• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912061 ปลากระป อง อย ามาก นบนโต ะนะ part2

admin79 by admin79
December 20, 2025
in Uncategorized
0
D1912061 ปลากระป อง อย ามาก นบนโต ะนะ part2

หัวข้อ: พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย: อสังหาริมทรัพย์คือเส้นทางสู่ความมั่งคั่งยุคใหม่ (2025)

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมมองเห็นถึงความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และตระหนักดีว่าเรามาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิกฤตการณ์ที่กำลังคุกคาม เศรษฐกิจไทย และเสนอแนวทางแก้ไขที่กล้าหาญและเป็นรูปธรรม โดยมีหัวใจสำคัญคือการดึงศักยภาพของภาค อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้กลายเป็นเครื่องจักรใหม่ของการเติบโต จากประสบการณ์ตรงและการวิเคราะห์แนวโน้มระดับโลก ผมเชื่อมั่นว่าการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสให้การ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ของชาวต่างชาติ จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของประเทศ

วิกฤตเศรษฐกิจไทย: ภาพสะท้อนของความท้าทายที่ซับซ้อน

เศรษฐกิจไทย กำลังเผชิญกับพายุลูกใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นจากหลายทิศทาง ไม่ใช่เพียงแค่ปัจจัยภายในประเทศ แต่ยังรวมถึงกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในอดีต เราพึ่งพาเครื่องจักรสำคัญคือการส่งออก โดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมยานยนต์และห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง แต่ภาพนั้นกำลังเลือนหายไปเรื่อย ๆ

หนึ่งในสัญญาณเตือนที่ชัดเจนคือคำเตือนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ชี้ว่าประเทศไทยกำลังติดกับดัก “ทศวรรษที่สาบสูญ” ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงและกินเวลายาวนานกว่าที่หลายคนคิด สิ่งนี้สะท้อนจากดัชนีการลงทุนในตลาดหุ้นที่ไร้สัญญาณฟื้นตัวที่ยั่งยืน และการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ชะลอตัวอย่างน่าเป็นห่วง

ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบโดยตรงคือ “สงครามการค้า” ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างมหาอำนาจ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกปั่นป่วน ประเทศไทยซึ่งเคยเป็นฐานการผลิตสำคัญ กำลังเผชิญกับภาวะสินค้าล้นตลาดจากการที่จีนประสบปัญหาเศรษฐกิจและส่งออกสินค้ามายังประเทศใกล้เคียงมากขึ้น นี่ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นที่ เศรษฐกิจไทย ต้องปรับตัว

ปัญหาภายในที่เรื้อรังไม่แพ้กันคือ “หนี้ครัวเรือน” ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จากเดิมที่เคยอยู่ที่ประมาณ 40% ของ GDP เมื่อสิบกว่าปีก่อน ปัจจุบันตัวเลขนี้ทะลุ 90% และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก การใช้จ่ายเงินในอนาคตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ยิ่งทำให้การเติบโตในระยะยาวเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะกำลังซื้อที่แท้จริงของประชาชนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลต่อ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภายในประเทศโดยตรง

โครงสร้างประชากรก็เป็นอีกหนึ่งระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง อัตราการเกิดที่ลดลงและสังคมสูงวัยกำลังสร้างปัญหา “ขาดแคลนแรงงาน” ในอนาคต ประสิทธิภาพการผลิตลดลง ขณะเดียวกัน “ความเหลื่อมล้ำ” ก็ยังคงเป็นแผลเรื้อรังที่บั่นทอนศักยภาพของประเทศ

แม้ว่าเราจะพยายามผลักดันอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่ปัญหาคือเทคโนโลยีและขีดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศของเรายังไม่พร้อม ผู้ประกอบการไทยจำนวนมากยังไม่สามารถก้าวตามการเปลี่ยนแปลงได้ทัน ทำให้เรายังคงเป็นเพียงฐานการประกอบ ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่แท้จริง

การท่องเที่ยว ซึ่งเคยเป็นความหวังสุดท้ายในการพยุง เศรษฐกิจไทย ก็กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะค่อย ๆ ฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19 แต่การกลับไปสู่ระดับเดียวกับปี 2562 โดยเฉพาะจากตลาดใหญ่อย่างจีนนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้น จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจจีนเองและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทาง

เมื่อโครงสร้างเดิมไปต่อไม่ได้: บทเรียนจากนานาชาติ

จากภาพรวมที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นที่ประจักษ์ว่า เศรษฐกิจไทย ไม่สามารถพึ่งพิงโครงสร้างเดิมได้อีกต่อไป เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้จากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

สิงคโปร์: จากเดิมที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรมอย่างหนัก ได้พลิกโฉมสู่ภาคบริการ การเงิน เทคโนโลยี และดิจิทัลอีโคโนมี คิดเป็นกว่า 70% ของ GDP โดยสร้างรายได้จากต่างประเทศมหาศาล พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการดึงดูด การลงทุนต่างชาติ และผู้มีความสามารถระดับโลก
เกาหลีใต้: เปลี่ยนจากอุตสาหกรรมหนักมาเน้นเทคโนโลยีล้ำสมัย อุตสาหกรรมบันเทิง (K-Pop, K-Drama) และภาคบริการ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มและ Soft Power ให้กับประเทศ
ฮ่องกง: จากฐานการผลิตสิ่งทอในอดีต ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การบริการ และ อสังหาริมทรัพย์ ระดับโลก ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE): จากประเทศที่พึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันเป็นหลัก ได้ผันตัวเองสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหรูหรา ธุรกิจบริการระดับพรีเมียม และการส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE (การประชุม, การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล, การจัดประชุมวิชาชีพ, การจัดนิทรรศการ) โดยที่รายได้จากน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 30% ของ GDP ในปัจจุบัน อสังหาริมทรัพย์หรู มีบทบาทอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้
อังกฤษ: ในฐานะผู้นำการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอดีต ปัจจุบันภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของ GDP โดยเฉพาะกรุงลอนดอนที่กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีที่สำคัญของยุโรป

บทเรียนจากประเทศเหล่านี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นในการอยู่รอดและเติบโตในโลกยุคใหม่

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส: อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ในเมื่อเราไม่สามารถเดินตามรอยเดิมได้อีกต่อไป ผมมองเห็น “โอกาสทอง” ที่ซ่อนอยู่ในภาค อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่สามารถ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ได้อย่างมหาศาล ประเทศไทยมีศักยภาพอันโดดเด่นที่ชาวต่างชาติชื่นชอบและมองหา

จากสถิติ ปี 2024 กรุงเทพมหานครยังคงติดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก เรามีโรงพยาบาลชั้นนำติดอันดับโลกหลายแห่ง ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุขที่ดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าชาติตะวันตก คนไทยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มี Service Mind ที่โดดเด่น อาหารไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล สภาพอากาศอบอุ่น และค่าครองชีพที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้ง อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ก็ยังมีราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้คือ “จุดแข็ง” ที่เรามีอยู่ในมือ

ผมจึงเสนอแนวคิดที่ชัดเจนว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถ “ถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย” ได้อย่างเป็นรูปธรรมและโปร่งใสมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าที่ดินจะถูกต่างชาติยึดครองหมด เพราะประเทศไทยมีที่ดินมหาศาลถึง 321 ล้านไร่ มีเอกสารสิทธิราว 127 ล้านไร่ (ประมาณ 40%) การขายบ้านให้ต่างชาติปีละ 2 แสนหลัง คิดเป็นพื้นที่ไม่ถึง 0.2% ของที่ดินที่มีอยู่ทั้งหมด ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่คือโอกาสในการสร้างเม็ดเงินมหาศาล

ในปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเกือบ 4 แสนหน่วย มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท หากเราสามารถดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามา ซื้อบ้านต่างชาติ หรือ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในสัดส่วน 25% ของจำนวนนี้ นั่นหมายถึงเม็ดเงินมหาศาลที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยโดยตรง กลุ่มผู้ซื้อเหล่านี้ไม่ใช่แค่กลุ่มอภิมหาเศรษฐี แต่รวมถึงกลุ่มรายได้ปานกลางถึงสูงที่มีกำลังซื้อบ้านในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่

กลยุทธ์ระดับโลก: ถอดรหัสความสำเร็จจากโมเดล Golden Visa

หลายประเทศได้พิสูจน์แล้วว่าการใช้ภาค อสังหาริมทรัพย์ เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถทำได้จริง โดยการดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามา ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และใช้จ่ายภายในประเทศผ่านโครงการพิเศษต่าง ๆ ดังนี้:

โปรตุเกส (Golden Visa 2012): อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 500,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับสิทธิพำนักถาวร ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้ากว่า 7 พันล้านยูโร สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตและกระตุ้นราคาบ้านให้กลับมาฟื้นตัวได้
สเปน (Residency by Investment): หลังวิกฤตปี 2008 ได้เปิดโอกาสให้ต่างชาติ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 500,000 ยูโรขึ้นไป กระตุ้นตลาดบ้านที่ซบเซา GDP ฟื้นตัว 3% ภายใน 5 ปี ดึงดูดนักลงทุนจากจีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Freehold Property): เปิดให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบ Freehold ได้ ดึงดูด การลงทุนต่างชาติ อย่างมหาศาล ทำให้ภาค อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยวรวมกันคิดเป็นกว่า 50% ของ GDP กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก
กรีซ (Greece Golden Visa): อนุญาตให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 250,000 ยูโรขึ้นไป แลกกับวีซ่าพำนัก ทำให้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เติบโตกว่า 60% ภายใน 10 ปี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตหนี้ยุโรป
มาเลเซีย (Malaysia My Second Home – MM2H): โครงการพำนักระยะยาวที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัย กระตุ้นตลาดบ้าน ดึงดูดกลุ่มผู้เกษียณและนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น

โมเดลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพลังของ “วีซ่าลงทุนอสังหาฯ” หรือ “Golden Visa” ที่สามารถเปลี่ยนเม็ดเงินลงทุนให้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จับต้องได้ ประเทศไทยควรพิจารณานำแนวทางเหล่านี้มาปรับใช้ โดยมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อดึงดูด การลงทุนระยะยาว และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

ผลกระทบเชิงบวกที่ครอบคลุม: มากกว่าแค่การซื้อขาย

การผลักดันให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้นั้น ไม่ได้หมายถึงแค่การได้ขายบ้าน แต่ยังก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกแบบลูกโซ่ที่ครอบคลุมในหลายมิติ:

กระตุ้นภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง: เมื่อมีการซื้อขายบ้านมากขึ้น ย่อมส่งผลให้เกิดการก่อสร้างใหม่ การปรับปรุง ซ่อมแซม ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจออกแบบตกแต่งภายใน และผู้รับเหมาโดยตรง
การจ้างงานโดยตรงและทางอ้อม: การก่อสร้างและการบริการที่เกี่ยวข้องจะสร้างงานจำนวนมาก ตั้งแต่แรงงานก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกร ไปจนถึงพนักงานบริการในธุรกิจที่พักอาศัย การจ้างงานนี้จะช่วยลดปัญหาการว่างงานและสร้างรายได้ให้คนในประเทศ
การบริโภคและการหมุนเวียนเศรษฐกิจท้องถิ่น: ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยจะมีการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าบริการต่าง ๆ ซึ่งจะไหลเข้าสู่ธุรกิจในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด บริการขนส่ง และอื่น ๆ ยิ่งเป็นการกระตุ้น เศรษฐกิจไทย ในระดับฐานราก
เพิ่มมูลค่า GDP: ตัวอย่างการวิเคราะห์ชี้ว่า หากเราสามารถขายบ้านให้ชาวต่างชาติได้ 10,000 หลัง จะทำให้ GDP เพิ่มขึ้น 0.75% แต่ถ้าทำได้ถึง 100,000 หลัง GDP อาจพุ่งขึ้นได้ถึง 7% นี่คือศักยภาพที่มหาศาลที่ยังไม่ถูกนำมาใช้เต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต, อสังหาริมทรัพย์พัทยา และ คอนโดกรุงเทพฯ ระดับ อสังหาริมทรัพย์หรู ก็จะยิ่งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก

นอกจากนี้ การเข้ามาของชาวต่างชาติยังนำมาซึ่งการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล และการที่ประเทศไทยเป็นที่ต้องการของกลุ่ม Digital Nomads และผู้เกษียณอายุจากทั่วโลก ก็ยิ่งตอกย้ำถึงโอกาสในการสร้างสรรค์ โอกาสลงทุนอสังหาฯ สำหรับกลุ่มเหล่านี้

เส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลง: ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการเตรียมพร้อม (2025)

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองไปข้างหน้าและวางแผนสำหรับอนาคต การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยการให้ อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ต้องมาพร้อมกับนโยบายที่ชัดเจนและครอบคลุม:

ทบทวนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง: เราควรพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติให้มีความยืดหยุ่นและเอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น โดยยังคงปกป้องผลประโยชน์ของชาติ การกำหนดประเภทและขนาดของอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถถือครองได้ รวมถึงพื้นที่ที่อนุญาต จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย
ออกแบบโครงการ “วีซ่าพิเศษ” หรือ “Golden Visa” สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์: กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน เช่น มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ, ระยะเวลาการพำนัก, และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อดึงดูด การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จากกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพ
ส่งเสริมการตลาดเชิงรุก: ประชาสัมพันธ์ศักยภาพของประเทศไทยและโอกาสในการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ไปยังตลาดโลก โดยเน้นย้ำถึงจุดแข็งของเรา ทั้งคุณภาพชีวิต สุขภาพ การท่องเที่ยว และความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยอาจร่วมมือกับ นายหน้าอสังหาฯ ต่างชาติ และบริษัทจัดการลงทุน
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการ: ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม สาธารณูปโภค และระบบดิจิทัล เพื่อรองรับการเข้ามาของชาวต่างชาติ และพัฒนาบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้คำปรึกษาด้านกฎหมายอสังหาริมทรัพย์, การจัดการทรัพย์สิน, และบริการทางการเงินสำหรับการลงทุนระยะยาว
เน้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่ม: ไม่ใช่แค่การขายบ้าน แต่ควรส่งเสริมการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์หรู และโครงการที่ผสมผสานนวัตกรรม เช่น สมาร์ทโฮม อาคารสีเขียว และ Wellness Residence เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดระดับบนที่กำลังเติบโต
สร้างความโปร่งใสและระบบยุติธรรม: สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติว่าการลงทุนในประเทศไทยจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย มีระบบ ภาษีอสังหาริมทรัพย์ ที่ชัดเจน และกระบวนการที่เป็นธรรม

ผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าตัดสินใจและมองเห็นโอกาสที่อยู่ตรงหน้า การให้ อสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือหนทางที่สามารถสร้างความมั่งคั่งและยั่งยืนให้กับประเทศของเราในระยะยาว นี่คือวิสัยทัศน์ที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการอยากเห็นและอยากผลักดันให้เป็นจริง เพื่อให้ เศรษฐกิจไทย ก้าวผ่านความท้าทายและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทศวรรษหน้า

เรามีศักยภาพ มีทรัพยากร และมีเสน่ห์ดึงดูดระดับโลก ที่รอการปลดปล่อยอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราต้องการคือวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญและนโยบายที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง

พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้หรือยัง? หากคุณคือผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ผมขอเชิญชวนให้มาพูดคุยและร่วมกันหาแนวทางที่ดีที่สุดในการปลดล็อกศักยภาพของ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ติดต่อเราเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับ โอกาสลงทุนอสังหาฯ และนวัตกรรมใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในอนาคต.

Previous Post

D1912059 อะไรๆพ ตค งต นไม part2

Next Post

D1912062 แม านใช ไอโฟน ทำงานไม เอาเง part2

Next Post
D1912062 แม านใช ไอโฟน ทำงานไม เอาเง part2

D1912062 แม านใช ไอโฟน ทำงานไม เอาเง part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912097 งข บรถ อย ามาย งก บช ตของหน part2
  • D1912096 ชาย คนน องเป นสาม คน part2
  • D1912095 นเก ดเพ อน เอามะม วงมาให part2
  • D1912094 เส ยสละ ใช ไม ได บท กคนนะ part2
  • D1912093 กสามเศร เราสามคน part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.