• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512108 แม าแกงส มใต ได แล วล มผ พระค (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 9, 2025
in Uncategorized
0
D0512108 แม าแกงส มใต ได แล วล มผ พระค (ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกศักยภาพเศรษฐกิจไทย 2025: ทิศทางใหม่สู่การเติบโตยั่งยืนและดึงดูดการลงทุนระดับโลก

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงเศรษฐกิจและการเงินมานานกว่าทศวรรษ ผมเห็นถึงพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของประเทศไทย และตระหนักดีว่าปี 2025 เป็นหมุดหมายสำคัญที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับโอกาสและความท้าทายที่ไม่อาจมองข้าม สัญญาณเตือนจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่น่าผิดหวังในระดับ 1-2% มาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการ “รื้อโครงสร้าง” ที่ลึกซึ้งและจริงจัง เพื่อหลีกหนีจากกับดักการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง และก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพบนเวทีโลก นี่ไม่ใช่เพียงแค่การปรับจูนนโยบายเล็กน้อย แต่คือการปฏิวัติความคิดและแนวทางการบริหารจัดการประเทศครั้งใหญ่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

เสียงสะท้อนจากนักธุรกิจชั้นนำในภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และการบริการ ต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามา หรือที่อยู่ในอำนาจ จะต้องมีความกล้าหาญทางนโยบาย และมองข้ามผลประโยชน์ระยะสั้น ไปสู่การสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่การเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่คือการกำหนดอนาคตของประเทศไทยว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางใด ท่ามกลางบริบททางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน การฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นหัวใจสำคัญ เราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของการลงทุนที่มีอนาคตและเสถียรภาพ

ปลดแอกประเทศไทยจากกับดัก GDP ต่ำ: วิกฤตที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

จากประสบการณ์ตรง ผมยืนยันได้ว่าอัตราการเติบโตของ GDP ที่วนเวียนอยู่แค่ 1-2% นั้น “ไม่เพียงพอ” อย่างยิ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากศักยภาพและทรัพยากรที่เรามีอยู่ ตัวเลข GDP ต่อหัวที่ยังคงอยู่ที่ราว 7,000 เหรียญสหรัฐฯ สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่าเรากำลังถอยห่างจากประเทศเพื่อนบ้านที่เคยตามหลังเรา แต่กลับก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่คือ “บาดแผลเรื้อรัง” ที่รอการรักษาอย่างจริงจัง

หนึ่งในปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงคือ “หนี้ครัวเรือน” ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จากตัวเลขที่ควรจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 80% ของ GDP กลับยังคงเป็นเงาตามหลอนที่กัดกินกำลังซื้อและโอกาสในการเติบโตของภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ผมเห็นด้วยกับมุมมองที่ว่า หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม มันจะกลายเป็น “กับดัก” ที่ขยับเขยื้อนได้ยากยิ่ง ไม่ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สวยหรูเพียงใด ก็อาจไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อเพียงพอ การแก้ไขปัญหานี้จึงไม่ใช่แค่การให้ยาหอม แต่ต้องเป็นการผ่าตัดโครงสร้างหนี้และสร้างวินัยทางการเงินที่ยั่งยืน เพื่อให้ครัวเรือนไทยสามารถยืนหยัดและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง

เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ เราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 3-4% ซึ่งเป็นระดับที่สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง การบรรลุเป้าหมายนี้ต้องอาศัยการมองภาพรวมอย่างรอบด้าน ทั้งนโยบายการคลัง การเงิน การลงทุน และการปฏิรูประบบราชการ ซึ่งทุกส่วนต้องทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพและต่อเนื่อง

แม่เหล็กดึงดูด FDI: ยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อการลงทุนระดับโลกในยุค 2025

ในโลกยุค 2025 ที่การแข่งขันดุเดือดและเทคโนโลยีก้าวล้ำ “การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)” ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็น “หัวใจ” สำคัญในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตของประเทศ เราต้องการ FDI ที่มีคุณภาพสูงและมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) อาทิ เทคโนโลยีดิจิทัล, พลังงานสะอาด, ชีวภาพ, การแพทย์และสุขภาพ รวมถึงอุตสาหกรรมขั้นสูง ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และเปลี่ยนโครงสร้างสินค้าส่งออกให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

มาตรการส่งเสริมการลงทุนของ BOI นั้นดีอยู่แล้วในหลักการ แต่สิ่งที่เราต้องการเห็นคือ “ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม” ไม่ใช่แค่ยอดตัวเลขคำขอรับสิทธิ์ ผมเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติมองหามากกว่าแค่สิทธิประโยชน์ทางภาษี พวกเขามองหาความมั่นคงทางนโยบาย กฎระเบียบที่ชัดเจนและเป็นธรรม กระบวนการที่รวดเร็ว ไม่ซับซ้อน แรงงานที่มีทักษะตรงตามความต้องการ รวมถึงระบบนิเวศนวัตกรรมที่เอื้อต่อการวิจัยและพัฒนา ดังนั้น รัฐบาลต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ครบวงจร ซึ่งรวมถึง “นโยบายภาษี” ที่แข่งขันได้ และ “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” ที่ทันสมัย เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้เล่นระดับโลกให้เข้ามาปักหลักในประเทศไทยอย่างแท้จริง

ขณะเดียวกัน ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ก็ยังคงต้องได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เราไม่อาจพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ หรือตลาดเดิมๆ ได้มากเท่าในอดีต การแสวงหาตลาดใหม่ๆ พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ จึงเป็นสิ่งจำเป็น การผนวกเทคโนโลยีเข้ากับการตลาด การสร้างแบรนด์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตสินค้าคุณภาพสูง และการส่งเสริม “การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ” จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและขยายส่วนแบ่งทางการตลาด

สลัดห่วงประชานิยม: สร้างรากฐานการคลังที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคต

จากประสบการณ์ ผมเห็นว่า “นโยบายประชานิยม” แม้จะสร้างความพึงพอใจในระยะสั้น แต่กลับเป็นภาระทางการคลังที่หนักอึ้ง และไม่สามารถแก้ไขปัญหารากเหง้าของเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ในปี 2025 นี้ เราไม่สามารถแบกรับภาระงบประมาณที่เกินตัวได้อีกต่อไป เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตานักลงทุนและสถาบันจัดอันดับเครดิต

ผมอยากเห็นรัฐบาลที่มีวินัยทางการคลังอย่างเข้มงวด มุ่งเน้นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว แทนที่จะเป็นการแจกจ่ายเงินที่หมดไปในชั่วพริบตา การปฏิรูปงบประมาณ การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ และการสร้าง “ระบบสวัสดิการสังคม” ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง โดยไม่ก่อให้เกิดภาระหนี้สาธารณะที่เกินควบคุม จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างรากฐานการคลังที่มั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองในระยะยาว ความมั่นคงทางการเมืองและทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนักลงทุนต้องการความต่อเนื่องของนโยบายและการบริหารจัดการ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงไปมาตามอำนาจที่ผันผวน

ตลาดทุน: ขุมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต

“ตลาดทุน” เป็นมากกว่าแค่แหล่งระดมทุนสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ แต่เป็น “หัวใจสำคัญ” ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม การสร้างงาน และการกระจายความมั่งคั่งในระบบเศรษฐกิจ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่ารัฐบาลชุดใหม่ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาตลาดทุนอย่างจริงจังมากขึ้น เพราะนี่คือกลไกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดสรรเงินทุนสู่ภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น SME หรือ Start-up ที่มีศักยภาพ

เราต้องทำให้ตลาดทุนเข้าถึงได้ง่ายสำหรับ “ทุกคน” ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้มีรายได้สูง การส่งเสริมความรู้ทางการเงิน การสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงการพัฒนากฎระเบียบที่โปร่งใสและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ลงทุน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดทุนมากขึ้น

เมื่อตลาดทุนเป็นขาขึ้น (Bull Market) เราจะเห็นผลกระทบเชิงบวกต่อการบริโภคในระบบเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ผู้ที่ได้รับกำไรจากการลงทุนมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงิน ซึ่งจะหมุนเวียนและสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้หลายรอบ นอกจากนี้ “ตลาดทุน” ยังสามารถเป็นช่องทางในการระดมทุนสำหรับโครงการ “Green Bonds” และ “ESG Investing” ซึ่งสอดรับกับกระแสโลกในเรื่องความยั่งยืน และดึงดูดนักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้

แกะปมภาคอสังหาริมทรัพย์: ฟื้นความเชื่อมั่นสู่ยุคใหม่

ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่สะท้อนสุขภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในปี 2025 นี้ ภาพรวมตลาดยังคงอยู่ในช่วง “ปรับฐาน” อย่างชัดเจน จากข้อมูลพบว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี และแนวโน้มชะลอตัวอาจต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี ซึ่งถือเป็นความท้าทายสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ ทั้งอุปทานและอุปสงค์ต่างก็ชะลอตัวลง ปัญหาสำคัญคือ “ยอดปฏิเสธสินเชื่อ” หรือ “ยอดกู้ไม่ผ่าน” ที่สูงถึง 50-70% ซึ่งเป็นผลมาจากความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่รุมเร้า

การแก้ไขปัญหานี้จึงไม่ใช่แค่การลดค่าโอน-จดจำนอง ซึ่งเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว แต่ต้องเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ การเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนจะส่งผลดีต่อทุกภาคธุรกิจ ไม่ใช่แค่ภาคอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น รัฐบาลควรพิจารณานโยบายที่ช่วยลดภาระหนี้ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย รวมถึงการจัดการกับอุปทานส่วนเกินในบางพื้นที่ นอกจากนี้ การส่งเสริมการลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Real Estate)” หรือที่พักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติวัยเกษียณที่มีกำลังซื้อสูง ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการสร้างดีมานด์ใหม่ๆ และยกระดับคุณภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

ปฏิรูประบบราชการและศักยภาพแรงงาน: เสาหลักแห่งการแข่งขัน

หากต้องการให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและยั่งยืน “การปฏิรูประบบราชการ” เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผมเชื่อว่า “Ease of Doing Business” ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่เป็นประสบการณ์จริงของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติ การลดขั้นตอนที่ซับซ้อน การขจัดความล่าช้าในการขอใบอนุญาต และที่สำคัญที่สุดคือ “การปราบปรามการคอร์รัปชัน” ในระบบราชการอย่างจริงจัง จะช่วยลดต้นทุนแฝงในการทำธุรกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อย่างมหาศาล

แนวคิด “One Stop Service” หรือศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ที่ให้ภาคเอกชนหรือนักลงทุนต่างชาติสามารถติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐได้ทุกด้าน ณ จุดเดียว ควรได้รับการผลักดันให้เกิดขึ้นจริงและมีประสิทธิภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญทำหน้าที่ประสานงานและดำเนินการต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้จะช่วยลดความยุ่งยากและสร้างความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบราชการ คือ “การพัฒนาศักยภาพแรงงาน” ไทยให้สอดรับกับความต้องการของอุตสาหกรรม “New S-Curve” การ Up-skill และ Re-skill บุคลากรให้มีทักษะแห่งอนาคต เช่น AI, Data Science, Cyber Security, Robotics และ Advanced Manufacturing เป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน การลงทุนในการศึกษาและอาชีวศึกษาที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน จะช่วยให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และเป็นแหล่งรวมบุคลากรคุณภาพที่นักลงทุนทั่วโลกต้องการ

การท่องเที่ยวและ Wellness: แสงสว่างนำทางเศรษฐกิจ

ประเทศไทยยังคงเป็น “พระเอก” ในด้านการท่องเที่ยวและบริการ ด้วยเสน่ห์วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และ “Service Mind” ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แต่ในยุค 2025 นี้ เราต้องยกระดับการท่องเที่ยวจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปสู่ “การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ” ที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism), การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์, การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและธรรมชาติ หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบเจาะลึก

การพัฒนา “Wellness Hub” ให้เป็นรูปธรรม โดยมีมาตรฐานระดับโลก ทั้งด้านสถานพยาบาล โรงแรม สปา และบุคลากรทางการแพทย์ จะดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้บริการและพักอาศัยระยะยาว ซึ่งรวมถึง “ชาวต่างชาติวัยเกษียณ” ที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีและบริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ

นอกจากนี้ “ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์” ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ การลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่” อาทิ ถนน ทางด่วน รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า และการพัฒนาระบบขนส่งที่ทันสมัยและเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและบริการ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมืองต่างๆ ให้ดีขึ้น

กรณีของภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญของประเทศ ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความจำเป็นในการลงทุนเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ เพื่อรองรับการเติบโตและแก้ไขปัญหาเรื้อรัง เช่น ปัญหาการจราจรติดขัด ขยะล้นเมือง หรือน้ำประปาไม่เพียงพอ หากปราศจากโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ภูเก็ตก็ยากที่จะคงสถานะ “เมืองน่าอยู่” และ “เมืองท่องเที่ยวระดับโลก” ได้อย่างแท้จริงในระยะยาว

ก้าวสู่อนาคตที่สดใส: การเปลี่ยนแปลงคือโอกาส

ปี 2025 คือปีแห่งการตัดสินใจครั้งสำคัญสำหรับประเทศไทย การเผชิญหน้ากับความจริงทางเศรษฐกิจและร่วมกันรื้อโครงสร้างที่เป็นอุปสรรค เป็นหนทางเดียวที่จะนำพาประเทศไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน การละทิ้งนโยบายประชานิยมที่ไม่สร้างผลในระยะยาว การดึงดูดการลงทุนที่มีคุณภาพ การพัฒนาตลาดทุนให้แข็งแกร่ง การปฏิรูประบบราชการให้โปร่งใส และการยกระดับศักยภาพแรงงาน คือหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้

ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพและทรัพยากรที่เพียงพอที่จะก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ได้ หากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมมือกันด้วยความเข้าใจ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีความกล้าหาญที่จะตัดสินใจและลงมือทำอย่างจริงจัง

ได้เวลาแล้วที่เราจะร่วมกันพลิกโฉมประเทศไทย สร้างรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และสร้างอนาคตที่สดใส มั่นคง และเป็นธรรมสำหรับคนไทยทุกคน เพื่อให้ประเทศของเราผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำทางเศรษฐกิจที่แท้จริงในเวทีโลกอย่างยั่งยืน

Previous Post

D0512107 ดเจอรากไม เป นทองคำ(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512109 บคนไปเร ยกค าไถ หว งเง นไปร กษาแม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512109 บคนไปเร ยกค าไถ หว งเง นไปร กษาแม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512109 บคนไปเร ยกค าไถ หว งเง นไปร กษาแม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1312015 อมแพง อะไหล เก างบรรล EP2 part2
  • D1312014 อตน คนเย ยวเล อตน คนเย ยวเล part2
  • D1312013 อปล อยหน ามหน ไว ทำไม EP2 part2
  • D1312012 กระชากหน ากาก วยหน ากากว เศษ EP2 part2
  • D1312011 4เม ยย งไง ให คลอดว นเด ยวก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.