• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2512115 จบมหาล ยมาเป นแม าขายไส กรอกแดง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 26, 2025
in Uncategorized
0
D2512115 จบมหาล ยมาเป นแม าขายไส กรอกแดง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

พลิกโฉมวงการ: โอกาสและความท้าทายในการเปิดทางให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ในไทย – บทวิเคราะห์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญอสังหาฯ 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยมายาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของตลาดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่มีประเด็นหนึ่งที่วนเวียนเป็นหัวข้อสนทนาสำคัญ และดูเหมือนจะทวีความเร่งด่วนมากขึ้นในปัจจุบัน นั่นคือ “การเปิดโอกาสให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ในประเทศไทย” นี่ไม่ใช่เพียงแค่การแก้ไขกฎหมายเล็กน้อย แต่คือการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่จะกำหนดทิศทางของภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 และปีต่อ ๆ ไปที่ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งเครื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจจากปัจจัยท้าทายรอบด้าน

สถานการณ์ปัจจุบันของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และสังคมผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนบั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศ ทำให้การขายอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านจัดสรรเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้ประกอบการหลายรายต้องแบกรับภาระสต็อกที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น และบางรายถึงกับต้องชะลอแผนการลงทุนใหม่ ๆ สถานการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง ทั้งภาคการก่อสร้าง แรงงาน วัสดุก่อสร้าง และสถาบันการเงิน การมองหา “กลไกขับเคลื่อน” ใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน และการพิจารณาเปิดประตูให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกกฎหมายก็เป็นหนึ่งในทางออกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างจริงจัง

เสียงเรียกร้องจากภาคตะวันออก: ทำไมต้องเปิดทางให้ชาวต่างชาติ?

ภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีและระยอง ถือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่สำคัญ และยังเป็นหัวใจของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกเป็นพิเศษ และเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างเปิดเผยและถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างคุณมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ จากไลฟแอนด์ ลีฟวิ่ง และคุณวัฒนพล ผลชีวิน จากมณีรินทร์ พร็อพเพอร์ตี้ ต่างชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ในปัจจุบันมี ชาวต่างชาติ จำนวนมากที่เข้ามาพำนักในประเทศไทย ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน การลงทุน หรือการเกษียณอายุ และมีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรร แต่ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับ กรรมสิทธิ์ที่ดิน ทำให้ต้องอาศัย “นอมินี” ในการถือครอง ซึ่งนอกจากจะไม่ใช่แนวทางที่โปร่งใสแล้ว ยังสร้างปัญหาทางกฎหมายและข้อพิพาทตามมามากมายในภายหลัง เช่น กรณีที่คู่สมรสชาวไทยนำบ้านไปจำนองหรือขายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของเงินที่แท้จริง

หากมีการปลดล็อกให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ได้อย่างถูกกฎหมาย เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในประเทศได้มหาศาล ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยระบายสต็อกบ้านจัดสรรที่คงค้างอยู่เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่ ๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และที่สำคัญคือจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงผลักดัน GDP ของประเทศให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ EEC เท่านั้น แต่สามารถกระจายโอกาสและรายได้ไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศที่มีศักยภาพในการดึงดูด ชาวต่างชาติ ให้มาพำนักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองรอง หรือพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็น บ้านพักตากอากาศ หรือศูนย์กลางสำหรับ วีซ่าระยะยาว และกลุ่ม Digital Nomads

กลไกและเงื่อนไขที่เสนอ: บทเรียนจากอดีต สู่แนวทางใหม่

การพิจารณาอนุญาตให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว ประเทศไทยมีประสบการณ์ในการเปิดทางให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้สูงสุด 49% ของพื้นที่ทั้งหมดในโครงการมาแล้ว ซึ่งเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนและสร้างดีมานด์ให้กับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยเหนือที่ดิน

ข้อเสนอจากภาคเอกชนจึงมักอ้างอิงถึงโมเดล 49% นี้ และเสนอเงื่อนไขที่รัดกุมเพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:

การจำกัดสัดส่วน: ในระยะเริ่มต้น อาจจำกัดสัดส่วนการถือครองของ ชาวต่างชาติ ไว้ที่ 5-10% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดในโครงการบ้านจัดสรรนั้น ๆ เพื่อทดลองประเมินผลกระทบและความเหมาะสม ก่อนที่จะพิจารณาเพิ่มสัดส่วนเป็น 49% หรือสูงกว่าในอนาคตตามความเหมาะสมและสถานการณ์ของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่อนุญาต: เน้นเฉพาะบ้านจัดสรรที่พัฒนาขึ้นในโครงการเท่านั้น ไม่รวมที่ดินเปล่า เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัยสำเร็จรูป ไม่ใช่การเก็งกำไรในที่ดิน
ขนาดที่ดินที่อนุญาต: อาจมีการกำหนดขนาดพื้นที่ที่ดินสำหรับบ้านจัดสรรที่ ชาวต่างชาติ สามารถถือครองได้ เช่น ไม่เกิน 100 ตารางวา เพื่อไม่ให้เกิดการครอบครองที่ดินขนาดใหญ่เกินความจำเป็น
ระยะเวลาการประเมินผล: กำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินการและประเมินผล เช่น 3-5 ปี เพื่อให้สามารถปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงได้
การตั้งคณะกรรมการ: ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมถึงนักวิชาการ เพื่อร่วมกันพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ รายละเอียด และเงื่อนไขที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยคำนึงถึงมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง

นอกเหนือจากนี้ รัฐบาลควรพิจารณามาตรการเสริม เช่น การส่งเสริม วีซ่าระยะยาว สำหรับผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับภาษีเพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใสในการ ภาษีอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ เพื่อดึงดูดนักลงทุนและผู้ที่ต้องการมาพำนักระยะยาวในประเทศไทย การสร้างความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายและการบริหารจัดการจะเป็นกุญแจสำคัญในการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ: พลิกฟื้น GDP หรือสร้างความเหลื่อมล้ำ?

การเปิดทางให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ย่อมมีทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

โอกาส:
เม็ดเงินลงทุนมหาศาล: การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม และเพิ่ม GDP ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
การระบายสต็อกและกระตุ้นการพัฒนา: ช่วยลดสต็อกที่อยู่อาศัยที่ยังไม่สามารถขายได้ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเกิดการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด
การสร้างงาน: การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์จะสร้างงานในหลากหลายสาขา ตั้งแต่การก่อสร้าง การออกแบบ การขาย การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง
รายได้ภาษี: รัฐบาลจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากภาษีการโอน ภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถนำไปใช้พัฒนาประเทศได้
ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพำนักระยะยาว: ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับ ชาวต่างชาติ ที่ต้องการบ้านหลังที่สอง หรือที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ การเปิดโอกาสนี้จะยิ่งดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้ให้มาใช้ชีวิตและจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้น

ความท้าทายและข้อควรระวัง:
ผลกระทบต่อราคาอสังหาริมทรัพย์: หากไม่มีการควบคุมที่ดี การเข้ามาของดีมานด์จากต่างชาติอาจทำให้ราคาบ้านจัดสรรในบางพื้นที่สูงขึ้นจนเกินกำลังซื้อของคนไทย ซึ่งอาจสร้างความเหลื่อมล้ำและปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้
การเก็งกำไร: มีความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติบางรายจะเข้ามาเพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น แทนที่จะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาด
ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม: การเพิ่มขึ้นของชุมชนชาวต่างชาติในบางพื้นที่อาจส่งผลต่อโครงสร้างทางสังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี
ปัญหาเรื่องนอมินี: แม้จะเปิดให้ซื้อได้ แต่หากกฎหมายไม่รัดกุมพอ หรือไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างเข้มงวด ปัญหานอมินีอาจจะยังคงอยู่และเปลี่ยนรูปแบบไป
ความมั่นคง: แม้จะจำกัดเฉพาะบ้านจัดสรร แต่การที่ ชาวต่างชาติ สามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่สำคัญบางแห่งก็อาจเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาด้านความมั่นคงอย่างละเอียด

การจะเดินหน้าในเรื่องนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ มีมาตรการป้องกันและควบคุมที่ชัดเจน รวมถึงการปรึกษาหารือกับทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง เพื่อหาจุดสมดุลที่เหมาะสมและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศโดยรวม หากไม่เช่นนั้น โอกาสอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับการเปิดทางให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร อาจกลายเป็นความท้าทายที่ยากจะรับมือ

มุมมองเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ: โอกาสและความท้าทายในยุค 2025+

จากประสบการณ์ของผม สิ่งที่สำคัญกว่าการ “เปิดหรือไม่เปิด” คือ “จะเปิดอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างความยั่งยืน” ในปี 2025 และอนาคต ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคที่ผู้ซื้อมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการย้ายถิ่นฐานหลังเกษียณ (retirees) และกลุ่มคนทำงานอิสระหรือ Digital Nomads ที่สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลก ประเทศไทยมีเสน่ห์ดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่ไม่แพงเกินไป วัฒนธรรมที่น่าสนใจ อาหารอร่อย การบริการด้านสุขภาพที่ทันสมัย และโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ดีเยี่ยม

สิ่งที่เราต้องทำคือการสร้าง “แพ็กเกจ” ที่น่าสนใจและชัดเจน สำหรับการ ลงทุนธุรกิจอสังหาฯ ของต่างชาติ ไม่ใช่แค่การขายบ้าน แต่คือการขาย “ไลฟ์สไตล์” และ “ความมั่นคง” ในการพำนักระยะยาว ซึ่งอาจรวมถึง:
การออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์: พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่เข้าใจความต้องการของ ชาวต่างชาติ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม สาธารณูปโภคครบครัน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ หรือพื้นที่ทำงานร่วมกันสำหรับ Digital Nomads
บริการครบวงจร: จัดหาบริการด้าน ที่ปรึกษากฎหมายอสังหาฯ ที่เชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม และให้คำแนะนำด้านกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อลดข้อพิพาทและสร้างความมั่นใจ
การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์: จัดหาระบบ การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ มืออาชีพสำหรับ ชาวต่างชาติ ที่อาจไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศไทยตลอดเวลา เพื่อดูแลทรัพย์สินและสร้างผลตอบแทนจากการเช่า
การใช้เทคโนโลยี (PropTech): นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการซื้อขาย การบริหารจัดการ และการให้บริการ เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส
การพัฒนาพื้นที่: รัฐบาลควรสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรอบ ๆ โครงการบ้านจัดสรรที่รองรับ ชาวต่างชาติ เช่น โรงพยาบาลนานาชาติ โรงเรียนนานาชาติ และแหล่งนันทนาการ

การอนุญาตให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร ควรมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวในการดึงดูด กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนคุณภาพสูงเข้าสู่ประเทศ ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาสต็อกระยะสั้น เราต้องเรียนรู้จากบทเรียนในอดีตและประเทศอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการเรื่องนี้ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือแม้กระทั่งฟิลิปปินส์ ซึ่งมีกฎระเบียบที่ชัดเจนในการอนุญาตให้ ชาวต่างชาติ ถือครองอสังหาริมทรัพย์บางประเภทได้

บทสรุปและก้าวต่อไป

การพิจารณาเปิดทางให้ ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร เป็นประเด็นที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน แต่เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และเศรษฐกิจโดยรวมในยุคหลังโควิด ความจำเป็นในการสร้างดีมานด์ใหม่จากภายนอกประเทศเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอลง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่านี่คือ “เวลาที่เหมาะสมที่สุด” ที่รัฐบาลจะแสดงความกล้าหาญในการตัดสินใจเชิงนโยบาย โดยต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล การศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และที่สำคัญที่สุดคือ “ความโปร่งใส” ในทุกขั้นตอน การจัดตั้งคณะกรรมการจากหลากหลายภาคส่วนเพื่อพิจารณาประเด็นนี้อย่างจริงจัง และการกำหนดเงื่อนไขที่รัดกุม ชัดเจน และเป็นธรรม จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนต่างชาติและประชาชนชาวไทย

หากเราสามารถปลดล็อกศักยภาพนี้ได้อย่างชาญฉลาด ด้วยกฎหมายที่ชัดเจนและมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ประเทศไทยจะไม่เพียงแต่สามารถฟื้นฟู ภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้กลับมาคึกคักได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว และตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ “World Best Second Homes” และจุดหมายปลายทางที่น่าอยู่อาศัยและน่าลงทุนสำหรับ ชาวต่างชาติ ทั่วโลกอย่างแท้จริง

ดังนั้น การหารือและผลักดันประเด็นเรื่อง การขอใบอนุญาตต่างชาติซื้อบ้าน จึงไม่ใช่แค่เรื่องของภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติที่รอคอยการตัดสินใจที่เด็ดขาดและรอบคอบ

หากท่านเป็นผู้ประกอบการที่สนใจโอกาสในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเพื่อรองรับความต้องการจากชาวต่างชาติ หรือต้องการคำปรึกษาด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โปรดติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและแนวทางการวางแผนธุรกิจที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

Previous Post

D2512114 ตสำน กฝ กก นไม ได (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D2512116 แผนทำลายงานแต (ละครส น) หน งส นด BSC part1

Next Post
D2512116 แผนทำลายงานแต (ละครส น) หน งส นด BSC part1

D2512116 แผนทำลายงานแต (ละครส น) หน งส นด BSC part1

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512126 งขอทานสกปรกกล ามาก นเค กฉ (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512125 คะ วยหน วย (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512124 กต วตอนน สายไปแล ว(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512123 ใหญ กว าเจ าของร านก นน แหล ะ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512127 ดเจอรากไม เป นทองคำ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.