• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912045 แฟนแกเป นก จะแต งงานก นได ไง part2

admin79 by admin79
December 19, 2025
in Uncategorized
0
D1912045 แฟนแกเป นก จะแต งงานก นได ไง part2

สงครามราคาบ้านปี 2568: สัญญาณเตือนที่ภาคอสังหาฯ ไทยต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าตลาดบ้านในปัจจุบันกำลังเผชิญกับคลื่นความท้าทายที่ซับซ้อนและรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สถานการณ์ไม่ได้เป็นเพียงการชะลอตัวธรรมดา แต่กำลังส่อเค้าไปสู่ปรากฏการณ์ที่อาจก่อให้เกิด “สงครามราคาบ้าน” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สั่นคลอนเสถียรภาพของภาคอสังหาฯ และเศรษฐกิจโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงสัญญาณเตือน ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการ ธนาคาร และผู้บริโภคควรถือปฏิบัติ พร้อมมองไปข้างหน้าถึงแนวโน้มในปี 2568-2569

สัญญาณวิกฤตที่ส่งตรงจากภาคเศรษฐกิจและกำลังซื้อ

ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ยังคงผันผวนและอ่อนแรง เป็นรากฐานสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสร้างแรงกดดัน ได้กัดเซาะกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท สัญญาณเหล่านี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อพิจารณาจาก:

กำลังซื้อที่อ่อนแรง: ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายและก่อหนี้ใหม่จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แรงกดดันจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการกู้ซื้อบ้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
หนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์: ด้วยระดับหนี้ครัวเรือนที่ทะลุ 90% ของ GDP ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Housing Loans) เพื่อควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิต อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) จึงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูง
ปัญหา NPLs และ SMs ที่คุกคามภาคการเงิน: ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SMs) ของภาคธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณภาพสินเชื่อโดยรวมกำลังเสื่อมถอย ธนาคารจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรัดเข็มขัดในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งกระทบโดยตรงต่อการซื้อขายในตลาดบ้านใหม่ (New Home Market)

สถานการณ์เหล่านี้ทำให้ตลาดอสังหาฯ ซบเซาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 และคาดว่าจะยังคงอยู่ในโหมด “ประคับประคอง” ไปอีกระยะหนึ่ง การเปิดโครงการบ้านใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สอดคล้องกับอุปสงค์ที่หดตัว ซึ่งสร้างความท้าทายอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ต้องแบกรับภาระสต็อกที่เพิ่มขึ้น

เงาของ “สงครามราคาบ้าน” ที่เริ่มก่อตัว

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดและถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากผู้บริหารระดับสูงในแวดวงการเงิน เช่น ดร.อมรเทพ จาวะลา จาก CIMB Thai คือ โอกาสที่จะเกิด “สงครามราคาบ้าน” หรือ Price War ที่จะซ้ำรอยตลาดรถยนต์ในปี 2567 ที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปดูตลาดรถยนต์ เราเห็นการหั่นราคาที่รุนแรงของรถยนต์ป้ายแดง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เข้ามา “ดัมพ์ราคา” รวมกับกำลังซื้อที่ซบเซาและการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง ทำให้ผู้ผลิตต้องลดราคาเพื่อระบายสต็อก เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดหนี้เสียจำนวนมาก และมีการทิ้งสินเชื่อ สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดอย่างหนัก

หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับตลาดอสังหาฯ จะยิ่งหนักหนาสาหัสกว่าหลายเท่าตัว เนื่องจากบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางจิตใจของผู้คนมากกว่ารถยนต์

ผลกระทบจาก “Wealth Effect” ที่น่าสะพรึงกลัว

ประเด็นสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ “Wealth Effect” หรือผลกระทบต่อความมั่งคั่ง เมื่อราคาบ้านปรับลดลงอย่างรุนแรง มูลค่าของสินทรัพย์ที่ผู้คนถือครองก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้คนรู้สึก “จนลง” แม้ว่าเงินในบัญชีจะเท่าเดิม ความรู้สึกไม่มั่นคงนี้จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการบริโภคและการใช้จ่าย ผู้คนจะระมัดระวังมากขึ้น ไม่กล้าใช้เงิน ไม่กล้าลงทุน ซึ่งจะกลายเป็นวงจรหมุนเวียนที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยลงไปเรื่อย ๆ ดังที่เราเคยเห็นบทเรียนในประเทศจีนหรือญี่ปุ่นในอดีต

ปัจจุบัน เราอาจจะยังไม่เห็นสงครามราคาบ้านในโครงการใหม่ที่ลดราคาลงอย่างโจ่งแจ้ง แต่ในตลาดบ้านเก่า คอนโดมิเนียมเก่า หรือโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่มีสต็อกจำนวนมาก เราเริ่มเห็นการแข่งขันลดราคาเพื่อระบายของมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณแรกเริ่มของ Price War ที่กำลังจะปะทุ

ความท้าทายของผู้ประกอบการอสังหาฯ และภาคธนาคาร

ผู้ประกอบการ: โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่ต้องการสภาพคล่อง การลดราคาอย่างรุนแรงเพื่อเร่งขายจะกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและฐานะทางการเงินอย่างมาก หากเผชิญกับภาวะช็อก ตลาดหุ้นกู้ที่เคยเป็นแหล่งระดมทุนสำคัญอาจจะยิ่งเข้มงวด ทำให้การเข้าถึงเงินทุนยากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่มีสินทรัพย์เหล่านี้จำนวนมาก ก็จะเผชิญความท้าทายในการระบายสินทรัพย์เช่นกัน
ธนาคารพาณิชย์: นอกจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคารยังต้องบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างรัดกุม การขยายตัวของสินเชื่อใหม่หดตัวลง ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างทรงตัว สะท้อนว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะชะงักงัน ธนาคารบางแห่งเริ่มหันมาโฟกัสที่ตลาดบ้านมือสอง (Second-hand Homes) มากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพกว่าตลาดบ้านใหม่ที่เผชิญกับอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) และราคาที่สูงเกินจริง

กลยุทธ์ที่สำคัญและแนวทางการปรับตัว

ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะต้องปรับตัวอย่างชาญฉลาด:

สำหรับผู้ซื้อและนักลงทุน:
ประเมินความสามารถในการชำระหนี้: การกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำอาจเป็นสิ่งล่อใจ แต่จงประเมินความสามารถในการชำระหนี้ระยะยาวอย่างรอบคอบ อย่าก่อหนี้เกินตัว
พิจารณาตลาดบ้านมือสอง: บ้านมือสองอาจเป็นโอกาสที่ดีในการได้บ้านคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property) หรือบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง การประเมินราคาอสังหาฯ ที่แม่นยำและการตรวจสอบสภาพบ้านเป็นสิ่งสำคัญ
จับจังหวะการลงทุน: หากมีเงินทุนสำรองและมีความเข้าใจตลาด การลงทุนอสังหาฯ ผลตอบแทนสูงในยามที่ราคามีแนวโน้มลดลง อาจสร้างโอกาสในระยะยาว
ศึกษาทำเลที่ตั้ง: การลงทุนในโครงการบ้านหรู หรือคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง (Downtown Condominium) ในทำเลทองยังคงมีเสถียรภาพมากกว่าในระยะยาว

สำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ:
บริหารจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ: การระบายสต็อกที่คงค้างเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก พิจารณากลยุทธ์การตลาดเชิงรุก การให้ข้อเสนอพิเศษ หรือการปรับปรุงโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
ปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์: ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่บ้านที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้ชีวิต การทำงาน และสุขอนามัยที่ดีขึ้น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นความยั่งยืน (Sustainable Development) และเทคโนโลยี PropTech จะเป็นกุญแจสำคัญ
รักษาสภาพคล่องทางการเงิน: นี่คือหัวใจสำคัญในการอยู่รอดในภาวะตลาดผันผวน การบริหารจัดการหนี้และแหล่งเงินทุนต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง
มองหาตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market): แทนที่จะแข่งขันในตลาดแมสที่อุปทานล้น อาจถึงเวลาพิจารณาตลาดที่เล็กลงแต่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง เช่น โครงการบ้านสำหรับผู้สูงอายุ (Wellness Residence) หรืออสังหาฯ ที่รองรับการทำงานแบบ Hybrid

สำหรับธนาคารพาณิชย์:
เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อแต่มีความยืดหยุ่น: แม้จะต้องระมัดระวัง แต่การหาจุดสมดุลในการอนุมัติสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่มีศักยภาพยังเป็นสิ่งจำเป็น อาจพิจารณาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายขึ้น หรือใช้ข้อมูลทางเลือกในการประเมินความเสี่ยง
บริหารจัดการพอร์ต NPLs/SMs อย่างมีประสิทธิภาพ: การเร่งแก้ไขปัญหาหนี้เสียจะช่วยลดภาระและเพิ่มขีดความสามารถในการปล่อยสินเชื่อใหม่
พัฒนาบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยมือสอง: การให้ความสำคัญกับตลาดบ้านมือสองมากขึ้น ต้องมาพร้อมกับการพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการประเมินราคาและตรวจสอบคุณสมบัติลูกค้าที่แม่นยำและรัดกุม

แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2569 และก้าวต่อไป

แม้ปี 2568 จะยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยมีโอกาสสูงที่เราจะเห็นสงครามราคาบ้านในบางเซกเมนต์และบางทำเล เช่น อสังหาฯ กรุงเทพฯ หรือคอนโดมิเนียมสุขุมวิทบางแห่ง แต่เราก็ยังคงมีความหวังว่าตลาดจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปี 2569 ด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 4-5% หากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น และกำลังซื้อของประชาชนกลับมา

การฟื้นตัวนี้จะขับเคลื่อนโดย:
นโยบายภาครัฐ: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการสนับสนุนภาคอสังหาฯ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง หรือโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อาจช่วยพยุงตลาดได้ในระยะสั้น
การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว: หากภาคการท่องเที่ยวกลับมาแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตหรือการลงทุนคอนโดพัทยา
การปรับตัวของผู้ประกอบการ: ผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ จะเป็นผู้นำในการสร้างความต้องการใหม่ให้กับตลาด

ในภาพรวม ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเข้าสู่ยุคที่ผู้เล่นทุกคนต้องใช้ความเชี่ยวชาญ (Expertise) ประสบการณ์ (Experience) และความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) ในระดับสูงสุด เพื่อผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ การบริหารจัดการอสังหาฯ ที่ชาญฉลาดและกลยุทธ์อสังหาฯ ที่ยืดหยุ่น จะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาด

อนาคตของการลงทุนอสังหาฯ และบ้านจัดสรรนนทบุรี หรือแม้แต่ราคาบ้านเชียงใหม่ จะขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถเรียนรู้จากสัญญาณเตือนเหล่านี้ และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพียงใด

หากท่านกำลังมองหาคำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หรือต้องการที่ปรึกษาอสังหาฯ ที่มีประสบการณ์เพื่อนำทางในตลาดที่ผันผวนนี้ อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อร่วมกันวางแผนอนาคตที่มั่นคงให้กับสินทรัพย์ของท่าน.

Previous Post

D1912044 แม มาแล กชายของฉ นใครก ามแตะ part2

Next Post

D1912047 รปภ

Next Post
D1912047 รปภ

D1912047 รปภ

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912054 Doorman แฟนเก าเธอน องออย part2
  • D1912053 แม ดเหรอ ทำท กอย างเพ อล part2
  • D1912052 แขก VIP อย างฉ แกคงไม อยากร กส นะ part2
  • D1912051 คนส งแหวนหม เป นแฟนเก part2
  • D1912050 อย นด ๆไม ได ไง องการแบบน ใช ไหม part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.