• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512020 กำจ ดต วภาระ

admin79 by admin79
December 16, 2025
in Uncategorized
0
D1512020 กำจ ดต วภาระ

แกะรอยวิกฤตกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน: กลยุทธ์นวัตกรรมและแนวทางที่ยั่งยืนสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568

ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวัฏจักรของตลาดทั้งขาขึ้นและขาลงมาหลายครั้ง แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่ในปี 2568 นั้น มีความซับซ้อนและท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่อง “วิกฤตกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน” ที่กำลังทุบตลาดอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และระบบเศรษฐกิจโดยรวม บทความนี้จะเจาะลึกถึงรากเหง้าของปัญหา พร้อมสำรวจกลยุทธ์เชิงรุกที่ภาคธุรกิจนำมาปรับใช้ และเสนอแนะแนวทางที่ยั่งยืนเพื่อ แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน อันเป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งความฝันในการมีบ้านของคนไทยจำนวนมาก

วิกฤตกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน: ปรากฏการณ์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่ยอดปฏิเสธสินเชื่อ

ในอดีต เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว มักเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือภาวะฟองสบู่แตก แต่ในปัจจุบัน ปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่ “ความต้องการ” ที่หายไป หากแต่เป็น “ความสามารถในการกู้” ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในบางทำเล โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดแมสหรือบ้านระดับราคาเข้าถึงง่าย พุ่งสูงแตะระดับ 70-80% ในบางพื้นที่ และเฉลี่ยราว 50% สำหรับคอนโดมิเนียม นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขสถิติ แต่สะท้อนถึงวิกฤตความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่กำลังถูกบีบคั้น

สาเหตุหลักที่ทำให้ปัญหา แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน รุนแรงขึ้น สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายมิติ:

ภาระหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง: นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่กัดกินกำลังซื้อของประชาชนไทย หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงกว่า 90% ของ GDP ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ สินเชื่อประเภทอื่น ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ได้ผูกมัดรายได้ของผู้บริโภคจนแทบไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับภาระผ่อนบ้านใหม่ อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) จึงเป็นกำแพงที่สูงเกินกว่าจะก้าวข้ามได้สำหรับคนจำนวนมาก
รายได้ไม่เติบโตทันราคาบ้านและค่าครองชีพ: แม้เศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัวบ้าง แต่การเติบโตของรายได้เฉลี่ยของครัวเรือนกลับไม่สามารถก้าวทันกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินออมลดลง และความสามารถในการชำระหนี้ด้อยลงตามไปด้วย
เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวด: สถาบันการเงินเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนในประเทศ จึงต้องปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ทำให้ลูกค้าที่มีโปรไฟล์ทางการเงินไม่สมบูรณ์ หรือมีประวัติเครดิตที่ไม่แข็งแรง ถูกปฏิเสธสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
ความผันผวนของตลาดแรงงาน: โครงสร้างตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไปสู่การจ้างงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น หรือการพึ่งพาอาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่งมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การยื่นขอสินเชื่อยากขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินต้องการเห็นความมั่นคงของรายได้

วิกฤตการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การชะลอตัวตามวัฏจักรปกติ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่กำลังเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องลุกขึ้นมาหาหนทางใหม่เพื่อ แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน และช่วยให้ลูกค้ายังคงเข้าถึงโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยของตนเองได้

Next Solution: นวัตกรรมเพื่อเชื่อมโยงผู้ซื้อกับโอกาสการมีบ้าน

ท่ามกลางความท้าทายนี้ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายแห่งได้เริ่มปรับกลยุทธ์ โดยหนึ่งในโมเดลที่โดดเด่นและได้รับการจับตาคือ “Next Solution” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน โดยตรง ด้วยการสร้าง “บันได” ให้ลูกค้าสามารถก้าวขึ้นสู่ระบบสินเชื่อได้ ไม่ใช่เพียงแค่ปล่อยให้หลุดออกจากระบบไป หนึ่งในกลไกสำคัญภายใต้โมเดลนี้คือ:

LivNext (เช่าออมบ้าน): พลิกวิกฤตสู่โอกาสในการสร้างเครดิต
แนวคิดและการทำงาน: LivNext คือโครงการที่ให้ลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อได้มีโอกาส “เช่า” ที่อยู่อาศัยพร้อมกับการ “ออม” เพื่อสร้างเครดิตทางการเงิน โดยลูกค้าจะผ่อนชำระกับโครงการในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (เช่น ราว 1.8%) ผ่านบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
การสร้างเครดิต: หัวใจสำคัญของ LivNext คือการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แสดงวินัยทางการเงินและสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2-3 ปี ด้วยความร่วมมือกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจและบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในเครือ โครงการจะมีการติดตามและวิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้าทุก 6 เดือน พร้อมให้คำแนะนำด้านพฤติกรรมทางการเงินอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของ ที่ปรึกษาสินเชื่อบ้าน ที่ช่วยนำทางให้ลูกค้าไปสู่เป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม: โมเดลนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ โดยมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการหลายพันยูนิต และมีจำนวนมากที่สามารถปรับฐานข้อมูลทางการเงินให้ถูกต้อง และได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี นี่คือข้อพิสูจน์ว่าคนที่ “กู้ไม่ผ่าน” ในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะ “กู้ไม่ได้ตลอดไป” แต่ต้องการเวลาและเครื่องมือในการปรับปรุงสถานะทางการเงินเท่านั้น LivNext ไม่เพียงช่วยเปลี่ยนยอดปฏิเสธสินเชื่อให้เป็นยอดขาย แต่ยังช่วยรักษาโอกาสทางธุรกิจที่อาจสูญเสียไปได้นับพันล้านบาท และยังช่วยยกระดับฐานลูกค้าจากกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท ไปสู่กลุ่ม 3-4 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าความต้องการมีบ้านยังคงมีอยู่ แต่ติดปัญหาที่เงื่อนไขด้านเครดิต
การวางแผนการเงินซื้อบ้าน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ LivNext มุ่งเน้นในการส่งเสริมให้กับลูกค้า

RentNext (เช่าพร้อมสิทธิ์ซื้อ): ความยืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่
แนวคิดและการทำงาน: RentNext เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผู้บริโภคที่ยังไม่แน่ใจเรื่องความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยให้ลูกค้าสามารถเช่าที่อยู่อาศัยไปก่อน และหากตัดสินใจซื้อในภายหลัง สามารถนำค่าเช่าที่จ่ายไปแล้วมาหักออกจากเงินต้นได้เต็ม 100% หากซื้อยูนิตเดิม หรือ 50% หากเปลี่ยนไปซื้อโครงการอื่น ๆ ในเครือ
ประโยชน์ที่ได้รับ: โมเดลนี้ช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้ซื้อ ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเงินค่าเช่าไปเปล่า ๆ และยังคงเปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของได้ในอนาคต เป็นกลไกที่ช่วย แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน โดยให้เวลาลูกค้าได้เตรียมตัว และทดลองใช้ชีวิตในโครงการจริง ก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ใน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ของตนเอง
มุมมองของผู้ประกอบการ: สำหรับผู้ประกอบการ โมเดล RentNext เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ (Economy of Scope) ที่มีอยู่เดิม โดยเฉพาะในทำเลที่ได้รับความนิยมในการเช่าสูง เช่น ย่านใจกลางเมือง แหล่งงานสำคัญ หรือใกล้สถาบันการศึกษา ช่วยสร้างรายได้ใหม่จากสินทรัพย์ที่อาจจะยังขายไม่ได้ทันที และลดต้นทุนการตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ

นวัตกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใน Pain Point ของผู้บริโภค และความมุ่งมั่นที่จะเป็น “Life Long Trusted Partner” ที่ไม่เพียงแต่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังดูแลคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้ผู้คนได้มีบ้านอย่างยั่งยืน โดยการนำเสนอ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในรูปแบบทางเลือกนี้ ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับวงการ

กลยุทธ์รัดเข็มขัดและพัฒนาอสังหาฯ ยั่งยืนในปี 2568

ในปี 2568 นี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายได้หันมาใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการ บริหารจัดการหนี้ และปรับโครงสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อรับมือกับสภาพตลาดที่ยังคงผันผวน ดังนี้:

ชะลอการเปิดโครงการใหม่ มุ่งระบายสต็อก: แทนที่จะเร่งเปิดโครงการใหม่เพื่อสร้างยอดขาย ผู้ประกอบการเลือกที่จะรักษาสภาพคล่องทางการเงินด้วยการชะลอการลงทุนใหม่ และหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการและระบายสต็อกโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก การปรับปรุงยูนิตเดิม การปรับ Layout ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน หรือการทำตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย (Niche Market) มากขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นในการกระตุ้นยอดขายจากสินค้าคงคลังที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาท
นวัตกรรมจากสิ่งที่มีอยู่เดิม: การไม่มีโครงการใหม่ไม่ได้หมายความว่าการพัฒนาต้องหยุดลง ผู้ประกอบการต้องคิดนอกกรอบ และนำนวัตกรรมมาใช้กับสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงดีไซน์ การเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน หรือการนำเทคโนโลยีมาเสริม เพื่อให้สินค้ายังคงทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล
ความยั่งยืนเป็นมาตรฐานใหม่: แนวคิดเรื่องความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของ CSR อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การติดตั้ง โซลาร์เซลล์บ้าน และแบตเตอรี่เก็บพลังงานเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในบ้านระดับราคาแกรนด์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการช่วยลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับผู้อยู่อาศัย และยังเป็นการตอบสนองต่อเทรนด์พลังงานสะอาดที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ การนำแนวทาง Waste Management มาใช้ในทุกโครงการยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบริษัทในฐานะผู้ประกอบการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง

กลยุทธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความท้าทาย และค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แนวคิด “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน” มาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน

บทบาทของภาครัฐและการเมืองในการแก้ปัญหา

มุมมองของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ชี้ให้เห็นว่า มาตรการของภาครัฐที่ออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดโดยตรง เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง แม้จะมีประโยชน์ในระยะสั้น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะ แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ได้อย่างแท้จริง สิ่งที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วนกว่าคือการจัดการกับปัญหาเชิงโครงสร้าง ดังนี้:

การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างจริงจัง: ภาครัฐควรมีบทบาทเชิงรุกในการช่วยเหลือประชาชนในการ บริหารจัดการหนี้ โดยอาจพิจารณาจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อเข้ามาซื้อหนี้เสีย หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยอย่างเป็นระบบ เพื่อลดภาระหนี้สิน ทำให้ประชาชนมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น และเพิ่มกำลังซื้อกลับคืนมา
การปรับโครงสร้างสินเชื่อให้ยืดหยุ่น: แม้สถาบันการเงินจะต้องระมัดระวัง แต่การมีมาตรการที่ผ่อนคลายเกณฑ์สินเชื่อบางส่วน หรือการส่งเสริม สินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรก จะช่วยให้ลูกค้าจำนวนมากที่เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อ สามารถกลับเข้าสู่ระบบได้อีกครั้ง
การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: อัตราดอกเบี้ยมีผลโดยตรงต่อภาระ DSR ของผู้กู้ หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะช่วยลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน ทำให้ลูกค้ามีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์สินเชื่อได้ง่ายขึ้น และเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การประสานงานระหว่างภาครัฐ ภาคการเงิน และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น และปลดล็อกศักยภาพของตลาด ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในระยะยาว

มองไปข้างหน้า: สร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคต

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโต แต่ต้องผ่านการปรับตัวครั้งใหญ่ ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ จะไม่ใช่แค่ผู้ที่สร้างบ้านขายเก่ง แต่เป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยในการ แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ให้กับพวกเขา

การลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Data Analytics) และการให้คำแนะนำทางการเงินส่วนบุคคล จะกลายเป็นสิ่งจำเป็น การสร้างโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นและให้ทางเลือกที่หลากหลาย เช่น LivNext และ RentNext จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการประคองกำลังซื้อในกลุ่มตลาด Affordable และสร้างเส้นทางที่มั่นคงให้ลูกค้าได้เตรียมความพร้อมในการยื่นกู้จริง แม้จะต้องใช้เวลา 2-3 ปี แต่การวางรากฐานที่แข็งแกร่งนี้ จะนำไปสู่การเป็นเจ้าของบ้านที่ยั่งยืนในระยะยาว

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันต้องการ “คนชี้ทาง” มากกว่า “คนขายของ” ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือและเสริมศักยภาพให้ลูกค้าให้สามารถเข้าถึงการเป็นเจ้าของบ้านได้ จะไม่เพียงส่งผลดีต่อตัวลูกค้าเอง แต่ยังช่วยให้ตลาดโดยรวมกลับมาเดินหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

สรุปและก้าวต่อไป:

วิกฤตกู้ซื้อบ้านไม่ผ่านเป็นความท้าทายที่ซับซ้อน แต่ก็เป็นโอกาสให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมและความเข้าใจลูกค้าที่ลึกซึ้งขึ้น การปรับกลยุทธ์ที่เน้นความยืดหยุ่น การสร้างเครดิต และการเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือตลอดชีวิต คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ผู้ประกอบการที่สามารถคิดนอกกรอบและมองหาโซลูชั่นใหม่ๆ ในการ แก้ปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน จะเป็นผู้นำตลาดในทศวรรษหน้า

หากท่านกำลังเผชิญกับความท้าทายในการซื้อบ้าน หรือเป็นผู้ประกอบการที่กำลังมองหากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการนำเสนอโครงการสู่ตลาด การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในแนวทางเหล่านี้ จะช่วยให้ท่านก้าวผ่านวิกฤตและคว้าโอกาสได้สำเร็จ หากท่านต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการ วางแผนการเงินซื้อบ้าน หรือการปรับใช้กลยุทธ์อสังหาริมทรัพย์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อรับคำแนะนำเชิงลึกและโซลูชั่นที่ปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของท่าน เราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จของท่าน

Previous Post

D1512019 จเน ยน หร อประชาชนโง EP1 part2

Next Post

D1512021 กำจ ดต วภาระ

Next Post
D1512021 กำจ ดต วภาระ

D1512021 กำจ ดต วภาระ

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1512090 ไม oแบบน คงจะด part2
  • D1512089 รถม อสอง ญญาณหวง ep1 part2
  • D1512088 รถม อสอง ญญาณหวง ep2 part2
  • D1512087 nโคม แต โดนบ งค บให บบร จาคร างกาย คนเป นพ อจ งทำส งน ep1 part2
  • D1512086 กโคม แต โดนบ งค บให บบร จาคร างกาย คนเป นพ อจ งทำส งน ep2 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.