• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512023 วงแบบไม เกรงใจ แม ยายก ไม เว ep2 part2

admin79 by admin79
December 16, 2025
in Uncategorized
0
D1512023 วงแบบไม เกรงใจ แม ยายก ไม เว ep2 part2

ฝ่าวิกฤต “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน”: เจาะลึกกลยุทธ์ Sena Development พลิกโฉมตลาดอสังหาฯ ปี 2568-2569

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพลิกผันของตลาดมาแล้วหลายครั้ง แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือที่เรียกว่าปรากฏการณ์ “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” นั้น ถือเป็นวิกฤตการณ์ที่ท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดบ้านราคาเข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญของภาคอสังหาฯ ไทย การทำความเข้าใจแก่นแท้ของปัญหานี้ พร้อมทั้งเรียนรู้จากแนวทางการรับมือเชิงรุกของผู้ประกอบการอย่าง บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ผมจะนำทุกท่านมาเจาะลึกถึงกลยุทธ์ นวัตกรรม และทิศทางของตลาดอสังหาฯ ในปี 2568-2569 ที่กำลังจะเข้ามาถึง

วิกฤต “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” ที่บีบรัดตลาดอสังหาฯ ไทย

สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปี 2567 ต่อเนื่องถึง 2568 ไม่ได้เป็นเพียงการชะลอตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจทั่วไป หากแต่เป็นการดำดิ่งลงของกำลังซื้อที่ถูกกดดันจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาระหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ รายได้ที่เติบโตไม่ทันค่าครองชีพและราคาสินทรัพย์ ตลอดจนมาตรการสินเชื่อที่เข้มงวดของสถาบันการเงิน เหล่านี้ล้วนเป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งทะยานจนน่าตกใจ จากข้อมูลเชิงลึกในบางทำเลของตลาดแนวราบ เช่น ย่านบางใหญ่ อัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อบ้านมีสูงถึง 80% และสำหรับคอนโดมิเนียมเองก็แตะระดับเฉลี่ย 50% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ “ความต้องการซื้อ” ที่หายไป แต่คือ “ความสามารถในการกู้” ของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

จากประสบการณ์ของผม วิกฤตการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะมันกัดกินลึกไปถึงโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจครัวเรือน ผู้บริโภคจำนวนมากติดอยู่กับวงจรหนี้เก่า ทำให้ไม่มีศักยภาพทางการเงินเหลือพอที่จะสร้างภาระใหม่เพื่อการมีบ้าน แม้พวกเขาจะมีความฝันและต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองก็ตาม ซึ่งถือเป็นภาวะที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ ซื้อบ้านหลังแรก หรือแม้แต่ขยับขยายที่อยู่อาศัย สถาบันการเงินเองก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการอนุมัติ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อบริหารความเสี่ยงของหนี้เสีย หรือ NPLs ซึ่งส่งผลให้การพิจารณา แผนการเงินซื้อบ้าน ของลูกค้ายิ่งเข้มงวดขึ้นไปอีก ผู้ประกอบการอสังหาฯ จึงต้องคิดนอกกรอบและมองหา โซลูชันการเงินอสังหาฯ แบบใหม่ๆ เพื่อประคองตลาดและช่วยให้ผู้บริโภคสามารถก้าวข้ามอุปสรรค “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” เหล่านี้ไปได้

Sena Development: จุดประกาย “Next Solution” นวัตกรรมเพื่อการเข้าถึงบ้าน

ท่ามกลางความท้าทายนี้ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้ก้าวออกมาพร้อมแนวคิด “Next Solution” ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อ Pain Point ของผู้บริโภคที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการของเสนาฯ ได้เปรียบเทียบโมเดลนี้ว่าเป็นการ “โยนบันไดลงไปให้ลูกค้าขึ้นมากู้บ้านได้” ซึ่งเป็นแนวคิดที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยสร้างโอกาสและปูทางให้ผู้ที่เคยติดกับดัก “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ในที่สุด

“Next Solution” ประกอบด้วยกลไกหลักสองส่วนที่ทำงานเสริมกัน:

LivNext (เช่าออมบ้าน): พลิกวิกฤตเครดิตเป็นโอกาส
แก่นแท้ของโมเดล: LivNext ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าที่ยังไม่มีความพร้อมด้านเครดิต สามารถ “ผ่อน” กับโครงการในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (ราว 1.8%) ผ่านบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างประวัติทางการเงินที่ดีขึ้นในช่วง 2-3 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการปรับปรุงสถานะเครดิตให้พร้อมสำหรับการยื่นขอ สินเชื่อบ้าน เต็มรูปแบบในอนาคต
กลไกการสนับสนุน: หัวใจสำคัญของ LivNext คือการทำงานร่วมกับบริษัทเงินสดใจดี ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเครือเสนาฯ ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทจะทำหน้าที่วิเคราะห์ศักยภาพทางการเงินของลูกค้าอย่างละเอียด ติดตามความก้าวหน้าทุก 6 เดือน และให้คำแนะนำด้านพฤติกรรมทางการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกค้ามี แผนการเงินซื้อบ้าน ที่แข็งแกร่งและมีโอกาส กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ลดลง
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: ปัจจุบัน LivNext มีลูกค้าเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 1,000 ยูนิต และที่น่าประทับใจคือมีผู้ที่สามารถกู้ผ่านและโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงถึง 100 ยูนิต ภายในเวลาไม่ถึงสองปี นี่คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าการที่เคย กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ไม่ได้หมายความว่าจะกู้ไม่ผ่านตลอดไป แต่ต้องการเวลาและเครื่องมือในการปรับฐานข้อมูลทางการเงินให้ถูกต้อง โมเดลนี้ช่วยรักษาโอกาสในการขายที่อาจสูญไปกว่า 2,000 ล้านบาท และยังช่วยยกระดับฐานลูกค้าจากกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท ไปสู่กลุ่ม 3-4 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการมีบ้านยังคงมีอยู่มาก เพียงแต่ติดปัญหาเงื่อนไขด้านเครดิตเท่านั้น

RentNext (เช่าพร้อมสิทธิ์ซื้อ): ความยืดหยุ่นแห่งการเป็นเจ้าของ
แนวคิดยืดหยุ่น: RentNext มอบทางเลือกที่มากกว่าการเช่าทั่วไป โดยให้สิทธิ์ลูกค้าในการเปลี่ยนสถานะจากผู้เช่าเป็นเจ้าของในอนาคต โดยสามารถนำค่าเช่าที่จ่ายไปหักจากเงินต้นได้ 100% หากตัดสินใจซื้อยูนิตที่เช่าอยู่ หรือ 50% หากเลือกซื้อโครงการอื่นในเครือของเสนาฯ ซึ่งเป็นการคืนโอกาสและลดภาระทางการเงินให้กับผู้เช่า
คุณค่าทางธุรกิจ: โมเดล RentNext นี้ไม่ได้สร้างประโยชน์เพียงต่อลูกค้า แต่ยังสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้กับเสนาฯ อย่างมหาศาล ด้วยรายได้รวมจาก LivNext และ RentNext อยู่ที่ 80-100 ล้านบาทต่อปี แต่ที่โดดเด่นคือ Gross Margin ที่สูงถึง 80% เนื่องจากเป็นการนำทรัพย์สินเดิมมาสร้างรายได้ใหม่ ลดต้นทุนการตลาด และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ (Economy of Scope) ในทำเลที่ได้รับความนิยมในการเช่าสูง เช่น พระราม 9, บางนา, นิคมอุตสาหกรรม, และรังสิต ซึ่งเป็นทำเลทองที่มีความต้องการเช่าสูงและมีความเสี่ยงต่ำต่อการ ลงทุนอสังหาฯ

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า “Next Solution” เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่แท้จริงในวงการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับผู้บริโภคที่กำลังประสบปัญหา “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” เท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานระยะยาวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มตลาดที่อ่อนไหวที่สุดในปัจจุบัน และนี่คือการตอบโจทย์ที่แท้จริงในยุคที่ผู้บริโภคต้องการ ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ที่เข้าใจและพร้อมจะร่วมเดินไปด้วยกัน

รัดเข็มขัดปี 2569: กลยุทธ์การบริหารจัดการและอสังหาฯ ยั่งยืน

สำหรับปี 2569 เสนาฯ ได้วางยุทธศาสตร์เชิงรุกที่ระมัดระวัง โดยเน้นการบริหารจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ที่มีอยู่ แทนที่จะเร่งเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการปรับตัวที่ชาญฉลาดในภาวะตลาดที่ยังคงผันผวน:

ลดการเปิดโครงการใหม่: เสนาฯ จะชะลอการเปิดโครงการใหม่ลง โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากปีก่อนหรือเป็นเฟสถัดไปของโครงการเดิม เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้แข็งแกร่ง และมุ่งเน้นการระบายสต็อกสินค้าคงคลังที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
บริหารจัดการสต็อกมูลค่ามหาศาล: ปัจจุบัน เสนาฯ มีสินค้าคงคลังที่เป็นคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 5,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดยกว่า 70% เป็นคอนโดมิเนียม บริษัทจึงหันมาดำเนินการปรับปรุงยูนิตเดิมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การรีโนเวตเฟอร์นิเจอร์ การปรับ Layout ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ไปจนถึงการทำ กลยุทธ์การตลาดอสังหาฯ แบบตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อให้สินค้าตอบรับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
ดร.เกษรา ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “ปกติแล้วผู้พัฒนาโครงการจะเกิดคอนเซ็ปต์ใหม่ในโครงการใหม่ แต่เราไม่ควรต้องคิดแบบนั้น การที่เราไม่มีโครงการใหม่ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องหยุดพัฒนา” ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์เดิม แทนที่จะรอการพัฒนาจากโครงการใหม่เพียงอย่างเดียว

มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน: “Life Long Trusted Partner”
โซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ในบ้าน: เสนาฯ ยังคงเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งในด้านความยั่งยืน โดยประกาศให้บ้านในกลุ่มราคาแกรนด์ทุกหลังมีการติดตั้ง โซลาร์เซลล์บ้าน และแบตเตอรี่เก็บพลังงานเป็นมาตรฐานใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระ ค่าครองชีพ ด้านพลังงานให้กับผู้อยู่อาศัยในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ พลังงานสะอาด และสนับสนุนเป้าหมายด้าน ความยั่งยืนอสังหาฯ ของประเทศอีกด้วย
Waste Management: บริษัทยังคงเดินหน้าแนวทาง Waste Management หรือการจัดการขยะในทุกโครงการ เพื่อยกระดับบทบาทของบริษัทในฐานะ “Life Long Trusted Partner” ที่ไม่เพียงพัฒนาอสังหาฯ แต่ยังดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในมิติต่างๆ อย่างครบวงจร ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้ม ESG อสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังได้รับความสนใจทั่วโลก

กลยุทธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งในการมองตลาดและการปรับตัวของเสนาฯ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างและขาย แต่เป็นการสร้างคุณค่าและโซลูชั่นที่ยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและลดความกังวลในกลุ่มผู้บริโภคที่เผชิญกับปัญหา “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางออกของตลาด: บทบาทรัฐบาลและการปรับตัวของภาคธุรกิจ

จากประสบการณ์ของผม การแก้ปัญหา “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” และการฟื้นฟูตลาดอสังหาฯ ในระยะยาว จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของภาครัฐ:

การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและสินเชื่อตึงตัว: ดร.เกษรา ได้เน้นย้ำว่ามาตรการรัฐที่สำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและสินเชื่อที่ตึงตัวเกินไป หากรัฐบาลสามารถจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อเข้ามาซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน หรือมีกลไกในการปรับโครงสร้างหนี้ภาคครัวเรือนให้เกิดผลจริง จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อย่างมหาศาล และลดความกังวลในการ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ลงได้
การลดอัตราดอกเบี้ย: การพิจารณาลด อัตราดอกเบี้ยบ้าน ควรเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อ DSR (Debt Service Ratio) หรืออัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อ การลดดอกเบี้ยจะช่วยให้ลูกค้ามีภาระหนี้ที่ลดลง และเพิ่มโอกาสในการ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน เป็นผ่านได้ง่ายขึ้น

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นด้วยว่าการแก้ปัญหาสินเชื่อภาคครัวเรือนอย่างเป็นระบบ จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพตลาด อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน และ ตลาดบ้านราคาเข้าถึงง่าย ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ภาครัฐควรพิจารณา นโยบายรัฐอสังหาฯ ที่มุ่งเน้นการสร้างเสถียรภาพและเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้จริง ไม่ใช่แค่มาตรการกระตุ้นระยะสั้น

สำหรับผู้ประกอบการเอง การปรับตัวเชิงรุกและมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวเข้าสู่ระบบสินเชื่อได้มากขึ้น คือสิ่งสำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้ ดังเช่นที่เสนาฯ ได้แสดงให้เห็นผ่านกลยุทธ์ “Next Solution” ซึ่งเป็นการประคองกำลังซื้อในกลุ่ม Affordable และสร้างเส้นทางให้ลูกค้าได้เตรียมความพร้อมในการยื่นกู้จริง แม้อาจต้องใช้เวลา 2-3 ปี แต่ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผู้บริโภคในระยะยาว

สรุปและก้าวต่อไป

วิกฤต “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในรอบหลายปี แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอสำหรับผู้ที่พร้อมปรับตัวและมองหานวัตกรรม เสนาดีเวลลอปเม้นท์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในผู้นำที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าลงทุนในโซลูชันที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่แก่นแท้ของผู้บริโภค ด้วยโมเดล “Next Solution” อย่าง LivNext และ RentNext พร้อมกับกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างชาญฉลาดและการให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืนอสังหาฯ เสนาฯ ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็น “Life Long Trusted Partner” ที่ไม่ใช่แค่ขายบ้าน แต่คือการร่วมสร้างชีวิตและอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกค้า

ในฐานะผู้ประกอบการ หรือผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ การเรียนรู้จากกรณีศึกษาเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราเข้าใจพลวัตของตลาดที่ซับซ้อนขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของสังคม

หากท่านเป็นผู้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการ กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน หรือเป็นนักลงทุนและผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการโซลูชั่นที่ยั่งยืน ผมขอเชิญชวนให้ท่านศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิด “Next Solution” ของเสนาฯ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นี่คือพิมพ์เขียวแห่งอนาคต ที่จะช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤตและเดินหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.

Previous Post

D1512022 ดงล ญญาณเฮ ยน part2

Next Post

D1512024 มน ษย สร างAi และหลงร กAi ep2 part2

Next Post
D1512024 มน ษย สร างAi และหลงร กAi ep2 part2

D1512024 มน ษย สร างAi และหลงร กAi ep2 part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1712097 นม อให แต ได ดค น!! part2
  • D1712096 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep2 part2
  • D1712095 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep1 part2
  • D1712094 แลเพราะร หร อเพราะอยากได สมบ นแน Ep3 part2
  • D1712093 ทะล มาเก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.