียมเปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่ในทุกเซกเมนต์ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสถาปนิกภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสร้างสรรค์แบบบ้านที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ต้องตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้อยู่อาศัยในยุค 2025-2026 อย่างแท้จริง แนวคิดสำคัญคือ:
พื้นที่อเนกประสงค์ (Multi-functional Space): การออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศ สตูดิโอส่วนตัว หรือพื้นที่สันทนาการได้ตามความต้องการ รองรับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work)
บ้านเพื่อสุขภาพและความยั่งยืน (Health & Sustainable Home): เน้นการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน (Green Building) เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ระบบระบายอากาศอัจฉริยะ การเลือกใช้วัสดุที่ลดความร้อนภายในบ้าน รวมถึงการออกแบบที่คำนึงถึงแสงธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย
Smart Home Technology: ผสานเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ (Smart Home Thailand) เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย เช่น ระบบควบคุมไฟ แอร์ และประตูผ่านแอปพลิเคชัน ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ และการเตรียมโครงสร้างสำหรับอนาคตที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
รองรับสังคมสูงวัย (Aging Society): การออกแบบที่คำนึงถึงผู้สูงอายุ (Elderly-friendly Design) เช่น ทางลาดเข้า-ออก ห้องน้ำที่กว้างขวางและมีราวจับ พื้นที่ไม่ลื่น และห้องนอนชั้นล่างที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย
ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างอย่างเข้มข้น: ไม่ใช่แค่การสร้างให้เสร็จ แต่ต้องสร้างให้ได้มาตรฐานสูงสุด บริษัทพัฒนากระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้น ตั้งแต่การเลือกสรรวัสดุคุณภาพสูง การควบคุมงานโครงสร้าง ไปจนถึงงานตกแต่งและเก็บรายละเอียด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า แต่ยังช่วยลดต้นทุนการซ่อมแซมในระยะยาว
ปรับปรุงโครงการเดิมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: นอกจากโครงการใหม่แล้ว พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังเล็งเห็นความสำคัญของการปรับปรุงและพัฒนาโครงการที่มีอยู่ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดปัจจุบัน (Retrofit) ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับพอร์ตโฟลิโอโดยรวม
เสาหลักที่ 2: พลิกโฉมสโมสรสู่ “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์” (Health & Lifestyle Club)
ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพมากขึ้น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้ริเริ่มแนวคิดสุดล้ำด้วยการปรับปรุงสโมสร 25 แห่งภายในโครงการต่าง ๆ ให้เป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์” เต็มรูปแบบ นี่คือการสร้างมูลค่าเพิ่มที่เหนือกว่าแค่สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน:
มากกว่าแค่ฟิตเนส: สโมสรจะถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่ห้องออกกำลังกาย แต่จะรวมถึงพื้นที่โยคะ พิลาทิส สระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ ห้องซาวน่าและสตรีม รวมถึงบริการที่ปรึกษาด้านสุขภาพเบื้องต้นหรือกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเป็นประจำ
พื้นที่ทำงานและสังสรรค์: นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว ยังรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานและการเข้าสังคม ด้วย Co-working Space ที่ทันสมัย, Meeting Room, และพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมชุมชน เพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล ทั้งการทำงาน พักผ่อน และเชื่อมสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน
ความสะดวกสบายและบริการแบบครบวงจร: อาจรวมถึงร้านกาแฟเพื่อสุขภาพ ร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก บริการซักรีด หรือแม้กระทั่งจุดรับ-ส่งพัสดุ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของสมาชิกโครงการ
สร้างจุดเด่นและมูลค่าเพิ่ม: ในตลาดที่โครงการที่อยู่อาศัยมีจำนวนมาก การมี Health & Lifestyle Club ที่โดดเด่นและครบวงจร จะเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดผู้ซื้อ และสร้างความแตกต่างที่ยั่งยืนให้กับโครงการ ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
เสาหลักที่ 3: สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) 30% ใน 3 ปี เพื่อความมั่นคงระยะยาว
หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดและแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค คือการปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับขึ้น และมุ่งเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) จากธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยตั้งเป้าให้สัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ระดับไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2571 นี่คือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจท่ามกลางความผันผวนของตลาด:
กระจายความเสี่ยง: การพึ่งพารายได้จากการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงเมื่อตลาดขาลง การมีรายได้ประจำจะช่วยลดผลกระทบจากวัฏจักรของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้กระแสเงินสดของบริษัทมีความสม่ำเสมอและมั่นคงยิ่งขึ้น
แหล่งรายได้ที่มีศักยภาพ: บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจรวมถึง:
ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทโรงแรม หรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ซึ่งมีรายได้จากการดำเนินงานและการเช่าพักที่สม่ำเสมอ
พื้นที่ค้าปลีกและเชิงพาณิชย์: การพัฒนาหรือบริหารจัดการพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็ก (Community Mall) หรือพื้นที่สำนักงานให้เช่า ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ค่าเช่าอสังหาที่มั่นคง
ธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์: เช่น การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) การให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์
โลจิสติกส์และคลังสินค้า: ธุรกิจที่เติบโตตามเทรนด์ E-commerce และต้องการพื้นที่เก็บและกระจายสินค้า
เพิ่มรายได้จากบริษัทร่วมทุน: การขยายโอกาสและเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งเป็นช่องทางในการเข้าถึงธุรกิจใหม่ๆ หรือขยายตลาดโดยไม่ต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดเอง
การลงทุนอสังหาฯ ผลตอบแทนสูง: การแสวงหาโครงการหรือสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่สม่ำเสมอและน่าดึงดูดใจ เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
คุณศานิตย้ำว่า “การสร้างรายได้ประจำคือหัวใจของการเสริมภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจ เรากำลังมองหาโอกาสลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นความมั่นคงทางการเงินและศักยภาพในการขยายธุรกิจในหลากหลายมิติ ไม่ใช่แค่การสร้างยอดขายในระยะสั้น
สรุปและบทสรุป
ปี 2568-2569 คือช่วงเวลาแห่งการปรับตัวและพิสูจน์ความแข็งแกร่งของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองที่รุมเร้า พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ด้วยการวางแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและครอบคลุม ทั้งการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือระดับผ่าน Health & Lifestyle Club และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างฐานรายได้ประจำเพื่อความมั่นคงในระยะยาว
กลยุทธ์เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบัน แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ทำให้พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นผู้สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตและนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่เข้าใจถึงพลวัตของตลาดอย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะนำพาลูกค้าและนักลงทุนไปสู่โอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางความท้าทาย
มองหาบ้านที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ หรือโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มั่นคง?
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ขอเชิญคุณมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า พร้อมค้นพบโอกาสการลงทุนในโครงการคุณภาพ ที่ผสานนวัตกรรม การออกแบบ และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม หรือโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่มาพร้อม Health & Lifestyle Club สุดทันสมัยของเรา ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตอสังหาริมทรัพย์ไทยกับเรา เพราะเราเชื่อมั่นว่าทุกการลงทุนคือการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน เยี่ยมชมโครงการของเรา หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้ เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2569 และอนาคต.

