SME ไทยเจาะตลาดจีน: กลยุทธ์เหนือชั้นจากเดอะมอลล์ กรุ๊ป ผนึก SCPG สู่ตลาดพันล้าน (2025 Perspective)
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มานานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้าจับตาดูพลวัตของการค้าโลกและภูมิภาคมาโดยตลอด และในจังหวะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ การมองเห็นโอกาสใหม่ๆ และการสร้างสะพานเชื่อมทางการค้านับเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีศักยภาพมหาศาลอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน นี่คือเหตุผลที่ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทย และ SCPG Group บริษัทพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำของจีน ไม่ใช่แค่ข่าวธุรกิจทั่วไป แต่เป็นหมุดหมายสำคัญที่เปิดประตูทองให้แก่ SME ไทยเจาะตลาดจีน อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงเบื้องหลังความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้ วิเคราะห์กลยุทธ์ที่ซับซ้อน โอกาสที่ซ่อนอยู่สำหรับผู้ประกอบการไทย พร้อมทั้งให้มุมมองเชิงลึกถึงเทรนด์ตลาดจีนปี 2025 ที่ SME ไทยเจาะตลาดจีน จำเป็นต้องรู้เพื่อคว้าชัยชนะในสมรภูมิการค้าที่ดุเดือดนี้
ทศวรรษแห่งความสัมพันธ์: ปฐมบทใหม่ของมิตรภาพไทย-จีน
ปี 2568 ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและจีน ความผูกพันที่ยาวนานครึ่งศตวรรษนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ระดับรัฐบาล แต่หยั่งรากลึกถึงระดับประชาชน สังคม และเศรษฐกิจ การเฉลิมฉลองครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงพิธีการ แต่เป็นโอกาสทองในการยกระดับความสัมพันธ์สู่มิติใหม่ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ความร่วมมือระหว่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group จึงถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เป็นการแสดงพลังแห่งมิตรภาพที่ผสานกับการมองการณ์ไกลทางธุรกิจอย่างชาญฉลาด เพื่อสนับสนุนให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้อย่างแข็งแกร่ง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของไทยมาโดยตลอด ทั้งในมิติของการส่งออก การนำเข้า และการลงทุนต่างประเทศ เม็ดเงินที่หมุนเวียนและโอกาสทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมหาศาล แต่สำหรับ SME ไทย ที่มีข้อจำกัดด้านเงินทุน ประสบการณ์ และเครือข่าย การเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง นี่คือจุดที่พันธมิตรระดับยักษ์ใหญ่สองรายนี้ก้าวเข้ามาเป็นผู้สร้างโอกาสที่แท้จริง
ทำไมตลาดจีนคือขุมทรัพย์ที่ SME ไทยไม่อาจมองข้าม
ตลาดจีนไม่ได้เป็นเพียงตลาดขนาดใหญ่ แต่เป็นตลาดที่กำลังเปลี่ยนผ่านและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบันมีกำลังซื้อสูงขึ้น มีความต้องการสินค้าคุณภาพพรีเมียม สินค้านำเข้าที่มีเอกลักษณ์ และสินค้าที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ชี้ให้เห็นว่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังจีนยังคงมีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป อาหาร และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคจีนในทศวรรษที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจน จากการเน้นปริมาณสู่การให้ความสำคัญกับคุณภาพ แบรนด์ และเรื่องราวเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ สินค้าไทยจำนวนมากมีศักยภาพในการตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ด้วยจุดเด่นด้านวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และงานฝีมือที่ประณีต ปัญหาที่ผ่านมาคือช่องทางการจัดจำหน่ายจีน และการสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้ไม่เต็มศักยภาพ
ในยุคดิจิทัล การตลาดดิจิทัลจีน และอีคอมเมิร์ซจีน กลายเป็นหัวใจสำคัญของการเข้าถึงผู้บริโภค และนี่คือจุดแข็งที่พันธมิตรอย่าง SCPG และเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะเข้ามาเติมเต็ม ด้วยเครือข่ายศูนย์การค้าที่แข็งแกร่งของ SCPG ทั่วประเทศจีน ผสานกับการบริหารจัดการพื้นที่ค้าปลีกระดับโลกของเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะช่วยเปิดช่องทางออฟไลน์ที่สำคัญ ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ออนไลน์ เพื่อให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้ทั้งสองมิติ
กลยุทธ์เหนือชั้น: เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผนึก SCPG Group เปิดประตูค้าปลีกแดนมังกร
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนทางการค้าแบบผิวเผิน แต่เป็นการผสานพลังของสองยักษ์ใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้าง “ระบบนิเวศการค้าใหม่” ที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
เดอะมอลล์ กรุ๊ป: ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกของไทยที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ ในการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าระดับโลก อาทิ สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ กลุ่มเดอะมอลล์มีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกสินค้า การสร้างประสบการณ์ลูกค้า การจัดกิจกรรมทางการตลาด และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดไทย จุดแข็งเหล่านี้จะถูกนำมาปรับใช้ในการคัดสรรและผลักดัน SME ไทยเจาะตลาดจีน ให้มีมาตรฐานสากลและเข้าถึงใจผู้บริโภคจีน
SCPG Group: บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พัฒนา และบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำของจีน ด้วยเครือข่ายศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั่วประเทศจีน SCPG มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่น กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ โลจิสติกส์จีน และช่องทางการจัดจำหน่ายจีน ที่สำคัญคือมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักในจีน การจับมือกับ SCPG จึงเปรียบเสมือนการได้รับ “กุญแจสำคัญ” ในการเข้าสู่ตลาดจีนอย่างมีประสิทธิภาพ
การผนึกกำลังนี้สร้างแพลตฟอร์มที่ไม่เหมือนใคร:
การคัดสรรและพัฒนาผลิตภัณฑ์: เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะใช้ประสบการณ์คัดเลือกสินค้าและแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพ และอาจช่วยปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับรสนิยมและความต้องการของตลาดจีน
ช่องทางการจัดจำหน่าย: SCPG จะเปิดพื้นที่ในศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศจีน เป็นเวทีให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้แสดงสินค้าและสร้างปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้บริโภค
การตลาดและการสร้างแบรนด์: ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดแคมเปญการตลาดที่แข็งแกร่ง ผสมผสานการตลาดออฟไลน์และการตลาดดิจิทัลจีน รวมถึงการใช้ KOLs (Key Opinion Leaders) และ KOCs (Key Opinion Consumers) เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างแบรนด์ในจีน
การแลกเปลี่ยนประสบการณ์: การบริหาร แลกเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจ จะช่วยสร้างโอกาสและขยายฐานลูกค้าร่วมกันในอนาคต
นี่คือโมเดลกลยุทธ์การบริโภครูปแบบใหม่ + กลยุทธ์สู่สากล ที่ไม่ได้จำกัดแค่การส่งสินค้า แต่เป็นการส่งมอบประสบการณ์และวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ SME ไทยเจาะตลาดจีน ที่ต้องการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มในระยะยาว
สร้างระบบนิเวศการค้าใหม่: มากกว่าแค่การขายสินค้า
แนวคิด “ระบบนิเวศการค้าใหม่” ที่ทั้งสองกลุ่มบริษัทกล่าวถึงนั้น กว้างขวางและลึกซึ้งกว่าแค่การจัดจำหน่ายสินค้า แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
มิติวัฒนธรรม (Soft Power): งาน Kud-Thai Holiday ไม่ได้มีเพียงการจำหน่ายสินค้า แต่ยังรวมถึงการจำลองบรรยากาศ Thai Street Culture Experience การแสดงนาฏศิลป์ไทย การสาธิตนวดแผนไทย กิจกรรมเวิร์กช็อปเชิงวัฒนธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้คือการนำเสนอ “ซอฟต์พาวเวอร์” ของไทยสู่สายตาชาวจีน สร้างความผูกพันทางอารมณ์ และเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ไทย การลงทุนในวัฒนธรรมคือกุญแจสำคัญในการสร้างแบรนด์ในจีน ให้ผู้บริโภครับรู้ถึงตัวตนและความเป็นมาของสินค้า
การบูรณาการค้าปลีก-อีคอมเมิร์ซ: ในปี 2025 และปีต่อๆ ไป การค้าปลีกไม่ได้แยกจากอีคอมเมิร์ซอีกต่อไป SCPG มีประสบการณ์ในการผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็เป็นผู้นำด้านค้าปลีกแบบ Omni-channel ในไทย การร่วมมือนี้จึงมีศักยภาพในการพัฒนาโซลูชันการค้าข้ามพรมแดน ที่เชื่อมโยงหน้าร้านจริงในจีนเข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของจีน (เช่น Tmall, JD.com, Pinduoduo) เพื่อให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้อย่างครอบคลุม
ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค: การดำเนินงานร่วมกันจะทำให้เกิดการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคจีน ซึ่งเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าสำหรับ SME ไทย ในการทำความเข้าใจความต้องการ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และวางกลยุทธ์การตลาดให้แม่นยำยิ่งขึ้น
ห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ: ด้วยขนาดของ SCPG และเดอะมอลล์ กรุ๊ป พวกเขาสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์จีน ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนและเวลาในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้อย่างราบรื่น
ระบบนิเวศนี้จะช่วยลดความเสี่ยงและภาระให้กับ SME ไทย ที่ต้องการขยายตลาด สร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะถูกนำเสนอในช่องทางที่เหมาะสม และได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดอย่างเต็มที่
Kud-Thai Holiday และ Super-V SCPG Hua Hua Festival: ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
การประเดิมความร่วมมือด้วยเทศกาล “Super-V SCPG Hua Hua Festival” ภายใต้แนวคิด “Kud-Thai Holiday” ณ เมืองเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 18 – 27 กรกฎาคม นี้ เป็นก้าวแรกที่สำคัญและน่าจับตามองอย่างยิ่ง
ทำเลทอง: เซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้เป็นสองมหานครสำคัญของจีน เซินเจิ้นเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีกลุ่มผู้บริโภคที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และมีกำลังซื้อสูง ขณะที่เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองหลวงทางเศรษฐกิจและการค้า มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นประตูสู่ตลาดโลก การเลือกเมืองเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีคุณภาพและมีอิทธิพล
สินค้าคุณภาพและเอกลักษณ์: ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาจัดแสดง ล้วนเป็นตัวแทนของความภาคภูมิใจไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Gourmet Thai X Butterbear (ทองม้วน, ทองแผ่น, ข้าวแต๋น), ผลิตภัณฑ์แปรรูป (สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง, มะม่วงอบแห้ง), สินค้ากลุ่ม Grocery Non-Food (เสื้อ-กางเกงช้าง, พัดสาน) และสินค้าจากแบรนด์ THAI THAI ที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทยได้อย่างโดดเด่น การจัดแสดงสินค้าเหล่านี้ในเทศกาลใหญ่ของ SCPG เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับ SME ไทยเจาะตลาดจีน ด้วยการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่และน่าสนใจ
การสร้างประสบการณ์: การจำลอง Thai Street Culture Experience ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่เป็นการขาย “เรื่องราว” และ “ประสบการณ์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจีนยุคใหม่ให้ความสำคัญ กิจกรรมเชิงวัฒนธรรมจะช่วยสร้างความผูกพันและจดจำแบรนด์ไทยในระยะยาว
งาน Kud-Thai Holiday นี้จึงเป็นมากกว่าแค่บูธจำหน่ายสินค้า แต่เป็น “แพลตฟอร์มการสร้างแบรนด์” ที่ครอบคลุมทั้งการรับรู้ การทดลองสินค้า และการสร้างความผูกพันทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับ SME ไทยเจาะตลาดจีน อย่างยั่งยืน
เจาะลึกเทรนด์ผู้บริโภคจีน 2025: สิ่งที่ SME ไทยต้องรู้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอชี้ให้เห็นถึงเทรนด์สำคัญของผู้บริโภคชาวจีนในปี 2025 ที่ SME ไทยเจาะตลาดจีน ควรศึกษาและนำไปปรับใช้:
Digital Native & Social Commerce: ผู้บริโภคจีนยุคใหม่คือกลุ่มที่เติบโตมากับดิจิทัล การตลาดผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Douyin (TikTok China), WeChat, Xiaohongshu (Little Red Book) เป็นสิ่งจำเป็น การใช้ไลฟ์สตรีมมิ่งคอมเมิร์ซ (Livestreaming Commerce) และการทำงานร่วมกับ KOLs/KOCs มีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ การตลาดดิจิทัลจีน จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด
Health & Wellness Trend: ความใส่ใจสุขภาพเป็นเมกะเทรนด์ สินค้าออร์แกนิก อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และสินค้าที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดี จะได้รับความนิยมอย่างสูง สินค้าเกษตรแปรรูปของไทยที่มีคุณประโยชน์จึงมีโอกาสอย่างมาก
“Guochao” (National Tide) & Local Pride ผสาน Global Appeal: แม้จะภูมิใจในสินค้าของชาติ แต่ผู้บริโภคจีนก็ยังคงเปิดรับสินค้าต่างชาติที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพสูง สินค้าไทยที่นำเสนอวัฒนธรรมไทยได้อย่างมีสไตล์และทันสมัย จะสามารถดึงดูดความสนใจได้ การสร้างแบรนด์ในจีน ที่ผสานความเป็นไทยเข้ากับความทันสมัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ
Personalization & Customization: ผู้บริโภคจีนต้องการสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล แบรนด์ที่สามารถนำเสนอประสบการณ์ส่วนบุคคลได้ จะสร้างความภักดีได้ดีกว่า
Sustainability & Ethical Consumption: การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมในการผลิตกำลังเพิ่มขึ้น แบรนด์ที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจะได้รับความไว้วางใจ
“Quick Commerce” & Seamless Delivery: ความคาดหวังในการจัดส่งที่รวดเร็วและบริการที่ไร้รอยต่อเป็นสิ่งสำคัญ โลจิสติกส์จีน ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นหัวใจของการค้า
Data-Driven Decisions: การใช้การวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคจีน เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการ จะช่วยให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน วางกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการขาย
การเตรียมพร้อมรับมือกับเทรนด์เหล่านี้ จะช่วยให้ SME ไทย ไม่เพียงแค่เข้าไปในตลาดจีนได้ แต่ยังสามารถเติบโตและยั่งยืนในระยะยาว
อนาคตที่ยั่งยืน: แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและ soft power
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของผลกำไรในระยะสั้น แต่คือการลงทุนในอนาคตของเศรษฐกิจไทยและ Soft Power ของประเทศ
ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก: การที่ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้สำเร็จ จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ในประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย: การนำเสนอสินค้าและวัฒนธรรมไทยผ่านแพลตฟอร์มระดับโลก จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตานานาชาติ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนเพิ่มขึ้น
ต้นแบบความร่วมมือ: ความสำเร็จของโมเดลนี้อาจเป็นต้นแบบให้กับความร่วมมือในอนาคตระหว่างภาคเอกชนไทยกับพันธมิตรต่างชาติ เพื่อขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ
นวัตกรรมค้าปลีก: การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group จะนำมาซึ่งนวัตกรรมค้าปลีกใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและยกระดับอุตสาหกรรมในภาพรวม
ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือเชิงลึกระหว่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group ในครั้งนี้ จะไม่เพียงเป็นแรงผลักดันใหม่ให้กับตลาดผู้บริโภคจีน แต่ยังเป็นการเปิดประตูการค้าให้แบรนด์ไทยที่มีเอกลักษณ์ได้เข้าสู่ตลาดจีนอย่างมั่นคงและยั่งยืน เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่จับต้องได้สำหรับ SME ไทย ทุกรายที่พร้อมจะก้าวไปในเวทีโลก
ก้าวสู่โอกาสทองสำหรับ SME ไทย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดมาอย่างใกล้ชิด ผมมองว่านี่คือโอกาสทองที่หาได้ยากยิ่งสำหรับ SME ไทย ที่มีความตั้งใจ มีผลิตภัณฑ์คุณภาพ และมีความพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัว ความร่วมมือระหว่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group ได้ปูทางและสร้างสะพานที่แข็งแกร่งให้คุณแล้ว
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ SME ไทยที่มีความฝันจะนำสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก ผมขอแนะนำให้คุณศึกษาโอกาสนี้อย่างจริงจัง เตรียมความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และความเข้าใจในตลาดจีน และอย่าลังเลที่จะคว้าโอกาสที่พันธมิตรยักษ์ใหญ่คู่นี้ได้หยิบยื่นให้ การเตรียมตัวที่ดี การหาพันธมิตรที่เหมาะสม และการทำความเข้าใจกลยุทธ์การตลาดจีนที่ซับซ้อน จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของคุณ
เราขอเชิญชวน SME ไทยทุกท่านที่สนใจ ร่วมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเตรียมพร้อมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ “ระบบนิเวศการค้าใหม่” นี้ เพื่อคว้าโอกาสให้ SME ไทยเจาะตลาดจีน ได้อย่างเต็มศักยภาพ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีโลก ไปพร้อมกัน

