• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D2312130 อค าใส ทขายข าว สงส ยอยากจะเป นประธานบร ท! part2

admin79 by admin79
December 25, 2025
in Uncategorized
0
D2312130 อค าใส ทขายข าว สงส ยอยากจะเป นประธานบร ท! part2

พลิกเกมอสังหาฯ 2025: เจาะลึกกลยุทธ์แสนสิริ ผู้นำการลงทุนคอนโดมิเนียม ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ท้าทาย

ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพลวัตของตลาดที่เปลี่ยนแปลงผันผวน ทั้งช่วงขาขึ้นอันรุ่งโรจน์และช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่ต้องอาศัยวิสัยทัศน์อันเฉียบคมเพื่อก้าวผ่าน และในปี 2024 ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2025 นี้ สิ่งที่ชัดเจนคือตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเป็นสมรภูมิที่เข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์คอนโดมิเนียม ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จากผู้พัฒนาอสังหาฯ แถวหน้าของประเทศอย่าง “แสนสิริ” จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจมองข้ามได้ พวกเขาได้ประกาศแผนการลงทุนคอนโดมิเนียมมูลค่ามหาศาลถึง 26,000 ล้านบาท มากที่สุดในอุตสาหกรรม สะท้อนถึงความมั่นใจและกลยุทธ์อันแข็งแกร่งที่ถูกหล่อหลอมมาจากการสั่งสมประสบการณ์กว่า 40 ปี บทความนี้จะเจาะลึกถึงเบื้องหลังแนวคิดและกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แสนสิริสามารถ “พลิกเกม” และเดินหน้าการลงทุนคอนโดมิเนียมอย่างไม่เกรงกลัวกระแสเศรษฐกิจ

ภูมิทัศน์การลงทุนคอนโดมิเนียมในยุค 2025: โอกาสและความท้าทาย

ก่อนที่เราจะดำดิ่งสู่รายละเอียดของกลยุทธ์แสนสิริ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจบริบทของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบัน จากข้อมูลและแนวโน้มที่ผมได้ติดตามมาโดยตลอด ตลาดคอนโดมิเนียมยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวช้า หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยและค่าครองชีพที่กดดันการตัดสินใจซื้อ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ก็ยังคงมีโอกาสซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง กลุ่มนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนการลงทุนอสังหาฯ ที่มั่นคงในระยะยาว และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว

การลงทุนคอนโดมิเนียมในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การสร้างอาคาร แต่คือการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าด้วยความเข้าใจในวิถีชีวิตของผู้คนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งนี่คือจุดแข็งที่แสนสิริได้พิสูจน์ให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจทุ่มงบประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดตัว 20 โครงการใหม่ในปีนี้ จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าพวกเขามองเห็นช่องว่างและโอกาสที่คู่แข่งอาจมองไม่เห็น หรือไม่กล้าที่จะลงมือทำ

แสนสิริ: 40 ปีแห่งประสบการณ์และการเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม

นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ย้ำถึงการครบรอบ 40 ปีขององค์กร ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลข แต่คือบทพิสูจน์ถึงความสามารถในการยืนหยัดและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกวิกฤตเศรษฐกิจ ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา แสนสิริได้สั่งสมพอร์ตคอนโดมิเนียมสะสมเกือบ 200 โครงการ มูลค่ารวม 290,000 ล้านบาท พร้อมส่งมอบห้องชุดไปแล้วกว่า 81,000 ยูนิต ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายถึง 20 แบรนด์ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์และทุกโปรดักต์แนวสูง นี่คือรากฐานอันมั่นคงที่ทำให้พวกเขากล้าที่จะประกาศเป้ายอดขาย (Presales) คอนโดมิเนียมที่ 21,000 ล้านบาท และเป้ายอดโอน (Revenue) ที่ 13,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายแต่ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้

หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมคือ “บ้านไข่มุก” คอนโดมิเนียมแฟลกชิปแห่งแรกของแสนสิริที่หัวหิน ซึ่งราคาเปลี่ยนมือในปัจจุบันขยับขึ้นไปถึง 1,000% นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการดูแลบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทำให้โครงการยังคงมี Capital Gain ที่น่าประทับใจ การลงทุนคอนโดมิเนียมกับแสนสิริจึงเป็นมากกว่าการซื้อห้องชุด แต่เป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตและอนาคตที่มั่นคง

ปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จ: ทำเล กลยุทธ์ และพันธมิตร

อะไรคือเบื้องหลังความมั่นใจที่ทำให้แสนสิริกล้าเดินหน้าการลงทุนคอนโดมิเนียมครั้งใหญ่ คำตอบอยู่ที่โมเดลธุรกิจที่เน้นการเลือกสรร “Strategic Location” หรือทำเลศักยภาพที่แท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการมี “Strategic Partners” หรือพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำ ทั้งบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้รับเหมาที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนานกว่า 10-20 ปี ปัจจัยเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่แสนสิริให้ความสำคัญสูงสุด

8 กลยุทธ์หลัก: การลงทุนคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกมิติ

เพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจและคว้าโอกาสที่เกิดขึ้น แสนสิริได้วาง 8 กลยุทธ์หลักอันชาญฉลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง:

สานต่อสินค้าซูเปอร์ลักชัวรี: แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์หรูยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมหรูย่าน CBD ที่มีอุปทานจำกัด แสนสิริเล็งเห็นโอกาสในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงพิเศษ (UHNWIs) ที่มองหาความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ล่าสุดโครงการบนทำเลชิดลม ซึ่งยังไม่เปิดพรีเซล แต่มีลูกค้าผู้ภักดีต่อแบรนด์ (Loyalty) ได้ทำสัญญาจองซื้อเพนต์เฮาส์ยูนิตพิเศษที่มีฟังก์ชันสระว่ายน้ำส่วนตัว มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท นี่คือบทพิสูจน์ว่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งและผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้แม้ในภาวะที่ยังไม่เห็นห้องตัวอย่างจริง การลงทุนคอนโดมิเนียมในเซกเมนต์นี้จึงต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและเข้าใจความต้องการระดับสากล

ขยายคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด: ด้วยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการค้า แสนสิริจึงขยายการลงทุนคอนโดมิเนียมไปยังหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพรวม 9 โครงการ มูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท ในทำเลสำคัญอย่างภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน พื้นที่ EEC (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) และขอนแก่น ทำเลเหล่านี้มีปัจจัยสนับสนุนจากดีมานด์ที่แข็งแกร่ง ทั้งจากนักท่องเที่ยว กลุ่มคนท้องถิ่นที่มีกำลังซื้อใกล้สถานศึกษาและแหล่งงาน โครงการไฮไลต์อย่าง “Canvas เชิงทะเล” มูลค่า 1,600 ล้านบาทในภูเก็ต ซึ่งถือเป็น New CBD แห่งใหม่ของจังหวัด ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปที่นิยมการพักระยะยาว (Long-Stay) ตอกย้ำว่าการลงทุนคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดต้องจับเทรนด์โลกควบคู่ไปกับความต้องการของท้องถิ่น

ปักหมุดทำเลสุดยอดในเมืองกรุงเทพฯ: ความต้องการคอนโดมิเนียมในทำเลทองของกรุงเทพฯ ยังคงสูง แต่ที่ดินเปล่ามีจำกัด แสนสิริจึงเดินหน้าพัฒนาโครงการในทำเลที่หาได้ยากยิ่ง โดยนำเสนอผ่านแบรนด์ “Via” 3 ทำเลรวดในย่านสุขุมวิท ได้แก่ สุขุมวิท 34, สุขุมวิท 61 มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท รวมถึงโครงการใหม่ถอดด้ามบนทำเลสุขุมวิท 36 ตรงข้ามซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาคอนโด CBD กรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวกและใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ การลงทุนคอนโดมิเนียมในทำเลไพรม์เหล่านี้รับประกันมูลค่าเพิ่มในระยะยาว

บุก Pets Welcome Condo ตอบรับกระแส Pet Parent: กระแส “Pet Parent” หรือการเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกหลาน กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก แสนสิริจึงพัฒนาคอนโดเลี้ยงสัตว์พรีเมียมภายใต้แคมเปญ Pets Welcome Condo โดยประสบความสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ และล่าสุดเตรียมเปิดโครงการใหม่ “พินน์ ศูนย์วิจัย” ใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพ มูลค่า 260 ล้านบาท ที่เน้นห้องชุดขนาดใหญ่ ยูนิตไม่เยอะ และให้ความสำคัญกับการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก การลงทุนคอนโดมิเนียมที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จะสร้างความแตกต่างและดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะทางได้

พลิกโฉมแบรนด์ “เดอะเบส”: “เดอะเบส” เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่ลูกค้ารู้จักมาอย่างยาวนาน พัฒนามาแล้วกว่า 20 โครงการ มูลค่ารวม 37,000 ล้านบาท ในปีนี้ แสนสิริเตรียมเพิ่มอีก 4 โครงการใหม่ มูลค่า 5,700 ล้านบาท โดยการ “รีเซต” แบรนด์ไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุง แต่เป็นการขยายพื้นที่แปลนใหม่ เพิ่มหน้ากว้าง พื้นที่สีเขียว และดีไซน์ห้องแบบลอฟต์ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอ “เดอะเบส” ที่เป็นคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้เป็นครั้งแรกถึง 2 โครงการ ซึ่งรวมถึง “เดอะเบส ไรส์” ภูเก็ต มูลค่า 900 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาทต่อยูนิต นี่คือกลยุทธ์ที่แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของแบรนด์ที่แข็งแกร่งให้เข้ากับยุคสมัยและความต้องการของตลาด การลงทุนคอนโดมิเนียมในแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับแต่ก็ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาคือกุญแจสำคัญ

ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ “ดีคอนโด”: แบรนด์ “ดีคอนโด” วางแผนเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 3,900 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการเตรียมโอน 6 โครงการ มูลค่า 6,500 ล้านบาทในปีนี้ โดยเน้นคอนโดมิเนียมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ ทั้งทำเลที่ตั้งและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต อาทิ “ดีคอนโด เซนส์” บางแสน ชลบุรี ซึ่งอยู่ในโซน Campus Condo ใกล้มหาวิทยาลัยบูรพา มูลค่า 880 ล้านบาท และ “ดีคอนโด คาล์ม” รามคำแหง 10 มูลค่า 820 ล้านบาท การลงทุนคอนโดมิเนียมในเซกเมนต์นี้ เน้นการเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงที่มีความต้องการพื้นฐานครบครัน

เดินหน้าพัฒนา Affordable Condo รองรับมาตรการรัฐ: แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเซกเมนต์ Affordable Condo อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับมาตรการภาครัฐที่สนับสนุนการลงทุนคอนโดมิเนียม BOI ซึ่งมีราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่าน 2 แบรนด์หลักคือ “คอนโด มี” และ “คอนโด เวย์” ที่เน้นทำเลใกล้แหล่งงานและนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยวางแผนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,110 ล้านบาท การเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่มีกำลังซื้อจำกัด ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ตอกย้ำประสบการณ์ 40 ปี: ผู้นำด้านดีไซน์และคุณภาพบริการ: สิ่งที่ทำให้แสนสิริยืนหนึ่งในตลาดคอนโดมิเนียมมาตลอด 40 ปี คือปรัชญาการทำงานที่มุ่งส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน ด้วยเบื้องหลังการบริหารจัดการซัพพลายเชนและพันธมิตรธุรกิจระดับมืออาชีพในทุกรายละเอียด รวมถึงความเป็นเลิศในเรื่องการบริการที่เข้าใจไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย บริการหลังการขาย หรือการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าจนกล้าที่จะซื้อเพนต์เฮาส์เกือบ 500 ล้านบาทเพียงแค่บนกระดาษ นี่คือบทพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) และความเป็นเลิศในด้านประสบการณ์ (Experience) และความเชี่ยวชาญ (Expertise) ที่ Google EEAT ให้ความสำคัญอย่างมากในการประเมินความน่าเชื่อถือของเนื้อหา การลงทุนคอนโดมิเนียมกับแสนสิริจึงเป็นมากกว่าแค่โครงสร้าง แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์และความพึงพอใจระยะยาว

มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: โอกาสและผลตอบแทนการลงทุนอสังหาฯ ในอนาคต

จากกลยุทธ์ทั้ง 8 ข้อนี้ ทำให้ผมมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนว่า แสนสิริไม่ได้เพียงแค่ “สวนกระแส” แต่กำลัง “สร้างกระแส” ด้วยตัวเอง การลงทุนคอนโดมิเนียมของพวกเขาไม่ใช่การคาดเดาทิศทางลม แต่เป็นการขับเคลื่อนเรือใหญ่ด้วยแผนที่และเข็มทิศที่ชัดเจน สิ่งที่น่าจับตามองต่อไปคือ การที่พวกเขาสามารถกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มลักชัวรีไปจนถึงกลุ่มเริ่มต้นชีวิต ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความสมดุลและยืดหยุ่นต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดี และสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดให้เช่าผลตอบแทนสูง การศึกษาโครงการของแสนสิริในทำเลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยว จะช่วยให้เห็นโอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวที่มีศักยภาพ

การที่แสนสิริให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายและการบริหารจัดการโครงการคอนโดมิเนียมอย่างมืออาชีพ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ในระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในโครงการที่ไม่มีการดูแลที่ดีพอในภายหลัง การวิเคราะห์และประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์จึงควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ประกอบด้วย

สรุป: ผู้นำที่เข้าใจตลาดและกล้าเปลี่ยนแปลง

แผนการลงทุนคอนโดมิเนียมมูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาทของแสนสิริในปีนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่ตัวเลข แต่คือบทเรียนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่แสดงให้เห็นว่าการเป็นผู้นำตลาดในยุค 2025 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของเงินทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่เฉียบคม ความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ และที่สำคัญที่สุดคือการยึดมั่นในคุณภาพและการบริการที่เป็นเลิศตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ทำให้แสนสิริยังคงเป็นผู้เล่นหลักที่กำหนดทิศทางการลงทุนคอนโดมิเนียมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในอนาคต

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนคอนโดมิเนียม หรือกำลังพิจารณาเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมคุณภาพเยี่ยม ผมขอแนะนำให้ศึกษาโครงการของแสนสิริอย่างใกล้ชิด เพราะจากประสบการณ์ของผม พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ มาร่วมสำรวจโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณ เพื่ออนาคตการลงทุนที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่าไปด้วยกันเถอะครับ

Previous Post

D2312129 สะใภ มตำ เด ยวแม หาภรรยาให ใหม part2

Next Post

D2312131 ปากด ใจห วง อยากให กได part2

Next Post
D2312131 ปากด ใจห วง อยากให กได part2

D2312131 ปากด ใจห วง อยากให กได part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2512027 หน อยหาเม ยใหม ให อ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512028 ดจบแก งขโมยกระเป า(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512029 เธอหาเง นใช หน วยว (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512030 แม าอาหารทะเลเหล ยมจ ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D2512026 เม ยท องแล วต วเหม นผ วเลยไมม อยากนอนด วย (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.