• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912166 รปภ

admin79 by admin79
December 22, 2025
in Uncategorized
0
D1912166 รปภ

อนาคตเศรษฐกิจไทย: โอกาสทองของอสังหาริมทรัพย์ในการขับเคลื่อนประเทศสู่ศักยภาพใหม่

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของเศรษฐกิจไทยมาหลายรูปแบบ บทสนทนาเรื่อง “อนาคตเศรษฐกิจไทย” ไม่ใช่เพียงการคาดการณ์ แต่คือความท้าทายที่เราต้องเผชิญและหาทางออกอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2568 นี้ ที่ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจโลกและในประเทศกำลังผันผวนอย่างรุนแรง ประเทศไทยยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญ เราจะเดินหน้าต่อไปในเส้นทางเดิมที่เริ่มตัน หรือจะกล้าหาญพอที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อปลดล็อกศักยภาพใหม่ ๆ ให้กับชาติ? ผมเชื่อว่า “อสังหาริมทรัพย์ไทย” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพลิกฟื้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต

วิกฤตที่ฝังราก: ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

เราต้องยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับภาวะชะงักงันที่ซับซ้อนและเรื้อรัง ไม่ใช่แค่ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นวิกฤตเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน สิ่งที่เราเรียกว่า “ทศวรรษที่สาบสูญ” กำลังกัดกินความสามารถในการเติบโตของประเทศอย่างช้า ๆ

ประการแรก หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงแตะระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นอุปสรรคสำคัญที่บั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศอย่างรุนแรง การที่ประชาชนจำนวนมากต้องนำรายได้ในอนาคตมาใช้จ่ายในปัจจุบัน ส่งผลให้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจถดถอยลงอย่างชัดเจน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เองก็สัมผัสได้ถึงความยากลำบากในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ประการที่สอง ปัญหาเชิงโครงสร้างประชากร ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้สัดส่วนของประชากรวัยแรงงานลดลง ในขณะที่ภาระการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและประสิทธิภาพจะเป็นความท้าทายใหญ่ในการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจยังคงเป็นประเด็นที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน ทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถกระจายผลประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง

ประการที่สาม เรากำลังเผชิญกับสมรภูมิ “สงครามการค้า” ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อน GDP หลักมาโดยตลอด สถานการณ์เศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญก็ยังคงน่าเป็นห่วง การส่งออกสินค้าจากประเทศมหาอำนาจมายังประเทศใกล้เคียงอย่างไทยในราคาที่แข่งขันได้ กำลังสร้างแรงกดดันมหาศาลต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ

และประการสุดท้าย การพึ่งพาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ลงทุนโดยญี่ปุ่นและอุตสาหกรรมต่อเนื่องในอดีต ได้ทำให้โครงสร้าง GDP ของไทยมีความเปราะบาง เมื่อโลกก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ไทยกลับยังไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีและห่วงโซ่อุปทานเพื่อรองรับการผลิตชิ้นส่วนสำคัญได้เต็มที่ ทำให้เรากลายเป็นเพียงฐานการประกอบมากกว่าจะเป็นผู้ผลิตที่แท้จริง สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยังเพิ่มความเสี่ยงและความไม่แน่นอนให้กับห่วงโซ่อุปทานและการค้าโลก ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ถาโถมเข้าใส่เศรษฐกิจไทยอย่างไม่หยุดยั้ง แม้กระทั่งภาคการท่องเที่ยวที่เคยเป็นความหวังสำคัญ ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะจากตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่กลับมาคึกคักเหมือนเดิม

ด้วยภาพรวมเช่นนี้ คำถามที่สำคัญคือ เราจะยังคงยึดติดกับโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิมต่อไปได้อีกหรือ? คำตอบคือ “ไม่ได้”

บทเรียนจากนานาชาติ: การพลิกโฉมเศรษฐกิจสู่บริการและอสังหาริมทรัพย์

เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่เคยเผชิญกับสถานการณ์คล้ายคลึงกัน เราจะเห็นเส้นทางที่ชัดเจนในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อความอยู่รอดและเติบโต ประเทศเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่า การเปลี่ยนแปลงที่กล้าหาญสามารถนำไปสู่ยุคทองใหม่ได้

สิงคโปร์: จากเดิมที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรมหนัก ได้พลิกโฉมตัวเองสู่การเป็นศูนย์กลางภาคบริการระดับโลก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของ GDP โดยเน้นการสร้างรายได้จากต่างประเทศในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน ธนาคาร เทคโนโลยี ดิจิทัลอีโคโนมี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการศึกษา ความสำเร็จของสิงคโปร์แสดงให้เห็นถึงพลังของการลงทุนในทุนมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
เกาหลีใต้: แม้จะยังคงแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมหนัก แต่ก็ขยายบทบาทสู่เทคโนโลยีล้ำสมัย อุตสาหกรรมบันเทิง (K-Pop, K-Drama) และภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและความสามารถในการสร้างวัฒนธรรมส่งออกเป็นกุญแจสำคัญ
ฮ่องกง: จากฐานการผลิตโรงงานสิ่งทอ ได้ผันตัวเป็นศูนย์กลางการเงิน การบริการ และอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกอย่างรวดเร็ว การเป็นประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่และการมีระบบเศรษฐกิจเสรี เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): จากประเทศที่พึ่งพารายได้จากน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 30% ของ GDP ได้ปรับเปลี่ยนไปสู่การท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการ และการส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE (การประชุม, การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล, การจัดประชุมวิชาชีพ และการจัดนิทรรศการ) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกและการสร้างประสบการณ์ที่หรูหราดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์
สหราชอาณาจักร: จากผู้นำอุตสาหกรรมในอดีต ปัจจุบันภาคบริการกลับมามีสัดส่วนกว่า 80% ของ GDP กรุงลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีของยุโรป การปรับตัวเข้ากับเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และนวัตกรรมดิจิทัล เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง

บทเรียนเหล่านี้ชี้ชัดว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จคือประเทศที่กล้าปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมเดิม ๆ สู่ภาคบริการ เทคโนโลยี และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์สินที่มีอยู่ และหนึ่งในภาคส่วนที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ อสังหาริมทรัพย์ไทย

ศักยภาพที่ซ่อนเร้นของประเทศไทย: ทรัพยากรที่มีค่ารอการปลดล็อก

ประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากรที่มีค่า แต่เราอาจยังไม่ได้ใช้ศักยภาพเหล่านั้นอย่างเต็มที่และถูกจุด ผมขอย้ำว่าประเทศไทยมีจุดแข็งมากมายที่คนต่างชาติทั่วโลกหลงรักและต้องการที่จะมาอยู่อาศัยหรือลงทุน

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก: กรุงเทพฯ ยังคงรั้งอันดับหนึ่งเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลกในปี 2024 ตามข้อมูลจากหลายสำนัก การท่องเที่ยวภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง
ระบบสาธารณสุขชั้นเลิศ: โรงพยาบาลชั้นนำของไทยหลายแห่งติดอันดับดีที่สุดในโลก ด้วยบริการที่เป็นเลิศและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลกว่าชาติตะวันตก ดึงดูด Medical Tourists และผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานเพื่อการดูแลสุขภาพ
คุณภาพชีวิตและค่าครองชีพที่ดึงดูดใจ: ค่าครองชีพในประเทศไทยยังคงต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลก ในขณะที่คุณภาพชีวิต อาหารไทยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล สภาพอากาศที่ดี และสังคมไทยที่เป็นมิตร ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวต่างชาติต้องการมาใช้ชีวิตในระยะยาว
อสังหาริมทรัพย์ไทยที่จับต้องได้: ราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลศักยภาพหลายแห่งของไทยยังคงน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ในต่างประเทศ เปิดโอกาสให้เกิด การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่คุ้มค่า

ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะดึงดูดกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุ และกลุ่ม Digital Nomads จากทั่วโลกให้เข้ามาอยู่อาศัยและจับจ่ายใช้สอยในประเทศอย่างมหาศาล หากเรามีนโยบายที่เอื้ออำนวยอย่างจริงจัง

อสังหาริมทรัพย์ไทย: กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพิจารณาบทบาทของ “อสังหาริมทรัพย์ไทย” ในฐานะเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ จากเดิมที่เคยเป็นเพียงภาคส่วนหนึ่งของ GDP ให้กลายเป็นหัวหอกในการสร้างกำลังซื้อจากต่างประเทศ นี่คือแนวคิดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากหลายประเทศทั่วโลก

ผมขอหยิบยกกรณีศึกษาจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤต:

โปรตุเกส (Golden Visa 2012): เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 500,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับสิทธิพำนักถาวร ทำให้เงินทุนหลั่งไหลเข้าประเทศกว่า 7 พันล้านยูโร ช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตอย่างน่าทึ่ง และกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
สเปน (Residency by Investment 2008): หลังวิกฤตการณ์ทางการเงิน เปิดให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 500,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อกระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซา ส่งผลให้ GDP ฟื้นตัว 3% ภายใน 5 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงดูดนักลงทุนจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Freehold Property): นโยบายอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบ Freehold ได้ ดึงดูดนักลงทุนมหาศาล จนอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของ GDP และทำให้ UAE กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก
กรีซ (Greece Golden Visa): อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ 250,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อขอวีซ่าพำนักถาวร ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตกว่า 60% ภายใน 10 ปี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตหนี้ยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาเลเซีย (Malaysia My Second Home – MM2H): โครงการที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาว กระตุ้นตลาดบ้าน ดึงดูดทั้งผู้เกษียณอายุและนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่นให้เข้ามาในประเทศ

จากตัวอย่างเหล่านี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่าการเปิดกว้างเรื่องการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติ ไม่ใช่การ “ขายชาติ” หรือ “เสียดินแดน” แต่คือการ “ดึงดูดทุน” และ “สร้างโอกาส” อย่างชาญฉลาด ประเทศไทยมีที่ดินกว่า 321 ล้านไร่ มีเอกสารสิทธิราว 127 ล้านไร่ (40%) การอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในสัดส่วนที่จำกัดและควบคุมได้ เช่น ภายใต้เงื่อนไขคล้าย วีซ่าทองคำ หรือ Residency by Investment จะใช้ที่ดินเพียงเศษเสี้ยวของทั้งหมดเท่านั้น

จากข้อมูลปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 392,858 หน่วย มูลค่ากว่า 1,065,008 ล้านบาท หากเราสามารถดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาซื้อได้เพียง 1 ใน 4 ของมูลค่าดังกล่าว จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลถึง 250,000 ล้านบาท เงินเหล่านี้ไม่ใช่แค่ค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเป็นการนำเข้าเงินตราต่างประเทศมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาล และหากเรากำหนดกลุ่มเป้าหมายนักลงทุนต่างชาติได้อย่างชัดเจน เช่น กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูงที่ต้องการซื้อบ้านพักอาศัยระดับราคา 5-7 ล้านบาท ในทำเลทองอย่างคอนโดมิเนียม กรุงเทพฯ บ้านพักตากอากาศ ภูเก็ต หรือวิลล่าหรูในพัทยา ย่อมจะสร้างผลกระทบเชิงบวกที่จับต้องได้

เจาะลึก: กลไกและนโยบายสู่การเป็นศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก

เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกและดึงดูด การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จากต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจำเป็นต้องมีนโยบายที่ชัดเจนและกลไกที่โปร่งใส

การกำหนดรูปแบบสิทธิการถือครองที่ชัดเจน: ควรพิจารณาโมเดลที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เช่น การให้สิทธิพำนักระยะยาว (Long-Term Residency Visa) หรือ วีซ่าทองคำ (Golden Visa) แลกกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามเกณฑ์ที่กำหนด อาจแบ่งเป็นหลายระดับราคาเพื่อรองรับนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของการลงทุน
การอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม: กระบวนการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์สำหรับชาวต่างชาติควรมีความง่าย โปร่งใส และรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การยื่นเอกสาร การตรวจสอบข้อมูล หรือแม้แต่การชำระเงิน จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจได้เป็นอย่างมาก
การสร้างศูนย์บริการแบบครบวงจร (One-Stop Service): เพื่อให้ชาวต่างชาติที่สนใจ อสังหาริมทรัพย์ไทย ได้รับคำแนะนำและบริการที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ ภาษีอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการดูแลหลังการขาย การมี ที่ปรึกษาการลงทุน ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค: การลงทุนในพื้นที่เป้าหมาย เช่น ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ทั้งระบบขนส่ง โรงพยาบาลนานาชาติ โรงเรียนนานาชาติ และแหล่งอำนวยความสะดวกที่รองรับไลฟ์สไตล์ของชาวต่างชาติ
การส่งเสริมการตลาดเชิงรุก: รัฐบาลและภาคเอกชนควรทำงานร่วมกันในการประชาสัมพันธ์ศักยภาพของ “อสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย” ในประเทศไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดเกิดใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง เช่น จีน อินเดีย หรือตะวันออกกลาง การนำเสนอ โอกาสการลงทุนไทย ในรูปแบบของ พอร์ตโฟลิโอการลงทุน ที่หลากหลายและให้ ผลตอบแทนการลงทุน ที่น่าสนใจ จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ

ประโยชน์รอบด้าน: มากกว่าแค่การซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์

การผลักดันให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองอสังหาริมทรัพย์ในไทย ไม่ใช่แค่การขายบ้าน แต่เป็นการจุดพลุให้เกิดผลกระทบเชิงบวกแบบลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจโดยรวม:

กระตุ้นภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง: เมื่อมีการซื้อขายบ้านมากขึ้น ย่อมมีความต้องการในการก่อสร้างและปรับปรุงเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจออกแบบตกแต่งภายใน และผู้รับเหมา ก่อให้เกิดการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมนับแสนตำแหน่ง
เพิ่มการบริโภคและการลงทุนในท้องถิ่น: ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยในไทยจะมีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สินค้า บริการ หรือการท่องเที่ยว ซึ่งจะสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และภาคบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีศักยภาพ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ชลบุรี หรือ อสังหาริมทรัพย์ ระยอง
ยกระดับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานบริการ: การแข่งขันเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ไทย พัฒนาคุณภาพของโครงการ บริการหลังการขาย และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วย่อมเป็นประโยชน์ต่อคนไทยเองด้วย
เพิ่มเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI): การที่ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยและเห็นโอกาสในการลงทุน ย่อมนำไปสู่การลงทุนในภาคส่วนอื่น ๆ เช่น ภาคบริการ โรงแรม ร้านอาหาร หรือแม้แต่สตาร์ทอัพ ซึ่งจะเป็นการสร้างงานและองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้กับประเทศ
สร้างความมั่นคงทางการเงินให้ประเทศ: การไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุนสำรองระหว่างประเทศ และลดความผันผวนของค่าเงินบาท ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ หากเราสามารถสร้างยอดขาย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ให้กับชาวต่างชาติได้ 100,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นไปได้ไม่ยากหากมีนโยบายที่เอื้ออำนวย จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ได้ถึง 7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติอย่างภูเก็ตและพัทยาที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

ผมเชื่อมั่นว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองการณ์ไกลและปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทของ อสังหาริมทรัพย์ไทย ไม่ใช่แค่เพียงการเป็นที่อยู่อาศัยหรือสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร แต่คือเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ การพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมหนักและภาคการส่งออกในรูปแบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว

การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจนและรัดกุม จะเป็นการสร้างกำลังซื้อจากต่างประเทศที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เป็นการเติมเชื้อเพลิงให้แก่กลไกเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนล้า และที่สำคัญกว่านั้น คือเป็นการส่งสัญญาณให้ทั่วโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการเป็น “บ้านหลังที่สอง” สำหรับนักลงทุน ผู้เกษียณอายุ และผู้ที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี

นี่ไม่ใช่แค่ทางเลือกหนึ่ง แต่คือทางออกที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดทางหนึ่งที่จะช่วยฟื้นฟูและสร้างอนาคตที่สดใสให้แก่เศรษฐกิจไทยในยุค 2025 และต่อ ๆ ไป เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการวางแผนอนาคตทางการเงินที่มั่นคงและเข้าใจถึง การวางแผนการเงิน ที่รอบด้าน รวมถึงพิจารณา กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ในฐานะส่วนหนึ่งของ พอร์ตโฟลิโอการลงทุน ของตนเอง

เราในฐานะคนในวงการอสังหาริมทรัพย์พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ และเราขอเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมกันพิจารณาโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย หากท่านมีความสนใจที่จะศึกษาโอกาส การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการคำปรึกษาจาก ที่ปรึกษาการลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

Previous Post

D1912165 อค าแตงโม ขายล กละ แต คนซ อได ไง! part2

Next Post

D1912167 นข าวก บแฟนตาบอด แต นไปกอดก บอ กคน! part2

Next Post
D1912167 นข าวก บแฟนตาบอด แต นไปกอดก บอ กคน! part2

D1912167 นข าวก บแฟนตาบอด แต นไปกอดก บอ กคน! part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2012001 ทำแบบน ได ไง เอาผ าข วมาล างรถหร part2
  • D1912188 แม าไลฟ สด ใครขโมยของล กค าไปเน ย! part2
  • D1912187 ทำแบบน ได ไง เอาผ าข วมาล างรถหร part2
  • D1912186 หมอนวด กฎของท อห ามม ความร part2
  • D1912185 ไม ยกม อไหว านไม เคร งเร องมารยาท! part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.