• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912158 เก ยวหม เด งราดน ำจ มซ ดประกายอาช พสาวออฟฟ ศ! part2

admin79 by admin79
December 22, 2025
in Uncategorized
0
D1912158 เก ยวหม เด งราดน ำจ มซ ดประกายอาช พสาวออฟฟ ศ! part2

กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์: มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ 10 ปี สู่การสร้างขีดความสามารถใหม่ปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตและวิเคราะห์พลวัตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของการส่งออกและอุตสาหกรรมยานยนต์ จนถึงปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับคลื่นพายุเศรษฐกิจถาโถมจากหลายทิศทาง คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจนักลงทุน ผู้ประกอบการ และแม้กระทั่งประชาชนทั่วไปคือ “เศรษฐกิจไทยถึงจุดทางตันแล้วจริงหรือ? และโอกาสในการรอดพ้นจากกับดักนี้อยู่ที่ใด?”

สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปี 2025 นี้ ไม่ใช่เพียงแค่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจชั่วคราว แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิมที่เราเคยพึ่งพามาตลอดนั้น กำลังอ่อนแรงและไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนอีกต่อไป บทความนี้จะเจาะลึกถึงความท้าทายเชิงโครงสร้างที่สำคัญ พร้อมนำเสนอ กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นเส้นทางที่สามารถสร้างขีดความสามารถใหม่และนำพาประเทศไทยสู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองอีกครั้ง

ภูมิทัศน์เศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนไป: วิกฤตเชิงโครงสร้างที่ต้องเผชิญ

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะที่ IMF เคยเตือนว่าเป็น “กับดักทศวรรษที่สาบสูญ” ซึ่งรุนแรงกว่าที่หลายคนคาดคิด สัญญาณต่างๆ ชี้ชัดว่าเราไม่สามารถยึดติดกับโมเดลการเติบโตแบบเดิมได้อีกต่อไป

สงครามการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่ร้อนแรง: การค้าโลกที่เคยเป็นเครื่องยนต์สำคัญของ เศรษฐกิจไทย กำลังถูกบั่นทอนด้วยสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจาก “Trade War” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การกีดกันทางการค้าโดยตรง แต่ยังรวมถึงการโยกย้ายฐานการผลิต การเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน และการที่สินค้าจากจีนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเหล่านี้ ไหลทะลักเข้ามาแข่งขันในตลาดภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย ทำให้ภาคการส่งออกของไทยที่เคยเป็นเสาหลัก ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล

ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่ว: หากย้อนไป 10 ปีที่แล้ว หนี้สินครัวเรือนของไทยอยู่ที่ประมาณ 40% ของ GDP แต่ปัจจุบันได้พุ่งทะยานขึ้นเกิน 90% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ตัวเลขนี้สะท้อนถึงการนำเงินในอนาคตมาใช้จ่ายเกินตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศ และทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมเป็นไปได้ยากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจไทย และจำกัดศักยภาพในการขยายตัวของภาคเอกชน

โครงสร้างประชากรและปัญหาแรงงาน: สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนแรงงานที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนภาคการผลิต ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมบางประเภท จะกลายเป็นข้อจำกัดสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่บั่นทอนการพัฒนาโดยรวม

การพึ่งพิงอุตสาหกรรมเก่าและการขาดแคลนเทคโนโลยีขั้นสูง: ในอดีต ประเทศไทยพึ่งพาอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ลงทุนโดยญี่ปุ่นเป็นหลักในการขับเคลื่อน GDP แต่ปัจจุบัน โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนสำคัญป้อนอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากเทคโนโลยีของไทยยังไม่ก้าวทัน ความล่าช้าในการปรับตัวนี้ทำให้เราเสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะผู้นำในภาคการผลิตยานยนต์

ภาคการท่องเที่ยวที่เผชิญความท้าทายใหม่: แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งความหวังกับการท่องเที่ยว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยยังไม่สามารถกลับไปสู่ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ง่ายนัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคยเป็นกลุ่มหลัก ก็มีพฤติกรรมการเดินทางที่เปลี่ยนไป และโอกาสที่จะกลับมามีสัดส่วนเท่าเดิมนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ความผันผวนของตลาดท่องเที่ยวโลกยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ

บทเรียนจากการเปลี่ยนผ่าน: โครงสร้าง GDP สู่ภาคบริการและอสังหาริมทรัพย์

เมื่อพิจารณาจากความท้าทายข้างต้น จึงถึงเวลาแล้วที่เราต้องทบทวนโครงสร้าง GDP ของไทย และกล้าที่จะปรับเปลี่ยนอย่างจริงจัง ดังที่หลายประเทศได้ประสบความสำเร็จมาแล้ว:

สิงคโปร์: เปลี่ยนผ่านจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่ภาคบริการมากถึง 70% ของ GDP เน้นการสร้างรายได้จากต่างประเทศ ทั้งด้านการเงิน ธนาคาร เทคโนโลยี ดิจิทัลอีโคโนมี และการศึกษา
เกาหลีใต้: จากที่เน้นอุตสาหกรรมหนัก เปลี่ยนมาเน้นด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรมบันเทิง และภาคบริการ
ฮ่องกง: จากอุตสาหกรรมโรงงานทอผ้า สู่ภาคการเงิน การบริการ และอสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): จากการพึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันเป็นหลัก สู่การท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการ และส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE อย่างเต็มรูปแบบ จน อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของ GDP
อังกฤษ: เดิมเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ปัจจุบันเปลี่ยนไปสู่ภาคบริการที่มีสัดส่วนกว่า 80% ของ GDP โดยลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีของยุโรป

ประเทศไทยมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่มากมายที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ที่ติดอันดับเมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก ระบบสาธารณสุขระดับโลก ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล อาหารไทยที่เป็นที่ยอมรับ วัฒนธรรมที่เป็นมิตร และสภาพอากาศที่ดี หากเราสามารถเปลี่ยนผ่านจากภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การเป็นศูนย์กลางภาคบริการและ ภาคอสังหาริมทรัพย์ ระดับโลกได้ ก็จะสามารถสร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศ

อสังหาริมทรัพย์: กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่

ในความคิดของผม กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วน การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครอง ที่อยู่อาศัย ในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายและมีประสิทธิภาพ จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกำลังซื้อจากต่างประเทศเข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่ภาคส่วนอื่นกำลังอ่อนแรง

เราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าที่ดินของประเทศไทยจะถูกต่างชาติยึดครองจนหมดสิ้น จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีที่ดินถึง 321 ล้านไร่ มีเอกสารสิทธิประมาณ 127 ล้านไร่ หากสมมติว่าใน 1 ปี เราขายบ้านให้ต่างชาติได้กว่า 200,000 หลัง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ที่ดินที่ใช้ไปนั้นยังไม่ถึง 0.2% ของที่ดินทั้งหมดที่ไทยมี นี่คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ใน ปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเกือบ 400,000 หน่วย มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท หากเราสามารถดึงกำลังซื้อต่างชาติให้เข้ามาซื้อได้เพียง 1 ใน 4 ของมูลค่าดังกล่าว ก็จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ชาวต่างชาติจำนวนมากต้องการมาพำนักในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มองหา “วีซ่าระยะยาว” เพื่อการเกษียณ ผู้ที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผู้ประกอบการที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานแบบ Digital Nomad หรือแม้แต่กลุ่มนักลงทุนที่มองหา “โอกาสลงทุนไทย” ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ค่าครองชีพที่ไม่สูงมากนัก คุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม ระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ และอสังหาริมทรัพย์ในราคาที่สมเหตุสมผล ล้วนเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญ

แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะพยายามผลักดันให้กลุ่มผู้มีรายได้สูงพิเศษเข้ามาอยู่อาศัย แต่ในความเป็นจริง กลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพและสนใจเข้ามาซื้อบ้านในไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มรายได้ปานกลางถึงรายได้สูง ที่มีกำลังซื้อบ้านในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่และยั่งยืน

พิมพ์เขียวสู่ความสำเร็จ: กลยุทธ์กระตุ้นการลงทุนอสังหาฯ จากต่างชาติ

เพื่อให้ กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม เราสามารถถอดบทเรียนจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการใช้ อสังหาริมทรัพย์ เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ:

โปรตุเกส (Golden Visa 2012): อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อ อสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 500,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับสิทธิพำนัก ดึงดูดเงินทุนกว่า 7 พันล้านยูโร และฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตได้สำเร็จ
สเปน (Residency by Investment): หลังวิกฤตปี 2008 เปิดให้ต่างชาติลงทุน 500,000 ยูโรขึ้นไป กระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซา และฟื้น GDP ได้ 3% ภายใน 5 ปี ดึงดูดทั้งชาวจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง
กรีซ (Greece Golden Visa): ให้ชาวต่างชาติซื้อ อสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 250,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อขอวีซ่าพำนัก ทำให้ตลาด อสังหาริมทรัพย์ เติบโตกว่า 60% ภายใน 10 ปี
มาเลเซีย (Malaysia My Second Home – MM2H): โครงการพำนักระยะยาวที่ดึงดูดผู้เกษียณและนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น เข้ามากระตุ้นตลาดบ้าน

สำหรับประเทศไทย การดำเนินการควรครอบคลุมหลายมิติ:

ปฏิรูปกฎหมายและนโยบาย:
ทบทวนกฎหมายการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติ: พิจารณาขยายสิทธิการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมให้ยืดหยุ่นขึ้น หรืออนุญาตให้ถือครอง ที่ดินเพื่อการลงทุน ในบางพื้นที่ที่กำหนด หรือสำหรับโครงการพัฒนาที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
จัดตั้งโครงการ “Thailand Property Investor Visa” หรือ “Thailand Elite Property”: คล้ายกับ Golden Visa โดยให้สิทธิพำนักระยะยาวสำหรับผู้ที่ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในมูลค่าที่กำหนด อาจเริ่มต้นที่ 5-10 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ
ลดอุปสรรคทางภาษี: พิจารณาโครงสร้าง ภาษีอสังหาริมทรัพย์ ที่เหมาะสมเพื่อดึงดูด การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ระยะยาว โดยยังคงความเป็นธรรมสำหรับคนไทย

กำหนดพื้นที่เป้าหมายและการส่งเสริมการตลาด:
มุ่งเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต, อสังหาริมทรัพย์ พัทยา, กรุงเทพฯ (โดยเฉพาะ คอนโดมิเนียม กรุงเทพฯ), เชียงใหม่, หัวหิน ที่มี ตลาดอสังหาริมทรัพย์หรู และบ้านพักตากอากาศ
จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาดเชิงรุกในต่างประเทศ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย เช่น ผู้เกษียณอายุ, Digital Nomads, นักลงทุนจากจีน, รัสเซีย, ยุโรป, ตะวันออกกลาง
พัฒนาแพลตฟอร์มและบริการ “ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯ” ที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ

สร้างมูลค่าเพิ่มและระบบนิเวศที่ครบวงจร:
ส่งเสริมการพัฒนาโครงการ อสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของชาวต่างชาติ เช่น โครงการที่พักอาศัยพร้อมบริการสุขภาพ (Medical Wellness Residences), คอมมูนิตี้สำหรับผู้เกษียณ, หรือโครงการ Smart City
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเข้ามาของชาวต่างชาติ ทั้งในด้านสาธารณูปโภค การศึกษา และการแพทย์
เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐในการอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและกระบวนการต่างๆ

ผลกระทบจากการผลักดัน กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ นี้ จะเป็นวงกว้างและลึกซึ้ง:

กระตุ้นการขายบ้านและที่อยู่อาศัย: สร้างความคึกคักให้แก่ตลาด อสังหาริมทรัพย์ ทั่วประเทศ
ประโยชน์ต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง: เกิดการจ้างงานโดยตรงและทางอ้อมจำนวนมาก ในภาคการก่อสร้าง การออกแบบ การตกแต่ง และบริการอื่นๆ
เพิ่มการบริโภคภายในประเทศ: ชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักจะใช้จ่ายในท้องถิ่น ทั้งค่าอาหาร ค่าบริการ ค่าสินค้าต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย
เพิ่มรายได้ให้รัฐบาล: ทั้งจากภาษีอสังหาริมทรัพย์ ภาษีการโอน และภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภค
นำเม็ดเงินต่างประเทศเข้าสู่ระบบ: เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินบาทและทุนสำรองระหว่างประเทศ

ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเราสามารถผลักดันให้มีการขายบ้านให้กับชาวต่างชาติได้ 10,000 หลัง จะสามารถกระตุ้น GDP ได้ถึง 0.75% แต่หากสามารถทำได้ถึง 100,000 หลัง ตัวเลข GDP จะเพิ่มขึ้นถึง 7% ซึ่งเป็นกำลังขับเคลื่อนที่มหาศาลอย่างแท้จริง

สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตไทย

การใช้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การขายทรัพย์สิน แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการดึงดูดเม็ดเงินคุณภาพจากต่างประเทศ พร้อมทั้งยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการพำนัก การลงทุน และการดำเนินธุรกิจในภูมิภาค

แน่นอนว่าย่อมมีข้อถกเถียงและความกังวล ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน นโยบายที่รอบคอบ และการสื่อสารที่โปร่งใส เราจะสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตนี้เป็นสิ่งจำเป็น แต่ผลตอบแทนที่ได้จะคุ้มค่าในระยะยาว

กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ คือเส้นทางที่เราต้องพิจารณาอย่างจริงจังและเร่งด่วนที่สุดในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากเดิมที่พึ่งพาการส่งออกและอุตสาหกรรมหนัก มาสู่การสร้างมูลค่าจากภาคบริการและ อสังหาริมทรัพย์ โดยใช้กำลังซื้อจากต่างประเทศ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟู เศรษฐกิจไทย และสร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้แก่ประเทศในอนาคต

ผมเชื่อมั่นว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องมอง ภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจ แต่เป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติที่จะปลดล็อกศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย

ก้าวต่อไปเพื่อเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน: ผมขอเชิญชวนผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และผลักดัน กลยุทธ์พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ นี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้าง โอกาสลงทุนไทย ที่สดใส และกำหนดทิศทางใหม่ให้ เศรษฐกิจไทย ก้าวผ่านความท้าทายในปัจจุบันและสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งไปด้วยกัน. หากท่านต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม หรือคำปรึกษาจาก ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาฯ โปรดติดต่อเราเพื่อหารือแนวทางที่เป็นรูปธรรมต่อไป.

Previous Post

D1912157 แฟนไม าม กาวด กช อย ในรองเท า! part2

Next Post

D1912159 เพราะแม

Next Post
D1912159 เพราะแม

D1912159 เพราะแม

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D2212005 เช อแต นแสหมอด าง นเราก เล กก นเถอะ! part2
  • D2212004 กาแฟฉ นแก วเด ยว งแพงกว ามาม าของแกอ ก! part2
  • D2212003 แม าราดหน กสาวใจแตก เห นผ ชายด กว าแม part2
  • D2212002 เชฟโรงแรมน ชอบช งด งเด ดท ายจบไม สวย! part2
  • D2212001 าวผ ดหน งส อพ มพ เป นแม ไม เอาเปร ยบก ไม รวย! part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.