• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512148 ปลอมต วเป นต นไม บผ ดเม ยม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 27, 2025
in Uncategorized
0
D2512148 ปลอมต วเป นต นไม บผ ดเม ยม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกศักยภาพ: ทำไมการให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทย คือหัวใจฟื้นเศรษฐกิจปี 2025 และอนาคต

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพลิกผันของตลาดและเศรษฐกิจมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่สถานการณ์จะซับซ้อนและท้าทายเท่าปัจจุบัน การฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่รุมเร้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งโควิด-19 สงครามระหว่างประเทศ และภาวะเงินเฟ้อที่กัดกร่อนกำลังซื้อภายในประเทศ ล้วนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย

วันนี้ เราไม่ได้พูดถึงแค่การพยุงตลาด แต่คือการมองหาทางออกเชิงรุกที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาล และพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน และทางออกที่กำลังเป็นที่จับตา คือ “การเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถซื้อบ้านจัดสรรในไทยได้อย่างถูกกฎหมายและโปร่งใส” นี่ไม่ใช่เพียงข้อเสนอชั่วคราว แต่เป็นการปรับโครงสร้างที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอนาคต

วิกฤตการณ์และโอกาส: ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบัน (ปี 2025)

ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงข้อเสนอการให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทย เราต้องเข้าใจภูมิทัศน์เศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันให้ถ่องแท้ จากข้อมูลล่าสุดและประสบการณ์ตรงในตลาด ผมพบว่าภาคอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวงหลายประการ:

กำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ: อัตราหนี้ครัวเรือนที่สูงเกือบ 90% ของ GDP (ตามข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย) ประกอบกับรายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่หลังวิกฤต ทำให้คนไทยจำนวนมากขาดความสามารถในการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่ที่สุดของตลาด การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยไม่ผ่านเกณฑ์ของธนาคารก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่
สังคมสูงวัยและปัญหาแรงงาน: การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบของประเทศไทยส่งผลกระทบต่อจำนวนแรงงานในอนาคต และยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความต้องการที่อยู่อาศัยและกำลังซื้อในระยะยาวด้วย
ภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนการก่อสร้าง: ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระที่หนักขึ้น ส่งผลต่อราคาขายและกำไร
เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน: ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบางประเทศคู่ค้าสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีซัพพลายคงค้างในบางเซกเมนต์ โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรที่รอการระบาย การจะพึ่งพากำลังซื้อภายในประเทศเพียงอย่างเดียวดูจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานและไม่ทันต่อสถานการณ์ การหันมาพิจารณาเม็ดเงินจากต่างชาติจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ความจำเป็นเร่งด่วน” ที่ต้องเร่งดำเนินการ

เปิดประตูสู่การลงทุน: ข้อเสนอการให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทย

หัวใจสำคัญของข้อเสนอนี้คือการเปิดช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมายให้คนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของบ้านจัดสรรในไทยได้ ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจ และกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

แนวคิดหลักที่ถูกผลักดันโดยผู้ประกอบการภาคตะวันออกและผู้คร่ำหวอดในวงการ:

การถือครองสิทธิ์ที่ชัดเจนและจำกัด: แนวคิดเริ่มต้นคือการจำลองรูปแบบการถือครองคอนโดมิเนียม โดยให้ต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์บ้านจัดสรรได้ไม่เกิน 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดในโครงการ ซึ่งเป็นอัตราที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในการดึงดูดการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียม
เงื่อนไขนำร่องที่เหมาะสม: ข้อเสนอเบื้องต้นอาจกำหนดขนาดที่ดินที่ต่างชาติสามารถถือครองได้ เช่น ไม่เกิน 100 ตารางวา และกำหนดระยะเวลาดำเนินการซื้อขายภายใน 3-5 ปี เพื่อประเมินผลตอบรับและผลกระทบ ก่อนขยายผลในวงกว้าง
การจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ: นี่คือจุดที่สำคัญมาก การจะขับเคลื่อนนโยบายระดับประเทศเช่นนี้ จำเป็นต้องมีคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการที่มีตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อพิจารณาข้อกำหนด กฎระเบียบ และมาตรการป้องกันผลกระทบอย่างรอบด้าน
โฟกัสที่ “บ้านจัดสรร” ไม่ใช่ที่ดินเปล่า: เพื่อป้องกันการเก็งกำไรที่ดินและผลกระทบต่อราคาที่ดินในท้องถิ่น การเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อควรจำกัดอยู่เฉพาะ “โครงการบ้านจัดสรร” ที่เป็นหน่วยสำเร็จรูปพร้อมเข้าอยู่เท่านั้น
ไม่จำกัดพื้นที่ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์: แม้ EEC (เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) จะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง แต่ข้อเสนอคือควรพิจารณาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ หรือในจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เพื่อกระจายเม็ดเงินและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกไปในวงกว้าง ไม่ให้กระจุกตัวอยู่แค่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง

แตกประเด็นจากปัญหา “นอมินี” สู่ความโปร่งใสและประโยชน์ที่แท้จริง

จากประสบการณ์ตรงในพื้นที่ภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นชลบุรี ระยอง หรือพัทยา เราปฏิเสธไม่ได้ว่า “การซื้อบ้านผ่านนอมินี” ของต่างชาติเกิดขึ้นมาอย่างยาวนานและเป็นวงกว้าง ตัวอย่างเช่น โครงการ The View Villa ที่นายชนินทร์ วานิชวงศ์ จาก Habitat Group ได้กล่าวถึง สะท้อนภาพชัดเจนว่าต่างชาติมีการลงทุนในลักษณะนี้จริง ๆ โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายหรือผ่านการจดทะเบียนสมรสกับคนไทย

ปัญหาของการใช้นอมินี:
ขาดความโปร่งใส: การทำธุรกรรมที่อยู่ใต้ดินทำให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และยากต่อการตรวจสอบที่มาของเงินทุน
ความเสี่ยงทางกฎหมาย: ทั้งสำหรับต่างชาติและคนไทยผู้เป็นนอมินี อาจเกิดข้อพิพาทและปัญหาทางกฎหมายได้ง่าย ตัวอย่างเช่น กรณีที่นายณัฐนนท ศรีสมบูรณ์ จากภัททา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวถึงว่า ภรรยาคนไทยนำบ้านไปจำนองหรือขายโดยพลการ ทำให้ชาวต่างชาติเสียสิทธิ
ไม่สามารถดึงดูดการลงทุนระยะยาว: นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการความมั่นคงทางกฎหมายจะไม่เข้ามาลงทุนในโครงสร้างที่ไม่มั่นคงเช่นนี้
ข้อมูลบิดเบือน: ไม่สามารถประเมินมูลค่าการลงทุนที่แท้จริงจากต่างชาติในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้

การทำให้ “การให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทย” เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นการนำเม็ดเงินเหล่านี้ขึ้นมาบนดิน สร้างความโปร่งใสให้กับการทำธุรกรรม และปลดล็อกศักยภาพการลงทุนที่ซ่อนอยู่

ศักยภาพมหาศาล: การกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย

หากข้อเสนอนี้ได้รับการผลักดันสำเร็จ ผลตอบรับต่อเศรษฐกิจไทยจะมหาศาลและหลากหลายมิติ:

กระตุ้น GDP โดยตรง: นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ประมาณการไว้ว่า หากต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านในโครงการ 1 แสนหลัง ราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาทต่อหลัง จะสามารถทำให้ GDP ผงกหัวขึ้นได้อย่างชัดเจน นี่คือเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาลที่ฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง
สร้างความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์: การเพิ่มกำลังซื้อจากต่างชาติจะช่วยระบายสต็อกบ้านจัดสรรที่คงค้างอยู่ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อซัพพลายเชนทั้งหมด ตั้งแต่ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง แรงงาน ไปจนถึงสถาบันการเงิน
ดึงดูดกลุ่ม “Second Home” และผู้เกษียณ: ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของโลกสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านหลังที่สองหรือที่พักหลังเกษียณ การเปิดช่องทางที่ถูกต้องจะยิ่งดึงดูดกลุ่ม High Net Worth Individuals (HNWIs) และผู้เกษียณอายุที่มีกำลังซื้อสูงให้เข้ามาลงทุนและใช้ชีวิตในไทย ซึ่งจะนำมาซึ่งการใช้จ่ายในภาคบริการ การท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณ: นี่คือตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก ชาวต่างชาติวัยเกษียณจำนวนมากแสวงหาบ้านพักตากอากาศหรือบ้านหลังที่สองที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณจึงเป็นโอกาสทอง
ยกระดับคุณภาพชีวิตและสาธารณูปโภค: เมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น ย่อมนำไปสู่การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บริการสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ภาษีและรายได้เข้ารัฐ: การทำธุรกรรมที่โปร่งใสจะทำให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีการโอนกรรมสิทธิ์ และภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งจะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยจากผู้เชี่ยวชาญ: การที่ต่างชาติมาลงทุนในบ้านจัดสรร จะดึงดูดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์จากต่างประเทศเข้ามาให้คำปรึกษาและบริการ ซึ่งยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมในประเทศ

เจาะลึกภูมิภาค: ศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออกและ EEC

ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ระยอง และพัทยา คือศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นประตูสู่ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันให้เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมมูล ทั้งสนามบิน ท่าเรือ นิคมอุตสาหกรรม และแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

เหตุผลที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่นำร่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง:
ทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์: ใกล้กรุงเทพฯ มีการเชื่อมโยงคมนาคมที่สะดวกสบาย ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก: พัทยา ชลบุรี ระยอง มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ดึงดูดชาวต่างชาติจำนวนมากให้เข้ามาเยี่ยมเยือนและต้องการอยู่อาศัยระยะยาว
ศูนย์กลางอุตสาหกรรม: มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก ทำให้มีชาวต่างชาติที่เป็นผู้บริหารและวิศวกรเข้ามาทำงานและต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
ความพร้อมของโครงการบ้านจัดสรร: มีซัพพลายโครงการบ้านจัดสรรที่มีคุณภาพหลากหลายระดับราคา เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกัน
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน EEC: การพัฒนา EEC อย่างต่อเนื่อง จะยิ่งเพิ่มมูลค่าและศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ ทำให้การลงทุนมีความน่าสนใจในระยะยาว

การเปิดให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในภาคตะวันออก จะช่วยต่อยอดความสำเร็จของ EEC และเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ให้ก้าวกระโดด

การสร้างสมดุล: ข้อควรพิจารณาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

แม้ว่าการให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทยจะนำมาซึ่งประโยชน์มหาศาล แต่การออกแบบกฎหมายและมาตรการก็ต้องทำอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์:

การควบคุมสัดส่วนและประเภททรัพย์สิน: การกำหนดสัดส่วนการถือครอง 49% ในโครงการบ้านจัดสรรถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และควรจำกัดเฉพาะบ้านจัดสรร ไม่รวมที่ดินเปล่า เพื่อป้องกันการเก็งกำไร
กลไกการตรวจสอบและกำกับดูแล: ต้องมีหน่วยงานที่ชัดเจนและมีอำนาจในการตรวจสอบที่มาของเงินทุน (AML/CFT) และกำกับดูแลการซื้อขายให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
การประเมินผลกระทบต่อราคาในท้องถิ่น: ต้องมีการศึกษาและติดตามผลกระทบต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดรอง (บ้านมือสอง) และราคาค่าเช่า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของคนไทยในระยะยาว
ส่งเสริมการเช่าระยะยาว: นอกจากการซื้อขาด การเสนอทางเลือก “การเช่าระยะยาว” (Leasehold) ที่มีระยะเวลามากกว่า 30 ปี เช่น 50-90 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งกลไกที่น่าสนใจและเป็นสากล สามารถดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่นได้
การวางแผนภาษีอสังหาริมทรัพย์สำหรับต่างชาติ: ควรมีระบบภาษีที่ชัดเจนและเป็นธรรม เพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างรายได้ให้กับประเทศ พร้อมทั้งป้องกันการเลี่ยงภาษี

ประเด็นเหล่านี้ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดนโยบายที่ Win-Win สำหรับทุกฝ่าย

เสียงจากผู้เชี่ยวชาญ: บทสรุปที่ชัดเจนและเร่งด่วน

จากมุมมองของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานอยู่ในสนามจริง ข้อสรุปคือชัดเจนว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

นายวัฒนพล ผลชีวิน นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดตั้งคณะกรรมการจากทุกภาคส่วน เพื่อปรึกษาหารือและวางแผนดำเนินการอย่างรอบคอบ

นายณัฐนนท ศรีสมบูรณ์ จากภัททา ดีเวลลอปเม้นท์ เสนอแนวทางการจำกัดสัดส่วนการซื้อในเบื้องต้น เช่น 5-10% ของโครงการ เพื่อดูผลก่อนขยายผล ซึ่งเป็นแนวทางที่ระมัดระวังแต่ก็สามารถเริ่มได้จริง

และนายชนินทร์ วานิชวงศ์ จาก Habitat Group ผู้ลงทุนในชลบุรี ได้ย้ำว่า “ทุกวันนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่าต่างชาติใช้นอมินีเข้ามาซื้อ… สุดท้ายเราก็เห็นเขาอยู่กับเมียคนไทย ก็ทำให้มันขึ้นมาบนดินไปเลย เราก็ทำให้มันชัดเจน ยิ่งชัดเจน ต่างชาติก็ยิ่งมาซื้อเรามากขึ้น เราก็ได้ประโยชน์ เขามาจับจ่ายใช้สอย เสียภาษีอะไรต่าง ๆ” นี่คือประเด็นที่ตรงไปตรงมาที่สุด แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายเพื่อสร้างความโปร่งใสและประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยเฉพาะตลาดล่างที่มีบ้านราคา 3-5 ล้านบาทยังคงประสบปัญหาอย่างหนัก หากยังคงพึ่งพาแต่กำลังซื้อภายในประเทศเพียงอย่างเดียว ความท้าทายจะยิ่งเพิ่มพูน การเปิดให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทยจึงเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยพยุงและขับเคลื่อนตลาดนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้

สรุปและก้าวต่อไป

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผมเชื่อมั่นว่า “การให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรในไทย” ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่ออนาคตของประเทศไทย การปฏิรูปกฎหมายในครั้งนี้ จะไม่เพียงช่วยฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังจะส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่เปิดกว้าง โปร่งใส และน่าลงทุน

เราต้องไม่ลืมว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประเทศคู่แข่งต่าง ๆ ก็กำลังดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอย่างเข้มข้น หากเรายังคงยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิม ๆ เราอาจสูญเสียโอกาสครั้งสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย

ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันผลักดันและพิจารณาข้อเสนอนี้อย่างจริงจัง ผมขอเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษ เพื่อศึกษาและกำหนดแนวทางการแก้ไขกฎหมายโดยเร็วที่สุด เพื่อปลดล็อกศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ไทย และนำพาเศรษฐกิจของเราไปสู่ยุคใหม่แห่งความรุ่งเรือง

หากท่านเป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้สนใจในศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์ไทย และเชื่อมั่นในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ผ่านการลงทุนจากต่างชาติ เราขอเชิญชวนท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนครั้งสำคัญนี้ ติดต่อเราเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและร่วมกันสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

Previous Post

D2512147 แฟนเอาพ สาวมาอย วย แต ไม วยทำอะไรเลย(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D2512149 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D2512149 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D2512149 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512121 คนใกล วร ายท (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512149 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512148 ปลอมต วเป นต นไม บผ ดเม ยม (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512147 แฟนเอาพ สาวมาอย วย แต ไม วยทำอะไรเลย(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512146 ขอให คนขายช วยโกหกเร องราคา (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.