• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512062 เก อบเส ยผ วให กะเทย EP1 part2

admin79 by admin79
December 16, 2025
in Uncategorized
0
D1512062 เก อบเส ยผ วให กะเทย EP1 part2

ถอดรหัสสัญญาณเตือน: “สงครามราคาบ้าน” และอนาคตอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568-2569

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจการเงินมานานกว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าปี 2568 นี้ไม่ใช่เพียงปีแห่งความท้าทายธรรมดาสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่เป็นปีที่กำลังส่งสัญญาณเตือนถึงปรากฏการณ์ที่อาจรุนแรงและซับซ้อนกว่าวิกฤตครั้งใดๆ ที่เราเคยเผชิญมา นั่นคือ “สงครามราคาบ้าน” ที่อาจปะทุขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ย่อมส่งผลกระทบในวงกว้างเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด ไม่ใช่แค่เพียงตลาดที่อยู่อาศัย แต่จะลามไปถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย: ภาวะชะลอตัวที่ลึกและกว้างกว่าที่เคย

นับตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนมีนาคม แม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลักโดยตรง แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสะท้อนภาพกำลังซื้อที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจไทยที่ยังคงฟื้นตัวไม่เต็มที่ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงประวัติการณ์ และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวในระดับที่ท้าทาย ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างเข้มงวด ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อบ้านราคาไม่สูงนัก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางด้านคุณภาพสินเชื่อมากที่สุด แต่ปัจจุบันนี้ เราเริ่มเห็นปัญหานี้ลุกลามไปยังกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท และเริ่มส่งสัญญาณไปถึงกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซึมลึกจากฐานรากสู่ชนชั้นกลาง ปัญหานี้แก้ไขได้ยาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับโครงสร้างรายได้และการก่อหนี้ของประชากรโดยตรง

สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือ สต็อกที่อยู่อาศัยในตลาด โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรโครงการใหม่ๆ ที่ยังคงมีอยู่มาก ในขณะที่ยอดขายกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) สำหรับที่อยู่อาศัยหดตัวลงกว่า 15% และยอดสินเชื่อคงค้างแทบไม่ขยับ สะท้อนว่าดีมานด์ในตลาดนั้นอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างแท้จริง การที่ผู้ซื้อกู้ไม่ผ่านมากขึ้น ไม่ได้เกิดจากธนาคารไม่อยากปล่อยสินเชื่อ แต่เป็นเพราะลูกค้ามีภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูงเกินเกณฑ์ หรือมีประวัติหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) หรือหนี้กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่ยังคงเป็นความท้าทาย

ถอดบทเรียนจาก “สงครามราคารถยนต์” สู่ภาคอสังหาริมทรัพย์

สิ่งที่นักวิเคราะห์หลายท่าน รวมถึงตัวผมเองกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด คือความเสี่ยงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 จะเดินตามรอยตลาดรถยนต์ในปี 2567 ที่เกิดปรากฏการณ์ “สงครามราคา” อย่างรุนแรง เราเห็นการหั่นราคารถยนต์ป้ายแดงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือด ประกอบกับกำลังซื้อที่ซบเซาและสถาบันการเงินที่เข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ทำให้ราคาจำหน่ายรถยนต์ลดลงอย่างมาก เพื่อระบายสต็อก ซึ่งท้ายที่สุดส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้เสีย และการทิ้งรถจำนวนมาก สร้างความเสียหายให้กับตลาดในภาพรวม

หากปรากฏการณ์ “สงครามราคาบ้าน” เช่นนี้เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ผลกระทบจะรุนแรงและยืดเยื้อกว่าตลาดรถยนต์หลายเท่าตัว ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ที่สูงกว่า สภาพคล่องต่ำกว่า และระยะเวลาการถือครองที่ยาวนานกว่า สินเชื่อเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับผลกระทบไปตามกัน และที่สำคัญที่สุดคือจะเกิด “Wealth Effect” หรือ “ผลกระทบต่อความมั่งคั่ง” ในเชิงลบ

Wealth Effect: คลื่นใต้น้ำที่น่ากลัวกว่าที่คิด

“Wealth Effect” คือปรากฏการณ์ที่มูลค่าของสินทรัพย์ที่บุคคลถือครองเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคและการใช้จ่าย หากเรามีบ้านและมูลค่าบ้านเพิ่มขึ้น เราจะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และมีความเชื่อมั่น กล้ากิน กล้าใช้จ่ายมากขึ้นในทางกลับกัน หากมูลค่าบ้านลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนจะรู้สึกว่าตัวเอง “จนลง” แม้จะยังไม่ได้ขายบ้านก็ตาม ความรู้สึกนี้จะกัดกร่อนความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุน ทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลงเป็นวงจรที่น่ากลัว ดังที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศรวมถึงจีน ที่การลดลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ได้สร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างมหาศาล

แม้ว่าในปี 2568 นี้ เราอาจจะยังไม่เห็น “สงครามราคาบ้าน” ที่รุนแรงในโครงการใหม่ๆ ที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่อาจจะยังไม่ลดราคาลงมากนักเพื่อเร่งขายและระบายสต็อก เนื่องจากอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และกลยุทธ์ระยะยาว แต่สำหรับโครงการเก่า คอนโดมิเนียมมือสอง หรือบ้านมือสอง เราเริ่มเห็นการแข่งขันลดราคาเพื่อระบายสินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

กลยุทธ์ของผู้ประกอบการและสถาบันการเงินในภาวะท้าทาย

ในสถานการณ์ที่ความต้องการซื้ออ่อนแอและการอนุมัติสินเชื่อยากขึ้น ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่ต้องการสภาพคล่องสูง กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนัก หากเกิดภาวะ “ช็อกหนัก” การระดมทุนในตลาดหุ้นกู้จะยิ่งเป็นไปได้ยากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการโดยตรง นอกจากนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Companies – AMCs) ที่ถือครองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและอสังหาริมทรัพย์รอการขายจำนวนมาก ก็จะประสบปัญหาในการระบายทรัพย์สินเช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่อาจนำไปสู่ภาวะการลงทุนในสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มสูงขึ้น

ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ ทุกแห่งกำลังอยู่ในโหมดประคับประคองสินเชื่อที่อยู่อาศัย มีการเปิดโครงการ “บ้านแลกเงิน” (Home for Cash) มากขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ที่มีสินทรัพย์สามารถแปลงเป็นสภาพคล่องได้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ชี้ว่าปัจจุบันตลาดบ้านใหม่มีอาการหนักกว่าช่วงโควิด-19 และหันมาให้ความสำคัญกับตลาดบ้านมือสองมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพกว่า โดยมีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยมือสองสูงถึง 30% ของพอร์ตสินเชื่อบ้านทั้งหมด และกำลังเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ยังคงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะบ้านมือสองก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะในเรื่องของการประเมินมูลค่าทรัพย์สินให้เหมาะสม และการคัดกรองคุณสมบัติของลูกค้าให้มั่นใจว่าเป็นผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่ใช่การซื้อเพื่อเก็งกำไรในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การตั้งการ์ดที่เข้มงวดและการดูแลคุณภาพพอร์ตสินเชื่อจึงเป็นหัวใจสำคัญ

สำหรับปี 2568 นี้ คาดการณ์ว่าสินเชื่อบ้านโดยรวมของธนาคารพาณิชย์จะทรงตัวจากปีก่อน เป็นผลจากทั้งตลาดบ้านใหม่ที่ชะลอตัว และคุณภาพของลูกค้าที่ไม่สามารถได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ เนื่องจากมีภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูง ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อพุ่งสูงขึ้น แม้แต่บ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ 70,000-100,000 บาทต่อเดือน ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการอนุมัติสินเชื่อ

โอกาสและความท้าทายในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป: มุมมองปี 2569 และอนาคต

สถานการณ์ในปัจจุบันเลวร้ายกว่าช่วงโควิด-19 เนื่องจากขณะนั้นมีอุปทานในตลาดไม่มากเท่าปัจจุบัน แต่ตอนนี้เรามีสต็อกสินค้าจำนวนมากที่ขายไม่ออก และมีผู้ที่ต้องการซื้อแต่ไม่สามารถขอสินเชื่อได้ สิ่งนี้สร้างแรงกดดันให้เกิด “สงครามราคาบ้าน” ได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ว่า ตลาดอาจจะเริ่มฟื้นตัวและกลับมาเป็นบวกได้ประมาณ 4-5% ในปี 2569 หากปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ

ในมุมมองระยะยาว การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีเสน่ห์ แต่ต้องอาศัยการวางแผนการเงินที่รอบคอบและการพิจารณาปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างมาก เช่น:

การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์: สังคมสูงวัย ขนาดครัวเรือนเล็กลง และความต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ๆ (เช่น Co-living space, บ้านสำหรับผู้สูงอายุ) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
เทคโนโลยีและนวัตกรรม (PropTech): การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการซื้อ-ขาย-เช่า การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ และการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ
ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม: อาคารเขียว (Green Building) และโครงการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมจะได้รับความสนใจมากขึ้น และอาจส่งผลต่อมูลค่าประเมินมูลค่าทรัพย์สินในระยะยาว
แนวโน้มการทำงาน: การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) หรือแบบ Hybrid Working จะส่งผลต่อความต้องการพื้นที่ใช้สอยและการเลือกทำเลที่อยู่อาศัย
การจัดการหนี้เสีย: สถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์จะเพิ่มความเข้มข้นในการจัดการหนี้เสียและการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อประคองสถานการณ์และลดความเสี่ยง

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อบ้านคอนโดในช่วงนี้ การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การปรึกษาที่ปรึกษาอสังหาฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จะช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงและโอกาสได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่อมีแนวโน้มเกิด “สงครามราคาบ้าน” การลงทุนทางเลือกในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ หรือการประเมินสถานการณ์ตลาดอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น

สรุปและข้อเสนอแนะ

สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ที่อาจนำไปสู่ “สงครามราคาบ้าน” ซึ่งมีศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและจิตวิทยาผู้บริโภคผ่าน “Wealth Effect” ธนาคารและผู้ประกอบการต่างต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือ ขณะที่ผู้บริโภคก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังและวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะตื่นตระหนก แต่เป็นเวลาของการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน และการตัดสินใจอย่างมีสติ เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ไปได้

สำหรับท่านที่กำลังมองหาโอกาสหรือกำลังเผชิญกับความท้าทายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย หากท่านต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุน การบริหารจัดการสินทรัพย์ หรือการวางแผนการเงินส่วนบุคคลในสถานการณ์เช่นนี้ อย่าลังเลที่จะติดต่อที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงินผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับท่านในการเผชิญกับ “สงครามราคาบ้าน” และคว้าโอกาสในอนาคตที่กำลังจะมาถึง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการตัดสินใจของคุณอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่แม่นยำและมุมมองจากผู้มีประสบการณ์จริง

Previous Post

D1512061 งย งไม ได ใส แม นมาแอบส อง ep1 part2

Next Post

D1512063 แม ไม จะสอนผมให ได ไง ep1 part2

Next Post
D1512063 แม ไม จะสอนผมให ได ไง ep1 part2

D1512063 แม ไม จะสอนผมให ได ไง ep1 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1712043 แค แป งก แปลงร าง part2
  • D1712042 ผายปอด หร ดปาก EP2 part2
  • D1712046 เง นไม ได คม แต ผมโง เอง part2
  • D1712045 งใจมาส อง องอย าร องด EP2 part2
  • D1712044 ผายปอด หร ดปาก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.