มิติใหม่แห่งการค้า: เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผนึก SCPG Group เปิดประตูทองให้ SME ไทยบุกตลาดจีนอย่างไร้ขีดจำกัด
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตการณ์การเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกและกลยุทธ์การขยายตลาดของธุรกิจต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง และในห้วงเวลาที่โลกกำลังฟื้นตัวและปรับตัวหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ การมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจจึงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับทุกองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคขนาดมหึมาอย่างประเทศจีน ซึ่งยังคงเป็นเป้าหมายหลักของหลายประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยแล้ว การผลักดัน SME ไทยบุกตลาดจีน ไม่ใช่แค่ความหวัง แต่กำลังจะกลายเป็นความจริงที่จับต้องได้ ด้วยพลังขับเคลื่อนจากความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ คือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจค้าปลีกของไทย และ SCPG Group บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำของจีน
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างสองชาติ ในอดีต การเข้าถึงตลาดจีนสำหรับ SME ไทย มักเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งด้านกฎระเบียบ การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อน และการแข่งขันที่สูง แต่ด้วยการจับมือกันของสองพันธมิตรระดับแนวหน้า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งมีเครือข่ายศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าระดับโลกอย่างสยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ผนวกกับ SCPG Group ที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พัฒนา และบริหารจัดการศูนย์การค้าทั่วประเทศจีน ถือเป็นการสร้างสะพานเชื่อมโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก แต่ยังเป็นการเปิดประตูบานใหญ่ให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายชาวจีนโดยตรง ผ่านช่องทางที่มีศักยภาพและได้รับการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ นี่คือโมเดลต้นแบบของการนำ SME ไทยบุกตลาดจีน ที่คาดว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างมีนัยสำคัญ
การผนึกกำลังเชิงกลยุทธ์: สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการค้าปลีกระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์อันยาวนาน 5 ทศวรรษระหว่างไทยและจีนได้ถูกแปลงเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ในยุคปัจจุบัน ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของตลาดจีน และความต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพจากประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจจับมือกับ SCPG Group จึงไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่เป็นการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ลึกซึ้ง
ในมุมมองของผม เดอะมอลล์ กรุ๊ป ไม่เพียงเป็นผู้นำด้านค้าปลีก แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกในการนำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ SCPG Group สามารถนำมาต่อยอดและผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในจีนได้อย่างลงตัว SCPG Group มีพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุม ทั้งศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นช่องทางสำคัญในการกระจายสินค้าและบริการสู่ผู้บริโภคจีนในวงกว้าง และที่สำคัญคือ SCPG มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในภูมิทัศน์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์จีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนด กลยุทธ์การตลาดต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จ สำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย การเข้าถึงพันธมิตรเช่นนี้จึงเป็นดั่งการปลดล็อกข้อจำกัดเดิมๆ และเปิดทางสู่การ ลงทุนในจีน ที่มีทิศทางชัดเจนและได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ การผสานจุดแข็งนี้จะส่งผลให้ โอกาสทางธุรกิจระหว่างประเทศ ของไทยขยายตัวอย่างก้าวกระโดด
มิสเตอร์เหยา ไฮ่ปัว ประธานกรรมการบริหาร SCPG Group ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และค้าปลีกให้ก้าวสู่ระดับสากล ผ่านการผสานวัฒนธรรม นวัตกรรม และการสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่ นี่ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างรายได้ แต่เป็นการสร้างคุณค่าร่วมกัน (Shared Value) ที่ส่งเสริมทั้งเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ ความร่วมมือนี้เป็นมากกว่าสัญญาทางธุรกิจ เป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะผลักดัน การค้าปลีกระหว่างประเทศ สู่มิติใหม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของ การพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ ของทั้งไทยและจีน
“Kud-Thai Holiday”: เทศกาลนำร่องสู่การพิชิตตลาดจีนของ SME ไทย
หัวใจสำคัญของการเริ่มต้นโครงการนี้คือการจัดเทศกาล “Kud-Thai Holiday” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน “Super-V SCPG Hua Hua Festival” เทศกาลฤดูร้อนประจำปีของ SCPG ณ เมืองเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ ในช่วงวันที่ 18 – 27 กรกฎาคม นี้ ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นประตูสู่ตลาดจีนตอนใน สำหรับ SME ไทย นี่คือโอกาสทองในการทดลองตลาดและสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
จากประสบการณ์ของผม การจัดงานในรูปแบบเทศกาลหรืองานอีเวนต์ขนาดใหญ่เช่นนี้ มีข้อดีมหาศาลในการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงและสร้างประสบการณ์ร่วมกัน SCPG Group ได้เนรมิตพื้นที่ในศูนย์การค้าให้เป็น “Thai Street Culture Experience” จำลองบรรยากาศงาน Kud-Thai Market ซึ่งเป็นอีเวนต์ซิกเนเจอร์ของ Gourmet Market โดยกลุ่มเดอะมอลล์ การนำเสนอสินค้าและบริการภายใต้แนวคิดวัฒนธรรมไทยที่โดดเด่น จะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความแตกต่างให้กับ สินค้าไทยในจีน ซึ่งกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ
ผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอมีหลากหลาย ตั้งแต่สินค้าภายใต้แบรนด์ Gourmet Thai X Butterbear ในกลุ่มขนมไทยยอดนิยม เช่น ทองม้วน ทองแผ่น ข้าวแต๋น ไปจนถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างสตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง มะม่วงอบแห้ง และสินค้ากลุ่ม Grocery Non-Food ที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทยได้อย่างชัดเจน เช่น เสื้อ-กางเกงช้าง และพัดสาน รวมถึงสินค้าจากแบรนด์ THAI THAI ที่มีความโดดเด่น การคัดเลือกสินค้าเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในเทรนด์ผู้บริโภคจีนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเรื่องราวเบื้องหลังของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การแสดงนาฏศิลป์ไทย การสาธิตนวดแผนไทย และเวิร์กช็อปต่างๆ ซึ่งไม่เพียงเป็นการโปรโมทสินค้า แต่ยังเป็นการส่งเสริม วัฒนธรรมไทยในจีน ไปพร้อมกัน
สำหรับ SME ไทย ที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึง ช่องทางการจัดจำหน่ายจีน ระดับพรีเมียม โดยไม่ต้องลงทุนด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายเองในระยะเริ่มต้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล นี่คือแนวคิดการสร้าง การสร้างแบรนด์ในจีน ผ่านประสบการณ์ตรง ซึ่งทรงพลังกว่าการโฆษณาเพียงอย่างเดียว การได้เห็นปฏิกิริยาของผู้บริโภคชาวจีนต่อสินค้าและกิจกรรมต่างๆ จะเป็นข้อมูลอันล้ำค่าสำหรับการวางแผนการตลาดในระยะยาว ทำให้ SME ไทยบุกตลาดจีน ได้อย่างมั่นใจและมีข้อมูลเชิงลึก
สร้างระบบนิเวศการค้าใหม่: มิติแห่งความยั่งยืนสำหรับ SME ไทยในจีน
เป้าหมายสูงสุดของความร่วมมือนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจัดเทศกาลชั่วคราว แต่คือการสร้าง “ระบบนิเวศทางการค้าใหม่” (New Trade Ecosystem) ที่ยั่งยืน ซึ่งเชื่อมโยงวัฒนธรรม นวัตกรรม และโอกาสทางธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบ ผมมองว่านี่คือการยกระดับความร่วมมือไปอีกขั้น โดยเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การบริหารจัดการลูกค้า และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจเพื่อขยายฐานลูกค้าร่วมกันในอนาคต
สำหรับ ที่ปรึกษาการตลาดจีน หลายท่าน คงทราบดีว่าการเข้าใจผู้บริโภคจีนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group จะร่วมกันบริหารจัดการและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า จะช่วยให้ SME ไทย ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า สามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของ ตลาดผู้บริโภคจีน ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันเช่นนี้ยังช่วยลดอุปสรรคด้าน กฎหมายการค้าจีน และข้อกำหนดต่างๆ ที่อาจเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือการนำเสนอ “กลยุทธ์การบริโภครูปแบบใหม่ + กลยุทธ์สู่สากล” ที่ SCPG Group ได้กล่าวถึง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการสร้างประสบการณ์การบริโภคที่น่าดึงดูดใจ และการผลักดันแบรนด์เข้าสู่ตลาดโลก สำหรับ SME ไทย ที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ แต่ยังขาดช่องทางและกลยุทธ์ในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ นี่คือโอกาสอันหาที่เปรียบไม่ได้ ความร่วมมือนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เกิด การวิเคราะห์ตลาดจีน อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และนำไปสู่การปรับปรุง ซัพพลายเชนระหว่างประเทศ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
แนวคิด “กลยุทธ์สู่สากล” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนำสินค้าไทยเข้าสู่จีนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์จีนได้เรียนรู้และเติบโตในเวทีโลกเช่นกัน นี่คือสองทางของการพัฒนาที่เสริมสร้างซึ่งกันและกัน และจะนำไปสู่การเติบโตทาง เศรษฐกิจไทย-จีน ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้นในระยะยาว บทบาทของ E-commerce จีน และ โลจิสติกส์จีน ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศนี้ให้สมบูรณ์แบบ เพราะการเข้าถึงตลาดไม่ได้จบแค่ที่หน้าร้าน แต่รวมถึงการส่งมอบสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวกสบาย
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: โอกาสทองที่ต้องคว้าของ SME ไทยบุกตลาดจีน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่าความร่วมมือระหว่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ข่าวธุรกิจทั่วไป แต่เป็น “Game Changer” ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการขยายตลาดข้ามประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ SME ไทย ที่มักเผชิญข้อจำกัดด้านเงินทุน ประสบการณ์ และเครือข่าย การได้รับโอกาสในการนำเสนอสินค้าในศูนย์การค้าระดับพรีเมียมในเมืองสำคัญของจีน โดยมีพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและจีนคอยสนับสนุน ถือเป็นใบเบิกทางที่ทรงอานุภาพ
สิ่งที่น่าจับตาคือการที่ SCPG Group จะใช้โมเดลนี้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมแบรนด์จีนออกสู่ตลาดโลกเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าความร่วมมือนี้มีศักยภาพที่จะขยายผลและสร้างเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต สำหรับ SME ไทยบุกตลาดจีน นี่คือการลดความเสี่ยงจากการลองผิดลองถูก และเปลี่ยนมาเป็นการเรียนรู้และเติบโตภายใต้การชี้นำของผู้เล่นระดับโลก การที่สินค้าอย่างขนมไทย ผลไม้อบแห้ง หรือแม้แต่ “กางเกงช้าง” ได้รับการจัดแสดงและโปรโมทอย่างมืออาชีพ ย่อมสร้างการรับรู้และความต้องการในหมู่ผู้บริโภคจีนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ผมคาดการณ์ว่า เทรนด์ผู้บริโภคจีนในปี 2025 และปีต่อๆ ไป จะยังคงให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคุณภาพ เรื่องราวที่น่าสนใจ และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร สินค้าและวัฒนธรรมไทยมีจุดแข็งเหล่านี้อย่างครบถ้วน การที่พันธมิตรใหญ่เข้ามาช่วยจัดหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสม จึงเป็นการเร่งให้ SME ไทย สามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยืนหยัดที่จะเป็นหนึ่งในพลังสำคัญของภาคเอกชนไทยในการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืน ไม่ใช่แค่ผลกำไรระยะสั้น
สำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย ที่กำลังมองหาโอกาส การศึกษาและทำความเข้าใจโมเดลความร่วมมือนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การนำสินค้าเข้าสู่ตลาดจีน ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่คือการสร้างแบรนด์ สร้างประสบการณ์ และสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค การได้ร่วมงานกับแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพและได้รับการยอมรับเช่นนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเป็นบทพิสูจน์ว่า SME ไทยบุกตลาดจีน สามารถทำได้จริง หากมีพันธมิตรที่ถูกต้องและกลยุทธ์ที่เฉียบคม
สรุปและคำเชิญชวน: ก้าวต่อไปของ SME ไทยในตลาดมังกร
ความร่วมมือระหว่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป และ SCPG Group ในโอกาสเฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน นับเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่พลิกโฉมภูมิทัศน์การค้าปลีกระหว่างประเทศ และเป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดออกสู่โอกาสอันไร้ขีดจำกัดสำหรับ SME ไทยบุกตลาดจีน อย่างแท้จริง การเริ่มต้นด้วยเทศกาล “Kud-Thai Holiday” ในเมืองเศรษฐกิจหลักอย่างเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ เป็นเพียงก้าวแรกของการสร้างระบบนิเวศทางการค้าใหม่ ที่ไม่เพียงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสินค้า แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรม และประสบการณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อมั่นว่านี่คือโมเดลความสำเร็จที่สามารถต่อยอดและขยายผลได้ในระยะยาว เพื่อให้ SME ไทย ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในตลาดจีน การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่คือการสร้างแบรนด์ สร้างเรื่องราว และสร้างความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างผู้คนสองชาติ
หากท่านเป็นผู้ประกอบการ SME ไทย ที่มีความมุ่งมั่น มีสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพและอัตลักษณ์โดดเด่น นี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพิจารณาโอกาสในการขยายตลาดสู่ประเทศจีน ความสำเร็จของโครงการนำร่องนี้จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการอีกมากมาย ผมขอเชิญชวนให้ทุกท่านศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสเหล่านี้ เตรียมความพร้อมของธุรกิจ และมองหาช่องทางในการเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนี้ เพื่อให้ SME ไทย ได้ผงาดในตลาดจีน และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีโลกอย่างภาคภูมิใจ หากต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์และ การนำเข้าส่งออก สินค้าสู่ตลาดจีน ท่านสามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อช่วยนำทางให้ธุรกิจของท่านประสบความสำเร็จได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

