• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512064 ขโมยทองใส แกลลอน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 8, 2025
in Uncategorized
0
D0512064 ขโมยทองใส แกลลอน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปลดล็อกเศรษฐกิจไทย 2568: ปฏิรูปโครงสร้าง ดึงดูดลงทุน สู่ยุคใหม่แห่งความรุ่งเรือง

ในฐานะนักวิเคราะห์และผู้คร่ำหวอดในวงการเศรษฐกิจการเงินมานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่าปี 2568 เป็นห้วงเวลาสำคัญยิ่งยวดที่ประเทศไทยจะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อกำหนดทิศทางอนาคต เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พร้อมๆ กับที่ไทยต้องเร่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่สั่งสมมานาน หากเราไม่สามารถ “รื้อ” และ “สร้าง” ใหม่ได้สำเร็จ เราอาจเสี่ยงที่จะถูกทิ้งห่างจากเวทีโลก และติดอยู่ในกับดักการเติบโตต่ำที่ยากจะหลุดพ้น

จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับหลากหลายภาคส่วน ทั้งการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และภาคธุรกิจต่างๆ เสียงสะท้อนที่ชัดเจนคือ ความต้องการเห็นรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล กล้าตัดสินใจ และมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิรูปอย่างแท้จริง การเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไปได้นำมาซึ่งความคาดหวังว่าการบริหารประเทศนับจากนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แทนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยนโยบายที่ขาดความยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมองข้ามการเติบโตเพียง 1-2% ซึ่งไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ และมุ่งสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มที่แท้จริงให้กับทุกคน

รื้อโครงสร้างหนี GDP ต่ำ: วาระเร่งด่วนปี 2568

ปัญหาเชิงโครงสร้างที่เรื้อรังมานาน ทำให้ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP ไทย) ถูกจำกัดอยู่ที่ระดับต่ำมาโดยตลอด การขยายตัวเพียง 1-2% ต่อปีนั้นไม่เพียงพอต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากรายได้ต่อหัวที่ยังคงต่ำกว่า 8,000 เหรียญสหรัฐฯ สวนทางกับประเทศเพื่อนบ้านที่เร่งพัฒนาและแซงหน้าเราไปอย่างรวดเร็ว หากยังคงดำเนินนโยบายแบบเดิม การถดถอยของขีดความสามารถในการแข่งขันย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หัวใจสำคัญของการปฏิรูปเศรษฐกิจ (การปฏิรูปเศรษฐกิจ) ในปี 2568 คือการจัดการกับหนี้ครัวเรือน (หนี้ครัวเรือน) ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นดั่งโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งกำลังซื้อของผู้คน และจำกัดความสามารถในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนต้องไม่ใช่แค่การพักชำระหนี้หรือการปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะหน้า แต่ต้องเป็นการแก้ปัญหาแบบองค์รวมและยั่งยืน ด้วยการยกระดับรายได้ การส่งเสริมวินัยทางการเงิน และการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ให้กลับลงมาอยู่ในระดับที่ปลอดภัยที่ประมาณ 80% ซึ่งหากทำไม่สำเร็จ ก็จะเป็นกับดักที่ทำให้เศรษฐกิจขาดพลวัตอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่น ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม่เหล็กดึงดูดการลงทุนต่างชาติ: ปรับฐานอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ถือเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกโฉมโครงสร้างการผลิตและยกระดับศักยภาพการแข่งขันของไทย การลงทุนต่างประเทศ (การลงทุนต่างประเทศ) ไม่ได้เป็นเพียงการนำเงินเข้ามา แต่ยังหมายถึงการนำเทคโนโลยีองค์ความรู้ และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ ไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง เราต้องมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรม S-Curve (อุตสาหกรรม S-Curve) ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เทคโนโลยีดิจิทัล และชีวเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม กลไกการส่งเสริมการลงทุนของ BOI ต้องได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงการสร้างตัวเลขการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ แต่ต้องเน้นไปที่การลงทุนที่เกิดขึ้นจริง การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ การเร่งดำเนินการในส่วนนี้จะช่วยให้ไทยสามารถเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (ผลิตภาพแรงงาน) และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าส่งออกไทย (การส่งออกไทย) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การมองหาตลาดส่งออกใหม่ๆ และการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย จะช่วยลดการพึ่งพาตลาดเดิมที่อาจมีความผันผวนสูง

ทิ้งห่างประชานิยม: สร้างวินัยการคลังระยะยาว

จากประสบการณ์หลายปี ผมเห็นมาตลอดว่านโยบายประชานิยม (นโยบายประชานิยม) แม้จะได้รับเสียงตอบรับในระยะสั้น แต่กลับสร้างภาระทางการคลังที่หนักอึ้ง และไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน ในปี 2568 นี้ รัฐบาลใหม่จำเป็นต้องแสดงความกล้าหาญและวินัยทางการคลัง (วินัยการคลัง) อย่างจริงจัง ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณที่เพิ่มขึ้น การใช้นโยบายที่สร้างภาระระยะยาวโดยไม่มีแหล่งรายได้ที่มั่นคงมารองรับ จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ และจำกัดความสามารถในการลงทุนเพื่ออนาคต

การรักษาเสถียรภาพทางการคลัง (เสถียรภาพทางการคลัง) ผ่านการจัดทำงบประมาณที่สมดุล การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ และการปฏิรูปโครงสร้างภาษีให้เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ คือหนทางที่ยั่งยืน การมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ต้นตออย่างแท้จริง เช่น การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา จะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาว ดีกว่าการแจกจ่ายเงินที่หายไปในเวลาอันสั้น ผมเชื่อว่าหากรัฐบาลสามารถแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนในการละเลิกนโยบายประชานิยม นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจะตอบรับเชิงบวกอย่างแน่นอน ซึ่งจะสะท้อนไปถึงตลาดหุ้น (ตลาดหุ้น) และความเชื่อมั่นโดยรวม

ตลาดทุนไทย: หัวใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งศตวรรษที่ 21

ตลาดหุ้นหรือตลาดทุนถือเป็นหัวใจสำคัญและเป็นแหล่งระดมทุน (การระดมทุนตลาดหลักทรัพย์) ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน หากบริหารจัดการดี ตลาดทุนสามารถเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้หลายรอบ ไม่ใช่แค่เพียงการสร้างความมั่งคั่งให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกระดับได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการเติบโตของประเทศ

รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาตลาดทุนไทย (ตลาดทุนไทย) อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเพิ่มความโปร่งใส การสร้างความเป็นธรรม และการยกระดับมาตรฐานให้ทัดเทียมสากล เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน และการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย จะช่วยให้ตลาดทุนทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ เมื่อตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น ความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้กำลังซื้อและการบริโภคในระบบเศรษฐกิจดีขึ้นทันตาเห็น เพราะนักลงทุนที่มีกำไรจะรู้สึกมั่นใจและพร้อมที่จะใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจที่ทรงพลังอย่างยิ่ง

เสถียรภาพการเมืองและทีมเศรษฐกิจไร้รอยต่อ

ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนไทยหรือนักลงทุนต่างชาติ ล้วนขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมือง (เสถียรภาพการเมือง) และความต่อเนื่องของนโยบาย หากการเมืองขาดเสถียรภาพ การเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้ง และการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน จะสร้างความไม่แน่นอนและทำให้การตัดสินใจลงทุนระยะยาวเป็นไปได้ยาก

สิ่งที่ประเทศไทยต้องการอย่างเร่งด่วนคือการเมืองที่นิ่ง มีพรรคการเมืองหลักที่เข้มแข็ง และสามารถจัดตั้งทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ (ทีมเศรษฐกิจ) มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไม่ใช่การแบ่งแยกกระทรวงเศรษฐกิจออกเป็นส่วนๆ และขาดผู้นำทีมเศรษฐกิจที่สามารถกำกับดูแลภาพรวมได้อย่างแท้จริง การมีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีความเข้าใจในปัญหาเชิงโครงสร้าง และสามารถกำหนดทิศทางนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้กลับคืนมา

พลิกฟื้นอสังหาริมทรัพย์: แกะปมหนี้ครัวเรือนและนวัตกรรม

ภาคอสังหาริมทรัพย์ (ตลาดอสังหาริมทรัพย์) ในปี 2568 กำลังเผชิญความท้าทายที่หนักหนาสาหัสที่สุดในรอบกว่าสองทศวรรษ ทั้งจากอุปทานส่วนเกินและอุปสงค์ที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องสะท้อนภาพกำลังซื้อที่อ่อนแอ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และมียอดปฏิเสธสินเชื่อ (ยอดปฏิเสธสินเชื่อ) สูงถึง 50-70% ในบางกรณี

การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์จึงไม่อาจแยกออกจากการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนได้ รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการที่ครอบคลุม ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง และการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน นอกจากมาตรการกระตุ้นระยะสั้น เช่น การลดค่าโอน-จดจำนอง (การลดภาษีโอน) แล้ว การส่งเสริมให้ AMC เข้ามาซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่อาจช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังต้องอาศัยการวางผังเมืองที่มีวิสัยทัศน์ การส่งเสริมนวัตกรรมในการก่อสร้างที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการสร้างเมืองน่าอยู่ซึ่งดึงดูดทั้งคนไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนและอยู่อาศัย

ปลดล็อก Ease of Doing Business: ขจัดคอร์รัปชัน สร้างความโปร่งใส

อุปสรรคสำคัญประการหนึ่งที่ขัดขวางการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมาโดยตลอด คือความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) และปัญหาคอร์รัปชัน (การแก้ปัญหาคอร์รัปชัน) ในระบบราชการ (ระบบราชการ) ปัญหาเหล่านี้สร้างต้นทุนแฝงให้กับผู้ประกอบการ ทั้งในรูปของเวลาที่เสียไป และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างรุนแรง

รัฐบาลใหม่ต้องให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบราชการอย่างจริงจัง มุ่งเน้นการลดขั้นตอน ลดเอกสาร และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใส การจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) สำหรับการติดต่อขอใบอนุญาตต่างๆ โดยให้ภาคเอกชนหรือนักลงทุนต่างชาติสามารถติดต่อกับทุกหน่วยงานรัฐได้ในที่เดียว จะเป็นก้าวสำคัญในการอำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยุติธรรมและดึงดูดการลงทุนคุณภาพสูงให้เข้ามาในประเทศ

ยกระดับทุนมนุษย์: สร้างแรงงานแห่งอนาคต

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการแรงงานในอนาคตเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หากประเทศไทยต้องการก้าวสู่เศรษฐกิจที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เราต้องเร่งยกระดับทุนมนุษย์ของเรา การอัพสกิลและรีสกิล (อัพสกิล-รีสกิล) แรงงานไทยให้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม New S-Curve (อุตสาหกรรม S-Curve) เช่น ด้านดิจิทัล AI วิศวกรรมขั้นสูง และทักษะเฉพาะทางอื่นๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน

การลงทุนในระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงอุดมศึกษา การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาหลักสูตรและฝึกอบรมที่ตอบสนองต่อตลาดแรงงาน จะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลิตภาพของแรงงานไทย (ผลิตภาพแรงงาน) และดึงดูดการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนในระยะยาว

การท่องเที่ยวและ Wellness: จุดแข็งที่ต้องเสริม

ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นพระเอกที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทย และเป็นจุดแข็งที่เราต้องเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในปี 2568 นี้ เราต้องมองหาโอกาสในการยกระดับการท่องเที่ยว (การท่องเที่ยวไทย) จากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่น ทั้งในด้านการบริการ (Service Mind) การแพทย์แผนไทย และธรรมชาติที่สวยงาม

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว (โครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว) ให้ได้มาตรฐานระดับโลก การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าประทับใจ การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และการมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ชาวต่างชาติวัยเกษียณ (ชาวต่างชาติวัยเกษียณ) ที่ต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทย จะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศ นอกจากนี้ การส่งเสริมธุรกิจบริการอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและ Wellness จะช่วยเพิ่มความหลากหลายและมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม

โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์: ไทยสู่ศูนย์กลางภูมิภาค

ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ (จุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน) โดยเฉพาะระบบคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงโครงข่ายดิจิทัล จะเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และเศรษฐกิจของภูมิภาคอย่างแท้จริง

โครงการเมกะโปรเจ็กต์ (เมกะโปรเจ็กต์) ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ท่าเรือน้ำลึก หรือการขยายสนามบิน จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ (ต้นทุนโลจิสติกส์) เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง และดึงดูดการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิต การค้า และการบริการ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่สำคัญอย่างภูเก็ต ซึ่งประสบปัญหารถติด ขยะล้นเมือง และการขาดแคลนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จะเป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีในการบริหารจัดการเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

บทสรุปและวิงวอนถึงอนาคต

ปี 2568 คือปีแห่งการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะกำหนดอนาคตเศรษฐกิจไทย การดำเนินการแบบ “ธุรกิจตามปกติ” ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะปฏิรูปโครงสร้างที่หยั่งรากลึก และกล้าที่จะมองเห็นภาพอนาคตที่ใหญ่กว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การหลีกหนีกับดัก GDP ต่ำ การดึงดูดการลงทุนที่มีคุณภาพ การสร้างวินัยทางการคลัง การพัฒนาตลาดทุน การสร้างเสถียรภาพทางการเมือง การฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ การปลดล็อก Ease of Doing Business การยกระดับทุนมนุษย์ และการเสริมจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐาน ล้วนเป็นเสาหลักที่ต้องเร่งดำเนินการไปพร้อมกัน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพและทรัพยากรบุคคลที่แข็งแกร่งพอที่จะก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ได้ หากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมมือกันด้วยวิสัยทัศน์เดียวกัน ร่วมกันสร้างสรรค์นโยบายที่กล้าหาญและยั่งยืน และมุ่งมั่นที่จะลงมือทำอย่างจริงจัง ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษหน้า เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ น่าลงทุน และน่าภาคภูมิใจสำหรับทุกคน

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งสำคัญนี้ เพื่ออนาคตที่สดใสและรุ่งเรืองของประเทศไทย.

Previous Post

D0512063 ยแก อยากเข าร านอาหารหร (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512065 แม อมเล อกส งท ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512065 แม อมเล อกส งท ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512065 แม อมเล อกส งท ด(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1210026 อด ตไม สำค ญเท าป จจ part2
  • D1210025 หญ งม ตำหน [ตอนจบ] part2
  • D1210024 มาคลายเคร ยดก นหน อยนะค part2
  • D1210023 นอกกาย แค ความส ขช วคราว![ตอนจบ] part2
  • D1210022 จฉาคนอ ไม วเอง [ตอน1] part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.