• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912123 คนเก บของเก าคนน แหละ จะทำให เราได งาน าน part2

admin79 by admin79
December 20, 2025
in Uncategorized
0
D1912123 คนเก บของเก าคนน แหละ จะทำให เราได งาน าน part2

พลิกวิกฤตสู่โอกาส: การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ในบริบทโลก 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้ามองพลวัตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามถึงทิศทางอนาคตที่เรากำลังเผชิญอยู่ ไม่ใช่เพียงคำถามธรรมดา แต่เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบเชิงกลยุทธ์ที่เฉียบคมและกล้าหาญ “เศรษฐกิจไทยจะรอดพ้นจากกับดักที่กำลังเผชิญอยู่ได้อย่างไร และโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนอยู่ตรงไหน?” บทความนี้คือการสะท้อนมุมมองในฐานะผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญ ที่จะชี้ให้เห็นถึงความท้าทายปัจจุบัน และนำเสนอทางออกที่อาจฟังดูแปลกใหม่ แต่มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นฟันเฟืองหลักสำหรับการ การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์

สภาพเศรษฐกิจไทย: อยู่ในภาวะ “ทศวรรษที่สาบสูญ” หรือไม่?

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2025 ยังคงเต็มไปด้วยความผันผวนและปัจจัยเชิงลบที่ซับซ้อน ตั้งแต่สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกของไทย ไปจนถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าและแหล่งนักท่องเที่ยวสำคัญที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้สินค้าที่เคยส่งไปจีนจำนวนมากต้องหาตลาดใหม่ และบ่อยครั้งก็หลั่งไหลเข้ามาในตลาดใกล้เคียง รวมถึงประเทศไทย

คำเตือนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ว่าประเทศไทยกำลังติดอยู่ใน “กับดักทศวรรษที่สาบสูญ” ไม่ใช่เรื่องเกินจริง จากข้อมูลการลงทุนในตลาดหุ้นที่ไร้สัญญาณการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เปราะบาง และภาพอนาคตที่ยังไม่สดใส การพึ่งพาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เคยเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยเฉพาะการลงทุนจากญี่ปุ่นในอดีต ได้ลดทอนศักยภาพลงเมื่อโลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งไทยยังขาดขีดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ และนี่คือความท้าทายใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใต้โครงสร้างเศรษฐกิจเดิม

อุปสรรคสำคัญอีกประการหนึ่งคือ “หนี้ครัวเรือน” ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศอย่างรุนแรง ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อัตราหนี้ครัวเรือนพุ่งพรวดจากประมาณ 40% ของ GDP เป็นกว่า 90% และมีแนวโน้มจะแตะ 126% หากเรายังคงดำเนินนโยบายที่เน้นการใช้จ่ายเงินในอนาคต การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงจึงถูกบดบังด้วยการเพิ่มขึ้นของภาระหนี้สิน นี่คือปราการสำคัญที่ขัดขวาง การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคส่วนอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ

ไม่เพียงเท่านั้น โครงสร้างประชากรไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือในอนาคต ซึ่งจะลดทอนศักยภาพในการสร้างผลิตภาพทางเศรษฐกิจ และยังซ้ำเติมด้วยปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจที่ยังคงเป็นบาดแผลเรื้อรัง

แม้รัฐบาลจะพยายามผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้เป็นความหวังหลัก แต่ความเป็นจริงก็คือ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน ยังห่างไกลจากระดับก่อนเกิดโควิด-19 การคาดหวังให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมโดยปราศจากการปรับกลยุทธ์จึงอาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับทุกภาคส่วน

ถึงเวลาปรับโครงสร้าง GDP และหาเครื่องยนต์ใหม่

จากภาพรวมที่กล่าวมา จะเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยไม่สามารถยึดติดกับโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิม ๆ ได้อีกต่อไป เราจำเป็นต้องมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่ เพื่อให้หลุดพ้นจากวงจรแห่งความถดถอย ตัวอย่างความสำเร็จจากหลายประเทศทั่วโลกสามารถเป็นบทเรียนอันล้ำค่า:

สิงคโปร์: เปลี่ยนผ่านจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่ภาคบริการอย่างเต็มตัว คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของ GDP สร้างรายได้มหาศาลจากธุรกิจการเงิน ธนาคาร เทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัล และการศึกษา ถือเป็นการลงทุนในอนาคตที่ชาญฉลาด
เกาหลีใต้: จากที่เคยเน้นอุตสาหกรรมหนัก ก็หันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี นวัตกรรม และอุตสาหกรรมบันเทิง (K-Pop, K-Drama) ซึ่งกลายเป็น Soft Power ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
ฮ่องกง: จากฐานอุตสาหกรรมโรงงานทอผ้า สู่ศูนย์กลางทางการเงิน การบริการ และภาคอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): จากการพึ่งพารายได้น้ำมันที่วันนี้เหลือน้อยกว่า 30% ของ GDP ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการ และการส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE (การประชุม นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล) อย่างเต็มรูปแบบ ภาคอสังหาริมทรัพย์และ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย ในรูปแบบใหม่ๆ เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้
สหราชอาณาจักร: อดีตผู้นำอุตสาหกรรม ได้เปลี่ยนผ่านสู่ภาคบริการกว่า 80% ของ GDP โดยเฉพาะลอนดอนที่กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีของยุโรป

เมื่อมองย้อนกลับมาที่โครงสร้าง GDP ของไทย พบว่าภาคบริการมีสัดส่วนเพียง 52% เท่านั้น ในขณะที่ภาคเกษตรกรรม 8.4% และภาคอุตสาหกรรม 39.2% การบริโภคภาคเอกชน 57.7% และการส่งออกสินค้าและบริการ 65.4% แสดงให้เห็นว่าเรายังคงพึ่งพาการส่งออกและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมมากเกินไป และคำถามสำคัญคือ “รายได้จากการส่งออกนั้น ประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพียงใด?”

ภาคอสังหาริมทรัพย์: ฟันเฟืองขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจไทย

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าคิดและกล้าเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหันมาให้ความสำคัญกับ การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ ในฐานะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทรงพลัง ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพอันโดดเด่นที่ชาวต่างชาติหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ที่ติดอันดับ 1 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับชาติตะวันตก อาหารไทยที่ได้รับการยอมรับระดับโลก สภาพอากาศที่ดี ค่าครองชีพที่ไม่สูงมากนัก สังคมไทยที่เป็นมิตร และคุณภาพอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ สิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งที่สามารถดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาพำนักอาศัยและใช้จ่ายในประเทศได้อย่างมหาศาล

ในอดีต เรามีกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจในยามวิกฤต ดังเช่น:

โปรตุเกส: โครงการ Golden Visa (เริ่มปี 2012) อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 500,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับสิทธิพำนักถาวร ทำให้เงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าประเทศกว่า 7 พันล้านยูโร ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตได้อย่างรวดเร็ว และกระตุ้นราคาบ้านให้ฟื้นตัว
สเปน: โครงการ Residency by Investment หลังวิกฤตปี 2008 เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 500,000 ยูโรขึ้นไป ช่วยกระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซาและทำให้ GDP ฟื้นตัว 3% ภายใน 5 ปี ดึงดูดนักลงทุนจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): โครงการ Freehold Property ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ได้อย่างสมบูรณ์ ดึงดูดนักลงทุนมหาศาล ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวคิดเป็นกว่า 50% ของ GDP และผลักดันให้ UAE กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก อสังหาริมทรัพย์หรูและพูลวิลล่าในดูไบและอาบูดาบีเป็นที่ต้องการอย่างมาก
กรีซ: โครงการ Greece Golden Visa เปิดให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ 250,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อรับวีซ่าพำนัก ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโต 60% ภายใน 10 ปี และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรป
มาเลเซีย: โครงการ Malaysia My Second Home (MM2H) เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาว กระตุ้นตลาดบ้านและดึงดูดกลุ่มผู้เกษียณอายุและนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น

จุดแข็งของไทยและโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะทำตามรอยความสำเร็จเหล่านี้ได้ และอาจจะดียิ่งกว่าด้วยซ้ำ ด้วยมูลค่า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมขอเสนอให้มีการพิจารณาอย่างจริงจังในการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าที่ดินของประเทศจะถูกยึดครองจนหมดสิ้น เพราะจากข้อมูล ประเทศไทยมีที่ดินรวมกว่า 321 ล้านไร่ และมีเอกสารสิทธิ์ประมาณ 127 ล้านไร่ (40%) หากสมมติว่าในแต่ละปีเราสามารถขายบ้านให้ชาวต่างชาติได้ 200,000 หลัง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง พื้นที่ที่ถูกใช้ไปจะไม่ถึง 0.2% ของที่ดินทั้งหมดในประเทศเลยด้วยซ้ำ

ในปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศถึง 392,858 หน่วย มูลค่ากว่า 1.065 ล้านล้านบาท หากเราสามารถดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาซื้อได้เพียง 1 ใน 4 ของจำนวนนี้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มหาศาลถึง 250,000 ล้านบาท และที่สำคัญคือกลุ่มเป้าหมายไม่ได้มีแค่ผู้มีรายได้สูงเท่านั้น แต่เป็นกลุ่มคนต่างชาติที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งยังมีกำลังซื้อบ้านในระดับราคาที่เหมาะสม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 ล้านบาท ไม่จำเป็นต้องเป็น อสังหาริมทรัพย์หรู ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเสมอไป

ผลกระทบจากการผลักดันนโยบายนี้จะแผ่ขยายไปในหลายมิติ:
กระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์: ช่วยระบายสต็อกที่อยู่อาศัยและสร้างโอกาสให้กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ
ธุรกิจวัสดุก่อสร้างได้รับอานิสงส์: เกิดความต้องการในสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและตกแต่งอย่างมหาศาล
การจ้างงานโดยตรงและทางอ้อม: ตั้งแต่แรงงานก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร นายหน้า พนักงานบริการ ไปจนถึงธุรกิจต่อเนื่องในชุมชน
การบริโภคในท้องถิ่น: ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยจะมีการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจบริการต่าง ๆ ในชุมชน อาทิ โรงเรียนนานาชาติ คลินิกสุขภาพ และธุรกิจท่องเที่ยวในท้องถิ่น

การขายบ้านเพียง 10,000 หลัง อาจเพิ่ม GDP ได้ถึง 0.75% แต่หากเราสามารถเพิ่มยอดขายเป็น 100,000 หลัง อาจส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้นถึง 7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในการเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างที่เราเห็นได้จาก อสังหาริมทรัพย์ ชลบุรี, อสังหาริมทรัพย์ ระยอง และ อสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต ที่มีการซื้อขายโดยต่างชาติทั้งถูกกฎหมายและผ่านตัวแทนในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งหากเราสามารถทำให้กลไกนี้เป็นทางการและโปร่งใส จะยิ่งสร้างมูลค่าและลดความเสี่ยงลงได้มาก

ก้าวสู่ยุคใหม่ของโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจจากเดิมที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรม มาสู่การพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยอาศัยกำลังซื้อจากต่างประเทศ ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็น “ความจำเป็นเร่งด่วน” ที่เราต้องพิจารณาอย่างจริงจังในวันนี้ การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและถือครองอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในรูปแบบ คอนโดมิเนียมลงทุน หรือโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมืองหลักอย่าง อสังหาริมทรัพย์ กรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวอย่าง บ้านพักตากอากาศ พัทยา หรือ คอนโดติดทะเล จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการ การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

เราต้องสร้างความมั่นใจในด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์ไทย ไม่ว่าจะเป็น ที่ดินเพื่อการลงทุน หรือโครงการขนาดใหญ่ การศึกษาเรื่องภาษีอสังหาริมทรัพย์ และการพิจารณานโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน เช่น การยกเลิกหรือผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการ รวมถึงการออกวีซ่าระยะยาวพิเศษสำหรับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นโครงการที่คล้ายกับ “วีซ่าทองคำ” หรือ “Residency by Investment” ที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศ

สิ่งสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ การลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริการบริหารอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ราคาอสังหาริมทรัพย์ 2568 และแนวโน้มตลาด เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจ และสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระดับที่ใหญ่ขึ้น การพิจารณากองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่บริหารจัดการอย่างโปร่งใสก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองภาคอสังหาริมทรัพย์ในมุมมองใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องของการอยู่อาศัย แต่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเจริญให้กับประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว นี่ไม่ใช่แค่การขายบ้าน แต่เป็นการ “ขายโอกาส” และ “ขายคุณภาพชีวิต” ที่ประเทศไทยมีให้แก่คนทั่วโลก

หากเราไม่รีบดำเนินการและปรับตัว เศรษฐกิจไทยจะยังคงเผชิญกับความท้าทายที่ยากจะแก้ไข การพิจารณากลยุทธ์ที่กล้าหาญนี้ จะเป็นทางออกหนึ่งที่สำคัญในการ การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ และนำพาประเทศก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างมั่นคง

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสให้กับเศรษฐกิจไทย ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับแนวทางนี้? มาร่วมกันผลักดันและพัฒนาศักยภาพของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยไปด้วยกัน เพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนของประเทศชาติ ติดต่อเราเพื่อปรึกษาโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการสร้างผลตอบแทนได้อย่างมืออาชีพ.

Previous Post

D1912122 นหร อย แพง คนเป นเพ อนเขาทำก นแบบน เหรอ part2

Next Post

D1912124 ดกะเพราเส นข นเทพ รสชาต หร อม ของสมนาค part2

Next Post
D1912124 ดกะเพราเส นข นเทพ รสชาต หร อม ของสมนาค part2

D1912124 ดกะเพราเส นข นเทพ รสชาต หร อม ของสมนาค part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912125 กค าต วด องเปล ยนส ผมซะให เข part2
  • D1912124 ดกะเพราเส นข นเทพ รสชาต หร อม ของสมนาค part2
  • D1912123 คนเก บของเก าคนน แหละ จะทำให เราได งาน าน part2
  • D1912122 นหร อย แพง คนเป นเพ อนเขาทำก นแบบน เหรอ part2
  • D1912121 บะหม บาท กำไรแทบจะไม แต กล าด มาซ อโรงแรมหร part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.