ยกระดับ SMEs ไทยสู่ตลาดมังกร: กลยุทธ์เจาะลึกตลาดจีนด้วยพลังความร่วมมือระดับยักษ์
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มานานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้ามองเห็นการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งการเชื่อมโยงและนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังเบ่งบานครบรอบ 50 ปี ความร่วมมือทางธุรกิจที่ไม่ใช่แค่เพียง “การค้า” แต่เป็นการ “สร้างระบบนิเวศ” ใหม่ ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองชาติ ผมเชื่อมั่นว่านี่คือช่วงเวลาทองที่ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์
เมื่อไม่นานมานี้ ข่าวใหญ่ที่สร้างแรงกระเพื่อมในแวดวงธุรกิจคือการผนึกกำลังครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าของไทย และ SCPG Group ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์จากจีน ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต แต่เป็นการวางรากฐานอันแข็งแกร่งในการเปิดประตูสู่ ตลาดจีน สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทย ซึ่งผมมองว่าเป็นพิมพ์เขียวแห่งโอกาสที่ SMEs ไทยไม่ควรมองข้าม
พลังขับเคลื่อนของตลาดจีน: โอกาสทองที่ SME ไทยต้องคว้า
ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงรายละเอียดของความร่วมมือ ผมอยากให้ทุกท่านได้เห็นภาพใหญ่ของ ตลาดจีน เสียก่อน ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จีนได้กลายเป็นขุมทรัพย์แห่งการบริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคจีนยุคใหม่มีความเปิดกว้างต่อแบรนด์และวัฒนธรรมจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าจากประเทศไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งในด้านอาหาร ผลไม้ การท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคจีน และการใช้ กลยุทธ์การตลาดจีน ที่เหมาะสม จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าไปยึดครองส่วนแบ่ง ตลาดจีน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ E-commerce จีน ถือเป็นช่องทางหลักที่ไม่อาจมองข้าม แพลตฟอร์มอย่าง Tmall, JD.com, Pinduoduo ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งซื้อขายสินค้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้บริโภคชาวจีน การทำ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งจีน และการใช้ประโยชน์จาก โซเชียลคอมเมิร์ซจีน ซึ่งรวมถึง Live Commerce และ KOL Marketing จึงเป็นสิ่งจำเป็น การผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีความเข้าใจในระบบนิเวศดิจิทัลของจีน จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมหาศาล และนี่คือบริบทที่ทำให้การที่ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จ
เดอะมอลล์ กรุ๊ป X SCPG Group: ต้นแบบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
ความร่วมมือระหว่าง เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group ไม่ใช่แค่การรวมตัวของสององค์กรยักษ์ใหญ่ แต่เป็นการสร้าง “สะพาน” ที่มั่นคงเชื่อมโยง โอกาสทางธุรกิจ ให้กับ ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของไทย มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 4 ทศวรรษในการบริหาร ศูนย์การค้า ระดับโลกอย่างสยามพารากอน เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เอ็มสเฟียร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าและการคัดสรรสินค้าคุณภาพสูง
ในขณะเดียวกัน SCPG Group คือบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พัฒนา และบริหารจัดการ อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ชั้นนำของจีน มีเครือข่าย ศูนย์การค้า และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกระจายอยู่ทั่วประเทศ การที่ SCPG มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใน ตลาดจีน และพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค ถือเป็นความได้เปรียบที่สำคัญอย่างยิ่ง การผนึกกำลังเช่นนี้จึงเป็นการใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนที่เหนือกว่า ให้ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้อย่างมีทิศทางและประสิทธิภาพ
คุณศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้เน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ว่าความร่วมมือนี้ไม่เพียงเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีสากล แต่ยังเป็น โอกาสทางธุรกิจ อันยิ่งใหญ่สำหรับ ผู้ประกอบการไทย ในการขยาย ตลาดจีน สร้างความเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคจีน ซึ่งผมมองว่าเป็นการตอกย้ำถึงเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะส่งเสริม เศรษฐกิจไทย ในภาพรวม
คุณเหยา ไฮ่ปัว ประธานกรรมการบริหารบริษัท SCPG Group ก็ได้กล่าวเสริมว่า การจับมือกันครั้งนี้เป็นการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และค้าปลีกสู่ระดับสากล ผ่านการผสานวัฒนธรรม นวัตกรรม และการสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่ก้าวหน้าของการค้าปลีกที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อขายสินค้า แต่เป็นการสร้างประสบการณ์และคุณค่าร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้อย่างลึกซึ้งและมีความหมาย
“Kud-Thai Holiday”: ประตูบานแรกสู่ตลาดมังกร
ก้าวแรกที่เป็นรูปธรรมของ ความร่วมมือไทย-จีน ครั้งนี้คือเทศกาล “Kud-Thai Holiday” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน “Super-V SCPG Hua Hua Festival” เทศกาลใหญ่ประจำฤดูร้อนของเครือ SCPG ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-27 กรกฎาคมนี้ ณ เมือง เซินเจิ้น และ เซี่ยงไฮ้ สองมหานครสำคัญที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีน
การนำแนวคิด “Kud-Thai Holiday” หรือ “สุขสันต์วันหยุดแบบไทยๆ” ไปจัดแสดงใน ศูนย์การค้า ของ SCPG เป็นการจำลองบรรยากาศ “Kud-Thai Market” ซิกเนเจอร์อีเวนต์ของกูร์เมต์ มาร์เก็ต จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เพราะเป็นการนำเสนอ สินค้าไทย ที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพจาก SMEs ไทยเข้าสู่ ตลาดจีน โดยตรงภายใต้ร่มเงาของพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ
สินค้าที่ได้รับคัดเลือกไปจัดแสดงล้วนเป็นตัวแทนของ วัฒนธรรมไทย และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Gourmet Thai X Butterbear ในกลุ่มเมนูทองม้วน ทองแผ่น ข้าวแต๋น กระบอกซุป รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างสตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง มะม่วงอบแห้ง และสินค้ากลุ่ม Grocery Non-Food ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เช่น เสื้อ-กางเกงช้าง พัดสาน และสินค้าจากแบรนด์ THAI THAI ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน
นอกจากการจำหน่ายสินค้าแล้ว งานยังมีการจัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว อาทิ การแสดงนาฏศิลป์ไทย การสาธิตนวดแผนไทย และเวิร์กช็อปเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการสร้าง “Thai Street Culture Experience” ให้แก่ผู้บริโภคชาวจีน ช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสความงดงามและมีชีวิตชีวาของวิถีไทยอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการ โปรโมทสินค้าจีน และวัฒนธรรมในเวลาเดียวกัน การสร้างประสบการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจ แต่ยังสร้างความผูกพันทางอารมณ์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างยอดขายและการรับรู้แบรนด์ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ SME ไทยบุกตลาดจีน ที่ต้องการสร้างความแตกต่าง
การสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่: วางรากฐานเพื่ออนาคต
ความร่วมมือนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การจัดเทศกาลค้าขายในระยะสั้น แต่มีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานกว่านั้น นั่นคือการสร้าง “ระบบนิเวศทางการค้าใหม่” ที่ผสานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อผลักดันวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับโลก
สำหรับ SME ไทยบุกตลาดจีน นี่คือโอกาสในการเข้าถึง ช่องทางจำหน่ายสินค้าจีน ที่หลากหลายและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ่านหน้าร้านจริงใน ศูนย์การค้า ของ SCPG หรือการเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม E-commerce ของจีนภายใต้การแนะนำจากพันธมิตรที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนและอุปสรรคในการเข้าสู่ ตลาดจีน นอกจากนี้ยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า การบริหารจัดการ และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจเพื่อสร้าง โอกาสลงทุน และขยายฐานลูกค้าร่วมกันในอนาคต
ผมมองว่าประเด็นสำคัญคือการที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการบริหารจัดการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า และใช้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจเพื่อสร้าง โอกาสทางธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าร่วมกันในอนาคตผ่านการเชื่อมโยงกับผู้ค้าปลีกรายใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา กลยุทธ์การตลาดจีน ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการ ส่งออกสินค้าไทย
ความท้าทายและข้อควรพิจารณาสำหรับ SMEs ไทย
แม้ว่า โอกาสลงทุน ใน ตลาดจีน จะหอมหวาน แต่ SME ไทยบุกตลาดจีน ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจ ผมมักจะเน้นย้ำถึงประเด็นเหล่านี้:
การแข่งขันที่สูง: ตลาดจีน เต็มไปด้วยแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ การสร้างความแตกต่างและการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น
กฎระเบียบและข้อกำหนด: การทำความเข้าใจกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรฐานสินค้าของจีนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและอำนวยความสะดวกในเรื่อง โลจิสติกส์จีน และ การค้าต่างประเทศ
ความแตกต่างทางวัฒนธรรม: การปรับตัวให้เข้ากับรสนิยม พฤติกรรม และความเชื่อของผู้บริโภคจีน รวมถึงการใช้ภาษาที่ถูกต้องและเหมาะสมในการสื่อสาร การมี ที่ปรึกษาธุรกิจจีน จึงเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา: การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตรในจีนเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อป้องกันการละเมิดและคุ้มครอง ธุรกิจส่งออก ของคุณ
ช่องทางการจัดจำหน่าย: การเลือก ช่องทางจำหน่ายสินค้าจีน ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น E-commerce, ร้านค้าปลีก หรือการร่วมมือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่ชัดเจน
การที่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group ได้เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงและเปิดประตูให้ SME ไทยบุกตลาดจีน โดยมีกิจกรรมอย่าง “Kud-Thai Holiday” เป็นเวทีแรก ถือเป็นการลดภาระและความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมหาศาล เพราะ SMEs จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้นำ ได้เข้าถึงเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว และได้สัมผัสกับ ตลาดจีน จริงๆ ก่อนที่จะขยายขนาด ธุรกิจส่งออก ของตนเอง
แนวโน้มปี 2025 และอนาคตของการค้าไทย-จีน
เมื่อมองไปข้างหน้าถึงปี 2025 และหลังจากนั้น ผมเห็นแนวโน้มสำคัญที่จะส่งผลต่อการที่ SME ไทยบุกตลาดจีน:
ความยั่งยืนและสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญกับสินค้าที่ผลิตอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แบรนด์ไทยที่เน้นความยั่งยืนจะมีแต้มต่อ
ประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization): เทคโนโลยี AI และ Big Data จะช่วยให้สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น
Live Commerce และ Social Commerce: ช่องทางการตลาดเหล่านี้จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการ โปรโมทสินค้าจีน และสร้างยอดขาย การสร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งจำเป็น
การรวมช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (Omnichannel): การผสานประสบการณ์การซื้อสินค้าทั้งจากหน้าร้านและช่องทางออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ จะเป็นสิ่งสำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภค
บทสรุปและก้าวต่อไปสำหรับ SMEs ไทย
การที่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผนึกกำลังกับ SCPG Group เป็นมากกว่าความร่วมมือทางธุรกิจ แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงอนาคตที่สดใสของ ความร่วมมือไทย-จีน และ โอกาสทางธุรกิจ อันมหาศาลสำหรับ SME ไทยบุกตลาดจีน สิ่งนี้คือตัวอย่างของการสร้างสรรค์ กลยุทธ์การตลาดจีน และ ช่องทางจำหน่ายสินค้าจีน ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ ผู้ประกอบการไทย สามารถเข้าถึงผู้บริโภคจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อมั่นว่านี่คือช่วงเวลาที่ SMEs ไทยควรใช้โอกาสนี้ในการศึกษา ค้นคว้า และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ ตลาดจีน อย่างเต็มศักยภาพ อย่าปล่อยให้ความกังวลหรือความไม่รู้เป็นอุปสรรค ขอให้คุณมองเห็น “Kud-Thai Holiday” เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันน่าตื่นเต้น และการสร้าง ธุรกิจส่งออก ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
หากคุณคือหนึ่งในผู้ประกอบการ SME ไทยที่เปี่ยมด้วยศักยภาพและกำลังมองหาโอกาสในการขยายตลาดไปยังประเทศจีน อย่าลังเลที่จะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการริเริ่มเช่นนี้ หรือมองหาพันธมิตรและ ที่ปรึกษาธุรกิจจีน ที่จะช่วยนำทางคุณสู่ความสำเร็จใน ตลาดจีน ที่เต็มไปด้วยโอกาสไร้ขีดจำกัด การเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้คือก้าวสำคัญที่จะพา SME ไทยบุกตลาดจีน ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
เราขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการทุกท่านมาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์และปักธงสินค้าไทยในใจผู้บริโภคชาวจีน เพื่อร่วมขับเคลื่อน เศรษฐกิจไทย ให้ก้าวไกลในระดับสากลไปด้วยกัน!

