• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512065 แม อมเล อกส งท ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 8, 2025
in Uncategorized
0
D0512065 แม อมเล อกส งท ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกศักยภาพเศรษฐกิจไทย 2025: กลยุทธ์เชิงรุกสู่การเติบโตยั่งยืนและดึงดูดการลงทุนระดับโลก

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเงินและธุรกิจมานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่าปี 2025 เป็นหมุดหมายสำคัญที่ประเทศไทยยืนอยู่บนทางแยก เราไม่อาจยึดติดกับโมเดลเศรษฐกิจแบบเดิมๆ ที่พึ่งพาการเติบโตเพียงน้อยนิดอีกต่อไป ท่ามกลางภูมิทัศน์โลกที่ผันผวน ทั้งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเร่งตัวของเทคโนโลยีดิจิทัล ประเทศไทยจำเป็นต้อง “รื้อโครงสร้าง” ครั้งใหญ่ เพื่อก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง และทะยานสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงจึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่เป็นการกำหนดทิศทางอนาคตของชาติที่ต้องการวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความกล้าหาญในการปฏิรูป

วางรากฐานใหม่: ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่ออนาคต

หัวใจสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในปี 2025 คือการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง เราไม่อาจปล่อยให้ตัวเลข GDP เติบโตเพียง 1-2% ต่อปีได้อีกต่อไป เพราะนั่นหมายถึงการถอยหลังเมื่อเทียบกับนานาประเทศ และทำให้รายได้ต่อหัวของคนไทยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งไม่สอดคล้องกับศักยภาพและแรงปรารถนาของประเทศ การแก้ปัญหานี้ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริงว่า “วิธีคิดแบบเดิม ให้ผลลัพธ์แบบเดิม” และต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

ประการแรกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้คือการ “ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)” โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ยอดตัวเลขขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ที่ดูสวยหรูบนกระดาษ แต่ต้องเป็นการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง สร้างงาน สร้างมูลค่าเพิ่ม และถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตและสินค้าส่งออกของเราให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ ที่ความต้องการสินค้าและบริการที่ยั่งยืนและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกำลังเป็นที่นิยม การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ชีวภาพ-ชีวการแพทย์ และเศรษฐกิจดิจิทัล ควรได้รับการส่งเสริมอย่างเป็นระบบ ด้วยสิทธิประโยชน์ที่แข่งขันได้ และที่สำคัญคือ “ความเชื่อมั่น” จากรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและนโยบายที่ต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน การลดพึ่งพิง “นโยบายประชานิยม” ที่มักให้ผลระยะสั้นและสร้างภาระทางการคลังอย่างไม่จำเป็น ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญ แทนที่จะใช้เงินงบประมาณไปกับการแจกจ่าย เราควรมุ่งเน้นการลงทุนใน “ทุนมนุษย์” และ “โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น” เช่น การยกระดับการศึกษาให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานแห่งอนาคต การส่งเสริมทักษะดิจิทัล และการพัฒนา “พลังงานสะอาด” เพื่อดึงดูดการลงทุนกลุ่มที่เน้นความยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านจากนโยบายประชานิยมไปสู่การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว จะช่วยให้ประเทศไทยมีวินัยทางการคลังมากขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต

นอกจากนี้ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคการส่งออกและ “การท่องเที่ยวไทย” ซึ่งยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ ก็จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง การมองหาตลาดใหม่ๆ พัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ไม่ใช่แค่การพึ่งพิงตลาดเดิมๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แต่ต้องกระจายความเสี่ยงไปสู่ภูมิภาคอื่น เช่น อาเซียน อินเดีย ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่แอฟริกาที่มีศักยภาพ ตลอดจนการปรับตัวให้สอดรับกับเทรนด์โลก อาทิ การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน และการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสถานะผู้นำในตลาดเหล่านี้

จุดประกายตลาดทุน: พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ไม่ควรมองข้าม

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุน ผมขอย้ำว่า “ตลาดหุ้นไทย” คือหัวใจและแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ “การพัฒนาเศรษฐกิจไทย” ในระยะยาว แต่ที่ผ่านมา ตลาดทุนยังไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพ รัฐบาลชุดใหม่ควรให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นมากกว่าที่เคย เพราะนี่คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุน การสร้างงาน และการกระจายความมั่งคั่ง หาก “ตลาดหุ้นขาขึ้น” อย่างยั่งยืน เราจะเห็นการบริโภคภายในประเทศดีขึ้นทันตาเห็น เพราะนักลงทุนที่ได้รับผลกำไรจาก “การลงทุนหุ้น” จะมีกำลังซื้อและใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

เพื่อยกระดับตลาดหุ้นไทย รัฐบาลควรส่งเสริม “ความเชื่อมั่นนักลงทุน” ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการสร้างธรรมาภิบาลที่ดีในตลาดทุน กฎระเบียบที่ชัดเจนและเป็นธรรม ตลอดจนการส่งเสริม “การลงทุนระยะยาว” และ “การลงทุน ESG” (Environmental, Social, and Governance) ที่กำลังเป็นเทรนด์โลก การทำให้ตลาดทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่เฉพาะผู้มีรายได้สูง จะเป็นการสร้างโอกาสในการ “สร้างความมั่งคั่ง” และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การกระตุ้นให้บริษัทสตาร์ทอัพและ SMEs เข้ามาใช้ประโยชน์จากตลาดทุนในการระดมทุน ก็จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการ “ลงทุนในประเทศไทย” และผลักดันนวัตกรรมในประเทศ

สิ่งสำคัญคือ “เสถียรภาพทางการเมือง” และ “ทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ” หากการเมืองมีความนิ่งและนโยบายมีความต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติก็จะมีความมั่นใจในการเข้ามา “ลงทุนในประเทศไทย” มากขึ้น การมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่สามารถกำกับดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้อย่างเป็นเอกภาพ จะช่วยให้การดำเนินนโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังจากรัฐบาลใหม่ในปี 2025 เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับ “การเติบโตทางเศรษฐกิจ”

สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ: แกนหลักของการเติบโต

หนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติให้ความสำคัญคือ “การอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business)” ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับปรุงระบบราชการให้มีความโปร่งใส ลดขั้นตอน ลดเอกสาร และลดเวลาในการขออนุญาตต่างๆ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วย “ลดต้นทุนแฝง” ให้กับผู้ประกอบการ แต่ยังช่วย “แก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน” ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่บั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การนำเทคโนโลยี “เศรษฐกิจดิจิทัล” มาประยุกต์ใช้ในการให้บริการภาครัฐ เช่น การจัดตั้ง “ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service)” ที่ใช้งานได้จริงและครอบคลุมทั่วประเทศ จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ “โอกาสทางธุรกิจไทย”

ปัญหา “หนี้ครัวเรือน” ที่สูงลิ่วถึง 50-70% ของยอดขอสินเชื่อที่ไม่ผ่าน เป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ฉุดรั้ง “กำลังซื้อ” ของประชาชน และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อทุกภาคส่วน การแก้ปัญหานี้ต้องเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่แค่การประคองอาการ แต่ต้องเป็นการแก้ที่ต้นเหตุอย่างยั่งยืน ทั้งการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน การส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้ การสร้างงานและเพิ่มรายได้ ตลอดจนการพิจารณามาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างรอบคอบ เพื่อให้ครัวเรือนมีสภาพคล่องและมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายและการลงทุน ซึ่งจะช่วย “กระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ” และผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมเติบโตได้

อสังหาริมทรัพย์และอนาคตเมือง: การปรับตัวสู่ยุคใหม่

ภาค “อสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเผชิญความท้าทายสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ ทั้งอุปทานและอุปสงค์ที่ลดลง จำเป็นต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ในปี 2025 และปีต่อๆ ไป นอกจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและยอดกู้ไม่ผ่านแล้ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังต้องเผชิญกับเทรนด์ใหม่ๆ เช่น สังคมสูงวัย ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ “Smart City” ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ผู้ประกอบการ “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” ต้องหันมาให้ความสำคัญกับโครงการที่ตอบโจทย์อนาคต เช่น “อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ (Wellness Real Estate)” สำหรับผู้สูงอายุและชาวต่างชาติวัยเกษียณที่มีกำลังซื้อสูง การพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนด้วย “พลังงานสะอาด” การออกแบบที่อยู่อาศัยที่ยืดหยุ่นรองรับการทำงานแบบ Hybrid Work และการสร้าง “เมืองอัจฉริยะ” ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน รัฐบาลสามารถเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนผ่านนโยบายภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบที่ล้าสมัย และการลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่จำเป็นต่อการพัฒนาเมือง อาทิ ระบบขนส่งมวลชน ระบบจัดการขยะ และระบบประปา ที่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่เห็นได้ชัดในหลายเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต

ขุมทรัพย์แห่งการบริการ: การท่องเที่ยวและ Wellness ในบริบทโลก

ประเทศไทยมี “ขุมทรัพย์” ที่ไม่เหมือนใครในภาคบริการ โดยเฉพาะ “การท่องเที่ยวไทย” และธุรกิจ Wellness ด้วย “Service Mind” ที่เป็นจุดแข็งของคนไทย เราสามารถก้าวขึ้นเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพโลก (Global Wellness Hub)” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวเชิงพักผ่อน แต่รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) สุขภาพแบบองค์รวม และการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการบริการที่มีคุณภาพระดับโลก การลงทุนในบุคลากรทางการแพทย์ การพัฒนาสถานพยาบาลระดับสากล และการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการ Wellness ที่หลากหลาย จะดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาพำนักในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การจะรักษาความเป็น “เดสติเนชั่น” ระดับโลกไว้ได้ เราต้องเร่งพัฒนา “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่แข็งแกร่ง ทั้ง “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” ที่ครอบคลุมและรวดเร็ว เพื่อรองรับ “เศรษฐกิจดิจิทัลไทย” และ “โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม” ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ ทางหลวงพิเศษ รถไฟฟ้า หรือท่าอากาศยาน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและลดต้นทุนการเดินทางและขนส่ง ตัวอย่างเช่น จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก กำลังประสบปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติด ขยะล้นเมือง น้ำประปาไม่เพียงพอ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การจัดสรรงบประมาณเพื่อ “เมกะโปรเจกต์” ที่จำเป็น เพื่อ “จัดระเบียบ” เมืองท่องเที่ยวให้เป็น “เมืองน่าอยู่” และเป็น “เมืองท่องเที่ยวระดับโลก” อย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรรอช้า

นอกจากนี้ การ “ยกระดับแรงงาน (Upskilling and Reskilling)” เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง คนไทยต้องได้รับการพัฒนาทักษะให้สอดรับกับความต้องการของ “อุตสาหกรรม S-Curve” และภาคบริการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง การลงทุนใน “การศึกษา” และ “การฝึกอบรม” ที่มีคุณภาพ จะช่วยให้คนไทยเป็น “มนุษย์ที่ผู้ประกอบการอยากได้ไปทำงานด้วย” และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เช่น “นวัตกรรม” และ “เทคโนโลยี AI” ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน

สรุป: ถึงเวลาลงมือทำอย่างจริงจัง

ปี 2025 และปีต่อๆ ไป จะเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วย “โอกาสทางธุรกิจไทย” ที่ยิ่งใหญ่ หากเรากล้าที่จะ “ปรับเปลี่ยน” และ “ไปต่อ” ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งที่เราต้องทำเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน รัฐบาลชุดใหม่ต้องแสดง “ความกล้าหาญทางการเมือง” และ “ความมุ่งมั่น” ในการปฏิรูปอย่างจริงจัง โดยมีภาคเอกชนและประชาชนเป็นส่วนร่วมสำคัญ

นี่คือโอกาสทองของเราในการ “พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย” ให้กลับมาเติบโต 3-4% ได้อีกครั้ง และก้าวขึ้นสู่เวทีโลกอย่างภาคภูมิ ผมเชื่อมั่นว่าด้วย “ความร่วมมือ” และ “ความเข้าใจ” ในสถานการณ์ เราจะสามารถนำพาประเทศไทยไปสู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองและ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ได้อย่างแน่นอน

อนาคตของประเทศไทยขึ้นอยู่กับการลงมือทำในวันนี้ ท่านพร้อมหรือยังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้? มาร่วมกันสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน

Previous Post

D0512064 ขโมยทองใส แกลลอน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512066 มล กเอาเปร ยบคนอ น(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512066 มล กเอาเปร ยบคนอ น(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512066 มล กเอาเปร ยบคนอ น(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1210026 อด ตไม สำค ญเท าป จจ part2
  • D1210025 หญ งม ตำหน [ตอนจบ] part2
  • D1210024 มาคลายเคร ยดก นหน อยนะค part2
  • D1210023 นอกกาย แค ความส ขช วคราว![ตอนจบ] part2
  • D1210022 จฉาคนอ ไม วเอง [ตอน1] part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.