• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D1210057 กรรมคนโกง part2

admin79 by admin79
December 12, 2025
in Uncategorized
0
D1210057 กรรมคนโกง part2

ปลดล็อกศักยภาพ: เดอะมอลล์จับมือ SCPG Group เปิดประตูทอง SME ไทยบุกตลาดจีนยุคใหม่ (อัปเดต 2025)

ในฐานะที่ผมได้คลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมค้าปลีกมานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่าโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-จีนกำลังปรากฏขึ้น การผนึกกำลังครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง The Mall Group ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทย และ SCPG Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำจากจีน ไม่ใช่แค่เพียงการประกาศความร่วมมือทางธุรกิจธรรมดา แต่เป็นการวางรากฐานอันแข็งแกร่งเพื่อผลักดัน SME ไทยบุกตลาดจีน อย่างมีกลยุทธ์และยั่งยืน เป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดแบบเดิมๆ และสร้างระบบนิเวศการค้าใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในประเทศจีน

มองผ่านเลนส์ผู้เชี่ยวชาญ: โอกาสทองที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับ SME ไทย

ปี 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งไม่ใช่เพียงพิธีการทางการทูต แต่เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพอันยาวนานที่พร้อมจะต่อยอดสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การจับมือกันระหว่างสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมที่สำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะในมิติที่หลากหลายมากขึ้น

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งบริหารศูนย์การค้าชั้นนำอย่าง สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, ดิ เอ็มสเฟียร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในพฤติกรรมผู้บริโภค และความสามารถในการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งระดับโลก ขณะที่ SCPG Group ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พัฒนา และบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั่วประเทศจีน มีเครือข่ายศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ที่ครอบคลุมในตลาดจีน ความร่วมมือนี้จึงไม่ใช่แค่การนำสินค้าไปวางขาย แต่เป็นการนำ “แบรนด์ไทย” และ “ประสบการณ์ไทย” ไปสู่ใจกลางของตลาดผู้บริโภคจีน

ในมุมมองของผู้ประกอบการ SME ไทย โอกาสนี้มีความหมายมากกว่าแค่การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การเข้าถึงแพลตฟอร์มของ SCPG Group ในเมืองเศรษฐกิจสำคัญอย่างเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นการลดอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคจีนโดยตรง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพมหาศาล แต่ก็มีความซับซ้อนสูง ทั้งในด้านวัฒนธรรม กฎระเบียบ และการแข่งขัน การได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง SCPG Group จึงเป็น กลยุทธ์เจาะตลาดจีน ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในการลองผิดลองถูก

การสร้างมูลค่าเพิ่มผ่าน Soft Power และ Cultural Exchange

หนึ่งในหัวใจสำคัญของความร่วมมือนี้คือการใช้ “วัฒนธรรม” เป็นตัวขับเคลื่อน การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านสินค้าและบริการไทย จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Proposition) ให้กับผลิตภัณฑ์ของ SME ไทยอย่างมหาศาล “เทศกาล Kud-Thai Holiday” ที่เซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ ไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่จัดแสดงสินค้า แต่คือการจำลองบรรยากาศและวิถีชีวิตแบบไทยๆ ที่นักท่องเที่ยวจีนคุ้นเคยและหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยแปรรูป ขนมไทย งานหัตถกรรมไทย แฟชั่นจากกลุ่ม SME ตลอดจนการแสดงนาฏศิลป์ไทยและการนวดแผนไทย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ประเทศไทยในระดับสากล และเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคจีน

ผมเชื่อว่าการนำเสนอสินค้าไทยภายใต้ธีม “Thai Street Culture Experience” จะช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับแบรนด์ไทย ทำให้ผู้บริโภคจีนไม่เพียงแค่ซื้อสินค้า แต่ยังซื้อ “เรื่องราว” และ “ประสบการณ์” ไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว การผนวกวัฒนธรรมเข้ากับการค้าปลีกในลักษณะนี้ยังเป็นการยกระดับ การค้าไทยจีน ให้ก้าวไปสู่มิติที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

กลยุทธ์การบริโภครูปแบบใหม่: เมื่อค้าปลีกผสานนวัตกรรมและอัตลักษณ์

คุณเหยา ไฮ่ปัว ประธานกรรมการบริหาร SCPG Group ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และค้าปลีกให้ก้าวสู่ระดับสากลผ่านการผสานวัฒนธรรม นวัตกรรม และการสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่ นี่คือหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุค 2025 และต่อๆ ไป

ในยุคที่ผู้บริโภคจีนมีความต้องการที่หลากหลายและเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย การนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มพร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าประทับใจ คือกุญแจสู่ความสำเร็จ SCPG Group ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั่วประเทศจีน ผสานกับความแข็งแกร่งของ The Mall Group ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกของไทยที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ จะสามารถร่วมกันสร้างสรรค์ “โมเดลธุรกิจค้าปลีก” ที่แตกต่างและน่าสนใจ

สำหรับ SME ไทยบุกตลาดจีน นี่หมายถึงโอกาสในการเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับ E-commerce จีน ที่มีการแข่งขันสูงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์อย่างศูนย์การค้าของ SCPG Group ถือเป็นการสร้างการรับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การขายออนไลน์และขยายฐานลูกค้าได้ในอนาคต การเชื่อมโยงระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ SME ไทยควรให้ความสำคัญ

จากสินค้าสู่แบรนด์: การสร้างอัตลักษณ์ไทยในตลาดจีน

สิ่งที่เรากำลังเห็นไม่ใช่เพียงแค่การนำเข้า-ส่งออกสินค้า แต่คือการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดจีน การที่สินค้า Gourmet Thai X Butterbear หรือสินค้าจากแบรนด์ THAI THAI ได้รับเลือกให้นำไปจัดแสดงในงาน “Super-V SCPG Hua Hua Festival” เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของสินค้าไทยที่มีคุณภาพและมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน สินค้ากลุ่มอาหารแปรรูป ผลไม้อบแห้ง เสื้อผ้าแฟชั่น หรือแม้แต่สินค้าหัตถกรรม ล้วนมีโอกาสในการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มในจีนได้ หากมีการวางแผนการตลาดและการสร้างแบรนด์ที่ดี

ในฐานะที่ปรึกษาด้านการตลาด ผมมักย้ำเสมอว่าการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศนั้นต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่น SCPG Group จะทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่ช่วยให้ SME ไทยเข้าใจบริบทเหล่านี้ และสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม การมีจุดจำหน่ายที่เข้าถึงง่ายและเป็นที่รู้จัก เช่นในศูนย์การค้าหลักของเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างการรับรู้และการยอมรับในคุณภาพของ สินค้าไทยในตลาดจีน

ความท้าทายและโซลูชั่นสำหรับ SME ไทย

แม้โอกาสจะสดใส แต่การบุกตลาดจีนก็ยังคงมีความท้าทายอยู่เสมอ สิ่งที่ SME ไทยต้องเตรียมตัว ได้แก่:

ความเข้าใจในกฎระเบียบ: กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าอาหารและเครื่องสำอางในจีน มีความเข้มงวดและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การมีที่ปรึกษาหรือพันธมิตรที่มีความรู้ด้านนี้เป็นสิ่งจำเป็น
การจัดการซัพพลายเชนจีน (China Supply Chain Management): การขนส่งสินค้าจากไทยไปยังจีน การจัดการคลังสินค้า และการกระจายสินค้าไปยังจุดจำหน่ายต่างๆ ต้องการระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ การเลือกพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้าน โลจิสติกส์ไปจีน จะช่วยลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่าย
การตลาดและการสร้างแบรนด์: การแข่งขันสูงในตลาดจีนต้องการกลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ การใช้โซเชียลมีเดียจีน (WeChat, Douyin, Weibo) และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Tmall, JD.com) เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การ สร้างแบรนด์ไทยในจีน ต้องการการลงทุนและการทำงานอย่างต่อเนื่อง
การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรม: แม้ว่าคนจีนจะชื่นชอบวัฒนธรรมไทย แต่การปรับสินค้าและบริการให้เข้ากับรสนิยมและความคาดหวังของคนท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตั้งชื่อสินค้า หรือแม้กระทั่งการนำเสนอโปรโมชั่น

ความร่วมมือระหว่าง The Mall Group และ SCPG Group ได้เข้ามาช่วยลดความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการเข้าถึงแพลตฟอร์มและการสร้างการรับรู้ในเบื้องต้น นับเป็นการวางรากฐานอันแข็งแกร่งให้ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้ง่ายขึ้น

มองไปข้างหน้า: การลงทุนและการขยายตลาดสู่สากล

ในระยะยาว ความร่วมมือนี้จะเป็นต้นแบบของ “กลยุทธ์การบริโภครูปแบบใหม่ + กลยุทธ์สู่สากล” ที่ไม่เพียงผลักดันแบรนด์ไทยเข้าสู่จีน แต่ยังอาจเป็นแนวทางให้แบรนด์จีนขยายสู่เวทีโลกผ่านแพลตฟอร์มของ The Mall Group ในไทยด้วยเช่นกัน นี่คือการสร้าง การลงทุนในจีน และ การขยายตลาดต่างประเทศ แบบสองทางที่สร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง

สำหรับผู้ประกอบการ SME ไทยที่ไม่ได้รับโอกาสเข้าร่วมในโครงการนำร่องนี้โดยตรง ผมขอแนะนำให้ศึกษาโมเดลความร่วมมือนี้อย่างละเอียด เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจของท่าน การเรียนรู้จากความสำเร็จของโครงการนี้จะช่วยให้ท่านเห็นภาพรวมของ โอกาสทางธุรกิจจีน ที่เปิดกว้าง และแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับ คู่มือการส่งออก สินค้าของท่านไปสู่ตลาดสากล

ในยุคที่โลกเชื่อมโยงกันอย่างไร้พรมแดน การ สร้างเครือข่ายธุรกิจ ระหว่างประเทศและการหาพันธมิตรที่แข็งแกร่ง คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ การที่ภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศร่วมมือกันอย่างจริงจังเช่นนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงทิศทางอันสดใสของ ธุรกิจ SME ไทยไปต่างประเทศ

สรุปและก้าวต่อไป

การผนึกกำลังระหว่าง The Mall Group และ SCPG Group เพื่อเปิดประตูให้ SME ไทยบุกตลาดจีน เป็นมากกว่าแค่ข่าวธุรกิจประจำวัน แต่คือการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญซึ่งจะสร้างแรงกระเพื่อมในวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ของทั้งสองประเทศ ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ผมในฐานะผู้ที่คลุกคลีในวงการนี้มาตลอด ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SME ไทยทุกท่าน ตระหนักถึงความสำคัญของโอกาสนี้ ศึกษาแนวทางและเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ตลาดจีนอย่างมีวิสัยทัศน์ ไม่ว่าท่านจะอยู่ในภาคส่วนใด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตรแปรรูป อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น หัตถกรรม สุขภาพและความงาม หรือแม้แต่บริการ การที่พันธมิตรยักษ์ใหญ่เช่นนี้เข้ามาวางรากฐานให้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีเยี่ยมที่บอกว่าตลาดจีนพร้อมแล้วสำหรับ “ของดีประเทศไทย”

อย่าปล่อยให้โอกาสครั้งสำคัญนี้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ มาร่วมกันศึกษา วางแผน และเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อนำพา SME ไทยบุกตลาดจีน สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน หากท่านต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์การตลาด SME ในจีน หรือ บริการส่งออกสินค้า โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษา เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันความสำเร็จของท่านในตลาดโลก.

Previous Post

D1210056 โซเช ยลม นน ากล วกว าท part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1210057 กรรมคนโกง part2
  • D1210056 โซเช ยลม นน ากล วกว าท part2
  • D1210055 หญ งแล งน ำใจ ใครจะเอาทำเม part2
  • D1210054 จะเช อพ หร อเช อผ part2
  • D1210053 าร อยแลกเม part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.