ถอดรหัสโรดแมป “พลัสก่อการดี”: กลยุทธ์ ESG แห่งอนาคตเพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืนในยุค 2025
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตและเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังพลิกโฉมภูมิทัศน์ของธุรกิจนี้ หนึ่งในกระแสที่ไม่อาจมองข้ามคือการบูรณาการหลักการ ESG (Environmental, Social, and Governance) เข้ากับการดำเนินงาน ซึ่งไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างมูลค่าระยะยาว ผมเชื่อมั่นว่าองค์กรอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าใจและนำ กลยุทธ์ ESG มาปรับใช้ได้อย่างแท้จริง จะเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการอยู่อาศัย
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ หนึ่งในผู้นำด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยครบวงจร ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าด้วยการเปิดตัวโรดแมป “พลัสก่อการดี” ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อน กลยุทธ์ ESG ระยะยาว ภายใต้แนวคิดหลักที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี (Quality of Life and Well-being) ให้กับทุกภาคส่วน นี่คือบทวิเคราะห์เชิงลึกที่ถอดรหัสแนวคิดและ 5 กลยุทธ์ ESG หลักของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการวางรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนสำหรับอนาคต
มิติใหม่แห่งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์: ทำไม ESG จึงสำคัญยิ่งกว่าที่เคย
ในบริบทของปี 2025 และอนาคตข้างหน้า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้พิจารณาเพียงแค่ผลตอบแทนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบเชิงบวกที่ธุรกิจมีต่อโลกและสังคม หลักการ ESG ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความยั่งยืนขององค์กร ดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนที่ใส่ใจใน “การลงทุน ESG” และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใน “โครงการที่อยู่อาศัยยั่งยืน”
จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า กลยุทธ์ ESG ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยเหตุผลหลายประการ:
การบริหารความเสี่ยง: การละเลยประเด็นสิ่งแวดล้อมอาจนำไปสู่ความเสี่ยงจากกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น หรือความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น การบริหารจัดการสังคมที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งกับชุมชน ส่วนธรรมาภิบาลที่อ่อนแอคือบ่อเกิดของการทุจริตและภาพลักษณ์เสียหาย
การสร้างมูลค่า: โครงการที่อยู่อาศัยที่ออกแบบและบริหารจัดการโดยคำนึงถึง กลยุทธ์ ESG มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว ดึงดูดผู้เช่าหรือผู้ซื้อที่ยินดีจ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าและผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น “คอนโดมิเนียม ESG” หรือ “บ้านจัดสรรเพื่อสุขภาพ” ที่มีนวัตกรรมสีเขียวมักได้รับความนิยมสูง
การดึงดูดและรักษาบุคลากร: พนักงานรุ่นใหม่มองหาองค์กรที่มีจุดยืนและค่านิยมที่สอดคล้องกับตนเอง การมี กลยุทธ์ ESG ที่ชัดเจนช่วยสร้างภาพลักษณ์นายจ้างที่ดี ดึงดูดผู้มีความสามารถ และลดอัตราการลาออก
ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์แบรนด์: ในโลกที่เชื่อมโยงถึงกัน ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายรวดเร็ว ความโปร่งใสและการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้ในระยะยาว พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กำลังสร้างสิ่งนี้ผ่านโรดแมป “พลัสก่อการดี”
“พลัสก่อการดี”: พิมพ์เขียวแห่งการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน
โรดแมป “พลัสก่อการดี” ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้เป็นเพียงการประกาศเจตนารมณ์ แต่คือพิมพ์เขียวที่ครอบคลุมและลงรายละเอียดในทุกมิติของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การนำของ คุณนฤมล อาภรณ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารอาคาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เน้นย้ำถึงแก่นสำคัญของ กลยุทธ์ ESG ในการพัฒนาโครงการทั้งหมดให้มีความพร้อมด้านสุขภาพกาย–สุขภาพใจ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างสังคมอยู่อาศัยที่ดีอย่างยั่งยืน ผมมองว่านี่คือแนวทางที่ครบวงจรและตอบโจทย์ความท้าทายของยุคสมัย
เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์นี้ให้เป็นรูปธรรม พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้วาง 5 กลยุทธ์ ESG หลักที่น่าสนใจ ดังนี้:
Environment Management (การจัดการสิ่งแวดล้อม): บ่มเพาะสิ่งแวดล้อมสู่สังคมไร้คาร์บอน
หัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืนคือการดูแลสิ่งแวดล้อม โครงการนี้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการสู่ Low Carbon Society (สังคมคาร์บอนต่ำ) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผมเห็นว่านี่เป็นภารกิจที่ท้าทายแต่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
แคมเปญ “Waste to Worth”: การส่งเสริมการคัดแยกขยะอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปีนี้ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการเปลี่ยน “ขยะ” ให้เป็น “มูลค่า” ไม่ใช่แค่การลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัด แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้และพฤติกรรมที่ยั่งยืนให้กับลูกบ้าน การนำขยะรีไซเคิลมาแลกไข่ไก่ในกิจกรรม “คัด-แยก-แลก-สุข” ถือเป็นกุศโลบายที่แยบยลในการกระตุ้นการมีส่วนร่วม และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากขยะได้อย่างมีนัยสำคัญ
การลดใช้พลังงาน: การลงทุนในเทคโนโลยีและระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานในโครงการ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน (พลังงานสะอาด) ระบบ Smart Building ที่ควบคุมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการออกแบบอาคารให้สอดรับกับธรรมชาติเพื่อลดความร้อน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง “การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม” อย่างจริงจังตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบจะช่วยให้สามารถเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดภาระต่อโลก
กิจกรรมสวนผัก Backyard: สนับสนุนการปลูกพืชปลอดสารภายในโครงการ ถือเป็นการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบยั่งยืน สร้างพื้นที่สีเขียว และยังเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชนอีกด้วย นี่คือ “โซลูชันเพื่อความยั่งยืน” ขนาดเล็กแต่ทรงพลังที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างคาดไม่ถึง
เป้าหมาย Net Zero ปี 2050: การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นระยะยาวในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อน ซึ่งจะต้องมาพร้อมกับการลงทุนใน “ใบรับรองอาคารเขียว” ระดับสากล เช่น LEED หรือ TREES เพื่อเป็นเครื่องยืนยันมาตรฐาน
Care for Community (การดูแลชุมชน): สร้างสังคมแห่งความผูกพันและแบ่งปัน
อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เป็นเพียงอาคารอิฐปูน แต่คือศูนย์รวมของชีวิตและชุมชน การดูแลชุมชนจึงเป็นหัวใจสำคัญของมิติ Social ใน กลยุทธ์ ESG ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างรากฐานของความยั่งยืนที่แท้จริง
กิจกรรม “พลัสปันสุข”: การพัฒนาความสัมพันธ์กับชุมชนรอบโครงการผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การปรับปรุงพื้นที่โรงเรียน การทำแปลงผักปลอดสาร และการสนับสนุนอาหารกลางวันเด็ก เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ที่กว้างขวางกว่าแค่ภายในโครงการ นี่คือการลงทุนในอนาคตของสังคมโดยรวม
ระบบแลกเปลี่ยนสิ่งของของลูกบ้าน: การสร้างแพลตฟอร์มให้ลูกบ้านได้แลกเปลี่ยนสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังส่งเสริมการแบ่งปันและสร้างรายได้สนับสนุนมูลนิธิยุวพัฒน์ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและ กลยุทธ์ ESG ที่เชื่อมโยงกับการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
การมีส่วนร่วมของลูกบ้าน: การสร้างโอกาสให้ลูกบ้านมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน เช่น “เพื่อนบ้านอาสา” เป็นการสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความผูกพัน ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมที่เข้มแข็ง
Health & Wellbeing (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี): ยกระดับสุขภาวะองค์รวมอย่างยั่งยืน
ในยุคที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การพัฒนา “โครงการที่อยู่อาศัยยั่งยืน” ต้องรวมถึงมิติของสุขภาวะที่ดีด้วย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ยกระดับมาตรฐานนี้ผ่าน กลยุทธ์ ESG ที่เน้นเรื่องสุขภาพอย่างจริงจัง
กิจกรรม Active Lifestyle: การส่งเสริมการออกกำลังกายและกิจกรรมที่กระตุ้นให้ลูกบ้านมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉง เป็นสิ่งที่ “บ้านจัดสรรเพื่อสุขภาพ” หรือ “คอนโดมิเนียม ESG” ควรมี ซึ่งรวมถึงการจัดคลาสออกกำลังกายและกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพหลากหลายรูปแบบ
ความร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ: การจับมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช-แสนสิริ เพื่อส่งบริการแพทย์ถึงโครงการ ถือเป็นการนำเสนอคุณค่าที่เหนือกว่า (Value Proposition) และเป็นการสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ “อสังหาริมทรัพย์ กรุงเทพฯ” ที่มีการแข่งขันสูง การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่สะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกช่วงวัย
การดูแลสุขภาพกายและใจ: การจัดกิจกรรมที่ครอบคลุมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เป็นการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ “คุณภาพชีวิต” ที่ยั่งยืน
Multi-generations Society (สังคมหลากหลายเจเนอเรชัน): ออกแบบพื้นที่เพื่อการเรียนรู้และอยู่ร่วมกันของทุกวัย
การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่รองรับความต้องการของคนหลายช่วงวัยเป็นความท้าทายที่สำคัญของ กลยุทธ์ ESG ในปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ใช้แนวคิดนี้เพื่อสร้างสังคมที่หลอมรวมและเอื้อต่อการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
“Community Connector”: ทีมนิติบุคคลที่ทำหน้าที่เป็น “Community Connector” เปรียบเสมือนกาวใจที่เชื่อมโยงคนในโครงการเข้าด้วยกัน การจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกวัยมีส่วนร่วม เช่น โครงการเพื่อนบ้านอาสาเพื่อแบ่งปันทักษะและประสบการณ์ เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายและลดช่องว่างระหว่างวัย
พื้นที่สำหรับการเรียนรู้และแลกเปลี่ยน: การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเวิร์คช็อป การสอนพิเศษ หรือการรวมกลุ่มทำกิจกรรมยามว่าง เป็นการส่งเสริมการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์
การเคารพความแตกต่าง: การสร้างความเข้าใจและการเคารพในความแตกต่างของแต่ละเจเนอเรชันเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข นี่คือมิติที่สำคัญของมิติ Social ใน กลยุทธ์ ESG
Lifelong Education (การเรียนรู้ตลอดชีวิต): ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร กลยุทธ์ ESG ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ขยายขอบเขตของการศึกษาไปสู่ลูกบ้าน พนักงาน และชุมชนโดยรอบ
โครงการพัฒนาทักษะการทำงาน: การสนับสนุนพนักงานให้พัฒนาทักษะใหม่ๆ และมีความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัย เป็นการลงทุนในทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร
กิจกรรมเพิ่มศักยภาพลูกบ้านและชุมชน: การจัดเวิร์คช็อปหรือคอร์สเรียนสั้นๆ ที่ต่อยอดได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการการเงินส่วนบุคคล การปลูกผักออร์แกนิก หรือทักษะดิจิทัล เป็นการสร้างเสริมศักยภาพให้กับผู้อยู่อาศัยและชุมชน ทำให้พวกเขาสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้: การที่พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่งเสริมให้ทั้งองค์กรมีการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของธรรมาภิบาล (Governance) ที่คำนึงถึงการพัฒนาบุคลากรอย่างยั่งยืน ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลด “การบริหารความเสี่ยง ESG” ในระยะยาว
เหนือกว่า 5 กลยุทธ์: รากฐานแห่งความเป็นเลิศและธรรมาภิบาล
นอกเหนือจาก 5 กลยุทธ์ ESG หลักที่กล่าวมา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังให้ความสำคัญกับมาตรฐานการทำงานระดับสากล ซึ่งสะท้อนถึงธรรมาภิบาล (Governance) ที่แข็งแกร่ง ผมมองว่านี่คือสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือและความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด “อสังหาริมทรัพย์ กรุงเทพฯ” อย่างแท้จริง
การรับรอง ISO: การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ครอบคลุมทั้ง ISO 9001 (ระบบบริหารงานคุณภาพ), ISO 41001 (การบริหารทรัพยากรกายภาพ) และ ISO 14001 (ระบบสิ่งแวดล้อม) ไม่เพียงแต่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเป็นเลิศ แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ให้บริการ Property Management รายแรกและรายเดียวที่มีมาตรฐานครอบคลุมทุกโครงการในพอร์ตทั้งหมดกว่า 440 โครงการ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม และสร้างความมั่นใจให้กับทั้งลูกบ้านและ “การลงทุน ESG”
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้: การมีระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล ช่วยให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และลดโอกาสในการเกิดความผิดพลาด นี่คือหัวใจสำคัญของธรรมาภิบาลที่ดี
การบริหารความเสี่ยง ESG: มาตรฐาน ISO เหล่านี้ยังช่วยให้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สามารถระบุและจัดการ “การบริหารความเสี่ยง ESG” ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน และสร้างโอกาสในการสร้าง “ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืน” ให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผลกระทบระยะยาว: อนาคตของอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืน
โรดแมป “พลัสก่อการดี” ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้เป็นเพียงโครงการที่จบลงในระยะเวลาอันสั้น แต่เป็นพันธกิจระยะยาวที่มุ่งสร้าง ecosystem การอยู่อาศัยที่เอื้อต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง ผมเชื่อว่าแนวทางนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย ไม่ใช่แค่สำหรับพลัส พร็อพเพอร์ตี้ แต่สำหรับอุตสาหกรรมโดยรวมและสังคมในวงกว้าง
การเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์: โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับการบริหารจัดการตาม “กลยุทธ์ ESG” จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว เนื่องจากตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น
การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง: การเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน กลยุทธ์ ESG ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการแข่งขันในตลาด “อสังหาริมทรัพย์” ที่ดุเดือด
การดึงดูดนักลงทุน: นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลกให้ความสนใจใน “การลงทุน ESG” มากขึ้นเรื่อยๆ การมีโรดแมปที่ชัดเจนและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ
การสร้างสังคมที่เข้มแข็ง: การลงทุนในชุมชนและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยเป็นการสร้างรากฐานของสังคมที่เข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
การเป็นต้นแบบ: พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กำลังวางมาตรฐานใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่นๆ หันมาให้ความสำคัญกับ “โซลูชันเพื่อความยั่งยืน” และ กลยุทธ์ ESG มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกพื้นที่อยู่อาศัยมีความหมาย และสามารถส่งต่อคุณค่าที่ดีไปยังชุมชนโดยรอบได้อย่างต่อเนื่อง
ก้าวต่อไปกับ ESG: มาร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ กลยุทธ์ ESG ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์สู่ยุคใหม่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการลงทุนในการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงภาระค่าใช้จ่าย แต่คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งในเชิงธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่ “ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืน” อย่างแท้จริง
หากคุณเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการ “การลงทุน ESG” หรือแม้แต่ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจใน “คุณภาพชีวิต” และอนาคตของโลก ผมขอแนะนำให้ศึกษาแนวทางของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ และโรดแมป “พลัสก่อการดี” อย่างละเอียด การทำความเข้าใจใน 5 กลยุทธ์ ESG เหล่านี้ จะช่วยให้คุณเห็นภาพของ “โครงการที่อยู่อาศัยยั่งยืน” แห่งอนาคต และเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเพื่อโลกใบนี้ต่อไป มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนครับ

