• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1912019 พวกพน กงานตลาดล าง นไม ได ไป part2

admin79 by admin79
December 19, 2025
in Uncategorized
0
D1912019 พวกพน กงานตลาดล าง นไม ได ไป part2

จับชีพจรตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: วิกฤตสงครามราคาและการปรับตัวของผู้เล่นสู่ทศวรรษใหม่

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตและวิเคราะห์พลวัตของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มาอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ช่วงรุ่งเรืองเฟื่องฟูไปจนถึงยุคแห่งความท้าทาย และสิ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นในปัจจุบันนั้น ชวนให้เราต้องหันมาจับตามองอย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าครั้งใดๆ สัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ชี้ให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังเผชิญกับพายุเศรษฐกิจรอบใหม่ที่ซับซ้อนและลึกซึ้งกว่าวิกฤตการณ์ครั้งก่อนๆ โดยเฉพาะความเสี่ยงของการเกิด “สงครามราคาบ้าน” ที่อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกจากประสบการณ์ตรง พร้อมเจาะลึกถึงปัจจัยขับเคลื่อน เทรนด์สำคัญ และแนวทางการรับมือสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรม ผู้ซื้อ และนัก ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำทางผ่านช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้

สัญญาณเตือนภัยจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคและสินเชื่อ: จุดเริ่มต้นของความท้าทาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุขภาพของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย นั้นผูกพันอย่างแยกไม่ออกกับภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค นับตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา เราเริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเปราะบางจากปัจจัยภายนอก เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสร้างแรงกดดัน สิ่งเหล่านี้ล้วนกัดกร่อนความมั่นใจและกำลังใจในการจับจ่ายใช้สอยของผู้คน รวมถึงการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิต

เมื่อกำลังซื้ออ่อนแรงลง ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินย่อมต้องปรับกลยุทธ์ด้านสินเชื่อให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในระบบการเงิน ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบประวัติเครดิต หรือการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Service Ratio – DSR) ที่เข้มข้นขึ้น ผลลัพธ์คือ อัตราปฏิเสธสินเชื่อ ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมในระดับราคา 3-5 ล้านบาท แต่เราก็เริ่มเห็นปัญหานี้ลามไปถึงกลุ่มราคาระดับกลางถึง 10 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะสะท้อนว่าปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงฐานรากของพีระมิดกำลังซื้ออีกต่อไป

จากข้อมูลที่เราพบ ปัญหาหลักๆ ของการปฏิเสธสินเชื่อมาจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่ว ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากวิกฤตหลายระลอกที่ผ่านมา ลูกค้าจำนวนมากแม้จะมีรายได้ประจำ แต่เมื่อหักลบกับภาระหนี้เดิม ทั้งหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่สินเชื่อรถยนต์ ทำให้ DSR เกินเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด การประเมินราคาบ้านก็มีความสำคัญอย่างมากในสถานการณ์เช่นนี้ การที่ราคาประเมินบ้านมือสองหรือบ้านเก่าไม่สอดคล้องกับราคาตลาดที่ผู้ซื้อต้องการ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การอนุมัติสินเชื่อติดขัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายเล็กจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการบริหารจัดการสภาพคล่อง เพราะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการระบายสต็อกโครงการเก่าเป็นเรื่องที่ท้าทายกว่าเดิมมาก การบริหารจัดการหนี้ของผู้บริโภคจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่เพียงส่งผลต่อรายบุคคล แต่ยังส่งผลต่อภาพรวมของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วย

ภาพหลอนของ “สงครามราคาบ้าน”: บทเรียนจากตลาดรถยนต์สู่ความเสี่ยงอสังหาริมทรัพย์

สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินและ อสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังจับตาและวิตกกังวลเป็นอย่างมากคือ การเกิด “สงครามราคาบ้าน” หรือ Price War ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในตลาดรถยนต์เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา และสร้างความปั่นป่วนอย่างมหาศาล บทเรียนจากตลาดรถยนต์ที่เราได้เห็นการหั่นราคา “รถป้ายแดง” อย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ทำราคาได้ต่ำกว่า หรือกำลังซื้อที่ชะลอตัวและการไม่ปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ทำให้ผู้ผลิตต้องระบายสต็อกด้วยการลดราคาจนส่งผลให้เกิดหนี้เสียและมีการ “ทิ้งสินเชื่อ” ซึ่งทำลายกลไกตลาดและคุณภาพสินเชื่อโดยรวม

หากปรากฏการณ์ “สงครามราคาบ้าน” นี้เกิดขึ้นใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จะส่งผลกระทบที่รุนแรงและซับซ้อนกว่าตลาดรถยนต์หลายเท่าตัวนัก เหตุผลหลักคือ ธรรมชาติของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีความเชื่อมโยงกับ “Wealth Effect” หรือผลกระทบต่อความมั่งคั่งของผู้คน หากราคาบ้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้ผู้ที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์รู้สึกว่ามูลค่าทรัพย์สินของตนเองลดลง (รู้สึกจนลง) แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยโดยรวม สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน ที่ราคาบ้านที่ลดลงฉุดรั้งการบริโภคและการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจหมุนวนเข้าสู่ภาวะถดถอย การบริโภคไม่กล้าจับจ่าย การลงทุนไม่กล้าขยับ สิ่งเหล่านี้คือผลกระทบที่น่ากลัวและอาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

แม้ว่าในปัจจุบันเราอาจยังไม่เห็น “สงครามราคาบ้าน” ที่รุนแรงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งผู้พัฒนาอาจยังพยายามรักษาราคาและภาพลักษณ์ของแบรนด์ไว้ แต่สัญญาณการแข่งขันด้านราคาเริ่มชัดเจนขึ้นในกลุ่มโครงการเก่า คอนโดมิเนียมเก่า หรือบ้านเก่าที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และมีสต็อกคงค้างเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการเหล่านี้กำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในการระบายของเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน และนี่คือจุดเริ่มต้นของการแข่งขันด้านราคาที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ การวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ ในมุมมองของนักลงทุนจึงต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น

กลยุทธ์การปรับตัวของผู้ประกอบการและธนาคาร: การอยู่รอดในสภาวะท้าทาย

ในภาวะที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน ทั้งผู้ประกอบการและสถาบันการเงินต่างต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์:
การปรับลดการเปิดโครงการใหม่: หลายบริษัทได้ตัดสินใจชะลอหรือเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสร้างอุปทานส่วนเกิน และหันมาให้ความสำคัญกับการระบายสต็อกที่มีอยู่เดิม การบริหารจัดการสินค้าคงค้าง (Inventory Management) กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ
การเร่งระบายสต็อกและข้อเสนอพิเศษ: การจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถม หรือแม้แต่การลดราคาลงในระดับที่ยังสามารถรักษากำไรได้ เป็นกลยุทธ์ที่หลายรายนำมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขาย การรับรู้ถึงราคาประเมินอสังหาฯ ที่อาจลดลงในอนาคต ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจลดราคาเพื่อสร้างกระแสเงินสดก่อนที่จะสายเกินไป
การบริหารสภาพคล่องอย่างเข้มงวด: ในช่วงเวลาที่การระดมทุนเป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นกู้ ที่เคยเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การมีวินัยทางการเงินและการรักษาสภาพคล่องจึงเป็นหัวใจสำคัญ หากผู้ประกอบการรายเล็กประสบภาวะช็อกทางสภาพคล่อง อาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงและกระทบต่ออุตสาหกรรมโดยรวมได้
การมองหาตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market): แทนที่จะแข่งในตลาดมวลชน ผู้ประกอบการบางรายเริ่มหันไปพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะ เช่น อสังหาริมทรัพย์พรีเมียม หรือโครงการที่เน้นดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่าง ซึ่งอาจมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งกว่า และมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจาก “สงครามราคาบ้าน” น้อยกว่า

สำหรับธนาคารและสถาบันการเงิน:
การเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ: นอกจากการตรวจสอบ DSR และประวัติเครดิตแล้ว ธนาคารยังต้องพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าเป็น “ลูกค้ากู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่จริง” และมีศักยภาพในการชำระหนี้ในระยะยาว การระมัดระวังเป็นพิเศษในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาสภาพของพอร์ตสินเชื่อ
การมุ่งเน้นตลาดบ้านมือสอง: แม้ว่าตลาดบ้านใหม่จะชะลอตัวอย่างหนัก แต่ตลาดบ้านมือสองกลับมีเสถียรภาพมากกว่า เนื่องจากราคาที่สมเหตุสมผลและมีความยืดหยุ่นสูง ธนาคารยูโอบีเปิดเผยว่า พอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยมือสองมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของพอร์ตสินเชื่อบ้านทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การประเมินราคาบ้านมือสองอย่างแม่นยำและการคัดกรองลูกค้าที่มีคุณภาพ จึงเป็นกุญแจสำคัญในตลาดนี้
การนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสภาพคล่อง: ผลิตภัณฑ์อย่าง “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) หรือ “รีไฟแนนซ์บ้าน” กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นทางเลือกสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการสภาพคล่องเร่งด่วน การบริหารจัดการหนี้ของผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการประคับประคองเศรษฐกิจ
การดูแลคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ: การติดตามและบริหารจัดการสินเชื่ออย่างใกล้ชิด การให้คำปรึกษาการเงินแก่ลูกหนี้ที่มีปัญหา และการปรับโครงสร้างหนี้เมื่อจำเป็น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลด NPL และรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวม

โอกาสและความท้าทายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568-2569

เมื่อมองไปข้างหน้า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังคงเต็มไปด้วยทั้งความท้าทายและโอกาสที่ซ่อนอยู่

ความท้าทาย:
การฟื้นตัวที่ล่าช้า: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะหากปัญหาสงครามการค้าหรือเศรษฐกิจโลกยังคงผันผวน
หนี้ครัวเรือนสูง: ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงเป็นเพดานกดทับกำลังซื้อ ทำให้การเติบโตของสินเชื่อบ้านใหม่เป็นไปได้ยาก
สต็อกคงค้าง: ปริมาณอสังหาริมทรัพย์สร้างเสร็จพร้อมขายที่มีอยู่มากในตลาด ยังคงเป็นแรงกดดันต่อราคาและสร้างความเสี่ยงต่อการเกิด “สงครามราคาบ้าน”

โอกาส:
ตลาดบ้านมือสอง: ดังที่กล่าวไปแล้ว ตลาดบ้านมือสองยังคงมีศักยภาพและเสถียรภาพมากกว่าตลาดบ้านใหม่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง การลงทุนในตลาดนี้จึงยังคงเป็นโอกาสที่น่าสนใจ
ทำเลทองอสังหาฯ และอสังหาริมทรัพย์พรีเมียม: แม้ตลาดโดยรวมจะชะลอตัว แต่ อสังหาริมทรัพย์พรีเมียม ในทำเลทองหรือโครงการที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่า
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่เน้นผลตอบแทน: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนจากการเช่าที่ดี หรือตอบสนองความต้องการเฉพาะของตลาด (เช่น คอนโดมิเนียมปล่อยเช่าระยะสั้นสำหรับนักท่องเที่ยว, ที่พักสำหรับผู้สูงอายุ) ยังคงเป็นช่องทางที่น่าสนใจ การวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างรอบด้านเป็นสิ่งจำเป็น
การลงทุนระยะยาว: สำหรับนัก ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมุมมองระยะยาวและมีเงินทุนสำรองเพียงพอ ช่วงเวลาที่ราคาปรับฐานอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าในอนาคต

สำหรับแนวโน้มในปี 2568 ผมคาดว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยรวมจะยังคงอยู่ในช่วงทรงตัว หรือติดลบเล็กน้อย จากแรงกดดันที่กล่าวมาข้างต้น เราจะเห็นผู้ประกอบการเน้นการระบายสต็อกมากขึ้น และธนาคารยังคงเข้มงวดกับสินเชื่อ แต่สำหรับปี 2569 นั้น หากเศรษฐกิจมหภาคมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น และหนี้ครัวเรือนเริ่มคลี่คลายลง เราอาจได้เห็น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กลับมาเติบโตได้ประมาณ 4-5% อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะเป็นการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

สรุปและก้าวต่อไป

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การเผชิญหน้ากับความเสี่ยงของ “สงครามราคาบ้าน” ไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามได้ ผลกระทบของมันสามารถส่งแรงกระเพื่อบไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจ สภาพการณ์ปัจจุบันนั้นอาจแย่กว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วยซ้ำ เพราะเรามีสต็อกอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จแล้วและยังไม่ได้ขายเป็นจำนวนมากในตลาด ในขณะที่กำลังซื้อลดลงและเงื่อนไขสินเชื่อเข้มงวดขึ้น สิ่งนี้ทำให้การระบายของทำได้ยากกว่าเดิม

สำหรับผู้ซื้อบ้าน การพิจารณาสินเชื่ออย่างรอบคอบ การประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง และการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในราคาที่สมเหตุสมผลและทำเลที่ตั้งที่ดี เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง สำหรับนัก ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การศึกษาข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ตลาด และการกระจายความเสี่ยงจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว

ในสถานการณ์เช่นนี้ การตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผู้ที่สนใจจะลงทุนหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ได้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าสู่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่กำลังเผชิญความท้าทายนี้ เพื่อโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งอสังหาฯ อย่างยั่งยืน.

Previous Post

D1912018 อำนาจ นย งใหญ เหน อค ณธรรม part2

Next Post

D1912020 าวก บน ำเปล เล ยงต อนร บพ อแฟน part2

Next Post
D1912020 าวก บน ำเปล เล ยงต อนร บพ อแฟน part2

D1912020 าวก บน ำเปล เล ยงต อนร บพ อแฟน part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912045 แฟนแกเป นก จะแต งงานก นได ไง part2
  • D1912044 แม มาแล กชายของฉ นใครก ามแตะ part2
  • D1912043 เส าวราดปลากระป องข างทาง part2
  • D1912042 เพ อนก นหาง าย นก นแล วไม ายเธอจะทำไม part2
  • D1912041 บรถสองแถว เง านเหรอ part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.