พลิกเกมอสังหาฯ ไทย 2025: กลยุทธ์ฝ่าวิกฤต สร้างยอดขายหมื่นล้าน และปั้นรายได้ประจำ 30% สู่ยุคใหม่แห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าปี 2025 ถือเป็นห้วงเวลาที่ตลาดต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นมรสุมทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง นโยบายการเมืองที่ขาดความชัดเจนต่อเนื่อง และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวอย่างเห็นได้ชัด ปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งอุปทานและอุปสงค์ของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2025 ให้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องเร่งปรับตัวและกำหนดกลยุทธ์ใหม่เพื่อความอยู่รอดและการเติบโตในระยะยาว
ภูมิทัศน์อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2025 – มรสุมและความท้าทาย
ภาพรวมของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2025 สะท้อนถึงภาวะที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ตัวเลขโครงการเปิดใหม่ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 30,000 หน่วย เทียบกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ประมาณ 46,000 หน่วย ชี้ให้เห็นถึงความระมัดระวังในการลงทุนของผู้ประกอบการ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอลงอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอยู่อาศัยเอง หรือเพื่อ ลงทุนอสังหา เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง
ประเด็นสำคัญที่นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในวงการต่างให้ความสำคัญคือ “ปัจจัยฉุดรั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง” การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดสุญญากาศทางนโยบายเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทั้งจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและนักลงทุนชาวต่างชาติลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้หลายคนต้องรัดเข็มขัดและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะลงนามในสัญญาใดๆ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่สดใสนัก ก็ยังมีความหวัง หากหลังจากการเลือกตั้งครั้งถัดไป ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ สามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนได้ ประกอบกับมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน นั่นจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อ แนวโน้มอสังหา ในภาพรวม
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: บทพิสูจน์ประสบการณ์และความแกร่งท่ามกลางวิกฤต
ในขณะที่หลายบริษัทเลือกที่จะลดขนาดการลงทุนหรือชะลอโครงการใหม่ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กลับแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและประสบการณ์อันยาวนานในการฝ่าฟันวิกฤต ด้วยการประกาศ พลิกเกมอสังหาฯ และตั้งเป้ายอดขายที่ 11,000 ล้านบาทในปี 2569 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ดูทะเยอทะยานในสภาวะตลาดเช่นนี้ แต่หากพิจารณาจากประสบการณ์และความเข้าใจในตลาดที่ลึกซึ้งของบริษัท จะพบว่าเป้าหมายนี้มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจ โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเอง 9,000 ล้านบาท และจากโครงการคอนโดมิเนียมของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีก 2,000 ล้านบาท
ปรัชญาสำคัญที่ขับเคลื่อนพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคในปัจจุบันคือการใช้ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) เพื่อทำความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ การตัดสินใจที่อิงข้อมูลเชิงประจักษ์ทำให้บริษัทสามารถ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การสร้างสิ่งที่คิดว่าจะขายได้ แต่เป็นการสร้างสิ่งที่ลูกคามองหาอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว
แกะกลยุทธ์ 3 ขา: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคได้วางกลยุทธ์เชิงรุกที่สำคัญ 3 ด้าน โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญจากการเผชิญหน้ากับความผันผวนของ ตลาดอสังหา 2025
ขาที่ 1: การยกระดับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อชีวิตยุคใหม่
หัวใจสำคัญของการแข่งขันในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่ซับซ้อนขึ้นคือ “ผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า” พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคตระหนักดีในข้อนี้ จึงมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพงานก่อสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเตรียมเปิดตัว แบบบ้านรุ่นใหม่ ในทุกเซกเมนต์ ทั้ง บ้านเดี่ยวหรู บ้านแฝด และทาวน์โฮม การออกแบบเหล่านี้ไม่ใช่แค่การปรับโฉมภายนอก แต่เป็นการคิดค้นร่วมกันระหว่างทีมสถาปนิกภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมที่ตอบสนองวิถีชีวิตแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
การออกแบบที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตแห่งอนาคต: ในปี 2025 วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมากจากช่วงก่อนหน้า มีความต้องการพื้นที่ที่ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) การเรียนออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการดูแลสุขภาพในที่พักอาศัยเอง โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ จึงต้องคำนึงถึงฟังก์ชันเหล่านี้ เช่น ห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้ ห้องทำงานส่วนตัวที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือแม้กระทั่งพื้นที่สำหรับออกกำลังกายส่วนตัว
ฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่นและใหญ่ขึ้น: นอกจากนี้ การปรับรูปแบบบ้านและฟังก์ชันภายในให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่ใช่แค่การเพิ่มขนาดห้อง แต่เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของครอบครัวยุคใหม่ที่อาจมีสมาชิกหลายเจนเนอเรชั่นอาศัยอยู่ร่วมกัน หรือต้องการพื้นที่สำหรับงานอดิเรกต่างๆ เช่น ห้องดูหนัง ห้องเล่นเกม หรือพื้นที่จัดเก็บของที่มากขึ้น การสร้าง สมาร์ทโฮม ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ระบบควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ และความปลอดภัยผ่านแอปพลิเคชัน จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ซื้อได้
มาตรฐานคุณภาพการก่อสร้างที่ไม่ประนีประนอม: คุณภาพการก่อสร้างเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ในยุคที่ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคจึงพัฒนากระบวนการตรวจสอบให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างอย่างเข้มข้นในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุไปจนถึงการส่งมอบบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกยูนิตมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานและสามารถแข่งขันได้ในตลาด ท่ามกลางเทรนด์ Eco Living และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทก็กำลังศึกษาและนำมาปรับใช้เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน
ขาที่ 2: สโมสร Health & Lifestyle Hub – Redefining พื้นที่ส่วนกลาง
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่โดดเด่นและสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญคือการพลิกโฉมสโมสรภายในโครงการ 25 แห่งให้กลายเป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์” (Health & Lifestyle Club) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของสโมสรแบบดั้งเดิมที่มักจะมีเพียงสระว่ายน้ำและฟิตเนสธรรมดาๆ
จากสโมสรธรรมดา สู่ศูนย์กลางสุขภาพองค์รวม: ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกายและใจมากขึ้น การมีพื้นที่ส่วนกลางที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตแบบองค์รวมจึงเป็นสิ่งจำเป็น อสังหาเพื่อสุขภาพ จึงไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นความต้องการพื้นฐาน พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเล็งเห็นถึงโอกาสนี้ และกำลังสร้าง Wellness Real Estate ในรูปแบบของคลับเฮาส์ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ครบครัน โซนโยคะหรือพิลาทิส สระว่ายน้ำระบบบำบัดน้ำเกลือ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง พื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ห้องสมุด หรือแม้กระทั่ง Co-working Space สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานใกล้บ้าน
บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือกว่า: สิ่งที่พิเศษคือการนำบริการด้านสุขภาพเข้ามาเสริม เช่น คลินิกสุขภาพขนาดเล็กที่ให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น บริการนวดผ่อนคลาย หรือโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมชุมชน เช่น ชั้นเรียนทำอาหาร เวิร์กช็อปงานฝีมือ หรือกิจกรรมสำหรับเด็ก เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีภายใน ชุมชนอสังหา การสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ครบวงจรเช่นนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้านเท่านั้น แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ขาที่ 3: ปั้นรายได้ประจำ (Recurring Income) – เสริมภูมิคุ้มกันทางธุรกิจระยะยาว
นอกเหนือจากการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขาย ซึ่งเป็นรายได้หลักที่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคยังให้ความสำคัญกับการสร้างฐานรากที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับขึ้น และมุ่งเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่ไม่พึ่งพิงการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแต่เพียงอย่างเดียว โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ประจำให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2571
ความจำเป็นของการกระจายความเสี่ยง: การพึ่งพิงรายได้จากการขายโครงการเพียงอย่างเดียวทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงเมื่อตลาดผันผวน การสร้าง รายได้ประจำอสังหา เป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญจากการวิเคราะห์สถานการณ์ ตลาดอสังหา 2025
การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจที่สร้างกระแสรายได้สม่ำเสมอ: บริษัทกำลังวางแผน ลงทุนอสังหา ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจรวมถึง:
โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์: การขยายพอร์ตในธุรกิจบริการที่ตอบรับกับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและนักธุรกิจ
พื้นที่ค้าปลีกและออฟฟิศให้เช่า: การลงทุนในอาคารพาณิชย์ที่มีทำเลดีและมีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ เพื่อสร้าง Yield Property ที่มั่นคง
คลังสินค้าและโลจิสติกส์: การเติบโตของ E-commerce ทำให้ความต้องการคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ามีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ (Elderly Care): การเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทยสร้างโอกาสมหาศาลในธุรกิจนี้
ธุรกิจพลังงานทางเลือก หรือ Infrastructure: การขยายไปสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่อสังหาฯ โดยตรง แต่สร้างรายได้สม่ำเสมอและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
เป้าหมาย 30% ภายในปี 2571 และเส้นทางสู่ความยั่งยืน: การตั้งเป้าหมาย 30% ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจครั้งสำคัญ เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกสภาวะตลาด การมีรายได้ประจำที่แข็งแกร่งจะช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น ลดการพึ่งพิงเงินกู้ และมีเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว ถือเป็นการ ลงทุนที่ยั่งยืน และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจอย่างแท้จริง
ภาพรวมตลาดและโอกาสหลังปี 2025
แม้ปี 2025 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่เรายังคงเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ความคาดหวังต่อนโยบายภาครัฐชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในปีถัดไปเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากมีการออกนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็จะช่วยขับเคลื่อน ตลาดอสังหา กรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ บทบาทของนักลงทุนต่างชาติและการท่องเที่ยวก็เป็นปัจจัยสำคัญ การที่ประเทศไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติกลับมาได้ จะช่วยเพิ่มความต้องการ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง และวิลล่าหรูในแหล่งท่องเที่ยว การใช้ นวัตกรรมอสังหา และเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI และ Big Data ในการวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่ม จะเป็นกุญแจสำคัญในการเจาะตลาดเหล่านี้
การ วิเคราะห์ตลาดอสังหา อย่างต่อเนื่อง และการปรับตัวให้เข้ากับ แนวโน้มอสังหา ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการทุกคนที่ต้องการยืนหยัดในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่ยืดหยุ่น การสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า หรือการกระจายความเสี่ยงของแหล่งรายได้
สรุปและบทส่งท้าย: ก้าวต่อไปของอสังหาฯ ไทย
สถานการณ์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2025 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “การปรับตัว” คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโต พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการพลิกเกม ด้วยกลยุทธ์ที่รอบด้าน ทั้งการยกระดับผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์ประสบการณ์ผ่าน Health & Lifestyle Club และการสร้างรายได้ประจำ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันทางธุรกิจระยะยาว นี่คือแบบอย่างขององค์กรที่มองการณ์ไกล ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ ผมเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการที่เข้าใจถึงพลวัตของตลาด และกล้าที่จะปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จะเป็นผู้ที่สามารถคว้าโอกาสจากความท้าทายนี้ได้ การลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจสุขภาพ โครงการที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ คือทิศทางที่ถูกต้อง
หากคุณกำลังมองหา โอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือสนใจที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต ขอเชิญชวนให้ศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิดเหล่านี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตลาดกำลังเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และผู้ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้.
