• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512027 วงแบบไม เกรงใจ แม ยายก ไม เว ep1 part1

admin79 by admin79
December 17, 2025
in Uncategorized
0
D1512027 วงแบบไม เกรงใจ แม ยายก ไม เว ep1 part1

ถอดรหัสสงครามราคาบ้าน: วิเคราะห์เจาะลึกอนาคตตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568-2569 โดยผู้เชี่ยวชาญ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากว่าทศวรรษ ผมสังเกตเห็นถึงคลื่นความกังวลที่กำลังก่อตัวขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปี 2567 และต้นปี 2568 ที่ผ่านมา สัญญาณเตือนภัยที่สำคัญที่สุดคือความเป็นไปได้ของการเกิด “สงครามราคาบ้าน” หรือ Price War ที่รุนแรง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนและมีผลกระทบที่ลึกซึ้งกว่าเพียงแค่การปรับลดราคา เรากำลังยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญ ซึ่งการทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มในอนาคตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และแม้กระทั่งผู้บริโภคทั่วไป

ภูมิทัศน์เศรษฐกิจมหภาคและปัจจัยกดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์

ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวน ทั้งจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในหลายประเทศ และนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสำคัญๆ ได้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มายังเศรษฐกิจไทยโดยตรง การส่งออกเผชิญความท้าทาย การลงทุนจากต่างประเทศยังคงระมัดระวัง และภาคการท่องเที่ยวแม้จะฟื้นตัวแต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยกำลังซื้อที่หายไปทั้งหมดได้

ในระดับประเทศ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ยังคงเป็นฝันร้ายที่ฉุดรั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง ทำให้รายได้ของประชากรบางกลุ่มยังคงเปราะบาง นำไปสู่ความระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยเฉพาะกับการลงทุนระยะยาวเช่น “การซื้อบ้าน” ซึ่งเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูง ด้วยภาวะเช่นนี้ ธนาคารพาณิชย์จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นกลไกป้องกันความเสี่ยงของตนเอง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถขยายตัวได้อย่างที่ควรจะเป็น

วิกฤตสินเชื่อและสัญญาณอันตรายจาก NPL/SM

หนึ่งในตัวชี้วัดที่ผมให้ความสำคัญและติดตามอย่างใกล้ชิดคือตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “สินเชื่อบ้าน” ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวและการว่างงานเป็นอันดับแรกเริ่มแรก จากนั้นก็ลามไปยังกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท และเริ่มส่งสัญญาณไปยังกลุ่มราคา 10 ล้านบาทแล้ว ซึ่งสะท้อนว่าปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงผู้มีรายได้น้อย แต่กำลังขยายวงกว้างออกไปอย่างน่าเป็นห่วง

เมื่อ NPL และ SM เพิ่มขึ้น ธนาคารย่อมต้องตั้งสำรองหนี้เสียสูงขึ้น และด้วยความกังวลต่อคุณภาพสินเชื่อในภาพรวม การพิจารณา “การอนุมัติสินเชื่อ” จึงเข้มงวดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) กลายเป็นเกณฑ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้พิจารณาอย่างเคร่งครัด ทำให้ “อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ” (Reject Rate) พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรือมีภาระหนี้เดิมอยู่แล้ว สถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ซื้อบ้านตัวจริงต้องประสบปัญหา แต่ยังส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ และเกิดการสะสมสต็อกที่อยู่อาศัยจำนวนมากในตลาด

ถอดบทเรียนจาก “สงครามราคารถยนต์” สู่ “สงครามราคาบ้าน”

สิ่งที่ทำให้ผมและนักวิเคราะห์หลายท่านเกิดความกังวลอย่างยิ่งคือภาพซ้ำรอยที่เคยเกิดขึ้นกับตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมา การแข่งขันด้านราคาที่ดุเดือด โดยเฉพาะจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เข้ามา “ดัมพ์ราคา” เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด ประกอบกับกำลังซื้อที่ซบเซาและสถาบันการเงินที่เข้มงวด “สินเชื่อรถยนต์” ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องหั่นราคารถยนต์ป้ายแดงลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน การระบายสต็อกเหล่านี้ได้สร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งต่อตลาดรถยนต์มือสองและคุณภาพสินเชื่อของธนาคาร จนนำไปสู่ NPL และการทิ้งรถจำนวนมาก

หาก “สงครามราคาบ้าน” เกิดขึ้นจริงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผลกระทบจะรุนแรงและซับซ้อนกว่าตลาดรถยนต์อย่างเทียบไม่ติด เพราะที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่เพียงสินค้า แต่เป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของครัวเรือน ซึ่งเป็นรากฐานของความมั่นคงทาง “การเงินส่วนบุคคล” และความมั่งคั่ง (Wealth Effect) การที่มูลค่าของบ้านลดลงอย่างฮวบฮาบ ไม่เพียงแต่ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกว่าความมั่งคั่งของตนเองลดลง (รู้สึก “จนลง”) แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย การบริโภคภายในประเทศจะหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมเข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงและแก้ไขได้ยากกว่าที่คาดการณ์ไว้

สถานการณ์ปัจจุบันและกลยุทธ์ของภาคธนาคาร

ในปัจจุบัน ภาคธนาคารพาณิชย์อยู่ในโหมด “ประคับประคอง” พอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างระมัดระวัง แม้ว่ายอดปล่อย “สินเชื่อบ้าน” ใหม่จะหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ (บางธนาคารพบว่าลดลงถึง 15% YOY) แต่ยอดสินเชื่อคงค้างโดยรวมยังคงทรงตัว ซึ่งสะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็วของธนาคาร

ธนาคารหลายแห่งหันมาเน้นการเติบโตในตลาด “บ้านมือสอง” มากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพกว่าในแง่ของอุปทานและราคา แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณา “ราคาประเมินบ้าน” ที่ต้องเข้มข้น และการตรวจสอบคุณสมบัติลูกค้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าเป็นการ “กู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่จริง” ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไรในภาวะที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อย่าง “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) หรือ “รีไฟแนนซ์” ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฐานะเครื่องมือในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับเจ้าของบ้านที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน

ในส่วนของโครงการใหม่ ธนาคารยังคงเข้มงวดในการให้สินเชื่อแก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูง หากตลาดเข้าสู่ภาวะ “สงครามราคาบ้าน” อย่างเต็มรูปแบบ บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งมีหน้าที่ “บริหารสินทรัพย์” ที่เป็น NPL ก็จะเผชิญกับความท้าทายอย่างมหาศาลในการระบายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

การระบายสต็อกและผลกระทบต่อผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ปัญหาสำคัญที่กำลังคุกคามภาคอสังหาริมทรัพย์คือ “โอเวอร์ซัพพลาย” หรืออุปทานที่ล้นตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “คอนโดมิเนียม” ที่สร้างเสร็จและบ้านที่ยังไม่มีผู้ซื้อ โดยเฉพาะ “คอนโดมิเนียมเก่า” และ “บ้านเก่า” ที่สร้างเสร็จมานานและเริ่มมีต้นทุนในการถือครองที่สูงขึ้น กำลังถูกนำมาแข่งขันด้านราคาอย่างเห็นได้ชัดเพื่อเร่งระบายสต็อก

ในขณะที่โครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะใน “อสังหาฯ กรุงเทพฯ” และหัวเมืองใหญ่ อาจยังคงพยายามรักษาระดับราคาไว้เพื่อปกป้องภาพลักษณ์แบรนด์และกำไร แต่แรงกดดันจากการที่สต็อกสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กที่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนและ “หุ้นกู้” ที่กำลังจะครบกำหนด ต้องพิจารณาการลดราคาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องอย่างจริงจัง ซึ่งหากมีโครงการใดเริ่มต้น “สงครามราคาบ้าน” อย่างเต็มรูปแบบ ก็อาจจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต้องปฏิบัติตามเพื่อความอยู่รอด นำไปสู่การลดค่าเฉลี่ยของราคาตลาดโดยรวม และส่งผลกระทบต่อการ “ลงทุนอสังหาฯ” ของทุกคนในที่สุด

การคาดการณ์แนวโน้มปี 2568-2569 และกลยุทธ์รับมือ

จากประสบการณ์และข้อมูลที่ผมรวบรวมได้ ผมคาดการณ์ว่าปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะยังคงอยู่ในภาวะท้าทาย การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่ทั่วถึง “สงครามราคาบ้าน” จะเริ่มเห็นผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นในบางเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะบ้านและคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง และโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนมานานแล้ว “ตลาดอสังหาฯ ภูมิภาค” บางแห่งที่มีการเก็งกำไรสูง อาจจะได้รับผลกระทบก่อนเพื่อน

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าปี 2569 จะเป็นปีที่ตลาดมีโอกาสจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งที่ประมาณ 4-5% หากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวลง และภาครัฐมีการออกมาตรการกระตุ้นที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือการที่ธนาคารพาณิชย์กลับมามีความเชื่อมั่นในการปล่อย “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” อีกครั้ง รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการและผู้ที่กำลังพิจารณาในตลาดนี้ ผมมีคำแนะนำดังนี้:

สำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์: ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับกลยุทธ์อย่างรอบด้าน เน้นการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง แทนการสร้างอุปทานที่เกินความจำเป็น การบริหารจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ และการบริหาร “การเงินส่วนบุคคล” ของบริษัทให้แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์: ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการ “ลงทุนอสังหาฯ” พิจารณาปัจจัยพื้นฐานของโครงการ ทำเลที่ตั้ง ศักยภาพในการให้ผลตอบแทนจากค่าเช่าในระยะยาว และสภาพคล่องในการขายต่อ หลีกเลี่ยงการลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นในภาวะตลาดเช่นนี้
สำหรับผู้ซื้อบ้าน: นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเลือกซื้อบ้านในราคาที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองอย่างถี่ถ้วน ตรวจสอบเงื่อนไข “สินเชื่อบ้าน” และ “ราคาประเมินบ้าน” อย่างรอบคอบ และเลือกโครงการจากผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงและมั่นคง การ “ปรึกษาการเงินอสังหา” กับผู้เชี่ยวชาญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

“สงครามราคาบ้าน” ไม่ใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉย แต่ก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มันคือบททดสอบครั้งสำคัญที่จะคัดกรองผู้เล่นที่แข็งแกร่งและปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของตลาดให้มีความสมดุลมากขึ้นในระยะยาว การเตรียมพร้อม ทำความเข้าใจสถานการณ์ และวางแผนอย่างรอบคอบ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในสภาวะตลาดที่ท้าทายนี้

หากท่านต้องการเจาะลึกข้อมูล หรือปรึกษาแนวทางการลงทุนและ “การเงินส่วนบุคคล” ในภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผันผวนเช่นนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมที่จะให้คำแนะนำที่ตรงจุด เพื่อช่วยให้ท่านก้าวผ่านความท้าทายและคว้าโอกาสที่ซ่อนอยู่ในวิกฤตนี้ โปรดติดต่อเราเพื่อรับ “ปรึกษาการเงินอสังหา” เฉพาะบุคคลและเริ่มต้นวางแผนอนาคตที่มั่นคงไปด้วยกัน.

Previous Post

D1712026 ไอต วเก าอร อยจ ep1 part2

Next Post

D1512028 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep1 part1

Next Post
D1512028 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep1 part1

D1512028 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep1 part1

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1512031 แอบส อง ระยะเผาขน EP1 part1
  • D1512030 แอบส อง ระยะเผาขน EP2 part1
  • D1512029 กาโม หลอกม จได part1
  • D1512028 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep1 part1
  • D1512027 วงแบบไม เกรงใจ แม ยายก ไม เว ep1 part1

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.