กลยุทธ์เหนือชั้น: Property Perfect พลิกเกมอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2025 สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนถึงปี 2029
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพลิกผันมาแล้วหลายครั้ง แต่สถานการณ์ที่ตลาดเผชิญอยู่ในปี 2025 นี้ ถือเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนที่สุดในรอบสองทศวรรษ ซึ่งไม่เพียงบีบให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว แต่ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล หนึ่งในนั้นคือ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PP ที่กำลังงัดกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนไปจนถึงปี 2029
ภูมิทัศน์อสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2025: มรสุมแห่งความท้าทายที่รอการก้าวข้าม
ปี 2025 เป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยกดดันรอบด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจมหภาคที่ยังคงฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ความผันผวนทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สิ่งเหล่านี้ได้ฉุดรั้งทั้งอุปทานและอุปสงค์ในตลาดให้ลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี ตัวเลขคาดการณ์การเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ที่ระดับ 30,000 ยูนิต ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ราว 46,000 ยูนิต ชี้ให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด และการชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอดูความชัดเจนในอนาคต
ความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ทั้งจากนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนตลาดให้คึกคัก หากแต่ในปีนี้พวกเขากลับเลือกที่จะ “ชะลอ” การตัดสินใจ ส่งผลให้ภาพรวมของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่ท่ามกลางความท้าทายนี้ ผู้เล่นที่มีประสบการณ์และข้อมูลเชิงลึกเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็น “โอกาส” และปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที เช่นเดียวกับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่ไม่ได้มองข้ามสัญญาณเตือนเหล่านี้ แต่กลับใช้เป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจอย่างชาญฉลาด
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: ผู้นำที่กล้าพลิกเกมด้วยวิสัยทัศน์ใหม่
ภายใต้การนำของคุณศานิต อรรถญาณสกุล ประ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ได้ตระหนักดีว่า การดำเนินธุรกิจแบบเดิมไม่สามารถรับมือกับพลวัตของตลาดที่เปลี่ยนไปได้อีกต่อไป ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างและกลยุทธ์อย่างรอบด้าน โดยวางเป้ายอดขายสำหรับปี 2026 ไว้ที่ 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 9,000 ล้านบาท และจากโครงการ คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีก 2,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้สะท้อนความเชื่อมั่นในการฟื้นตัว แม้ตลาดจะยังคง “หดตัว” แต่ด้วยประสบการณ์และความสามารถในการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่สั่งสมมานาน จึงเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ท้าทายนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้วางกลยุทธ์สำคัญบน 4 เสาหลักที่เชื่อมโยงและเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งผมมองว่าเป็นการวางหมากที่เฉียบคมและสอดรับกับ เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ 2025 และอนาคตอย่างแท้จริง
เสาหลักที่ 1: ยกระดับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่
ในสภาพตลาดที่กำลังซื้อชะลอตัว การสร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่เหนือกว่า คือหัวใจสำคัญในการดึงดูดลูกค้า พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานก่อสร้างอย่างเข้มข้น โดยมีแผนเปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่ในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยวหรู, บ้านแฝด, หรือ ทาวน์โฮมทันสมัย ที่ได้รับการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมสถาปนิกทั้งภายในและภายนอกองค์กร
จุดเด่นของแบบบ้านใหม่เหล่านี้คือ การปรับรูปแบบและฟังก์ชันภายในให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับวิถีชีวิตแบบ Hybrid Living ที่ผู้คนทำงานและใช้ชีวิตที่บ้านมากขึ้น รวมถึงการตอบสนองความต้องการของครอบครัวขยายที่ต้องการพื้นที่สำหรับทุกคน การออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์ (Flexible Space) กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการนำ นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ มาผสาน เช่น การติดตั้งระบบ Smart Home Technology ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายและประหยัดพลังงาน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกับแนวคิด Green Building และหลักการ ESG ในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น
การควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ PP ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยมีการพัฒนากระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นและมีมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกโครงการที่ส่งมอบมีคุณภาพสูงสุด ลดปัญหาหลังการขาย และสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว สิ่งนี้คือรากฐานสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และส่งมอบ บ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียมที่คุ้มค่าแก่การลงทุนอย่างแท้จริง
เสาหลักที่ 2: สร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตด้วย Health & Lifestyle Club เต็มรูปแบบ
นอกเหนือจากตัวที่อยู่อาศัยแล้ว พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตมากขึ้น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้มองเห็นโอกาสนี้ และวางแผนปรับปรุงสโมสรภายในโครงการรวม 25 แห่ง ให้เป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์” (Health & Lifestyle Club) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผมมองว่าเป็นแนวคิดที่ก้าวกระโดดและน่าสนใจอย่างยิ่ง
การลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ ไม่ใช่แค่การสร้างฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำทั่วไปอีกต่อไป แต่เป็นการสร้าง Ecosystem ที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม คลับแห่งใหม่เหล่านี้จะไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ออกกำลังกาย แต่จะเป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่ส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ อาจรวมถึงการจัดคลาสโยคะ พิลาทิส โซน Co-working Space สำหรับการทำงานในบรรยากาศผ่อนคลาย ห้องทำกิจกรรมสำหรับเด็ก โซนสำหรับผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งการร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพเพื่อจัดบริการ Telemedicine หรือการตรวจสุขภาพเบื้องต้นภายในโครงการ แนวคิดนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกโครงการ แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Proposition) ที่แตกต่างและโดดเด่น ทำให้โครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น และเป็นกลไกสำคัญในการผลักดัน ยอดขาย ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
เสาหลักที่ 3: กระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อความมั่นคงยั่งยืน
หนึ่งในบทเรียนสำคัญจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมาคือ การพึ่งพิงรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงเกินไป พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จึงได้วางแผนเชิงกลยุทธ์ในการสร้างฐานรากที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกให้ความสำคัญ
บริษัทอยู่ระหว่างการวิเคราะห์โอกาสและวางแผนการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจครอบคลุมหลากหลายประเภท เช่น:
ธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ (Serviced Apartment): ใช้ประโยชน์จากทำเลศักยภาพและประสบการณ์ของแกรนด์ แอสเสทฯ
พื้นที่ค้าปลีกหรือคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก: พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในโครงการหรือในทำเลที่มีศักยภาพ
ธุรกิจให้เช่าพื้นที่สำนักงานหรือ Co-living Space/Co-working Space: ตอบรับเทรนด์การทำงานและอยู่อาศัยแบบใหม่
การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management): ให้บริการบริหารจัดการโครงการของตนเองและของบุคคลภายนอก
การลงทุนในพลังงานสะอาด (Clean Energy): การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการเพื่อลดต้นทุนและสร้างรายได้จากการขายไฟฟ้า
เป้าหมายที่ทะเยอทะยานคือการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2029 ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทำให้บริษัทสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคงแม้ในยามที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผันผวน และยังสามารถนำผลกำไรไปลงทุนต่อยอดใน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน อื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
เสาหลักที่ 4: การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) และ Digital Transformation
ในยุคที่ข้อมูลคือขุมทรัพย์ การตัดสินใจทางธุรกิจโดยปราศจากข้อมูลที่แม่นยำเปรียบเสมือนการเดินเรือโดยไม่มีแผนที่ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้ตระหนักถึงความสำคัญของ Data-Driven และ Digital Transformation ในทุกมิติของการดำเนินงาน
การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกไม่เพียงช่วยให้บริษัทสามารถทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ เพื่อพัฒนาสินค้าที่ “ตอบโจทย์” ได้ตรงจุด แต่ยังช่วยในการบริหารจัดการโครงการ การตลาด การขาย และ บริการหลังการขาย ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบ การกำหนดราคา การสื่อสารกับลูกค้า ไปจนถึงการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในกระบวนการเหล่านี้ ทำให้ PP สามารถลดต้นทุน เพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการแข่งขันสูง
อนาคตที่สดใสภายใต้กลยุทธ์อันชาญฉลาด
ผมเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์อันแข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในการมุ่งเน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่ดีขึ้นด้วย Health & Lifestyle Club การกระจายความเสี่ยงด้วยรายได้ประจำ และการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล จะเป็นพิมพ์เขียวสำคัญที่นำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน แม้ในภาวะที่ เศรษฐกิจ และ การเมือง ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ยากจะคาดเดา
การปรับตัวอย่างรวดเร็วและการลงทุนในสิ่งที่เป็นอนาคตนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทเท่านั้น แต่ยังจะเป็นแรงกระตุ้นและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายอื่นๆ ในการยกระดับมาตรฐานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยรวม
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตในอีกทศวรรษข้างหน้า การจับตามองผู้นำตลาดที่กล้าคิด กล้าทำอย่าง Property Perfect จึงเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ เพราะวิสัยทัศน์ของพวกเขา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างอาคาร แต่เป็นการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตและอนาคตที่ยั่งยืน
หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนที่มั่นคง หรือที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังเติมเต็มคุณภาพชีวิตและสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว อย่ารอช้าที่จะศึกษาและสัมผัสกับนวัตกรรมจากผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่าง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เพื่ออนาคตที่คุณออกแบบได้เอง

