• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512100 ดการคนใหม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 9, 2025
in Uncategorized
0
D0512100 ดการคนใหม (ละครส น) หน งส นด BSC part2

ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย 2025: ปฏิรูปโครงสร้าง ดึงดูดการลงทุน และลดภาระประชานิยม สู่ยุคใหม่แห่งความมั่งคั่งยั่งยืน

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการเศรษฐกิจ การเงิน และอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้ามองพลวัตของประเทศไทยด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเรากำลังยืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญยิ่ง ปี 2025 นี้ ไม่ใช่แค่ช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่เป็นหมุดหมายที่กำหนดทิศทางอนาคตของชาติอย่างแท้จริง คำว่า “ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ” ไม่ใช่แค่ถ้อยคำสวยหรูในตำรา แต่มันคือลมหายใจสุดท้ายที่เราต้องใช้เพื่อก้าวข้ามกับดักการเติบโตต่ำที่คุกคามประเทศมานานหลายปี เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้หลุดพ้นจาก GDP ที่ไร้ชีวิตชีวา และพุ่งทะยานสู่ศักยภาพที่แท้จริง เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน ตั้งแต่รากฐานนโยบายไปจนถึงการบริหารจัดการประเทศ

กับดัก GDP ต่ำ 1-2% : สัญญาณเตือนถึงวิกฤตโครงสร้าง

เมื่อพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ติดอยู่ในกรอบ 1-2% มาอย่างยาวนาน คือสัญญาณอันตรายที่ชี้ชัดว่าโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจแบบเดิมๆ ของเราหมดอายุลงแล้ว การเติบโตในระดับนี้ไม่เพียงพอต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร, การสร้างงานที่มีคุณภาพ, หรือการหลีกหนีจากกับดักรายได้ปานกลาง เราไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวยจนสามารถพอใจกับการเติบโตเพียงน้อยนิด การที่ GDP ต่อหัวของคนไทยยังคงอยู่ที่ราว 7,000 กว่าเหรียญสหรัฐฯ นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับผลิตภาพและมูลค่าเพิ่มในทุกภาคส่วน การจะแก้ไขปัญหานี้ได้ รัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในปี 2025 จึงต้องมีวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญและมุ่งมั่นในการผ่าตัดโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ไม่ใช่การใช้ยาแก้ปวดที่ได้ผลเพียงชั่วคราว

หนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่ซับซ้อนและเรื้อรังที่สุดคือ “หนี้ครัวเรือน” ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่ากังวล การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่การพักชำระหนี้หรือมาตรการบรรเทาเฉพาะหน้า แต่ต้องลงลึกถึงต้นตอของปัญหา เช่น การขาดวินัยทางการเงิน, การเข้าถึงสินเชื่อที่ไม่เหมาะสม, และโครงสร้างรายได้ที่ไม่สมดุล หากเราไม่สามารถลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย เช่น ต่ำกว่า 80% ของ GDP ได้สำเร็จ กำลังซื้อภายในประเทศก็จะถูกบั่นทอนอย่างต่อเนื่อง และการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายต่างๆ ก็จะไร้ประสิทธิภาพ ไม่ต่างอะไรกับการเติมน้ำลงในถังที่รั่ว เราต้องการมาตรการที่จริงจังในการปรับโครงสร้างหนี้, ส่งเสริมการออม, และเพิ่มขีดความสามารถในการหารายได้ของประชาชน เพื่อปลดล็อกศักยภาพในการใช้จ่ายและการลงทุนภาคครัวเรือนอย่างแท้จริง

ดึงดูดการลงทุนต่างชาติคุณภาพสูง: หัวใจของการพลิกโฉมเศรษฐกิจ

เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตและสินค้าส่งออกของประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น การดึงดูด “การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ” (FDI) คือกุญแจสำคัญ รัฐบาลต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะใน “อุตสาหกรรมเป้าหมาย” (New S-Curve) ที่ประเทศไทยต้องการ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ดิจิทัล, เทคโนโลยีชีวภาพและเศรษฐกิจหมุนเวียน-สีเขียว (BCG Economy), และอุตสาหกรรมสุขภาพและ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) การส่งเสริมการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าแค่ตัวเลขการขอรับสิทธิประโยชน์ แต่ต้องเน้นการสร้างห่วงโซ่อุปทานในประเทศ, การถ่ายทอดเทคโนโลยี, และการยกระดับ “ผลิตภาพแรงงาน” ให้สามารถรองรับความต้องการของ “เทคโนโลยีแห่งอนาคต” ได้

ในขณะเดียวกัน “ภาคการส่งออกและท่องเที่ยว” ยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยที่เราต้องเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่ง “การส่งออกและนำเข้า” ต้องก้าวข้ามการพึ่งพาตลาดเดิมๆ เราจำเป็นต้อง “หาตลาดใหม่” และ “สร้างสินค้าใหม่” ที่ตอบสนองความต้องการของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เน้นสินค้าที่มีนวัตกรรมและมูลค่าสูง สำหรับภาค “ท่องเที่ยวไทย” เราต้องยกระดับจากปริมาณสู่คุณภาพ ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง, ส่งเสริม “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”, และใช้ “Soft Power” ของไทย เช่น อาหาร, วัฒนธรรม, และการบริการที่เป็นเลิศ ให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและดิจิทัลที่ทันสมัยจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งของภาคการผลิตและการบริการ

ละทิ้งนโยบายประชานิยม: สร้างเสถียรภาพทางการคลังระยะยาว

หนึ่งในประเด็นที่ผู้นำประเทศต้องกล้าตัดสินใจคือการ “ลดเลิกนโยบายประชานิยม” ที่สร้างภาระทางการคลังและบิดเบือนกลไกตลาด นโยบายเหล่านี้มักจะให้ผลดีเพียงชั่วคราว ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และส่งผลกระทบต่อ “เสถียรภาพทางการคลัง” ในระยะยาว เราจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้จ่ายภาครัฐที่มีประสิทธิภาพและมุ่งเป้า เพื่อแก้ไข “ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ” ที่แท้จริง เช่น การลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่จำเป็น, การพัฒนา “ทรัพยากรมนุษย์”, และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการแข่งขัน หากรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายที่สร้างความยั่งยืนทางการคลังได้ ตลาดทุนจะตอบรับในเชิงบวกอย่างแน่นอน

ตลาดทุนไทย: หัวใจของการระดมทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“ตลาดหลักทรัพย์” และ “ตลาดทุน” คือแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เราต้องให้ความสำคัญมากกว่าที่ผ่านมา ในฐานะที่อยู่ในแวดวง “การลงทุนหุ้น” มายาวนาน ผมเห็นศักยภาพอันมหาศาลของตลาดทุนไทยที่ยังไม่ถูกปลดล็อกอย่างเต็มที่ รัฐบาลต้องส่งเสริมให้ตลาดทุนทำหน้าที่เป็นกลไกในการจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ, สร้างโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายสำหรับนักลงทุนทุกระดับ, และยกระดับมาตรฐาน “บรรษัทภิบาล” ให้ทัดเทียมนานาชาติ หาก “ตลาดหุ้นขาขึ้น” อย่างต่อเนื่อง จะเกิดผลกระทบเชิงบวก (Wealth Effect) ที่ทำให้ “การบริโภค” ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเมื่อประชาชนมีกำไรจากการลงทุน พวกเขาก็จะมีกำลังซื้อและกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนได้หลายรอบ การทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับตลาดทุนได้มากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มผู้มีรายได้สูงเท่านั้น จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งที่กระจายตัว

นอกจากนี้ การส่งเสริม “การลงทุน ESG” (Environment, Social, and Governance) จะเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่ดึงดูดนักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศ ซึ่งมองหาการลงทุนที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ การยกระดับมาตรฐาน ESG ของบริษัทจดทะเบียนในไทย จะช่วยให้ตลาดทุนไทยเป็นที่น่าสนใจในเวทีโลกมากยิ่งขึ้น

เสถียรภาพการเมืองและทีมเศรษฐกิจที่เอกภาพ: รากฐานของความเชื่อมั่น

“เสถียรภาพทางการเมือง” และ “การบริหารประเทศ” ที่มีทิศทางชัดเจนและต่อเนื่อง คือปัจจัยพื้นฐานที่ “ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ” ทั้งในตลาดทุนและ “การค้าการลงทุน” โดยตรง การเปลี่ยนนโยบายไปมาบ่อยครั้งตามการเปลี่ยนรัฐบาลบั่นทอนความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง สิ่งที่ประเทศต้องการคือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ, มีพรรคการเมืองหลักที่เข้มแข็ง, และมี “ทีมเศรษฐกิจ” ที่มี “เอกภาพ” สามารถกำหนดทิศทางและดำเนินนโยบายได้อย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกันทั่วทุกกระทรวง ไม่ใช่ต่างคนต่างทำโดยขาดการประสานงานที่ดี ทีมเศรษฐกิจที่มีวิสัยทัศน์และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ และนำไปสู่การวางแผนและดำเนิน “การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ” ที่เป็นรูปธรรม

ท้าทายภาคอสังหาริมทรัพย์และแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

ภาค “อสังหาริมทรัพย์” กำลังเผชิญกับความท้าทายสูงสุดในรอบสองทศวรรษ ทั้งอุปทานและอุปสงค์ที่ลดลงอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัย ผมคาดการณ์ว่าในปี 2025 นี้ ตลาดยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานอย่างชัดเจน ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นถึงปัญหากำลังซื้อที่หดหายและภาระ “หนี้ครัวเรือน” ที่เป็นลูกโซ่ ก่อให้เกิดอัตรา “ยอดกู้ไม่ผ่าน” ที่สูงถึง 50-70% จากสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ

รัฐบาลต้องมีมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่ช่วยภาคอสังหาฯ แต่เป็นการเพิ่ม “กำลังซื้อ” ให้กับผู้บริโภคในทุกภาคส่วน มาตรการลดค่าโอน-จดจำนองอาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอ เราต้องการนโยบายที่ครอบคลุม เช่น การส่งเสริมให้ AMC เข้ามาซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) จากสถาบันการเงิน เพื่อช่วยลดภาระหนี้เสีย และที่สำคัญคือการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยืดหยุ่นและให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ครัวเรือนในระดับสูงอีกในอนาคต

สำหรับผู้ประกอบการ “อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน” ก็จำเป็นต้องปรับตัว พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Aging Society), ที่อยู่อาศัยแบบมิกซ์ยูส (Mixed-use) ใกล้ระบบขนส่งมวลชน, หรืออสังหาริมทรัพย์ที่เน้นคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม (Green Building) และมี “การลงทุน ESG” เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น

ปฏิรูประบบราชการ: ส่งเสริม Ease of Doing Business และขจัดคอร์รัปชั่น

หนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้ง “การพัฒนาประเทศ” และขัดขวาง “การดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ” คือความไม่สะดวกในการประกอบธุรกิจและความโปร่งใสใน “ระบบราชการ” ผมเชื่อว่ารัฐบาลใหม่ต้องให้ความสำคัญกับการปรับปรุง “Ease of Doing Business” อย่างแท้จริง โดยการลดขั้นตอน, ลดเอกสาร, และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการอนุมัติ-อนุญาตต่างๆ ให้เร็วขึ้นและโปร่งใสยิ่งขึ้น แนวคิด “One Stop Service” ต้องถูกนำมาทำให้เป็นจริงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การรวมศูนย์แต่ขาดอำนาจในการตัดสินใจ

นอกจากนี้ การ “แก้ปัญหาคอร์รัปชั่น” ในระบบราชการเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน การทุจริตคอร์รัปชั่นสร้างต้นทุนแฝงมหาศาลให้กับผู้ประกอบการ ทั้งคนไทยและต่างชาติ บั่นทอนความเชื่อมั่น และขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องมีกลไกที่เข้มแข็งในการตรวจสอบ, ลงโทษ, และป้องกันการทุจริตอย่างจริงจัง สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในทุกระดับ

ยกระดับศักยภาพแรงงานสู่ S-Curve และ Wellness Economy

เพื่อผลักดัน “เศรษฐกิจดิจิทัล” และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ รัฐบาลต้องลงทุนอย่างมหาศาลในการ “Up-skill และ Re-skill” ประชาชนคนไทยให้มีความรู้ความสามารถและทักษะที่ตรงกับความต้องการของ “อุตสาหกรรมเป้าหมาย” (New S-Curve) เช่น AI, Data Science, Cyber Security, และ “พลังงานหมุนเวียน” การปรับหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน, การส่งเสริม “การเรียนรู้ตลอดชีวิต”, และการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล จะช่วยให้ประเทศไทยมีแรงงานคุณภาพสูงที่สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตได้

ประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่นในด้าน “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) และธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เราควรเร่งพัฒนาให้เป็น “พระเอกเศรษฐกิจไทย” คนไทยมี “Service Mind” ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก แต่เราต้องมีมากกว่าแค่การบริการ เราต้องมี “แม่เหล็ก” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาพักอาศัยระยะยาว เช่น ศูนย์การแพทย์และสุขภาพชั้นนำระดับโลก, สปาและรีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่ครบวงจร, และที่สำคัญคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว

การใช้ประโยชน์จาก Strategic Location และ Mega Projects ระดับโลก

ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลาง “Regional Logistic Location” หากเรามีการลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐาน” ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟความเร็วสูง, ท่าเรือน้ำลึกอัจฉริยะ, และโครงข่ายถนนที่ทันสมัย จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์, เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ, และดึงดูด “การค้าชายแดน” ให้เติบโตยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก กำลังเผชิญกับปัญหาสะสมมากมายจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ขาด “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่เพียงพอ เช่น ปัญหาการจราจร, ขยะล้นเมือง, น้ำประปาไม่เพียงพอ, และความปลอดภัย การพัฒนา “เมกะโปรเจกต์” ภาครัฐอย่างจริงจัง ทั้งถนน, ทางด่วน, รถไฟฟ้า จะช่วยจัดระเบียบเมือง, ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนภูเก็ต, และรักษาภาพลักษณ์ของการเป็น “เมืองท่องเที่ยวระดับโลก” อย่างแท้จริง การมี “ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว” (One Stop Service) ที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนและชาวต่างชาติ จะช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการติดต่อราชการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคเอกชนและนักท่องเที่ยวเรียกร้องมานาน

สู่ยุคใหม่แห่งความมั่งคั่งยั่งยืน

ปี 2025 เป็นโอกาสทองที่เราจะต้องร่วมกัน “ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย” ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความท้าทายและศักยภาพที่เรามี ผมเชื่อมั่นว่าด้วยการ “ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ” อย่างจริงจัง, การดึงดูด “การลงทุนต่างชาติ” คุณภาพสูง, การละทิ้งนโยบายประชานิยมเพื่อ “เสถียรภาพทางการคลัง”, การปลดล็อกศักยภาพของ “ตลาดทุน”, การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคอสังหาฯ, การปฏิรูประบบราชการเพื่อ “Ease of Doing Business”, การพัฒนาทุนมนุษย์ให้พร้อมสำหรับ “เทคโนโลยีแห่งอนาคต”, และการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เราจะสามารถสร้าง “การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” และยกระดับประเทศไทยสู่ยุคใหม่แห่งความมั่งคั่งและก้าวหน้าอย่างแท้จริงได้

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มาร่วมกันกำหนดอนาคตที่สดใสให้กับประเทศไทย อย่ารอช้า! ถึงเวลาแล้วที่เราจะลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนสำหรับคนไทยทุกคนในวันนี้และวันข้างหน้า!

Previous Post

D0512092 ตสำน กฝ กก นไม ได (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512101 คนใกล วร ายท (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512101 คนใกล วร ายท (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1512016 กำล งได ราดซะก อน ep part2
  • D1512015 หน มแกร าว ยทอง ep (1) part2
  • D1512014 กระป กแม เพราะหน สมอง! part2
  • D1512013 หน มแกร าว ยทอง ep part2
  • D1512011 าวเม องกร งม นเหล ยม เลยลงเอยก บหน มดอย ep2 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.