• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512128 เป นแม แต สอนล กให ทำแต เร องไม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 9, 2025
in Uncategorized
0
D0512128 เป นแม แต สอนล กให ทำแต เร องไม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

อนาคตเศรษฐกิจไทย 2025: ปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ดึงดูดการลงทุน ลดหนี้ครัวเรือน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ผู้คร่ำหวอดในวงการมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตการณ์และวิเคราะห์พลวัตของเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด การก้าวเข้าสู่ปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านทางปฏิทิน แต่คือห้วงเวลาสำคัญที่ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับความจริงเชิงโครงสร้างอันซับซ้อน และจำเป็นต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อกำหนดทิศทางอนาคต ท่ามกลางภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและความท้าทายภายในประเทศที่สั่งสมมานาน โจทย์สำคัญของเราคือจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยหลุดพ้นจากกับดักการเติบโตต่ำกว่า 1-2% และก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพอย่างแท้จริง

จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา ผมเชื่อว่าหนทางข้างหน้าไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการ “รื้อ” และ “สร้าง” โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด เสียงสะท้อนจากภาคเอกชนชั้นนำ ทั้งในแวดวงการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า นี่คือปีที่เราต้องหยุดการเติบโตที่เชื่องช้า ดูดซับการลงทุนจากต่างประเทศ และยุติวงจรของนโยบายประชานิยมที่บ่อนทำลายเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว

เจาะลึกปัญหาเชิงโครงสร้าง: วิกฤต GDP ต่ำและความเหลื่อมล้ำ

หากเรายังคงดำเนินธุรกิจแบบเดิม สภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2025 และปีต่อ ๆ ไปก็คงไม่ต่างจากที่ผ่านมามากนัก คือเติบโตอย่างเชื่องช้าในระดับ 1-2% ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่อาจพาประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยก้าวไปข้างหน้าได้ GDP ต่อหัวของไทยที่ยังคงวนเวียนอยู่ราว 7,000 เหรียญสหรัฐฯ นั้น ตอกย้ำว่าเรากำลังถูกประเทศเพื่อนบ้านที่เคยตามหลังแซงหน้าไป สิ่งนี้ไม่ใช่เพียงตัวเลขทางสถิติ แต่สะท้อนถึงคุณภาพชีวิต โอกาสในการยกระดับรายได้ และความสามารถในการแข่งขันของคนไทยทั้งประเทศ การปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปย่อมหมายถึงการที่เราถอยห่างจากเวทีโลกมากขึ้นทุกที

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่านี่คือสัญญาณอันตรายที่ต้องการการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน การเติบโตที่ต่ำเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งผลิตภาพแรงงานที่ stagnate การลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอ นวัตกรรมที่ยังไม่ถูกขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ และการพึ่งพาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจเดิม ๆ ที่เริ่มหมดแรง รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะต้องกล้าหาญพอที่จะผ่าตัดโครงสร้างที่เปราะบางนี้ และวางรากฐานสำหรับการเติบโตในระยะยาว

หนี้ครัวเรือนไทย 2025: ระเบิดเวลาที่ต้องปลดชนวน

หนึ่งในประเด็นที่วิกฤตและส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจโดยรวมคือปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจนน่าเป็นห่วงในปี 2025 หนี้สินนี้ไม่ใช่เพียงภาระของแต่ละครัวเรือน แต่คือกับดักที่ฉุดรั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค ลดทอนความสามารถในการก่อหนี้ใหม่เพื่อลงทุนหรือซื้อที่อยู่อาศัย และทำให้ประสิทธิผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

จากมุมมองของผู้บริหารสถาบันการเงินขนาดใหญ่ หนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 80% ของ GDP นั้นเป็นตัวเลขที่ไม่อาจมองข้ามได้ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ผลจริงจัง ไม่ใช่เพียงการบรรเทาเฉพาะหน้า เศรษฐกิจก็จะไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การแก้ไขต้องครอบคลุมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ การให้ความรู้ทางการเงิน และการสร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชน เพื่อให้ระดับหนี้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ที่สำคัญคือต้องไม่ใช่แค่การผลักภาระหนี้ไปให้ AMC หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ แต่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อทุกภาคธุรกิจ ไม่ใช่แค่ภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น

ดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ (FDI): พลิกโฉมโครงสร้างการผลิตและเศรษฐกิจดิจิทัล

เพื่อหลีกหนีการเติบโตต่ำ ประเทศไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต การส่งออก และเพิ่มผลิตภาพรวมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV), อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ดิจิทัลอีโคโนมี, การแพทย์และเวลเนส, หรือพลังงานสะอาด

ในปี 2025 การแข่งขันเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลต้องยกระดับบทบาทของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ใช่เพียงยอดตัวเลขการขอรับสิทธิประโยชน์ แต่ต้องสามารถแปลงไปสู่การลงทุนจริงที่ก่อให้เกิดการจ้างงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งด้านกฎหมาย แรงงานที่มีทักษะ และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วงชิงเม็ดเงินลงทุนเหล่านี้

เครื่องยนต์หลัก: การส่งออกและการท่องเที่ยวในโลกยุคใหม่

การส่งออกและการท่องเที่ยว ยังคงเป็นสองเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด แต่ในปี 2025 เราไม่อาจพึ่งพาตลาดเดิม ๆ หรือรูปแบบการท่องเที่ยวแบบเดิมได้อีกต่อไปแล้ว

ภาคการส่งออก: ต้องเร่งปรับตัวสู่การส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น (High-value products) และขยายตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น กลุ่มประเทศ ASEAN, ตะวันออกกลาง, อินเดีย หรือตลาดที่กำลังเติบโตในแอฟริกา การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีอยู่ และการเร่งเจรจา FTA ฉบับใหม่ จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ การผลักดันให้ภาคการผลิตปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในระยะยาวได้

ภาคการท่องเที่ยว: ต้องมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ (Quality Tourism) มากกว่าปริมาณ ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง กลุ่ม Wellness Tourism และกลุ่ม Digital Nomads ที่กำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงลึกและยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานสากล การยกระดับความปลอดภัย และการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน การเชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยวเข้ากับเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-economy) และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการจะช่วยยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาล

ลด-เลิกนโยบายประชานิยม: สร้างวินัยทางการคลังเพื่ออนาคต

หนึ่งในจุดยืนที่ชัดเจนของนักบริหารการเงินระดับประเทศคือ การที่รัฐบาลควรลด ละ เลิกนโยบายประชานิยมที่เน้นการแก้ปัญหาระยะสั้นและบั่นทอนวินัยทางการคลังในระยะยาว ในปี 2025 ที่งบประมาณมีจำกัดและภาระหนี้สาธารณะเริ่มสูงขึ้น การใช้จ่ายแบบประชานิยมที่ไม่ได้สร้างผลิตภาพหรือการลงทุนที่ยั่งยืน จะกลายเป็นภาระหนักอึ้งของคนรุ่นหลัง

บทบาทของรัฐบาลควรเปลี่ยนจากการแจกจ่ายเงินไปสู่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนด้วยกลไกตลาด การรักษาเสถียรภาพทางการคลังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากทำได้ ตลาดหุ้นไทยก็จะตอบรับในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ

ตลาดหุ้น: หัวใจของการระดมทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นคือแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับภาคเอกชน และเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่น่าเสียดายที่ในอดีตบทบาทของตลาดหุ้นไทยยังไม่ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ รัฐบาลชุดใหม่ในปี 2025 ต้องให้ความสำคัญกับตลาดทุนมากกว่าที่ผ่านมา และต้องบริหารจัดการให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับการเติบโตของตลาดหุ้นได้ ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มผู้มีรายได้สูงเท่านั้น

หากตลาดหุ้นได้รับการบริหารจัดการที่ดี มีกลไกที่โปร่งใส มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย และมีนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนทั้งจากรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ตลาดหุ้นจะสามารถสร้าง “พายุหมุน” ทางเศรษฐกิจได้หลายรอบ กล่าวคือ เมื่อตลาดหุ้นขาขึ้น ผู้คนจะมีกำไร มีความรู้สึกมั่งคั่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้นในระบบเศรษฐกิจทันที นอกจากนี้ ตลาดทุนยังเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ SME และ Start-up ผ่านการระดมทุนที่ยืดหยุ่น การส่งเสริมการออกหุ้น IPO ของธุรกิจนวัตกรรมและอุตสาหกรรม S-Curve จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว

เสถียรภาพทางการเมืองและทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ

หัวใจสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้คือ เสถียรภาพทางการเมืองและการมีทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลบ่อยครั้ง หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายไปมา ทำให้ขาดความต่อเนื่องและสร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการความชัดเจนและคาดการณ์ได้

ในปี 2025 การเมืองไทยจำเป็นต้องมีความนิ่ง มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง และมีทีมเศรษฐกิจที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นเอกภาพ สามารถกำกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แยกส่วนกันบริหารดังที่เคยเป็นมา การมี “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ที่ทรงอิทธิพลและสามารถคุมบังเหียนได้อย่างแท้จริง จะช่วยให้การกำหนดและดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างมีทิศทางและมีประสิทธิภาพ

อสังหาริมทรัพย์ 2025: ความท้าทายครั้งใหญ่ในรอบ 2 ทศวรรษ

ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2025 ยังคงเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่หลวงที่สุดในรอบ 20 ปี ทั้งจากอุปทานและอุปสงค์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่วส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งสูงถึง 50-70% ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของภาคส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความท้าทาย แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังมีโอกาส หากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนโดยตรง และหนุนให้ตลาดกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง นอกจากนี้ การส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จะสร้างดีมานด์ใหม่ๆ และเปิดโอกาสสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ การสนับสนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Building) และการตอบรับเทรนด์การอยู่อาศัยแบบ Smart Living จะเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตลาดในปี 2025

ยกระดับ Ease of Doing Business และขจัดคอร์รัปชัน

สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติต้องการคือ ความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) และการขจัดปัญหาคอร์รัปชันในระบบราชการ ต้นทุนแฝงที่เกิดจากการติดต่อขอใบอนุญาตต่าง ๆ การใช้เวลานานในการดำเนินเรื่อง และความไม่โปร่งใส ล้วนเป็นอุปสรรคที่บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยอย่างมหาศาล

ในปี 2025 รัฐบาลต้องเร่งปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในกระบวนการขออนุญาตต่างๆ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ และลดโอกาสของการทุจริต การมีศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ที่ทำงานได้อย่างแท้จริง จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างชาติได้อย่างมหาศาล และเป็นสัญญาณว่าประเทศไทยพร้อมเปิดรับการลงทุนอย่างจริงใจ

เพิ่มศักยภาพแรงงานสู่ S-Curve: การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์

เศรษฐกิจไทยจะก้าวต่อไปได้รวดเร็วขึ้น หากเราสามารถเพิ่มศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ การ Upskill และ Reskill คนไทยให้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม New S-Curve เช่น AI, Robotics, Biotech, การแพทย์ขั้นสูง และพลังงานหมุนเวียน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน

รัฐบาลต้องร่วมมือกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาเพื่อปรับปรุงหลักสูตรการเรียนรู้ให้ทันสมัย ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาทักษะดิจิทัลและทักษะแห่งอนาคต เพื่อให้แรงงานไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นที่ต้องการในตลาดโลก ซึ่งไม่เพียงแต่จะดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของคนไทยในระยะยาว

Wellness และโลจิสติกส์: พระเอกเศรษฐกิจไทยที่ไม่ควรมองข้าม

ประเทศไทยมีจุดแข็งที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับระดับโลก นั่นคือ “Wellness” และธุรกิจที่อิงการบริการ คนไทยมี Service Mind ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นจุดได้เปรียบที่สำคัญ การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์ และการบริการสำหรับผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อสูง จะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้มหาศาล

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (Regional Logistic Location) อยู่ตรงกลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากเรามีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางรถไฟความเร็วสูง หรือท่าเรือน้ำลึก จะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมและบริการของไทยในเวทีโลก การเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์เข้ากับเศรษฐกิจดิจิทัลจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ใน E-commerce และการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภูเก็ต: ต้นแบบเมืองท่องเที่ยวระดับโลกกับการพัฒนาที่รอคอย

จังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่สร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความท้าทายที่ต้องได้รับการแก้ไข ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ เช่น การจราจรติดขัด ขยะล้นเมือง น้ำประปาไม่พอใช้ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการรักษามาตรฐานของเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

ในปี 2025 การพัฒนาเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ (รถไฟฟ้า, ทางด่วน) การบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืน และการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวสำหรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าอยู่และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างแท้จริง การมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่และการรับฟังปัญหาจากภาคเอกชน จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาที่ตอบโจทย์และยั่งยืน

ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างกล้าหาญ

ปี 2025 คือช่วงเวลาแห่งโอกาสและความท้าทายที่ไม่อาจละเลยได้ ประเทศไทยยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญ เราจะเลือกรักษาการเติบโตแบบเดิม ๆ ที่เชื่องช้า หรือจะกล้าหาญพอที่จะผ่าตัดโครงสร้าง ปฏิรูปอย่างจริงจัง และลงทุนในอนาคตเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน และเป็นธรรมสำหรับคนไทยทุกคน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อมั่นว่าศักยภาพของประเทศไทยมีสูงลิ่ว เรามีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบ และที่สำคัญที่สุดคือคนไทยที่มีความสามารถและหัวใจบริการ หากรัฐบาล ประชาชน และภาคเอกชนสามารถผนึกกำลัง ร่วมมือกันด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและเป้าหมายเดียวกัน ผมเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถพลิกฟื้นและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

ได้เวลาแล้วที่เราจะลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงแค่การพูดคุย แต่เป็นการสร้างสรรค์อนาคตที่เราทุกคนปรารถนา มาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อคนรุ่นเราและคนรุ่นต่อไป

Previous Post

D0512127 คนงานก อสร างแม กอ อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512129 หญ งต างด าวขอความช วยเหล อผ านฟ กเข ยว(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512129 หญ งต างด าวขอความช วยเหล อผ านฟ กเข ยว(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512129 หญ งต างด าวขอความช วยเหล อผ านฟ กเข ยว(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D0512194 แม าข าวแกง ไร ความร บผ ดชอบ(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512193 แม าข โกง กะเพราหม กรอบ บาทให แค แมค AN บแนวต ง(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512196 ของเซอร ไพรส จากเม ยเก าท ทำให เม ยใหม อค(ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512192 แต งต วหร ไหนได เป นโจร (ละครส น) หน งส นด BSC part2
  • D0512191 ทำย งไงให คนเกล ยดขนาดน เช อแม แม อาบน ำร อนมาก อน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.