อนาคตอสังหาฯ ไทย 2025: แสนสิริกับการลงทุนคอนโด 2.6 หมื่นล้านบาท ยืนหนึ่งผู้นำตลาดท่ามกลางความท้าทาย
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของตลาดมานับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของปี 2568 ที่เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายรอบด้าน ทว่าในห้วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้เอง เรากลับได้เห็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญและเชิงรุกจากผู้เล่นรายใหญ่ นั่นคือ “แสนสิริ” กับการประกาศแผนการ แสนสิริลงทุนคอนโด มูลค่ามหาศาลถึง 26,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว 20 โครงการใหม่ทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นการลงทุนคอนโดมิเนียมที่มากที่สุดในอุตสาหกรรม การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนทางการเงิน แต่เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ความเชื่อมั่น และการตกผลึกประสบการณ์กว่า 40 ปี เพื่อรับมือกับทุกโอกาสและความเสี่ยงในอนาคต และตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย
บริบทเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมไทยปี 2568
ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงกลยุทธ์ของแสนสิริ การทำความเข้าใจบริบทของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 เป็นสิ่งสำคัญ แม้ภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐจะช่วยประคองกำลังซื้อไว้ได้บ้าง แต่ความท้าทายยังคงอยู่ ทั้งจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง หนี้ครัวเรือนที่น่ากังวล และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและกำลังซื้อโดยรวม ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น การแข่งขันในตลาดคอนโดมิเนียมจึงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต้องช่วงชิงกำลังซื้อด้วยโปรดักต์ที่โดดเด่น ทำเลที่ใช่ และบริการที่แตกต่าง ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ การที่แสนสิริเลือกที่จะเดินหน้า แสนสิริลงทุนคอนโด อย่างหนักหน่วง สะท้อนถึงการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกและกลยุทธ์ที่แม่นยำ
โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะมองหาโอกาสในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง และคอนโดมิเนียมในทำเลศักยภาพยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยและการลงทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่พื้นที่ใช้สอย แต่ยังต้องการนวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน การออกแบบที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิต และการจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่มืออาชีพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่ผู้พัฒนาอย่างแสนสิริได้นำมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ
แสนสิริ: 40 ปีแห่งความแกร่งและวิสัยทัศน์ผู้นำ
แสนสิริไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นสถาบันที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 4 ทศวรรษ ประสบการณ์ที่สั่งสมมานี้ ทำให้แสนสิริมีภูมิคุ้มกันในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 วิกฤตซับไพรม์ปี 2551 หรือความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การอยู่รอดและเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว การมองการณ์ไกล และการยึดมั่นในปรัชญาการทำงานที่คำนึงถึงคุณภาพและการบริการเป็นสำคัญ
คุณองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เน้นย้ำถึงแผนการ แสนสิริลงทุนคอนโด 20 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตถึง 44% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่สถิติ แต่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความกล้าหาญในการตัดสินใจและบทบาทผู้นำตลาดที่ไม่มีใครเทียบได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นในตลาดคอนโดมิเนียม ที่มีการลงทุนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แสนสิริจึงเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นและเป็นที่จับตามอง การขยายพอร์ตคอนโดมิเนียมสะสมเกือบ 200 โครงการ มูลค่ารวม 290,000 ล้านบาท พร้อมส่งมอบห้องชุดสะสมกว่า 81,000 ยูนิต ภายใต้ 20 แบรนด์คอนโดมิเนียมที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ถือเป็นฐานที่มั่นคงที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน แสนสิริตั้งเป้ายอดพรีเซลคอนโดฯ 21,000 ล้านบาท และเป้ายอดโอน 13,000 ล้านบาท ซึ่งจากพอร์ตโครงการพร้อมขายและพร้อมโอน 14 โครงการ มูลค่ารวม 15,700 ล้านบาทในปีนี้ ทำให้เป้าหมายเหล่านี้ดูเป็นไปได้จริง
แกะรอย 8 กลยุทธ์ทอง: ปลุกพลังการเติบโตสวนกระแส
ความมั่นใจในการเดินหน้า แสนสิริลงทุนคอนโด ขนาดใหญ่ในปี 2568 ไม่ได้มาจากแค่ความกล้าหาญเท่านั้น แต่มาจาก 8 กลยุทธ์อันแข็งแกร่งที่ได้รับการตกผลึกจากประสบการณ์อันยาวนานและความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ซึ่งผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญอสังหาฯ มองว่าเป็นพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง:
สานต่อความสำเร็จในกลุ่มซูเปอร์ลักชัวรี่: ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
ตลาดคอนโดมิเนียมหรูและซูเปอร์ลักชัวรี่ยังคงเป็นเซ็กเมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใดๆ กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงยังคงมองหาโครงการที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แสนสิริได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยโครงการ Talk of the Town บนทำเลชิดลม แม้จะยังไม่เปิดพรีเซล แต่การที่ลูกค้า Loyalty ยอมทำสัญญาจองซื้อเพนต์เฮาส์พิเศษที่มีฟังก์ชันสระว่ายน้ำส่วนตัว มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท โดยที่ยังไม่เห็นห้องตัวอย่าง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพที่แสนสิริสั่งสมมานาน การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในกลุ่มนี้ มักจะให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่น่าสนใจ พร้อมทั้งภาพลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสถานะทางสังคม การที่แสนสิริเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนนี้อย่างถ่องแท้ ทำให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์โปรดักต์ที่ตรงใจและเหนือความคาดหมายได้เสมอ
ขยายอาณาจักรคอนโดฯ สู่เมืองหลักและเมืองท่องเที่ยว: เกาะติดดีมานด์ที่กำลังเติบโต
การกระจายความเสี่ยงและโอกาสด้วยการ แสนสิริลงทุนคอนโด ในต่างจังหวัดเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยมีแผนเปิด 9 โครงการ มูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลสำคัญอย่างภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และขอนแก่น ทำเลเหล่านี้มีปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจน ทั้งการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว การค้า การศึกษา และแหล่งงาน ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนกำลังซื้อของคนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในภูเก็ต ที่เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “Canvas เชิงทะเล” มูลค่า 1,600 ล้านบาท ในโซน New CBD ที่มีดีมานด์จากลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่นิยมการพักระยะยาว (Long-Stay) ซึ่งเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติที่กำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ปักหมุดทำเลทองในกรุงเทพฯ: เติมเต็มดีมานด์ในพื้นที่หายาก
แม้ที่ดินเปล่าในใจกลางกรุงเทพฯ จะหายากขึ้นทุกที แต่แสนสิริยังคงมีความสามารถในการหาทำเลศักยภาพที่แท้จริง เพื่อตอบสนองดีมานด์ที่ยังคงมีอยู่สูง การเปิดตัวแบรนด์ “Via” 3 ทำเลรวดในย่านสุขุมวิท ทั้งสุขุมวิท 34, สุขุมวิท 61 และสุขุมวิท 36 ตรงข้ามซอยทองหล่อ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการเลือกทำเลที่อยู่อาศัยที่เหนือกว่า ทำเลสุขุมวิท คอนโด ถือเป็นทำเลทองที่ผู้ซื้อคอนโดกรุงเทพฯ มองหามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุนระยะยาว การที่แสนสิริสามารถหาที่ดินพัฒนาคอนโดในทำเลที่อุปทานใหม่ๆ แทบไม่มี สะท้อนถึงเครือข่ายและความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งในวงการ
บุกตลาด Pets Welcome Condo: ตอบรับเทรนด์ Pet Parent อย่างเต็มตัว
เทรนด์ Pet Parent ที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้มีเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แสนสิริเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดนี้จากโครงการเดอะสแตนดาร์ด หัวหิน, เมคิน เฮาส์ เชียงใหม่, เดอะมูฟ สุขุมวิท 107 และพินน์ ปรีดี 20 ล่าสุดกับการเปิดตัว “พินน์ ศูนย์วิจัย” ใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพ มูลค่า 260 ล้านบาท ที่เน้นห้องชุดขนาดใหญ่และจำนวนยูนิตไม่เยอะ เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างครบฟังก์ชัน แสนสิริให้ความสำคัญกับการดีไซน์รายละเอียดเพื่อให้พื้นที่ใช้งานเหมาะสมกับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง นี่คือตัวอย่างของนวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่ม
พลิกโฉม “เดอะเบส”: รีเซ็ตแบรนด์ให้ทันสมัยและเข้าถึงง่ายขึ้น
“เดอะเบส” เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมของแสนสิริที่ลูกค้ารู้จักมาอย่างยาวนาน ด้วยประสบการณ์พัฒนามาแล้วกว่า 20 โครงการ มูลค่ารวม 37,000 ล้านบาท การรีเซ็ตแบรนด์ในปีนี้ไม่ใช่แค่การปรับปรุง แต่เป็นการขยายพื้นที่แปลนใหม่ ให้หน้ากว้างขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียว และดีไซน์ห้องแบบลอฟต์ เพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันมากขึ้น การเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่า 5,700 ล้านบาท รวมถึงครั้งแรกที่นำเสนอ “เดอะเบส” ที่เป็นคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ 2 โครงการ หนึ่งในนั้นคือ “เดอะเบส ไรส์” ที่ภูเก็ต มูลค่า 900 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท/ยูนิต แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการปรับตัวของแบรนด์ที่สามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น
ต่อยอด “ดีคอนโด”: สร้างสรรค์คอมมูนิตี้ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
“ดีคอนโด” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ ด้วยฟาซิลิตี้ที่ครบครัน แผนการเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่า 3,900 ล้านบาท และเตรียมโอน 6 โครงการ มูลค่า 6,500 ล้านบาทในปีนี้ สะท้อนถึงความเข้าใจในดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งชุมชนและสถานศึกษา ตัวอย่างเช่น “ดีคอนโด เซนส์” บางแสน ชลบุรี ใกล้ ม.บูรพา มูลค่า 880 ล้านบาท และ “ดีคอนโด คาล์ม” รามคำแหง 10 มูลค่า 820 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตและการเรียนรู้
เดินหน้า Affordable Condo: สนับสนุนมาตรการรัฐและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น
แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเซ็กเมนต์ Affordable Condo อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับมาตรการรัฐที่สนับสนุนการลงทุนคอนโดมิเนียม BOI ราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่าน 2 แบรนด์หลักคือ “คอนโด มี-Vay” ซึ่งเน้นทำเลที่ใกล้แหล่งงานและนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยมีแผนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,110 ล้านบาท กลยุทธ์นี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสในการมีบ้านให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ทำให้การ แสนสิริลงทุนคอนโด มีความหลากหลายและยั่งยืน
ตอกย้ำประสบการณ์ 40 ปี: ผู้นำด้านดีไซน์ คุณภาพ และบริการ
หัวใจสำคัญที่ทำให้แสนสิริยืนหยัดเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมมาตลอด 4 ทศวรรษ คือความมุ่งมั่นในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า การบริหารจัดการซัพพลายเชนอย่างมืออาชีพ การทำงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจระดับโปรเฟสชั่นนอลในทุกรายละเอียด รวมถึงผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อเสียงและคุณภาพระดับสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกโครงการของแสนสิริจะมีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ ที่สำคัญที่สุดคือ ความโดดเด่นในเรื่องการบริการ ทั้งก่อนและหลังการขาย การบริหารนิติบุคคลอาคารชุดที่เข้าใจการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและภักดีต่อแบรนด์ ดังเช่นกรณีการจองซื้อเพนต์เฮาส์มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาทในกระดาษ โดยที่ยังไม่เห็นห้องตัวอย่าง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงพลังของแบรนด์และความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแสนสิริ การจัดการอสังหาริมทรัพย์หลังการขายที่ดีเยี่ยม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อมูลค่าเพิ่มของอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว ดังจะเห็นได้จากโครงการแฟลกชิปแห่งแรกอย่าง “บ้านไข่มุก” ที่หัวหิน ซึ่งราคาเปลี่ยนมือขยับขึ้นไปถึง 1,000% เพราะการดูแลบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม
พันธมิตรเชิงกลยุทธ์และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน: เสาหลักที่มองไม่เห็น
นอกเหนือจาก 8 กลยุทธ์หลัก สิ่งหนึ่งที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญอสังหาฯ มองว่าเป็น “คีย์สำคัญ” ที่ทำให้แสนสิริกล้าที่จะ แสนสิริลงทุนคอนโด ด้วยเม็ดเงินมหาศาล นั่นคือ “โมเดลธุรกิจที่เลือกเฟ้นทำเลลงทุนที่เป็น Strategic Location” และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ “Strategic Partners หรือพันธมิตรธุรกิจที่แข็งแกร่ง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “ผู้รับเหมาก่อสร้าง” ทั้งบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้รับเหมาที่ร่วมงานกับแสนสิริมานานกว่า 10 ปี บางรายเกิน 20 ปี ความสัมพันธ์อันยาวนานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความคุ้นเคย แต่เป็น “ความไว้วางใจ” และ “ความเข้าใจในมาตรฐาน” ที่แสนสิริต้องการ การมีผู้รับเหมาที่มีชื่อเสียงและคุณภาพการก่อสร้างระดับสูงในตลาด ทำให้แสนสิริสามารถควบคุมคุณภาพของงานก่อสร้างได้ตามมาตรฐานระดับโลก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความน่าเชื่อถือและมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการคอนโดมิเนียมทุกแห่ง ความแข็งแกร่งของ Supply Chain Management ที่มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพในทุกรายละเอียด ทำให้แสนสิริสามารถส่งมอบโครงการได้ตามกำหนดและด้วยคุณภาพสูงสุด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงอสังหาริมทรัพย์และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
บทสรุป: วิสัยทัศน์ผู้นำที่พร้อมเผชิญทุกความท้าทาย
แผนการ แสนสิริลงทุนคอนโด มูลค่า 26,000 ล้านบาท พร้อม 20 โครงการใหม่ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่น่าตื่นเต้น แต่เป็นการประกาศจุดยืนของผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่มีความพร้อมและกล้าหาญในการเดินหน้าท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ การวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ เชิงลึก ประกอบกับประสบการณ์ 40 ปี และ 8 กลยุทธ์อันแข็งแกร่งที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่ Affordable ไปจนถึงซูเปอร์ลักชัวรี่ พร้อมทั้งการให้ความสำคัญกับทำเลศักยภาพ นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ และที่สำคัญที่สุดคือ “คุณภาพและการบริการ” ทำให้แสนสิริเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่น่าจับตามองและเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และผู้ที่กำลังมองหาบ้าน
การที่แสนสิริสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าจนถึงขั้นยอมจองซื้อคอนโดหลักร้อยล้านบาทโดยที่ยังไม่เห็นโครงการจริง เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าแค่การก่อสร้างอาคาร แต่เป็นการสร้าง “ความไว้วางใจ” และ “ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด” แสนสิริไม่ได้เพียงแค่สร้างที่อยู่อาศัย แต่กำลังสร้างอนาคตของการใช้ชีวิตในแบบที่ผู้บริโภคต้องการ และจะยังคงเป็นผู้กำหนดทิศทางสำคัญของตลาดคอนโดมิเนียมไทยต่อไป
สำหรับท่านที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน หรือกำลังพิจารณาที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง อย่าพลาดที่จะศึกษาและติดตามโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ จากแสนสิริ เพื่อค้นหาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว หรือหากท่านสนใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อนำพาท่านสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีพลวัตสูงนี้
