• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512025 มน ษย สร างAi และหลงร กAi ep1 part2

admin79 by admin79
December 16, 2025
in Uncategorized
0
D1512025 มน ษย สร างAi และหลงร กAi ep1 part2

หัวข้อ: พลิกวิกฤตสินเชื่อบ้าน สู่ “โอกาสซื้อบ้าน” ที่ยั่งยืน: เจาะลึกกลยุทธ์ “Next Solution” ของ เสนาฯ ใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการพัฒนา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของภาคธุรกิจนี้มาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไทยกำลังเผชิญหน้าอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2568 นี้ นับเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่งและอาจกล่าวได้ว่า “ทรหดยิ่งกว่าวิกฤตใดๆ” ที่เราเคยผ่านมา ไม่ใช่เพียงแค่การชะลอตัวตามวัฏจักรปกติ แต่เป็นภาวะที่ถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง หัวใจสำคัญของความท้าทายนี้คือ “กำลังซื้อ” ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และปัญหา “กู้ไม่ผ่าน” ของผู้ซื้อบ้านในกลุ่มตลาดแมส ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่ขัดขวางความฝันในการมีบ้านของคนจำนวนมาก แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และในบทความนี้ ผมจะพาทุกท่านเจาะลึกถึงแนวคิดและกลยุทธ์เชิงรุกของหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่าง บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “เสนาฯ” ที่ได้รังสรรค์ “Next Solution” เพื่อสร้าง “โอกาสซื้อบ้าน” ให้กับผู้บริโภค พร้อมปรับทิศทางธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ผันผวน

วิกฤตสินเชื่อและความท้าทายใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระดับแมส: ภาพสะท้อนของเศรษฐกิจไทย

สิ่งที่ผมได้เห็นมาตลอดในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คือภาพของครัวเรือนไทยที่แบกรับภาระหนี้สูงเป็นประวัติการณ์ ควบคู่ไปกับรายได้ที่เติบโตไม่ทันค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น และราคาที่อยู่อาศัยที่ยังคงเป็นขาขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ “ความสามารถในการกู้” ของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ระดับกลางและระดับล่าง หรือที่เราเรียกว่า “ตลาดแมส” ตัวเลขที่น่าตกใจคืออัตราการปฏิเสธสินเชื่อในโครงการแนวราบบางทำเล เช่น บางใหญ่ สูงถึง 80% และสำหรับคอนโดมิเนียมก็ยังคงมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 50% ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ กำลังเผชิญกับปัญหารากฐานที่ลึกซึ้งกว่าแค่การขาดความต้องการ แต่เป็นปัญหาเรื่อง “การเข้าถึงสินเชื่อบ้าน”

จากประสบการณ์ ผมเห็นว่าความต้องการที่อยู่อาศัยของคนไทยยังคงมีอยู่สูง ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรกเพื่อสร้างครอบครัว หรือเพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต แต่กำแพงทางการเงินกลับสูงเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่จะก้าวข้ามได้ หนี้ครัวเรือนที่ท่วมท้นบีบรัดสภาพคล่องและทำให้สถาบันการเงินต้องเข้มงวดกับการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจำนวนไม่น้อยต้องฝันสลายไปกับคำว่า “กู้ไม่ผ่าน” แม้ว่าบางรายจะมีความพร้อมในการผ่อนชำระ แต่ด้วยประวัติเครดิตที่ไม่เข้าเกณฑ์ หรือภาระหนี้เดิมที่มีอยู่ ก็ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ นี่คือ Pain Point ขนาดใหญ่ที่ผู้พัฒนา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญ หากต้องการปลดล็อกศักยภาพของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในระยะยาว

“Next Solution”: กลยุทธ์เชิงรุกสร้าง “โอกาสซื้อบ้าน” ให้ลูกค้า

ท่ามกลางวิกฤตการณ์นี้ เสนาฯ ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในปัญหาของผู้บริโภค ด้วยการเปิดตัวโมเดล “Next Solution” ซึ่งเสนาฯ นิยามว่าเป็น “การโยนบันไดลงไปให้ลูกค้าขึ้นมากู้บ้านได้” แทนที่จะปล่อยให้ลูกค้ากลุ่มนี้หลุดออกจากระบบไป ผมมองว่านี่คือการปรับกระบวนทัศน์ที่สำคัญ จากการมุ่งเน้นแต่เพียงการขาย ไปสู่การ “สร้างและบ่มเพาะลูกค้า” ให้มีศักยภาพทางการเงินเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้จริง กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยลูกค้า แต่ยังเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับ เสนาฯ เองใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการแข่งขันสูง

LivNext (เช่าออมบ้าน): พลิกยอดปฏิเสธสินเชื่อสู่ยอดขาย

LivNext คือหัวใจสำคัญของ Next Solution ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหา “กู้ไม่ผ่าน” โดยตรง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่านี่คือการลงทุนในอนาคตของลูกค้าอย่างแท้จริง แทนที่จะให้ลูกค้าเช่าอยู่ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมาย LivNext เสนอทางเลือกให้ลูกค้า “ผ่อนกับโครงการ” ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษราว 1.8% ผ่านบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งกลไกนี้มีประโยชน์หลายประการ:

สร้างเครดิตและวินัยทางการเงิน: การผ่อนชำระอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ลูกค้าสร้างประวัติเครดิตที่ดีขึ้นกับสถาบันการเงิน และยังเป็นการฝึกฝนวินัยทางการเงินที่จำเป็นสำหรับการเป็นเจ้าของบ้านในอนาคต
เตรียมความพร้อมก่อนยื่นกู้จริง: เสนาฯ ร่วมมือกับบริษัทเงินสดใจดี ซึ่งเป็นสถาบันการเงินภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพทางการเงินของลูกค้าอย่างใกล้ชิด และให้คำแนะนำเรื่องพฤติกรรมทางการเงินทุก 6 เดือน ทำให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงสถานะทางการเงินให้พร้อมสำหรับการยื่นขอสินเชื่อบ้านจริงในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ลดความเสี่ยงจากการถูกปฏิเสธซ้ำ: เมื่อถึงเวลาที่ต้องยื่นกู้จริง ลูกค้าจะมีข้อมูลทางการเงินที่แข็งแกร่งและครบถ้วนมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ของ LivNext เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,000 ยูนิต และมีผู้ที่สามารถกู้ผ่านและโอนได้จริงแล้ว 100 ยูนิต ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อ “ไม่ได้กู้ไม่ได้ตลอดไป” แต่ต้องการเพียงเวลาและการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพื่อปรับฐานข้อมูลทางการเงินให้พร้อม และในเชิงธุรกิจ LivNext ยังช่วยรักษายอดขายที่อาจสูญเสียไปกว่า 2,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างรายได้และรักษาลูกค้าใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

RentNext (เช่าพร้อมสิทธิ์ซื้อ): ความยืดหยุ่นเพื่อความเป็นเจ้าของ

ควบคู่ไปกับ LivNext, โมเดล RentNext คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจ โดยนำเสนอการเช่าที่มากกว่าแค่การเช่าทั่วไป ลูกค้าจะได้รับความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนใจซื้อเป็นเจ้าของได้ในอนาคต โดยสามารถนำค่าเช่ามาหักเงินต้นได้ 100% หากตัดสินใจซื้อยูนิตที่เช่าอยู่ หรือ 50% หากต้องการย้ายไปซื้อโครงการอื่นในเครือของ เสนาฯ นี่คือกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ หรือผู้ที่ต้องการทดลองใช้ชีวิตในโครงการก่อนตัดสินใจ

ผมมองว่า RentNext ไม่ใช่แค่การขาย แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยใช้ทรัพย์สินเดิมมาสร้างรายได้ใหม่ ลดต้นทุนการตลาด และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ (Economy of Scope) ได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งส่งผลให้ Gross Margin ของโครงการนี้สูงถึง 80% รายได้รวมจาก LivNext และ RentNext อยู่ราว 80-100 ล้านบาทต่อปี แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ที่มุ่งแก้ปัญหาลูกค้าสามารถสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจที่แข็งแกร่งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลที่ได้รับความนิยมในการเช่าสูง เช่น พระราม 9, บางนา, นิคมอุตสาหกรรม และรังสิต ซึ่งเป็นทำเลที่มีความต้องการเช่าสูงและมีความเสี่ยงต่ำ

ยุทธศาสตร์ปี 2568: ปรับฐานธุรกิจสู่ความยั่งยืนใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์

นอกเหนือจาก Next Solution เสนาฯ ยังได้วางยุทธศาสตร์สำหรับปี 2568 อย่างระมัดระวังและเน้นความยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสถานการณ์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบัน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นด้วยกับการเดินหน้าอย่างรอบคอบนี้ เพราะการรักษา สภาพคล่องทางการเงิน คือกุญแจสำคัญในการเอาตัวรอดใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่แน่นอน

ชะลอการเปิดโครงการใหม่ มุ่งบริหารสต็อกเดิม: เสนาฯ จะลดการเปิดโครงการใหม่ลง โดยเน้นไปที่โครงการที่ชะลอมาจากปีก่อน หรือเฟสต่อเนื่องจากโครงการเดิมแทนการขยายพอร์ตเพิ่มเติม นี่คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดจากการพัฒนาสินค้าคงคลังที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดพร้อมอยู่กว่า 5,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมากกว่า 70% เป็นคอนโดมิเนียม นี่คือสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลที่ต้องบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด เพื่อแปลงเป็นยอดขายให้ได้มากที่สุด
ปรับปรุงและรีโนเวตยูนิตเดิม: เสนาฯ ยังคงดำเนินการปรับปรุงยูนิตเดิมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การรีโนเวตเฟอร์นิเจอร์ ปรับ Layout ไปจนถึงการทำตลาดแบบตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อให้สินค้าสอดรับความต้องการจริงของผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เคยกล่าวไว้ว่า “ปกติแล้วผู้พัฒนาโครงการจะเกิดคอนเซ็ปต์ใหม่ในโครงการใหม่ แต่เราไม่ควรต้องคิดแบบนั้น การที่เราไม่มีโครงการใหม่ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องหยุดพัฒนา” ซึ่งสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และการไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ ในการพัฒนา ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ความยั่งยืนคือหัวใจหลัก: นี่คือจุดแข็งที่โดดเด่นของ เสนาฯ ใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยุคใหม่ ดร.เกษรายืนยันว่าบ้านในกลุ่มราคาแกรนด์ทุกหลังมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่เก็บพลังงานเป็นมาตรฐานใหม่ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ยังสอดรับกับกระแสความตระหนักเรื่องพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรงทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าแนวทาง Waste Management ในทุกโครงการ เพื่อยกระดับบทบาทของบริษัทในฐานะ “Life Long Trusted Partner” ที่ไม่เพียงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในมิติต่างๆ นี่คือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบยั่งยืนที่แท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

มุมมองเศรษฐกิจและการเมือง: โจทย์ใหญ่สำหรับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไทย

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการ ผมมองว่าปัจจัยภายนอกอย่างสภาพเศรษฐกิจและนโยบายภาครัฐ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ดร.เกษราเองก็ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า มาตรการรัฐที่ส่งผลโดยตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ซึ่งได้มีการออกมาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าและเป็นหัวใจหลักในการฟื้นฟูกำลังซื้อคือ “การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน” และ “สินเชื่อที่ตึงตัวเกินไป”

หากรัฐบาลสามารถจัดตั้ง AMC (Asset Management Company) เพื่อซื้อหนี้เสีย หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้เกิดผลจริง จะช่วยปลดล็อกภาระให้ผู้บริโภคจำนวนมาก และเพิ่มกำลังซื้อได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อ Debt Service Ratio (DSR) ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสกู้ผ่านได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนทางการเงินโดยรวม นี่คือการปรึกษาสินเชื่อบ้านในภาพรวมระดับมหภาคที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ หากต้องการเห็น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

สรุป: สร้างอนาคตที่มั่นคงใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไทย

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากกลยุทธ์ของ เสนาฯ คือการปรับตัวเชิงรุกและมองหาวิธี “ช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสก้าวเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้มากขึ้น” แทนที่จะรอให้สถานการณ์ดีขึ้นเอง ดร.เกษราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเส้นทางให้ลูกค้าได้เตรียมความพร้อมในการยื่นกู้จริง แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี แต่ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผู้บริโภคในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการบริหารสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ที่ดี

ท่ามกลางสภาพ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว การสร้างเครื่องมือช่วยเหลือและเสริมศักยภาพให้ลูกค้าจึงเป็นบทบาทที่ภาคธุรกิจอย่าง เสนาฯ สามารถทำได้ทันที และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยให้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ กลับมาเดินหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคต นี่คือบทเรียนสำคัญที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ ควรพิจารณา เพราะการลงทุนในความสามารถของลูกค้า คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดในระยะยาว ไม่ใช่แค่ตัวเลขยอดขาย แต่คือการสร้าง “โอกาสซื้อบ้าน” และความฝันให้กลายเป็นจริง เพื่อสร้าง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่เข้มแข็งและมั่นคงอย่างแท้จริง

หากคุณกำลังมองหา “โอกาสซื้อบ้าน” ที่ใช่ หรือต้องการวางแผนการเงินเพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ท้าทายนี้ ผมขอแนะนำให้ศึกษาโมเดล “Next Solution” ของ เสนาฯ อย่างละเอียด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้าน เพื่อค้นหาแนวทางที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เพราะการมีบ้านไม่ใช่แค่ความฝัน แต่คือการลงทุนในคุณภาพชีวิตและอนาคตของคุณเอง

Previous Post

D1512024 มน ษย สร างAi และหลงร กAi ep2 part2

Next Post

D1512026 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep2 part2

Next Post
D1512026 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep2 part2

D1512026 คลอดล กช ในว นแต งงาน!! ep2 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1912059 อะไรๆพ ตค งต นไม part2
  • D1912060 แต งก บพ นขอร สอร ทนะท part2
  • D1912058 อสาม ไม มารยาทเอาซะเลย part2
  • D1912057 ไม องสนใจ จงเป นในส งท ควรเป part2
  • D1912056 บรถหร มาอวด อต องตกงาน part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.