• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2712147 กอกต ญญ ให แม นข าวก บเปล อกก (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 30, 2025
in Uncategorized
0
D2712147 กอกต ญญ ให แม นข าวก บเปล อกก (ละครส น) หน งส นด BSC part2

ผลกระทบสงครามอิสราเอลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย: มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ 10 ปี พร้อมกลยุทธ์รับมือปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นและสัมผัสกับความผันผวนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลก การแพร่ระบาดของโรค หรือความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ละครั้งล้วนทิ้งร่องรอยและบทเรียนอันมีค่าให้กับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ปะทุขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2566 ซึ่งไม่ใช่แค่ข่าวจากแดนไกล แต่ได้ส่งคลื่นกระแทกมาถึงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงผลกระทบในมิติต่าง ๆ พร้อมนำเสนอภาพรวมและกลยุทธ์สำคัญสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนในการรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ไปจนถึงปี 2568

คลื่นแห่งความไม่แน่นอน: ภาพรวมผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์โลก

สงครามอิสราเอล-ฮามาสได้เพิ่ม “ปัจจัยที่ไม่สามารถคาดเดาได้” (unknown factor) เข้ามาในสมการเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ไทย ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ปี 2563 เราได้เผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน และล่าสุดคือความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจและ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ในหลายมิติ

ในระยะสั้น ผลกระทบที่ชัดเจนคือภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับกำลังซื้อใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ความกังวลเกี่ยวกับการเดินทางได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีน ซึ่งเป็นตลาดหลัก รวมถึงนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางบางส่วน มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าประเทศไทยจะวางตัวเป็นกลางในเวทีโลก ซึ่งเป็นจุดแข็งและสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว แต่ในระยะสั้น ความผันผวนด้านการท่องเที่ยวก็สร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจที่พึ่งพิงกำลังซื้อจากต่างชาติ เช่น คอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในเมืองท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต

นอกจากนี้ ผลกระทบทางอ้อมที่สำคัญคือราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการดำเนินงานในทุกภาคส่วน รวมถึงภาคการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เส้นทางคมนาคมขนส่งหลักของโลกที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง ยิ่งตอกย้ำปัญหาซัพพลายเชนทั่วโลก ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้นโดยปริยาย ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการ อสังหาริมทรัพย์ไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่สุดจะสะท้อนไปที่ราคาขายอสังหาริมทรัพย์ในปีถัดไป

แรงกดดันทางการเงิน: สภาพคล่อง สินเชื่อ และหุ้นกู้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน “สภาพคล่อง” (liquidity) กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ไทย หากมองย้อนไปในวิกฤตการณ์ครั้งก่อนๆ สิ่งแรกที่สถาบันการเงินทำคือการระมัดระวังและเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพราะแนวโน้มวิกฤตมักไม่จบลงโดยง่ายและรวดเร็ว

จากประสบการณ์ 10 ปีของผม ผมเห็นว่าปัญหาความเชื่อมั่นและสภาพคล่องเป็นประเด็นที่ค้างคามาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ การไหลออกของเงินลงทุนจากประเทศไทยที่สูงกว่าการลงทุนภายในประเทศเป็นสัญญาณที่น่ากังวล ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการก่อสร้างโครงการ (pre-finance) ซึ่งแต่เดิมก็มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอยู่แล้ว สถานการณ์สงครามอิสราเอลได้เร่งให้ธนาคารเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ส่งผลให้การลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ต้องถูกเบรกหรือชะลอออกไปโดยอัตโนมัติ

อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามคือ “หุ้นกู้” (corporate bonds) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่ถึงกำหนดต้องโรลโอเวอร์หุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 4/2566 และต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/2567 ความผันผวนของตลาดทุนและความกังวลของนักลงทุนต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทำให้การระดมทุนผ่านหุ้นกู้มีความท้าทายมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและความต้องการหลักประกันที่เพิ่มขึ้นเป็นอุปสรรคสำคัญ การบริหารจัดการ “สภาพคล่อง” และการลดภาระหุ้นกู้จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ไทย ต้องให้ความสำคัญสูงสุดในช่วงนี้ ผมขอย้ำว่า “กำลังซื้อที่หายไป ไม่น่ากลัวเท่าสภาพคล่องที่หายไป” การรักษากระแสเงินสดสำรองให้แข็งแกร่งที่สุดคือหัวใจของการอยู่รอดในสภาวะตลาดเช่นนี้

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีฐานทุนแข็งแกร่งกว่าและมีช่องทางการระดมทุนที่หลากหลายกว่า อาจยังคงสามารถเดินหน้าตามแผนการลงทุนได้ แต่ก็ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับแผนหากความผันผวนยืดเยื้อหรือรุนแรงขึ้น การวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างละเอียดรอบคอบจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกขนาดธุรกิจ

กลยุทธ์ผู้ประกอบการ: ระบายสต็อก สร้างดีมานด์ และปรับแผนปี 2025

เมื่อเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็วเพื่อรักษายอดขายและสภาพคล่อง หนึ่งในกลยุทธ์ที่เห็นได้ชัดเจนคือการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นครั้งใหญ่เพื่อ “ระบายสต็อก” (inventory clearance) โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น “โอกาสทอง” ของผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย

ตัวอย่างเช่น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ต่างพากันจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายอย่างดุเดือด แสนสิริกับงาน “Museum of YOU” ที่นำเสนอคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบแบรนด์ล่าสุด พร้อมข้อเสนอ “การันตีราคาดีที่สุด” และสินเชื่อดอกเบี้ย 0% พฤกษาเรียลเอสเตทกับ “โปรแร๊งส์…ทะลุโลก” ที่ขนบ้านและคอนโดกว่า 107 โครงการมาพร้อมสิทธิลุ้นรถยนต์เทสลา ส่วนลดเงินสดสูงสุด 2 ล้านบาท และแพ็กเกจสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 1.99% ขณะที่ SC Asset ก็ฉลองครบรอบ 20 ปี ด้วยแคมเปญ “Enjoy Your Super Smiles” ที่นำเสนอโครงการคุณภาพสูงพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษอย่างฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 20 ปี

นอกจากกิจกรรมของแต่ละบริษัทแล้ว การรวมพลังของ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ในการจัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44” ซึ่งนำเสนอโครงการกว่า 1,000 โครงการ ก็เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการกระตุ้นกำลังซื้อ และถือเป็นโอกาสสุดท้ายของผู้บริโภคที่จะได้รับประโยชน์จาก “มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ” จากภาครัฐ ทั้งส่วนลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง ซึ่งมีกำหนดจะหมดอายุภายในสิ้นปี 2566 นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการซื้อก่อนที่ราคาอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567-2568 จากต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้ม “ดอกเบี้ยเงินกู้” ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

สำหรับการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปี 2567-2568 ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและชื่อเสียงยังคงมีแต้มต่อในการเดินหน้าตามแผน แต่ก็ต้องมีการพิจารณาทำเลและประเภทอสังหาริมทรัพย์อย่างละเอียดมากขึ้น เน้นโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการจริงและมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ส่วนผู้ประกอบการรายกลางและเล็กนั้น จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ชะลอการลงทุนใหม่ และหันมาโฟกัสกับการ “จัดการสภาพคล่อง” และการปิดการขายโครงการปัจจุบันให้ได้มากที่สุด เพื่อรักษากระแสเงินสดและลดภาระหนี้สินในระยะยาว นี่คือ “กลยุทธ์ลงทุนอสังหาฯ” ที่สำคัญยิ่งในยุคปัจจุบัน

กำลังซื้อที่เปลี่ยนไป: ลูกค้าไทยและโอกาสจากนักลงทุนต่างชาติ

ท่ามกลางความท้าทาย ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังคงมีจุดแข็งที่ดึงดูด “กำลังซื้อ” ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ

สำหรับกำลังซื้อลูกค้าคนไทย แม้จะได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นที่ลดลงและภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะบ้านแนวราบใน “ทำเลทอง” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการที่เน้นฟังก์ชันการใช้งาน ความคุ้มค่า และการออกแบบที่ทันสมัย ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด ผู้ประกอบการจึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการนำเสนอ “บ้านเดี่ยวปริมณฑล” หรือ “ทาวน์โฮม” ที่มีราคาจับต้องได้ และมีคุณภาพที่เชื่อถือได้

ในส่วนของ “ลูกค้าต่างชาติ” หรือ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ซึ่งรวมถึงนักลงทุนด้วยนั้น ผมมองว่าเป็นจุดที่ “อสังหาริมทรัพย์ไทย” มีโอกาสโดดเด่นอย่างมากในระยะกลางถึงระยะยาว เหตุผลสำคัญคือ “ความเป็นกลางทางการเมือง” ของประเทศไทย ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและถูกรักษาไว้มาอย่างยาวนาน ทำให้ไทยกลายเป็น “Safe Haven” หรือแหล่งหลบภัยที่น่าสนใจสำหรับเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศที่มีความขัดแย้ง

เราจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เกิดความขัดแย้งในยูเครน “ลูกค้าชาวรัสเซีย” จำนวนมากได้หันมาลงทุนซื้อ “วิลล่า” และ “คอนโดหรู” ในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและพัทยา เพื่อรักษามูลค่าของทรัพย์สินและเป็นแหล่งพักพิง การซื้อ “อสังหาฯ ไทย ชาวต่างชาติ” จึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อสถานการณ์โลกมีความไม่แน่นอน นี่คือโอกาสสำหรับตลาด “อสังหาฯหรู” และ “คอนโดพรีเมียม” โดยเฉพาะ “คอนโดกรุงเทพ” ในทำเลใจกลางเมือง และโครงการในเมืองท่องเที่ยวหลัก

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าต่างชาติอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎระเบียบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ การอำนวยความสะดวกด้านสินเชื่อ และการบริการหลังการขายที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อดึงดูดและรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ นี่คือ “กลยุทธ์ลงทุนอสังหาฯ” ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2025: ความยั่งยืนและนวัตกรรม

มองไปข้างหน้าถึงปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จะยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็มีแนวโน้มและโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ความยั่งยืนและการใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Sustainability): ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ “อสังหาฯ ยั่งยืน” มากขึ้น โครงการที่มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานทางเลือก หรือมีพื้นที่สีเขียว จะได้รับความนิยมมากขึ้น การพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมจะเป็นมาตรฐานใหม่ที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ
เทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (PropTech): “เทคโนโลยีอสังหาฯ” จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรม ตั้งแต่การตลาดและการขายออนไลน์ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด การบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะ ไปจนถึงการใช้ Blockchain ในธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
การปรับตัวของที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับสังคมสูงวัย: ประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจะสร้างความต้องการที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่มีการออกแบบ Universal Design หรือโครงการที่ให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร
ทำเลศักยภาพใหม่ๆ: การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง เช่น รถไฟฟ้าสายใหม่ๆ จะเปิด “ทำเลทอง” ศักยภาพใหม่ๆ ที่มีราคาที่ดินและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่สูงนัก ผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์จะสามารถเข้าไปลงทุนและพัฒนาโครงการในพื้นที่เหล่านี้ได้ก่อน

การ “วิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ” อย่างสม่ำเสมอ การติดตาม “แนวโน้มอสังหาฯ 2025” อย่างใกล้ชิด และการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของ “กำลังซื้อ” และเทคโนโลยี คือกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จในอนาคต

บทสรุปและก้าวต่อไป

สงครามอิสราเอล-ฮามาสได้ตอกย้ำถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบเป็นคลื่นลูกใหญ่มาถึง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ทั้งในด้านสภาพคล่องทางการเงิน แรงกดดันด้านต้นทุน และความท้าทายจากกำลังซื้อที่ผันผวน แต่ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ประเทศไทยยังคงมีจุดแข็งที่โดดเด่น โดยเฉพาะสถานะความเป็นกลางที่ดึงดูด “การลงทุนอสังหาฯ ต่างชาติ” และศักยภาพในการปรับตัวของภาคธุรกิจ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการที่เข้มแข็งและปรับตัวเร็วเท่านั้นที่จะสามารถฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ การบริหารจัดการ “สภาพคล่อง” อย่างรอบคอบ การสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ และการใช้ “กลยุทธ์ลงทุนอสังหาฯ” ที่เน้นความระมัดระวังแต่ยังมองเห็นโอกาส จะเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

หากคุณคือผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และต้องการคำแนะนำเชิงลึกที่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์และเป้าหมายของคุณอย่างแท้จริง อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนกลยุทธ์ที่แม่นยำและสร้างความได้เปรียบในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้

Previous Post

D2712146 แม เอาอ ฐมาฝากล กสาวท กคร งท มาเย ยมเพราะอะไร (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2712147 กอกต ญญ ให แม นข าวก บเปล อกก (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2712146 แม เอาอ ฐมาฝากล กสาวท กคร งท มาเย ยมเพราะอะไร (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2712145 กค าปากร ๅe ดท ายเง บ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2712144 มาม าไข อาหารคนจน (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2712143 นรวมญาต ฟาดให เร ยบ (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.