พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค พลิกเกมอสังหาริมทรัพย์: สร้างภูมิคุ้มกัน มุ่งเป้าหมื่นล้านบาท สู่การเติบโตยั่งยืนปี 2569
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีประสบการณ์มานานกว่าทศวรรษ ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ตลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงปลายปี 2568 นี้ นับเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่เข้มข้นที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการ การปะทะกันของปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้การตัดสินใจซื้อและการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ไทย ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางมรสุมลูกนี้ ผมสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ที่ไม่เพียงแต่ปรับตัว แต่กำลังวางแผน “พลิกเกม” อย่างมีกลยุทธ์ เพื่อไม่เพียงแค่ประคองตัว แต่ยังมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย ยอดขายอสังหาฯ ที่ 11,000 ล้านบาทในปี 2569 และสร้างฐานรายได้ประจำที่แข็งแกร่งถึง 30% ภายในปี 2571 ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและความเข้าใจในพลวัตของตลาดอย่างลึกซึ้ง
สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568-2569: มรสุมที่ต้องเผชิญ
ปัจจุบัน (พฤศจิกายน 2568) ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2568 กำลังเผชิญกับสภาพที่เรียกได้ว่า “อุปทานและอุปสงค์ลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี” นี่ไม่ใช่เพียงตัวเลขทางสถิติ แต่เป็นภาพสะท้อนของความเป็นจริงที่ยากลำบาก:
แรงกดดันจากเศรษฐกิจ:
อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ย: แม้จะเริ่มมีสัญญาณทรงตัว แต่ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงยังคงเป็นตัวฉุดรั้ง กำลังซื้อของผู้บริโภค หลายคนต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความสามารถในการกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยก็ลดลงตามไปด้วย
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว: เศรษฐกิจไทย ยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป การส่งออกที่เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลก และการลงทุนภายในประเทศที่ยังไม่คึกคัก ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดแรงงานและรายได้
การชะลอการตัดสินใจซื้อ: ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกที่จะ “ชะลอการตัดสินใจซื้อ” บ้านหรือคอนโดออกไปก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงทางการงาน หรือทิศทางของอัตราดอกเบี้ยและนโยบายสินเชื่อ
ความผันผวนทางการเมือง:
การเปลี่ยนผ่านผู้นำและความไม่ชัดเจนของนโยบาย: ในช่วงที่ผ่านมา การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองได้ส่งผลให้ นโยบายเศรษฐกิจ ขาดความต่อเนื่องและความชัดเจน ทำให้ ความเชื่อมั่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในหมู่นักลงทุนไทยและ นักลงทุนต่างชาติ ที่ชะลอการ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรอความมั่นคงและทิศทางที่ชัดเจนจากภาครัฐ
ผลกระทบต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนโครงการ โครงสร้างพื้นฐาน ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ใหม่ๆ
ผลกระทบที่เห็นได้ชัดคือ จำนวนโครงการเปิดใหม่ในปี 2568 ที่คาดว่าจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 30,000 หน่วย ขณะที่ความต้องการซื้อที่แท้จริงอาจอยู่ที่ราว 46,000 หน่วย ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะตลาดที่ยังคงหดตัว และความท้าทายในการระบายอุปทานที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความท้าทายนี้ ยังมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง และสามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างชาญฉลาด
กลยุทธ์ “พลิกเกม” ของ Property Perfect สู่เป้าหมายหมื่นล้านบาทในปี 2569
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในฐานะบริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ตระหนักดีถึงสภาพตลาดและเลือกที่จะไม่เพียงแค่ตั้งรับ แต่ใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมาย ยอดขายอสังหาฯ ที่ 11,000 ล้านบาทในปี 2569 ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 9,000 ล้านบาท และจากโครงการ คอนโดมิเนียม ของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีก 2,000 ล้านบาท เป้าหมายนี้ไม่ใช่การมองโลกในแง่ดีอย่างไร้เหตุผล แต่มาจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่รอบคอบ โดยมีเสาหลักสำคัญ 3 ประการ:
เสาหลักที่ 1: การยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพ – ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในอนาคต
หัวใจสำคัญของการแข่งขันในตลาดปัจจุบันคือ “คุณภาพ” และ “ความเข้าใจผู้บริโภค” พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดี และกำลังลงทุนอย่างมหาศาลในการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ก้าวล้ำหน้าด้วยกลยุทธ์ดังต่อไปนี้:
นวัตกรรมการออกแบบบ้านยุคใหม่ (Innovation in Home Design):
แบบบ้านรุ่นใหม่ในทุกเซกเมนต์: บริษัทเตรียมเปิดตัว แบบบ้านรุ่นใหม่ ทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และ ทาวน์โฮม ซึ่งไม่ได้แค่สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้คนในปี 2569-2570 และในอนาคต เช่น การออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่น (Flexible Spaces) ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศ สตูดิโอส่วนตัว หรือห้องกิจกรรมสำหรับครอบครัว
การขยายฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอย: ด้วยการที่ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 ความต้องการพื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้น ฟังก์ชันที่หลากหลาย และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติจึงเป็นสิ่งจำเป็น บ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดพลังงาน ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยม
ความร่วมมือกับสถาปนิกชั้นนำ: การผนึกกำลังระหว่างทีมสถาปนิกภายในและภายนอกองค์กร ช่วยให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย การนำเทรนด์สากลมาประยุกต์ใช้ และการสร้างสรรค์ สถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ บ้านเดี่ยวพรีเมี่ยม หรือ คอนโดมิเนียมหรู ที่ใส่ใจในรายละเอียด
การควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างที่เข้มข้น (Rigorous Construction Quality Control):
มาตรฐานที่สูงขึ้น: ในยุคที่ผู้บริโภคมีความรู้และตื่นตัวมากขึ้น เรื่องคุณภาพงานก่อสร้างเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการตรวจสอบที่ได้มาตรฐานสากล ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ไปจนถึงการติดตั้งและเก็บงานอย่างประณีต
การนำเทคโนโลยีมาใช้: การประยุกต์ใช้ PropTech (Property Technology) ในกระบวนการก่อสร้าง เช่น การใช้โดรนในการสำรวจหน้างาน, ซอฟต์แวร์บริหารจัดการโครงการแบบเรียลไทม์ หรือการใช้ Building Information Modeling (BIM) เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ก็เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับคุณภาพ
การปรับปรุงโครงการที่มีอยู่: นอกจากโครงการใหม่แล้ว การปรับปรุงและยกระดับโครงการเดิมให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การปรับปรุงภูมิทัศน์, การติดตั้ง Smart Home Features เพิ่มเติม หรือการอัปเกรดพื้นที่ส่วนกลางให้ทันสมัย
เสาหลักที่ 2: พลิกโฉมพื้นที่ส่วนกลาง: Health & Lifestyle Club มิติใหม่ของการใช้ชีวิต
การแข่งขันในตลาด อสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวบ้านหรือคอนโดอีกต่อไป แต่ย้ายมาสู่ “ประสบการณ์” การอยู่อาศัยโดยรวม พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กำลังสร้างความแตกต่างที่สำคัญด้วยการปรับปรุง สโมสรโครงการ รวม 25 แห่ง ให้กลายเป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ (Health & Lifestyle Club)” อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2569 นี่คือแนวคิดที่ก้าวล้ำเพื่อตอบสนองความต้องการด้าน สุขภาพและไลฟ์สไตล์ ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้อยู่อาศัย:
มากกว่าแค่ฟิตเนส: Health & Lifestyle Club จะเป็นมากกว่าห้องออกกำลังกาย แต่จะเป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นห้องโยคะ, สตูดิโอพิลาทิส, สระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ, สปา, โซนทำสมาธิ หรือแม้แต่พื้นที่สำหรับเวิร์คช็อปด้านสุขภาพและการทำอาหาร
พื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว: การออกแบบจะคำนึงถึงทุกช่วงวัย ตั้งแต่พื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็ก, Co-Working Space สำหรับผู้ใหญ่ที่ทำงานจากบ้าน, ไปจนถึงโซนพักผ่อนสำหรับผู้สูงอายุ และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เอื้อต่อการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร: อาจรวมถึงการจับมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ เพื่อให้บริการ Telemedicine, การตรวจสุขภาพเบื้องต้น, หรือแม้กระทั่งการจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่จับต้องได้และตอบโจทย์เทรนด์ อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ ที่กำลังเติบโต
การสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง: พื้นที่ส่วนกลางเหล่านี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการรวมตัว แลกเปลี่ยน และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้าน ก่อให้เกิดสังคมที่น่าอยู่และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อและเพิ่มความภักดีของลูกค้า
เสาหลักที่ 3: สร้างภูมิคุ้มกันด้วยรายได้ประจำ: ก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ในฐานะนักลงทุน ผมมองว่ากลยุทธ์ที่โดดเด่นที่สุดของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค คือการมุ่งเป้าสร้าง รายได้ประจำ (Recurring Income) ให้ได้ถึง 30% ภายในปี 2571 ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจในยุคที่ตลาดมีความผันผวนสูง การพึ่งพารายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแต่เพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ การมีรายได้ประจำจะช่วย:
กระจายความเสี่ยง (Risk Diversification): ลดการพึ่งพารายได้หลักจากการขายโครงการ ซึ่งมักจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ผันผวน
สร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ: รายได้ประจำจะช่วยให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่มั่นคง ทำให้สามารถลงทุนในโครงการใหม่ๆ หรือรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ดีขึ้น
เพิ่มมูลค่าระยะยาว: ธุรกิจที่มีรายได้ประจำมักจะมีมูลค่าในระยะยาวที่สูงกว่า และมีความน่าสนใจสำหรับ นักลงทุน มากกว่า
โอกาสในการลงทุนใหม่ๆ: บริษัทกำลังมองหาโอกาส ลงทุนอสังหาฯ ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ เช่น:
โรงแรมและรีสอร์ท: ด้วยบริษัทในเครืออย่าง แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว การขยายพอร์ตในส่วนนี้เพื่อรับการฟื้นตัวของ การท่องเที่ยวไทย ย่อมเป็นไปได้
อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า: เช่น เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, สำนักงานให้เช่า, หรือ พื้นที่ค้าปลีก ในทำเลศักยภาพสูง โดยเฉพาะใน ทำเลทอง ที่มีอัตราผลตอบแทน (Yield) น่าสนใจ
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์และสุขภาพ: เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ, สถานพยาบาลขนาดเล็ก, หรือแม้กระทั่งการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนภายในโครงการ
การเพิ่มรายได้จากบริษัทร่วมทุน: การทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยขยายขอบเขตธุรกิจและสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับและคล่องตัวมากขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อม เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายได้อย่างรวดเร็ว
เจาะลึกการใช้ Data-Driven และ PropTech: หัวใจของความแม่นยำ
เบื้องหลังความสำเร็จของกลยุทธ์เหล่านี้คือการประยุกต์ใช้ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) และเทคโนโลยี PropTech ไทย อย่างจริงจัง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ไม่ได้พึ่งพาสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว แต่ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อ:
ทำความเข้าใจตลาดเชิงลึก: วิเคราะห์แนวโน้มประชากร, พฤติกรรมผู้บริโภค, ความต้องการของแต่ละเซกเมนต์, และคู่แข่ง เพื่อให้การ พัฒนาสินค้าตอบโจทย์ตลาดได้แม่นยำขึ้น และสามารถกำหนด กลยุทธ์การขาย และการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน: ตั้งแต่การเลือกที่ดิน, การออกแบบ, การก่อสร้าง, ไปจนถึงการขายและการบริการหลังการขาย ข้อมูลช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น ลดความสูญเปล่า และเพิ่มผลกำไร
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ: การใช้ข้อมูลจากการสำรวจลูกค้า, ฟีดแบ็กจากโครงการที่ผ่านมา, และเทรนด์โลก ช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา บ้านอัจฉริยะ หรือบริการใหม่ๆ เช่น Health & Lifestyle Club ได้ตรงตามความต้องการที่แท้จริง
การนำ PropTech มาใช้ เช่น AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด, VR/AR สำหรับการนำเสนอโครงการ, IoT สำหรับบ้านอัจฉริยะ, หรือแพลตฟอร์มบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ล้วนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค สามารถดำเนินการตามกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยหลังปี 2568: แสงสว่างปลายอุโมงค์?
แม้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2568 จะยังคงเผชิญความท้าทาย แต่ผมมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก รัฐบาลใหม่ ที่เข้ามาบริหารประเทศหลัง การเลือกตั้ง สามารถสร้างความเชื่อมั่นและมีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็งจริงจัง
นโยบายที่ชัดเจน: หากรัฐบาลสามารถนำเสนอนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่อง ทั้งในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, และการส่งเสริมการลงทุนจาก นักลงทุนต่างชาติ ก็จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นได้อย่างรวดเร็ว
การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว: ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญของ เศรษฐกิจไทย กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การกลับมาของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง จะช่วยกระตุ้นความต้องการ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ในพื้นที่ท่องเที่ยว และธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์
กำลังซื้อที่รอคอย: แม้ผู้บริโภคจะชะลอการตัดสินใจ แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ หากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน กำลังซื้อที่อั้นไว้ก็จะกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง
ดังนั้น ผู้ประกอบการที่เตรียมพร้อมด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์อย่างพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จึงมีโอกาสที่จะคว้าส่วนแบ่งตลาดและเติบโตได้อย่างโดดเด่นในระยะต่อไป
บทสรุปและคำเชิญชวน
บทเรียนจากปี 2568-2569 ย้ำให้เห็นว่าในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปรับตัวและสร้างนวัตกรรมคือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโต พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ไม่ได้เพียงแค่มองหาโอกาส แต่กำลังสร้างโอกาสด้วยตัวเอง ผ่านการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์, การสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบองค์รวมด้วย Health & Lifestyle Club และการสร้างรากฐานที่มั่นคงด้วยกลยุทธ์ รายได้ประจำ
นี่คือโมเดลธุรกิจที่ผมเชื่อมั่นว่าจะนำพาบริษัทให้ก้าวผ่านความท้าทาย และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวสู่ ตลาดอสังหาฯ 2569 และปีต่อๆ ไป หากคุณกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจในคุณภาพชีวิต, การลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่มีศักยภาพ, หรือโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์อนาคต พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค คือทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยแห่งอนาคต และเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จกับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วันนี้!

