• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912057 ไม องสนใจ จงเป นในส งท ควรเป part2

admin79 by admin79
December 19, 2025
in Uncategorized
0
D1912057 ไม องสนใจ จงเป นในส งท ควรเป part2

ถอดรหัส ‘สงครามราคาบ้าน’ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย: บทวิเคราะห์จากประสบการณ์ 10 ปี สู่ปี 2568 และอนาคต

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวัฏจักรของตลาดทั้งขาขึ้นและขาลงมาหลายครั้ง แต่สถานการณ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นในปัจจุบันดูเหมือนจะมีความซับซ้อนและท้าทายมากกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาณของสิ่งที่ผมขอเรียกว่า สงครามราคาบ้าน ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่นักลงทุน ผู้พัฒนา และแม้แต่ผู้บริโภคทั่วไปต่างให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุ กลไก และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก สงครามราคาบ้าน ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางในการรับมือสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปี 2568 และก้าวต่อไปในอนาคต

สัญญาณเตือนภัย: ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังเผชิญกับพายุลูกใหม่

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค การฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึงและภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ได้บั่นทอนความสามารถในการก่อหนี้ของผู้คนจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้สะท้อนผ่านตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ธนาคารพาณิชย์เองก็ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เพื่อรักษาสุขภาพของพอร์ตสินเชื่อ ท่ามกลางความกังวลเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณอันตตรายที่ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่า สงครามราคาบ้าน กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ความจริง

จากประสบการณ์ของผม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ได้เผชิญความท้าทายจากกำลังซื้อที่แผ่วลงเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาวะสินค้าคงค้าง (Inventory) ที่มีปริมาณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่เปิดตัวในช่วงที่ตลาดเคยเฟื่องฟู แต่กลับไม่สามารถระบายออกได้ตามเป้าหมาย ยิ่งสต็อกสะสมมากเท่าไหร่ แรงกดดันในการลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่อาจนำไปสู่ สงครามราคาบ้าน อย่างแท้จริง

ถอดรหัส “สงครามราคาบ้าน”: บทเรียนจากตลาดรถยนต์สู่ความกังวลในอสังหาริมทรัพย์

เมื่อกล่าวถึง สงครามราคาบ้าน หลายคนอาจนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ช่วงปีที่ผ่านมา ที่มีการแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือด โดยเฉพาะจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เข้ามาสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่ตลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ผู้ประกอบการรถยนต์ต้องหั่นราคาเพื่อระบายสต็อก ส่งผลให้ราคารถป้ายแดงลดลงอย่างมาก และกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงตลาดรถมือสอง และสร้างความเสียหายต่อภาพรวมอุตสาหกรรมในวงกว้าง

คำถามคือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่? จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมขอบอกว่าสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความแตกต่างและอาจมีผลกระทบที่รุนแรงกว่ามาก หากเกิด สงครามราคาบ้าน ขึ้นจริง เหตุผลสำคัญคือ “Wealth Effect” หรือผลกระทบต่อความมั่งคั่งของผู้บริโภค

ลองนึกภาพตามว่า หากราคาบ้านลดลงอย่างรุนแรง มูลค่าทรัพย์สินที่ผู้คนถือครองก็จะลดลงตามไปด้วย ความรู้สึกมั่งคั่งที่เคยมีจะหายไป ผู้คนจะรู้สึกว่าตนเอง “จนลง” แม้จะไม่ได้ขายบ้านออกไปก็ตาม สิ่งนี้จะบั่นทอนความเชื่อมั่นในการบริโภคและการใช้จ่ายอย่างรุนแรง ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศที่เผชิญวิกฤตราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ เมื่อผู้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจโดยรวมก็จะยิ่งชะลอตัวลงไปอีก กลายเป็นวงจรขาลงที่แก้ไขได้ยากยิ่งกว่าในตลาดรถยนต์มากนัก เพราะบ้านไม่ใช่แค่สินค้า แต่เป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่สุดที่สะท้อนสถานะและความมั่นคงทางการเงินของครัวเรือน

กลไกและผลกระทบของ “สงครามราคาบ้าน” ต่อเศรษฐกิจและผู้บริโภค

หาก สงครามราคาบ้าน เกิดขึ้นจริง เราจะเห็นการแข่งขันที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โครงการใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโครงการเก่า คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว และบ้านมือสองที่ต้องการการระบาย ผู้ประกอบการรายเล็กที่มีสภาพคล่องจำกัดอาจต้องยอมหั่นราคาอย่างรุนแรงเพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอด ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ให้ต้องปรับกลยุทธ์ตาม สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบในหลายมิติ:

ต่อผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์:
กำไรลดลง: การลดราคาจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตรากำไร และอาจทำให้หลายบริษัทประสบภาวะขาดทุน
สภาพคล่องตึงตัว: หากขายไม่ได้ตามเป้า การหมุนเวียนเงินสดจะหยุดชะงัก การระดมทุนใหม่จะยากขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดหุ้นกู้ที่นักลงทุนอาจกังวลในความเสี่ยง
การปรับโครงสร้างหนี้: บริษัทบางรายอาจต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือการล้มละลาย
ชะลอการลงทุน: โครงการใหม่ๆ อาจถูกเลื่อนหรือยกเลิก ทำให้ภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องพลอยชะลอตัวตามไปด้วย

ต่อธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน:
คุณภาพสินเชื่อด้อยลง: หนี้เสียจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยอาจเพิ่มขึ้น หากผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระได้ หรือมูลค่าหลักประกันลดลงต่ำกว่าภาระหนี้
ความเสี่ยงต่อหลักประกัน: หากราคาบ้านลดลงมาก ธนาคารอาจต้องตั้งสำรองหนี้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงที่มูลค่าหลักประกันลดลง
นโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น: ธนาคารจะพิจารณาคุณสมบัติผู้กู้และราคาประเมินอย่างรอบคอบยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้นไปอีก

ต่อผู้บริโภคและนักลงทุน:
ผู้ซื้อได้ประโยชน์ (ในระยะสั้น): ผู้ที่กำลังมองหาบ้านอาจได้บ้านในราคาที่ถูกลง แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความมั่นคงของโครงการและสภาพคล่องของผู้ประกอบการ
ผู้ถือครองสินทรัพย์ได้รับผลกระทบ: มูลค่าบ้านที่ลดลงจะกระทบความมั่งคั่งและขีดความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มเติม
ความไม่แน่นอนในการลงทุน: สำหรับผู้ที่มองหา การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเก็งกำไร ตลาดจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างมาก
ความเชื่อมั่นที่ลดลง: ผู้คนจะชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน ทำให้ตลาดติดหล่มนานขึ้น

ภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัย: ความท้าทายของธนาคารและผู้กู้

การชะลอตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเพียงผลกระทบจาก สงครามราคาบ้าน ที่อาจเกิดขึ้น แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดภาวะเช่นนี้ ข้อมูลจากสถาบันการเงินหลายแห่งชี้ชัดว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างแทบไม่เติบโต

ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ โดยหันมาเน้นการขยายตัวในตลาดบ้านมือสองมากขึ้น เนื่องจากมองว่ามีความเสถียรภาพมากกว่า และมีราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับกำลังซื้อในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ยังคงต้องระมัดระวังในตลาดบ้านมือสองเช่นกัน โดยให้ความสำคัญกับการประเมินราคาให้รัดกุม และคัดกรองคุณสมบัติลูกค้าอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่ใช่การเก็งกำไรในภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน

นอกจากนี้ การให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยเสริมสภาพคล่อง เช่น “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) หรือ “รีไฟแนนซ์บ้าน” ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนจำนวนมากต้องการสภาพคล่องเพื่อใช้จ่ายหรือเพื่อลดภาระดอกเบี้ย สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณที่ธนาคารต้องเฝ้าระวังคุณภาพพอร์ตสินเชื่อของตนอย่างใกล้ชิด

จากมุมมองของผม แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อบ้านยังคงอยู่ในโหมด “ประคับประคอง” ไปอีกระยะหนึ่ง ธนาคารจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตและการควบคุมความเสี่ยง สิ่งที่ผู้กู้ต้องเจอคือการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) ที่สูงขึ้น และนั่นคือสาเหตุหลักที่ทำให้ อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มราคาบ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเปราะบางที่สุด ส่วนกลุ่มบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูงและมีประวัติการชำระหนี้ดี ยังคงได้รับอนุมัติสินเชื่อในอัตราที่ดีกว่า

ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568-2569: โอกาสและความเสี่ยงที่ต้องจับตา

มองไปข้างหน้า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 คาดว่าจะยังคงเผชิญกับความท้าทายและแรงกดดันจาก สงครามราคาบ้าน ในบางเซกเมนต์ โดยเฉพาะโครงการเก่าและคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว แต่สำหรับปี 2569 อาจเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น หากเศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น และปัจจัยลบต่างๆ คลี่คลายลง

โอกาสที่ต้องจับตา:

มาตรการภาครัฐ: รัฐบาลอาจพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง การขยายเวลาลดหย่อนภาษี หรือการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อ ซื้อบ้านหลังแรก โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงตลาดและป้องกันไม่ให้เกิด สงครามราคาบ้าน ที่รุนแรง
โครงสร้างพื้นฐาน: โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทาง ซึ่งจะสร้างโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ
การท่องเที่ยวฟื้นตัว: หากภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จะส่งผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมี: แม้จะมีปัจจัยลบ แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ยังต้องมีกำลังซื้อที่เพียงพอและการเข้าถึงสินเชื่อที่เหมาะสม

ความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง:

ภาวะหนี้ครัวเรือน: หากหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง จะยังคงเป็นแรงกดดันต่อกำลังซื้อและความสามารถในการชำระหนี้
อัตราดอกเบี้ย: แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจทรงตัวสูง หรือปรับขึ้นหากเกิดภาวะเงินเฟ้อสูง จะส่งผลให้ภาระผ่อนชำระเพิ่มขึ้น และกระทบต่อการตัดสินใจซื้อ
ปัจจัยภายนอก: ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ หรือวิกฤตการณ์ใหม่ๆ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่คาดฝัน

กลยุทธ์และการเตรียมพร้อมสำหรับทุกภาคส่วน

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายและลดความเสี่ยงจากการเผชิญ สงครามราคาบ้าน ทุกภาคส่วนควรมีกลยุทธ์ที่รัดกุมและยืดหยุ่น

สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์:
บริหารจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ: การวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง (Real Demand) และหลีกเลี่ยงการสร้างสินค้าคงค้างที่ไม่จำเป็น
กระจายความเสี่ยง: ไม่พึ่งพารายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป ลองพิจารณา อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ในรูปแบบอื่นๆ เช่น โกดัง โรงงาน หรือพื้นที่ค้าปลีกเฉพาะทาง
มุ่งเน้นคุณภาพและการบริการ: สร้างความแตกต่างที่ไม่ใช่แค่ราคา การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้า
สร้างความร่วมมือ: การจับมือกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

สำหรับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน:
คุมเข้มคุณภาพสินเชื่อ: การประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้และมูลค่าหลักประกันอย่างรอบคอบ เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ยืดหยุ่น: เช่น สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ในช่วงเริ่มต้น หรือการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อประคับประคองคุณภาพสินเชื่อ
วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก: ใช้ข้อมูล Big Data เพื่อเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง

สำหรับผู้ซื้อและนักลงทุน:
ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน: ก่อนตัดสินใจ ซื้อบ้านหลังแรก หรือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ควรศึกษาข้อมูลตลาดอย่างละเอียด ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ
วางแผนการเงินอย่างรัดกุม: ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระอย่างรอบคอบ และมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน
พิจารณาบ้านมือสอง: ในช่วงที่ตลาดบ้านใหม่มีราคาสูง หรือมีการแข่งขันด้านราคา บ้านมือสองอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หากเลือกทำเลและคุณภาพที่เหมาะสม
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษา ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ หรือ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ที่มีประสบการณ์ เพื่อขอคำแนะนำในการตัดสินใจ

บทสรุป: ความท้าทายที่ต้องเปลี่ยนเป็นโอกาส

สงครามราคาบ้าน ไม่ใช่สถานการณ์ที่เราอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็เป็นความจริงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องเผชิญหน้าในปี 2568 และอาจต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล การเตรียมพร้อมอย่างรอบด้าน และกลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เราสามารถเปลี่ยนความท้าทายนี้ให้กลายเป็นโอกาสได้

ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจะสามารถยืนหยัดและคว้าโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ธนาคารจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นจากการบริหารความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด และผู้บริโภคที่เตรียมพร้อมก็จะสามารถตัดสินใจ ซื้อบ้าน หรือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ได้อย่างชาญฉลาด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการ ผมเชื่อมั่นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มีความยืดหยุ่นและศักยภาพที่จะก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ หากเราทุกคนร่วมมือกันและใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาเพื่อวางแผนอนาคตอย่างรอบคอบ

หากคุณกำลังมองหาทิศทางที่ชัดเจนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผันผวน หรือต้องการคำแนะนำในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้พัฒนา นักลงทุน หรือผู้ที่กำลังมองหาบ้าน ผมขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณโดยเฉพาะ การตัดสินใจที่รอบคอบในวันนี้ จะนำมาซึ่งความมั่นคงและโอกาสในวันหน้าอย่างแน่นอน

Previous Post

D1912056 บรถหร มาอวด อต องตกงาน part2

Next Post

D1912058 อสาม ไม มารยาทเอาซะเลย part2

Next Post
D1912058 อสาม ไม มารยาทเอาซะเลย part2

D1912058 อสาม ไม มารยาทเอาซะเลย part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912059 อะไรๆพ ตค งต นไม part2
  • D1912060 แต งก บพ นขอร สอร ทนะท part2
  • D1912058 อสาม ไม มารยาทเอาซะเลย part2
  • D1912057 ไม องสนใจ จงเป นในส งท ควรเป part2
  • D1912056 บรถหร มาอวด อต องตกงาน part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.