• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1512011 าวเม องกร งม นเหล ยม เลยลงเอยก บหน มดอย ep2 part2

admin79 by admin79
December 15, 2025
in Uncategorized
0
D1512011 าวเม องกร งม นเหล ยม เลยลงเอยก บหน มดอย ep2 part2

พลิกวิกฤตสู่โอกาส: วิสัยทัศน์ผู้พัฒนาอสังหาฯ กับเส้นทางใหม่สู่การเป็นเจ้าของบ้านในยุค 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของตลาดมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะท้าทายและซับซ้อนเท่าสถานการณ์ปัจจุบัน ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนทางเศรษฐกิจ ระดับหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และความสามารถในการกู้ของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ “การซื้อบ้าน” ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดของคนจำนวนมาก กลายเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดแมสที่กำลังประสบปัญหาสินเชื่อบ้านไม่ได้รับการอนุมัติในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่าง บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและกล้าหาญในการปรับกลยุทธ์ เพื่อตอบสนองและช่วยแก้ไข Pain Point ของผู้ที่ต้องการ “การซื้อบ้าน” อย่างแท้จริง

วิกฤตสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน: คลื่นใต้น้ำที่เขย่าตลาดอสังหาฯ

เราคงต้องยอมรับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงช่วงขาลงตามวัฏจักรปกติ หากแต่เป็นการชะลอตัวที่ลึกและยืดเยื้อกว่าที่เคยเป็นมา ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ผู้บริหารคนสำคัญของเสนาฯ ได้ฉายภาพสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนว่านี่คือช่วงเวลาที่ “ทรหดยิ่งกว่าวิกฤติรอบใด” ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะปัจจัยกดดันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฝั่งผู้พัฒนาโครงการเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่สถาบันการเงิน ผู้บริโภค ไปจนถึงต้นทุนการพัฒนาโครงการที่พุ่งสูงขึ้น

ปัญหาหลักที่ปรากฏชัดเจนและส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดคือ “วิกฤตกู้ไม่ผ่าน” อัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้านในตลาดแนวราบ โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพแต่ราคาเข้าถึงง่ายอย่างบางใหญ่ บางครั้งสูงถึง 80% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่างยิ่ง สำหรับคอนโดมิเนียมเองก็มีตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50% สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความต้องการ “การซื้อบ้าน” ที่หายไป แต่เป็น “ความสามารถในการกู้” ที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ รายได้ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เติบโตทันกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ก็บีบรัดกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับภาระทางการเงินใหม่ๆ อย่างสินเชื่อบ้าน ส่งผลให้ความฝันในการเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกของคนจำนวนมากกลายเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะห่างไกลออกไปทุกที นี่คือจุดที่ต้องมีการปรับตัวและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ “การซื้อบ้าน” ยังคงเป็นไปได้สำหรับทุกคน

“Next Solution”: บันไดสู่การเป็นเจ้าของบ้านที่เสนาฯ หยิบยื่นให้

ภายใต้สถานการณ์อันท้าทาย เสนาฯ ได้นำเสนอโมเดล “Next Solution” ซึ่งผมมองว่าเป็นกลยุทธ์ที่เฉลียวฉลาดและมีความเห็นอกเห็นใจลูกค้าอย่างยิ่ง แทนที่จะปล่อยให้ลูกค้าหลุดจากระบบสินเชื่อและต้องเช่าที่อยู่อาศัยต่อไปอีกหลายปี โมเดลนี้กลับ “โยนบันไดลงไปให้ลูกค้าขึ้นมากู้บ้านได้” เป็นการสร้างโอกาสและเสริมศักยภาพให้ผู้ที่เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อสามารถกลับมาสู่เส้นทางของการ “การซื้อบ้าน” ได้อีกครั้ง

LivNext: เช่าออมบ้าน สร้างเครดิต สู่เจ้าของบ้านตัวจริง

หัวใจสำคัญของ Next Solution คือ “LivNext” หรือโครงการเช่าออมบ้าน ซึ่งออกแบบมาเพื่อพลิกยอดปฏิเสธสินเชื่อให้กลายเป็นยอดขาย โดยให้ลูกค้าผ่อนกับโครงการในอัตราดอกเบี้ยพิเศษประมาณ 1.8% ผ่านบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งนี่ไม่ใช่เพียงการเช่าธรรมดา แต่เป็นการ “เช่าออม” ที่ช่วยสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าอย่างเป็นระบบ

การสร้างวินัยทางการเงินและประวัติสินเชื่อ: การผ่อนชำระกับโครงการอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 2-3 ปี จะช่วยให้ลูกค้ามีประวัติการชำระที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ในการพิจารณาอนุมัติ “สินเชื่อบ้าน” ในอนาคต เสนาฯ ไม่ได้ปล่อยให้ลูกค้าเดินตามลำพัง แต่ทำงานร่วมกับบริษัทเงินสดใจดีในเครือ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพ ติดตามความคืบหน้าทุก 6 เดือน และให้คำแนะนำด้านพฤติกรรมทางการเงินอย่างใกล้ชิด การโค้ชชิ่งทางการเงินในลักษณะนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ซื้อ
จากยอดปฏิเสธสู่ยอดโอนกรรมสิทธิ์: ผลลัพธ์ของ LivNext เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้จริง ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 ยูนิต และสามารถกู้ผ่านและโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงแล้วถึง 100 ยูนิตภายในเวลาไม่ถึงสองปี นี่คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าผู้ที่เคยถูกปฏิเสธ “สินเชื่อบ้าน” ไม่ได้หมายความว่าจะ “กู้ไม่ได้ตลอดไป” แต่ต้องการเวลาและโอกาสในการปรับปรุงข้อมูลทางการเงินให้ถูกต้อง การรักษาโอกาสทางธุรกิจกว่า 2,000 ล้านบาทที่อาจสูญเสียไป ถือเป็นการสร้างมูลค่าที่มหาศาลให้กับบริษัท
ตอบรับความต้องการในวงกว้าง: สิ่งที่น่าสนใจคือฐานลูกค้าของ LivNext เริ่มขยับจากกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท ไปสู่ 3-4 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการ “การซื้อบ้าน” ยังคงมีอยู่สูง ไม่ได้ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ติดอยู่ที่เงื่อนไขด้านเครดิตเท่านั้น LivNext จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปลดล็อกศักยภาพของตลาดนี้

RentNext: เช่าพร้อมสิทธิ์ซื้อ ความยืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

ควบคู่ไปกับ LivNext คือโมเดล “RentNext” ซึ่งเป็นการเช่าที่มอบความยืดหยุ่นและทางเลือกที่เหนือกว่าการเช่าแบบปกติ ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจซื้อเป็นเจ้าของได้ โดยมีเงื่อนไขที่น่าสนใจคือ การนำค่าเช่ามาหักเงินต้นได้ 100% หากตัดสินใจซื้อยูนิตเดียวกัน หรือ 50% หากย้ายไปซื้อโครงการอื่นในเครือของเสนาฯ โมเดลนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ยังไม่แน่ใจเรื่องภาระผูกพันระยะยาว หรือต้องการทดลองใช้ชีวิตในโครงการก่อนตัดสินใจ “การซื้อบ้าน” ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์โลก เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและการตัดสินใจที่รอบคอบมากขึ้น

สร้างรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์: แม้รายได้รวมจาก LivNext และ RentNext จะอยู่ที่ประมาณ 80-100 ล้านบาทต่อปี แต่ Gross Margin ที่สูงถึง 80% คือจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิมมาสร้างรายได้ใหม่ ลดต้นทุนทางการตลาด และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ (Economy of Scope) ในทำเลที่ได้รับความนิยมในการเช่าสูง เช่น พระราม 9 บางนา นิคมอุตสาหกรรม และรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการเช่าค่อนข้างมากและมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

ยุทธศาสตร์ปี 2569: รัดเข็มขัด พัฒนาสต็อก สร้างมูลค่าเพิ่ม

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ปี 2569 เสนาฯ ได้เลือกเดินหน้าอย่างระมัดระวังและเน้นความมั่นคง โดยจะลดการเปิดโครงการใหม่ลง ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ชะลอมาจากปีก่อน หรือเป็นเฟสต่อเนื่องจากโครงการเดิม แทนการขยายพอร์ตเพิ่มเติมอย่างก้าวกระโดด นี่คือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินและเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุดในสถานการณ์ตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย

บริหารจัดการสต็อกอย่างมืออาชีพ: หัวใจสำคัญคือการหันมาพัฒนาสินค้าคงคลังที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันเสนาฯ มีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 5,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมากกว่า 70% เป็นคอนโดมิเนียม การปรับปรุงยูนิตเดิมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การรีโนเวตเฟอร์นิเจอร์ การปรับ Layout ให้ทันสมัย ไปจนถึงการทำตลาดแบบตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับสินค้าให้สอดรับกับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ดร.เกษรา ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “การที่เราไม่มีโครงการใหม่ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องหยุดพัฒนา” ซึ่งสะท้อนแนวคิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมภายในองค์กรอย่างแท้จริง การปรับปรุงและยกระดับ “บ้านพร้อมอยู่” ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มและระบายสต็อกในยุคที่กำลังซื้อชะลอตัว

อสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน: มาตรฐานใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม

อีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่เสนาฯ มุ่งมั่นผลักดันคือ “ความยั่งยืน” ซึ่งสอดรับกับกระแสโลกและนโยบาย ESG ที่กำลังทวีความสำคัญ การติดตั้งโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่เก็บพลังงานในบ้านกลุ่มราคาแกรนด์ทุกหลัง ถือเป็นมาตรฐานใหม่ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความตระหนักเรื่องพลังงานสะอาด แต่ยังช่วย “ลดภาระค่าครองชีพ” ให้กับผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ผมมองว่านี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น และมองหา “บ้านพลังงานแสงอาทิตย์” ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ การเดินหน้าแนวทาง Waste Management ในทุกโครงการ ยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของเสนาฯ ในฐานะ “Life Long Trusted Partner” ที่ไม่เพียงแค่พัฒนา “อสังหาริมทรัพย์” แต่ยังดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของหลัก EEAT (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) ในสายตานักลงทุนและผู้บริโภค

มุมมองเศรษฐกิจและการเมือง: ปัจจัยหนุนเสริมตลาดอสังหาริมทรัพย์

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นด้วยกับ ดร.เกษรา ว่ามาตรการภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด “อสังหาริมทรัพย์” แม้มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองจะช่วยกระตุ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างหนี้ครัวเรือนและ “สินเชื่อบ้าน” ที่ตึงตัวเกินไป

การตั้ง AMC และปรับโครงสร้างหนี้: หากรัฐบาลสามารถจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน หรือปรับโครงสร้างหนี้ภาคครัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยปลดล็อกภาระให้ผู้บริโภค และเพิ่ม “กำลังซื้อของผู้บริโภค” ได้อย่างมหาศาล ทำให้ความฝัน “การซื้อบ้าน” กลับมาเป็นจริงได้ง่ายขึ้น
นโยบายลดดอกเบี้ย: การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อ Debt Service Ratio (DSR) หรืออัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณา “สินเชื่อบ้าน” หากดอกเบี้ยลดลง ภาระผ่อนต่อเดือนจะลดลง ทำให้ลูกค้าสามารถกู้ผ่านได้ง่ายขึ้น และปลดล็อกความสามารถในการ “การซื้อบ้าน” ของคนจำนวนมาก

สรุปและก้าวต่อไป: การปรับตัวเชิงรุกคือกุญแจสู่ความยั่งยืน

ในช่วงเวลาที่ตลาด “อสังหาริมทรัพย์” ยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการคือการปรับตัวเชิงรุก และมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสก้าวเข้าสู่ระบบ “สินเชื่อบ้าน” ได้มากขึ้น ดังเช่นที่เสนาฯ ได้นำเสนอโมเดล Next Solution เพื่อประคองกำลังซื้อในกลุ่ม Affordable และสร้างเส้นทางให้ลูกค้าได้เตรียมความพร้อมในการยื่นกู้จริง แม้กระบวนการอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปี แต่ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผู้บริโภคในระยะยาว และยังเป็นแนวทาง “พัฒนาอสังหาริมทรัพย์” ที่ยั่งยืน

การสร้างเครื่องมือช่วยเหลือและเสริมศักยภาพให้กับลูกค้าจึงไม่ใช่แค่เพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นบทบาทที่ภาคธุรกิจสามารถทำได้ทันที และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ “ตลาดอสังหาริมทรัพย์” กลับมาเดินหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตอันใกล้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการที่เข้าใจ Pain Point ของลูกค้าอย่างแท้จริง และกล้าที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่แตกต่าง จะเป็นผู้ที่ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในตลาดที่ท้าทายนี้

หากท่านคือหนึ่งในผู้ที่กำลังประสบปัญหา “กู้บ้านไม่ผ่าน” หรือกำลังมองหาเส้นทางสู่ “การเป็นเจ้าของบ้าน” ในยุคสมัยที่ซับซ้อนนี้ ผมขอแนะนำให้ศึกษาโมเดล “Next Solution” ของเสนาฯ อย่างจริงจัง หรือปรึกษา “ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์” ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนทางการเงิน การ “ปรึกษาสินเชื่อบ้าน” ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ของท่าน จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการทำให้ความฝัน “การซื้อบ้าน” ของท่านเป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็น “บ้านเดี่ยวทำเลดี” หรือ “คอนโดมิเนียมคุณภาพ” การเตรียมความพร้อมคือหัวใจสำคัญ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการค้นหาบ้านในฝันและเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืนในแบบของตัวเอง.

Previous Post

D1512010 าวเม องกร งม นเหล ยม เลยลงเอยก บหน มดอย ep1 part2

Next Post

D1512013 หน มแกร าว ยทอง ep part2

Next Post
D1512013 หน มแกร าว ยทอง ep part2

D1512013 หน มแกร าว ยทอง ep part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1512039 กตามใช แม ตามสร าง(หน EP1 part1
  • D1512038 กตามใช แม ตามสร าง(หน EP2 part2
  • D1512037 หน ตามแมลงว ep1 part2
  • D1512035 หน ตามแมลงว ep2 part2
  • D1512033 คร แอน จะสอนหร อจะเด part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.