• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912071 แฟนเก าขายส มตำ ตรากตรำจ งเลยเนอะ part2

admin79 by admin79
December 20, 2025
in Uncategorized
0
D1912071 แฟนเก าขายส มตำ ตรากตรำจ งเลยเนอะ part2

อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย: กลยุทธ์พลิกวิกฤตสู่โอกาสแห่งทศวรรษใหม่

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงผันผวนของภูมิทัศน์เศรษฐกิจไทยมาหลายต่อหลายครั้ง แต่สถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบัน ณ ปี 2568 และแนวโน้มสู่ปี 2569-2570 นั้น แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง นี่คือช่วงเวลาที่เราต้องยอมรับความจริง และกล้าที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หากเรายังยึดติดกับแนวคิดและโมเดลเดิมๆ อนาคตของประเทศอาจอยู่ในภาวะ “ติดหล่มทศวรรษที่สาบสูญ” อย่างที่หลายฝ่ายกังวล อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นเชิงกลยุทธ์ที่ไม่อาจมองข้ามได้

สัญญาณเตือนจากเศรษฐกิจไทย: ถึงเวลาต้องกล้าเปลี่ยนแปลง

เสียงเตือนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่บ่งชี้ว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับกับดักของทศวรรษที่สาบสูญนั้น เป็นสิ่งที่ผู้กำหนดนโยบายและผู้ประกอบการต้องรับฟังอย่างจริงจัง การลงทุนในตลาดหุ้นที่ยังคงไร้สัญญาณฟื้นตัวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เปราะบาง และความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า

เมื่อมองย้อนกลับไป เราได้พึ่งพาเครื่องยนต์หลักอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์และการส่งออกมาอย่างยาวนาน ซึ่งในอดีตได้ขับเคลื่อน GDP ไทย ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ในบริบทของปี 2025 โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าและตลาดส่งออกสำคัญ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย สินค้าที่เคยเป็นจุดแข็งกลับต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดและอุปสรรคทางการค้าใหม่ๆ

ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงเกิน 90% ของ GDP ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจจากระดับ 40% เมื่อสิบปีก่อน เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่บั่นทอนกำลังซื้อภายในประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินหรือการใช้จ่ายในอนาคต อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวที่ไม่ยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้ โครงสร้างประชากรที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคต ซึ่งจะส่งผลต่อศักยภาพในการผลิตและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมก็ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเร่งแก้ไข

แม้รัฐบาลจะพยายามผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่เราต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีและศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนสำคัญของเรายังไม่สามารถแข่งขันกับผู้เล่นระดับโลกได้ ทำให้ประโยชน์ที่เราได้รับอาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ควร ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเคยเป็นความหวังในการสร้างรายได้หลักหลังโควิด-19 ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้ โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งพฤติกรรมการเดินทางได้เปลี่ยนไป และโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมนั้นริบหรี่ลงทุกที อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างเครื่องยนต์ใหม่ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

บทเรียนจากนานาชาติ: เมื่อการเปลี่ยนโครงสร้างคือทางรอด

หลายประเทศที่เคยเผชิญกับสถานการณ์ใกล้เคียงกับประเทศไทย ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การกล้าที่จะเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ จากประสบการณ์ของผม การพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมหนักหรือการส่งออกมากเกินไปในยุคปัจจุบัน เป็นเหมือนการพายเรือทวนน้ำที่เหนื่อยเปล่า

สิงคโปร์: จากประเทศที่เคยพึ่งพาภาคอุตสาหกรรม มาสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ธนาคาร เทคโนโลยี และเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP โดยเฉพาะบริการมูลค่าสูง การลงทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างมหาศาล และกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดบุคลากรมากความสามารถ
เกาหลีใต้: จากอุตสาหกรรมหนัก สู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และวัฒนธรรม (K-Pop, ซีรีส์) ภาคบริการและอุตสาหกรรมบันเทิงกลายเป็น Soft Power ที่สร้างรายได้มหาศาล และเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการบริโภคสินค้าและบริการอื่นๆ
ฮ่องกง: จากฐานการผลิตสิ่งทอ สู่ศูนย์กลางทางการเงิน การบริการ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและบุคลากรจากทั่วทุกมุมโลก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): จากประเทศที่พึ่งพารายได้จากการค้าน้ำมันเป็นหลัก วันนี้รายได้จากน้ำมันเหลือไม่ถึง 30% ของ GDP โดยเปลี่ยนผ่านสู่ภาคการท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการ และการส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE (Meeting, Incentive, Convention, Exhibition) อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดมหาเศรษฐีและนักลงทุน
อังกฤษ: จากผู้นำการปฏิวัติอุตสาหกรรม สู่การเป็นประเทศที่ภาคบริการมีสัดส่วนเกิน 80% ของ GDP โดยลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีของยุโรปอย่างแท้จริง

โครงสร้าง GDP ของไทยในปัจจุบันยังคงพึ่งพาการส่งออกสินค้าและบริการถึง 65.4% และภาคอุตสาหกรรม 39.2% ซึ่งสูงเกินไปในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพและเสน่ห์มากมายที่จะปรับเปลี่ยนสู่ภาคบริการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่สามารถสร้างกำลังซื้อจากต่างประเทศได้จริง

อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย: เครื่องยนต์ใหม่ที่ต้องปลุกพลัง

ประเทศไทยมีจุดแข็งที่ชาวต่างชาติหลงรักและยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ ที่ติดอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก (ปี 2024), โรงพยาบาลชั้นนำ 5 แห่งที่ติดอันดับดีที่สุดในโลก, วัฒนธรรมและผู้คนที่ยิ้มแย้มมีอัธยาศัยดี, อาหารไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก, สภาพอากาศที่เป็นมิตร, ค่าครองชีพที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น, และระบบสาธารณสุขที่คุ้มค่ากว่าประเทศตะวันตก สิ่งเหล่านี้คือต้นทุนอันล้ำค่าที่รอการต่อยอด และอสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จะเป็นสะพานเชื่อมโอกาสนี้

จากข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2565 จำนวน 392,858 หน่วย มูลค่ากว่า 1.06 ล้านล้านบาท หากเราสามารถดึงกำลังซื้อจากชาวต่างชาติมาได้เพียง 1 ใน 4 ก็จะมีมูลค่าสูงถึง 2.5 แสนล้านบาท นี่คือเม็ดเงินที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างมหาศาล การที่ต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านในไทย ไม่ได้หมายถึงแค่การขายอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นการจุดประกายห่วงโซ่คุณค่าทางเศรษฐกิจทั้งหมด

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติ:

การกระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์: โดยตรง ช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องและแผนลงทุนต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องได้อานิสงส์: ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์, ตกแต่งภายใน, อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า จะเติบโตตามไปด้วย
การจ้างงานโดยตรงและทางอ้อม: ตั้งแต่แรงงานก่อสร้าง, พนักงานขาย, นายหน้า, ผู้บริหารจัดการทรัพย์สิน, แม่บ้าน, คนสวน ไปจนถึงธุรกิจบริการต่างๆ
การบริโภคในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น: ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยจะใช้จ่ายเงินในการซื้ออาหาร, สินค้าอุปโภคบริโภค, บริการด้านสุขภาพ, การศึกษา, การเดินทาง และความบันเทิง ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นโดยตรง
การเพิ่มขึ้นของรายได้จากภาษี: ทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ภาษีธุรกิจเฉพาะ, ค่าธรรมเนียมการโอน ซึ่งจะนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ
การถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรม: โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้สูงหรือผู้เกษียณที่มีประสบการณ์ อาจนำองค์ความรู้ใหม่ๆ มาสู่ประเทศ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การเข้ามาของชาวต่างชาติจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการ

ลองจินตนาการว่าหากเราสามารถขายบ้านให้ชาวต่างชาติได้ 100,000 หลัง ผลกระทบต่อ GDP ไทย อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นไปได้จริง โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างคอนโดหรู กรุงเทพฯ, วิลล่าภูเก็ต, หรือ อสังหาริมทรัพย์พัทยา ที่ต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก

บทเรียนจากโครงการ Golden Visa และ Residency by Investment

หลายประเทศได้ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยการเปิดประตูให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและอยู่อาศัย

โปรตุเกส (Golden Visa 2012): การอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 500,000 ยูโรขึ้นไป เพื่อแลกกับสิทธิพำนัก ได้ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 7 พันล้านยูโร ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤต และกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
สเปน (Residency by Investment 2008): คล้ายกับโปรตุเกส ช่วยกระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซาหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ฟื้นตัว 3% ภายใน 5 ปี ดึงดูดนักลงทุนจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง
กรีซ (Golden Visa): การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 250,000 ยูโร ได้รับวีซ่าพำนัก ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตกว่า 60% ใน 10 ปี ฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตหนี้ยุโรปได้อย่างงดงาม
มาเลเซีย (Malaysia My Second Home – MM2H): โครงการพำนักระยะยาวสำหรับชาวต่างชาติ กระตุ้นตลาดบ้านและดึงดูดผู้เกษียณอายุและนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น

กรณีศึกษาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การมีนโยบายที่ชัดเจนและจูงใจ สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาได้อย่างมหาศาล โดยไม่จำเป็นต้องกังวลว่าที่ดินของประเทศไทยจะถูกครอบครองจนหมด เพราะจากข้อมูล ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ของไทยมีกว่า 127 ล้านไร่ (40% ของพื้นที่ทั้งหมด) การขายบ้าน 200,000 หลังต่อปี คิดเป็นสัดส่วนการใช้ที่ดินไม่ถึง 0.2% ของที่ดินทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก

กลยุทธ์และแนวทางในการปลดล็อกศักยภาพ อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องทบทวนและปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากต่างชาติอย่างจริงจัง

ขยายสิทธิการถือครองอสังหาริมทรัพย์: ปัจจุบันต่างชาติสามารถถือครองคอนโดมิเนียมได้ 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมด และสามารถเช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวได้ แต่การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในบางประเภทหรือในพื้นที่ที่กำหนด เช่น โครงการจัดสรรเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ หรือในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาจเป็น Game Changer ที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ต้องมีมาตรการควบคุมที่รัดกุมเพื่อป้องกันการเก็งกำไรและผลกระทบต่อราคาที่ดินของคนไทย
พัฒนาระบบวีซ่าและสิทธิพำนักระยะยาว: นอกเหนือจาก Thailand Elite Visa ควรพิจารณาวีซ่าเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ (Real Estate Investor Visa) หรือปรับปรุงเกณฑ์ของวีซ่าผู้เกษียณอายุ (Retirement Visa) และวีซ่าผู้พำนักระยะยาว (Long-Term Resident Visa) ให้มีความยืดหยุ่นและน่าสนใจยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้มีกำลังซื้อปานกลางถึงสูงที่ต้องการมาใช้ชีวิตในไทย
ส่งเสริมการตลาดเชิงรุก: รัฐบาลและภาคเอกชนควรร่วมมือกันทำการตลาดเพื่อโปรโมทประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางสำหรับการอยู่อาศัยและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเน้นจุดแข็งด้านคุณภาพชีวิตที่ดี ค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล การบริการด้านสุขภาพระดับโลก และวัฒนธรรมที่งดงาม
สร้างความชัดเจนและลดขั้นตอนทางกฎหมาย: กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติควรมีความชัดเจน โปร่งใส และมีขั้นตอนที่รวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
พัฒนาพื้นที่เป้าหมาย: มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองรองหรือพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต, พัทยา, หัวหิน ให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐานสากล รองรับการเข้ามาของชาวต่างชาติ
ส่งเสริมอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม: พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก เช่น Smart Home, Wellness Residence, Eco-Friendly Project เพื่อดึงดูดกลุ่มนักลงทุนที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี

อนาคตที่สดใสด้วย อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ผมเชื่อมั่นว่าการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกมากเกินไป มาสู่การพึ่งพาภาคบริการและอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้กำลังซื้อจากต่างประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อน จะเป็นทางออกที่สำคัญและเป็นกลยุทธ์แห่งอนาคตสำหรับเศรษฐกิจไทย ณ ปี 2025 และปีต่อๆ ไป เรามีต้นทุนที่ดี เรามีศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และเรามีโอกาสที่จะเรียนรู้จากบทเรียนของนานาชาติ

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองการณ์ไกล กล้าที่จะออกจากกรอบเดิมๆ และกำหนดทิศทางใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทย การใช้ อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ไม่เพียงแต่สร้างเม็ดเงินมหาศาล แต่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสในการจ้างงาน และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก

เราต้องเร่งสร้างนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติอย่างชาญฉลาดและรอบคอบ เพื่อให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยกลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของ GDP และนำพาประเทศไทยก้าวพ้นจากกับดักเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ได้อย่างแท้จริง

สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณ? ติดต่อเราวันนี้เพื่อสำรวจโอกาสใหม่ๆ และศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย!

Previous Post

D1912070 กล ามาก รปภ

Next Post

D1912072 ไอ เสร าแกไม อก กล บคอกไป part2

Next Post
D1912072 ไอ เสร าแกไม อก กล บคอกไป part2

D1912072 ไอ เสร าแกไม อก กล บคอกไป part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912107 CEO แจกซอง เง นล กน องแต วหน าด นเอาไปใช part2
  • D1912106 กเขยฉ องเล ยงได งบ าน part2
  • D1912105 สะใภ นม นต องเล แม วจ part2
  • D1912104 แค งก อสร าง มาน งก นซาลาเปา part2
  • D1912103 วแก หลอกม นให หมดต วเลยออม part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.