พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค พลิกโฉมรับศักราช 2026: ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ สู่เป้ายอดหมื่นล้านและรายได้ยั่งยืน
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของตลาดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่สถานการณ์จะท้าทายเท่าช่วงปี 2024-2025 ที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคและการเมืองภายในประเทศที่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทั้งอุปทานและอุปสงค์ในตลาด อสังหาริมทรัพย์ไทย โดยตรง ณ วันนี้ (พฤศจิกายน 2025) เรายังคงเห็นภาพของกำลังซื้อที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง และการลงทุนที่ยังคงติดอยู่ในภาวะความไม่แน่นอน สถานการณ์ที่กล่าวมานี้นับเป็นช่วงเวลาที่ตลาด อสังหาฯ ชะลอตัวที่สุดในรอบ 20 ปี และคาดการณ์ว่าจำนวนโครงการเปิดใหม่ในปี 2025 อาจมีเพียง 30,000 หน่วย ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ประมาณ 46,000 หน่วยเท่านั้น ซึ่งสะท้อนถึงช่องว่างที่เกิดจากข้อจำกัดด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยแท้
ท่ามกลางกระแสความผันผวนนี้ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีประสบการณ์ยาวนาน ได้ประกาศกลยุทธ์เชิงรุกครั้งสำคัญเพื่อ “พลิกเกม” และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้ายอดขายรวม 11,000 ล้านบาทในปี 2026 และมุ่งสร้างสัดส่วน รายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แตะระดับ 30% ภายในปี 2028 ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญและน่าจับตามองอย่างยิ่งในสภาวะตลาดปัจจุบัน
วิเคราะห์สถานการณ์: เศรษฐกิจและการเมือง มรสุมใหญ่ของตลาดอสังหาฯ ปี 2025
ปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2025 มีอยู่สองประการหลักที่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน นั่นคือ “เศรษฐกิจ” และ “การเมือง”
ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่: แม้จะมีความพยายามจากภาครัฐ แต่เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูง หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับน่ากังวล และอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่ปรับลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ กำลังซื้อ ของผู้บริโภคลดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้คนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตัดสินใจ ลงทุนอสังหา หรือซื้อที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าสูง การเข้าถึง สินเชื่อบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ยากขึ้นสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม เนื่องจากสถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณา
ความไม่ชัดเจนทางการเมือง: การเปลี่ยนผ่านผู้นำและการจัดตั้งรัฐบาลผสมในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีความคืบหน้า แต่ก็ยังคงสร้างความคลุมเครือในเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องและมีทิศทางที่ชัดเจน ความไม่แน่นอนทางการเมืองนี้ส่งผลกระทบต่อ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศโดยตรง ทำให้หลายรายชะลอการตัดสินใจ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ออกไป โดยเฉพาะในกลุ่ม คอนโดมิเนียมหรู หรือโครงการขนาดใหญ่ การที่รัฐบาลใหม่จะสามารถสร้างทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและนำเสนอนโยบายที่เรียกคืนความเชื่อมั่นได้ จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ ตลาดฟื้นตัว ได้ในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ไม่ได้เลือกที่จะหยุดนิ่ง แต่กลับใช้ประสบการณ์อันยาวนานและความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้งในการปรับกลยุทธ์ สร้างโอกาสจากวิกฤต และก้าวไปข้างหน้าอย่างมีวิสัยทัศน์
กลยุทธ์พลิกเกมของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: สู่เป้าหมาย 11,000 ล้านบาทในปี 2026
คุณศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ฉายภาพกลยุทธ์หลักสำหรับปี 2026 ว่า พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าธุรกิจด้วยความระมัดระวัง พร้อมกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 11,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำนวน 9,000 ล้านบาท และจากโครงการ คอนโดมิเนียม ของบริษัทในเครืออย่าง แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ อีก 2,000 ล้านบาท
การตั้งเป้าหมายนี้ในสภาวะที่ตลาดยังคงหดตัว แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของบริษัท ซึ่งมาจากสามเสาหลักสำคัญ:
ยกระดับคุณภาพและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์: การตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความต้องการของผู้บริโภคย่อมไม่หยุดนิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ จึงมุ่งเน้นการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ก้าวล้ำหน้า โดยมีแผนจะเปิดตัว แบบบ้านใหม่ ในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยหัวใจสำคัญของการพัฒนาคือ
การออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่: ทีมสถาปนิกทั้งภายในและภายนอกองค์กรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับรูปแบบบ้านและฟังก์ชันภายในให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น พื้นที่ทำงานที่บ้าน (Work-from-Home Space), พื้นที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการของครอบครัว, และพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับ แนวโน้มอสังหา 2025 ที่เน้นฟังก์ชันการใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่นและครบวงจร
ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างอย่างเข้มข้น: ในฐานะบริษัทที่มีประสบการณ์ การรักษามาตรฐาน คุณภาพงานก่อสร้าง เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้พัฒนากระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดและมีมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกยูนิตที่ส่งมอบมีคุณภาพสูงสุด ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการขาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มี มูลค่าเพิ่ม อย่างมหาศาลในตลาดที่แข่งขันสูง
นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน: ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามและฟังก์ชัน แต่ยังรวมถึงการนำเทคโนโลยีและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อให้ ที่อยู่อาศัย ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ไม่ใช่แค่บ้าน แต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง อสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน ที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก
สร้างสรรค์ประสบการณ์ “Health & Lifestyle Club”: ยกระดับคุณภาพชีวิตในโครงการ
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่โดดเด่นและน่าสนใจคือ แผนการปรับปรุง สโมสร ภายในโครงการรวม 25 แห่ง ให้กลายเป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์” หรือ Health & Lifestyle Club เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงพื้นที่ แต่เป็นการสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ของพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความสะดวกสบายแบบครบวงจร
ตอบรับเทรนด์ Well-being: หลังจากวิกฤตโรคระบาด ผู้บริโภคมีความตระหนักเรื่องสุขภาพกายและใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ การมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีภายในโครงการจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ อสังหาเพื่อสุขภาพ จึงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรง
เพิ่มมูลค่าและสร้างความแตกต่าง: การปรับปรุงนี้จะช่วยเพิ่ม มูลค่าเพิ่ม ให้กับโครงการอย่างมหาศาล และเป็นจุดแข็งที่ช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ท่ามกลางโครงการ บ้านเดี่ยว และ คอนโดมิเนียม มากมายในตลาด
ส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบองค์รวม: Health & Lifestyle Club จะเป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ฟิตเนส โยคะ สระว่ายน้ำ ไปจนถึงพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง สวนพักผ่อน ห้องสมุด หรือแม้กระทั่ง Co-working Space ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสร้างความผูกพันภายใน ชุมชน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ Diversification: สร้างฐานรายได้ประจำ 30% ใน 3 ปี
หนึ่งในวิสัยทัศน์ที่แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งในการบริหารความเสี่ยงและสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรคือ การมุ่งเน้นสร้างสัดส่วน รายได้ประจำ (Recurring Income) ให้ได้ไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2028 ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพิงรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแต่เพียงอย่างเดียว
การบริหารความเสี่ยงอสังหา: ตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นวัฏจักร มีขึ้นมีลง การมี รายได้ประจำ ที่สม่ำเสมอจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับบริษัท ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงแม้ในยามที่ตลาดชะลอตัว
การปรับโครงสร้างองค์กรและร่วมทุน: บริษัทกำลังปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับและคล่องตัวมากขึ้น พร้อมกับมองหาโอกาสในการ ลงทุนระยะยาว ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ การเพิ่มรายได้จากบริษัทร่วมทุนก็เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์นี้
ขยายโอกาสในธุรกิจที่มีศักยภาพ: ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือบทบาทของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ในฐานะบริษัทในเครือ ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรมและการบริการ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและสอดคล้องกับการฟื้นตัวของ ธุรกิจโรงแรม และการท่องเที่ยว การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเช่น การบริหารอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า พื้นที่สำนักงาน หรือแม้กระทั่งธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ (Senior Living) ก็เป็นอีกแนวทางที่น่าจับตา
แกรนด์ แอสเสท: จุดแข็งสำคัญในการสร้างรายได้ที่มั่นคง
บทบาทของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ที่คาดว่าจะสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาทในปี 2026 นั้น ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงนี้ ในสภาวะที่การท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ธุรกิจโรงแรมและที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรีมีโอกาสเติบโตสูง โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้การพัฒนาของแกรนด์ แอสเสทฯ มักจะเป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูง และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและมองหาการลงทุนอสังหาที่มีคุณภาพ ทำให้สามารถสร้างยอดขายและรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มบริษัทได้
ก้าวต่อไปของตลาดอสังหาฯ และพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค
การดำเนินงานของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในปี 2026 และแผนระยะยาวถึงปี 2028 นี้ เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในวงการ อสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางความท้าทาย บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ด้วยการใช้ กลยุทธ์ธุรกิจ ที่ผสมผสานระหว่างการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์หลัก การสร้างความแตกต่างด้วยประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ และการสร้างเสถียรภาพทางการเงินผ่าน รายได้ประจำ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะทำให้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนเมื่อ เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวเต็มที่ และนโยบายของ รัฐบาลใหม่ มีความชัดเจนและส่งเสริมการลงทุนมากขึ้นในอนาคต
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา ที่อยู่อาศัย หรือโอกาสในการ ลงทุนอสังหา ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ การพิจารณาผู้พัฒนาที่มีประสบการณ์ มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน และมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่อยู่อาศัย และ อสังหาเพื่อสุขภาพ อย่างพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
อย่ารอช้า! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และค้นพบสุดยอดการลงทุนเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบกับโครงการคุณภาพจากพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วันนี้!
